อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต 103 เซไคเซ็นไตจู่โจม 5 (จบ)

Now you are reading อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต Chapter 103 เซไคเซ็นไตจู่โจม 5 (จบ) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ยานของจัสติสครูเซเดอร์ทั้ง 6 ลำได้บินอยู่เหนือฟากฟ้า

 

ไวท์ 5 ซึ่งเป็นหนึ่งในกองยานทำการกระหน่ำขีปนาวุธที่ติดไว้ตรงปีกทั้งสองข้างไปยังเทพดาบดาราที่ลงมากลางเมือง

 

 

 

『ตอนนี้ฉันจะดึงความสนใจของมันเอาไว้ให้———ดังนั้นพวกเธอก็รีบเตรียมตัวซะ!!』

 

 

กำลังคึกได้ที่เลยนี่นา ชิราคาวะจัง

 

ฉันคิดแบบนั้นขณะเลื่อนจอของจัสติสโฟนที่อยู่ในมือเพื่อทำการเรียกเรด 1 มา

 

เรด 1 ที่บินวนไปมาบนท้องฟ้าได้พุ่งมาจอดตรงหน้าฉันอย่างรวดเร็ว

 

 

 

「ไม่มีเวลาให้ต้องคิดอะไรอีกแล้ว!」

 

 

หลังจากนั้นฉันก็กระโดดออกจากตึกแล้ววางมือไว้ตรงกระจกของ เรด 1 เพื่อให้มันเปิดเข้าไปยังห้องนักบิน

 

 

「โย้ช! ทีนี้ก็ลุยกันเลย!!」

 

『ฉันว่าอากาเนะน่าจะขับเก็ตเตอร์โรโบมากกว่านะ』

 

「ถึงจะไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไรก็เถอะ แต่หล่อนช่วยหยุดพูดเหมือนฉันไม่ใช่มนุษย์ปกติทีได้ไหม!!」

 

 

ในขณะที่ตอบกลับคำพูดของอาโออิตอนนี้ทุกคนเหมือนจะขึ้นยานกันหมดแล้ว

 

เรด 1 บลู 2 เยลโล่ 3 แบล็ก 4 ของพวกนี้มีมาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว แต่ของใหม่ที่เข้ามาด้วยคือยานสีทอง โกลด์ 6 ซึ่งมีรูปร่างเหมือนจานบิน

 

 

 

『กรีน! ประจำที่ตรงแบล็ก 4 แล้วสินะ?!』

 

『ก็ขึ้นมาแล้วหรอก ว่าแต่ทำไมต้องยานสีดำด้วยเล่า! มันเป็นสีของโฮมุระไม่ใช่หรือไง!』

 

 

『ฉันมอบงานอื่นให้เขาทำน่ะ!! เอาเป็นว่าก็ทำตามที่เรกูลัสสอนละกัน!!』

 

『โฮก!!』

 

『เอ๋ วิธีขับยานมันเข้ามาในหัว……!? 』

 

 

ทุกคนพร้อมกันสุดๆ

 

 

『ในเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ไปกระทืบมันกันเลย!!』

 

『『『『ฮ่ะ!』』』』

 

『อะ อื้อ———』

 

『โฮก!』

 

 

การรวมพลังเพื่อต่อสู้กับสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์

 

หลังได้รับอนุญาตจากประธาน พวกเราก็ได้ขับเคลื่อนยานไปยังจุดที่เหมาะสมเพื่อรวมร่าง

 

แสงสีเขียวที่เป็นเหมือนกับตัวเชื่อมยานทั้ง 6 ก่อตัวขึ้นและดึงดูดยานเข้าหากัน

 

ไวท์ 5 ที่มีขนาดใหญ่สุดเป็นแกนกลางของการประกอบร่าง เรด 1 เข้าไปประกอบเป็นส่วนเกราะและส่วนหัว บลู 2 กลายเป็นลำตัวส่วนล่าง เยลโล่ 3 กลายเป็นแขนทั้งสอง แบล็ก 4 กลายเป็นอุปกรณ์เสริมที่ติดอยู่ตามส่วนต่างๆ รวมไปถึงปีก สุดท้ายโกลด์ 6 ได้เข้ามาติดที่ข้างหลังหัว โดยมีเฉดสีทองแผ่ไปติดตรงแขนกับขาของหุ่นด้วย เป็นอันสิ้นสุดการประกอบร่าง

 

 

『ประกอบร่าง!!』

 

 

『SUPER JUSTICE ROBO!!!!』

 

 

『『『GOLD FORM』』』

 

 

Super Justice Robo ได้ร่อนลงมาที่พื้น

 

ดูจากขนาดของมันแล้วใหญ่กว่าเมื่อก่อนสองเท่าได้มั้ง

 

 

『เอาท์พุตและระบบขับเคลื่อนไม่มีปัญหา พร้อมลุยแล้วเรด』

 

『รู้สึกว่าการประกอบร่างรอบนี้จะช้ากว่าเมื่อก่อนด้วย』

 

『ฮ่าๆๆ ก็มันเป็นการทดสอบครั้งแรกด้วยนี่นา แต่ยังไงการออกแบบของฉันก็ไม่มีทางผิดพลาดได้หรอก ฮ่าๆๆๆๆ!!』

 

『โฮ่ย โกลดี้!! เลิกโวยวายเสียงดังแล้วโฟกัสที่การต่อสู้ได้ไหม มันน่าขยะแขยง!!!!』

 

『ขะ ขยะแขยง……เอ่อ ขอโทษครับ』

 

 

เหมือนประธานจะจิตตกไปเลยหลังถูกคอสโม่จังบอกว่าน่ารังเกียจ

 

เอาเป็นว่าถึงขนาดของหุ่นมันจะใหญ่กว่าเดิมแต่ความรู้สึกในการใช้งานก็ไม่ต่างจากเดิม

 

ถ้าอย่างงั้นละก็———、

 

 

 

『คิดหรือไงว่ารวมร่างแล้วจะเอาชนะฉันได้?! อาวุธที่สร้างด้วยวัตถุดิบกระจอกของดาวโลกน่ะมันห่างไกลจากเทพดาบดารา———』

 

『หึ!!!』

 

『อ๊าาา』

 

 

ฉันดันคันบังคับไปข้างหน้าแล้วยัดกำปั้นใส่หุ่นของอีกฝ่ายทันที

 

 

 

 

『ระ เรด?! ในฐานะที่ฉันเป็นคนสร้างมันขึ้นมาฉันว่าให้ฉันบัง———』

 

「ถึงจะเป็นเอเลี่ยนแต่การขับยานของประธานน่ะห่วยจะตาย!! ดังนั้นฉันจัดการเอง!!」

 

 

ฉันจับหัวหุ่นของอีกฝ่ายแล้วฟาดมันลงกับพื้น

 

เกราะส่วนใบหน้าของเทพดาบดาราถูกทำลายเผยให้เห็นกลไกภายในนั้นและสีหน้าอันเกรี้ยวกราดของมอทัลเรด….แต่ฉันไม่ได้รู้สึกกลัวเลยสักนิด

 

 

「ทีนี้สภาพภายนอกก็ทุเรศเหมือนกับหน้าแกสักที ไอ้ขยะอวกาศเอ้ย!!」

 

 

ฉันเตรียมจะปลดปล่อยการฟันของดาบเพลิงใส่หุ่นอีกฝ่าย

 

แต่เหมือนอีกฝ่ายก็ไม่คิดจะยอมโดนฝ่ายเดียว

 

มันทำการยิงกระสุนพลังงานจากปืนที่ติดอยู่ตามร่างออกมา

 

 

『กางบาเรีย!』

 

 

หลังสิ้นเสียงของเยลโล่ บาเรียสีเหลืองก็ถูกกางออกมาเพื่อป้องกันกระสุนพลังงาน

 

ในขณะเดียวกัน ปืนใหญ่พลังงานก็ถูกรวมเอาไว้ที่แขนซ้ายของหุ่น

 

 

 

『ทำการถ่ายโอนพลังงาน!!』

 

『พลังงานรวมเสร็จสิ้นพร้อมยิม ลุยเลยเปรต』

 

「เปรตนั่นใครกันยะ!!」

 

 

 

ฉันตะโกนขณะยิงกระสุนพลังงานยัดใส่เทพดาบดาราที่อยู่ห่างออกไป ก่อนจะใช้ดาบแทงเข้าไปซ้ำอีก

 

 

「ต้องแบบนี้สิความอัปลักษณ์โสมมที่เข้ากับแก!!」

 

『อะ อึก ได้ยังไงกัน!? 』

 

 

 

ดาบทะลุใบหน้าของหุ่นไป จนทำให้เศษซากหุ่นและเชื้อพลิงกระเด็นไปทั่วบริเวณ จากนั้นฉันก็ทำการปลดปืนใหญ่พลังงานที่อยู่ตรงแขนซ้ายออกแล้วใช้หมัดยัดเข้าไปซ้ำ เทพดาบดารากระเด็นไปชนเข้ากับอาคารที่อยู่ข้างหลังทันทีจนเกินควันสีขาวลอยออกมา

 

 

『ทะ ทำไมเธอถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้กันนะ? 』

 

『ยัยพวกนี้น่ากลัวว่าที่เธอเห็นเยอะ……』

 

 

คอสโม่จังกับประธานเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ฉันไม่ทันได้ฟัง!

 

แต่ว่าคงต้องโฟกัสการจัดการเจ้านี้ให้เรียบร้อยซะก่อน!!

 

 

 

 

「ประธาน!! แล้ววิธีจัดการที่ว่าต้องทำยังไง!!」

 

『อ้า ถ้าเรื่องนั้นละก็ฉันมีแผนอยู่แล้ว ก่อนอื่นก็ทำให้มันหมดสภาพซะก่อน!!』

 

 

ประธานส่งภาพบริเวณหน้าอกของเทพดาบดารามาพร้อมกับวงกลมเน้นสีแดง

 

 

『ขอแค่อย่าเล็งส่วนนั้นก็พอ หากมันถูกทำลายก่อนส่วนอื่นมันจะเกิดการระเบิดขึ้น!!』

 

「รับทราบ!!」

 

『อย่ามาล้อกันเล่นนะเว้ยยยย!!』

 

 

เทพดาบดาราที่ถูกควบคุมโดยมอทัลเรดส่งเสียงคำรามออกมาพร้อมกับดาบที่ปรากฏในมือ

 

เป็นดาบที่ห่อหุ้มไว้ด้วยพลังงานมหาศาล

 

หากรับการโจมตีเข้ามาตรงๆ คงเกิดความเสียหายหนักแน่ จากนั้นมันก็พุ่งเข้ามาหาพวกเราพร้อมกับตะโกนด้วยความโมโห

 

 

 

 

『ทั้งที่พวกเราเป็นฝ่ายปกป้องดวงดาว แต่สุดท้ายพวกเรากลับไม่เหลืออะไรเลย คำขอบคุณ หรือสิ่งตอบแทนก็ไม่เคยได้รับเลยสักครั้ง!!!』

 

 

 

ก็เลยจะมาทำลายแทนเหรอ?

 

เพราะไม่ได้รับสิ่งตอบแทนที่เหมาะสมก็เลยตั้งใจจะหันหลังให้และทำลายแทน

 

———ไร้สาระชิบ

 

ถึงจะรู้จากกรีนมาว่าพวกเขาถูกล้างสมองโดยตัวตนลึกลับ แต่คำพูดของเขามันไร้สาระสุดๆ

 

 

 

「หากคิดจะต่อสู้โดยต้องการสิ่งเหล่านั้นทุกครั้งละก็ แกมันก็ล้มเหลวในฐาะฮีโร่ไปแล้วเว้ย」

 

『พูดอะไรของ———』

 

 

เรา….คัตสึมิคุง…..พวกเราต่อสู้โดยคิดทุกครั้งว่าหากพ่ายแพ้ทุกอย่างก็จะจบสิ้น

 

แต่อย่างน้อยพวกเราก็ไม่เคยคิดเลยสักครั้งว่าจะได้รับสิ่งตอบแทนใดๆ หลังออกไปสู้

 

เพราะความตั้งใจแรกของพวกเราไม่ใช่การถูกขอให้ทำ แต่เป็นสิ่งที่พวกเราต้องการเอง

 

 

「เพราะมันคือสิ่งที่ฉันเลือกเอง!!」

 

『ตามนั้นเด้!!』

 

『ถึงไม่อยากจะยอมรับ…แต่พวกเราคิดเหมือนกัน!!』

 

 

ถึงจะมีคนหนึ่งพูดแปลกๆ ไปบ้าง แต่ความตั้งใจของพวกเราไม่เคยเปลี่ยน!!

 

มอทัลเรดที่ได้ยินแบบนั้นก็พูดอะไรไม่ออกและฟาดดาบลงมาที่หุ่นของเรา

 

ฉันไม่รอช้าถ่ายเทพลังงานใส่ไปในดาบแล้วใช้มันในการป้องกัน

 

 

 

「ย้ากกก!!」

 

 

ดาบทั้งสองปะทะกันจนเกิดคลื่นกระแทกไปรอบๆ

 

ตอนนี้พวกเรากำลังต้านพลังกันอยู่

 

แต่มอทัลเรดที่ตัวคนเดียว ไม่มีทางเอาชนะพวกเราที่รุมเขาได้หรอก!!

 

 

 

『บัดซบ! อีกแล้ว เอาอีกแล้ว ทำไมถึงแพ้อีกแล้ววะ!! ทั้งที่พวกเราคือผู้ถูกเลือกโดยพลังแห่งดวงดาราแท้ๆ!!』

 

 

มอทัลเรดพ่ายแพ้ให้กับพลังของพวกเรา

 

จังหวะนี้ฉันไม่รอช้าทำการพุ่งฟันร่างของอีกฝ่ายทันที

 

มอทัลเรดส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ในขณะที่ร่างของเทพดาบดาราเกิดความเสียหายหนักจนประกายไฟพวยพุ่งออกมา

 

 

『พอกันสักที!! ฉันจะระเบิดเมืองที่พวกแพ้ควรปกป้องไปพร้อมกับความพ่ายแพ้ของฉันซะ!!!』

 

「ประธาน!!」

 

『คิดจะหยุดฉันงั้นเหรอ มันสายเกินไปแล้วเว้ย!! พวกแกไม่มีทางจะปกป้องอะไรได้เลย เหมือนกันกับพวกเรา จงถูกอุดมคติของตัวเองทำลายไปซะ!!!!』

 

 

ในขณะที่ฉันพูดกับประธาน เขาก็เอาแต่นิ่งเงียบกอดอกเฝ้ามองพลังงานภายในเทพดาบดาราเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าปล่อยไว้แบบนี้หยุดไว้ไม่ได้จริงๆ แน่

 

 

『ขอยอมรับในพลังของพวกแก———』

 

『เอ้าเหรอ? สรุปนี่พวกฉันถูกแกยอมรับแล้วสินะ』

 

เสียงหนึ่งดังขึ้นมา

 

 

เมื่อฉันได้ยิงเสียงนั้นฉันก็รู้ได้ทันทีว่าการต่อสู้ใกล้สิ้นสุดแล้ว———、

 

 

 

『DEADRY Ⅳ!!』

 

『TYPE BLACK!!』

 

 

สนามแรงโน้มถ่วงได้ปรากฏขึ้นเพื่อตรึงร่างของเทพดาบดารา

 

คัตสึมิคุงลอยอยู่ตรงหน้าของพวกฉันในร่างสีขาวแและชี้มือขวาไปทางเทพดาบดารา

 

 

『แต่อย่างแกน่ะมีสิทธิ์มาพูดว่ายอมรับอะไรในพวกเธอด้วยหรือไง? 』

 

『อัศวินดามมมมม!!』

 

『พวกเธอน่ะเหนือกว่าแกใช่แล้วจัสติสครูเซเดอร์คือนักรบที่ปกป้องดาวโลกซึ่งสูงส่งกว่าแกเป็นไหนๆ 』

 

 

เขาเปลี่ยนจากโปรโตวันไปเป็นทรูฟอร์ม จากนั้นประตูมิติขนาดใหญ่ก็เกิดขึ้นด้านหลังของเทพดาบดาราที่ถูกสนามแรงโน้มถ่วงขึงเอาไว้

 

 

ข้างหลังประตูมิตินั้นคืออวกาศอันกว้างใหญ่ เขาหันกลับมาคุยกับพวกฉัน

 

 

 

『ปิดงานซะ จัสติสครูเซเดอร์』

 

「……! อื้อ!!」

 

 

ตอนนี้เราเข้าใจแผนที่ประธานบอกแล้ว ก่อนจะทำการเปิดใช้งานท่าไม้ตายของหุ่นตัวนี้

 

 

 

「ประธาน!!」

 

『อุมุ อนุญาตให้ใช้ท่าไม้ตายได้!!』

 

 

สิ้นเสียงของประธาน ปืนใหญ่ยักษ์ก็โผล่ขึ้นมาที่ไหลของJustice Robo

 

สมอถูกปล่อยออกมาจากหุ่นเพื่อยึดพื้นเอาไว้ ราวกับจะทำให้หุ่นกลายเป็นป้อมปืน

 

 

「เตรียมรับของใหญ่ได้เลย」

 

 

เป้าหมายคือเทพดาบดาราที่ถูกตรึงเอาไว้

 

เจ้าพวกตัวปัญหาจะต้องถูกกำจัด!!

 

ในอีกมุมหนึ่งก็คงเหมือนเป็นการปลดปล่อยพวกมันด้วย!!

 

 

 

「ยิง!!」

 

 

พลังงานเข้มข้นถูกปล่อยออกมาจากปืนใหญ่พุ่งไปยังแกนกลางตรงอกของเทพดาบดาราเต็มๆ

 

นอกจากนั้นมันจะทำการผลักร่างของเทพดาบดาราเข้าไปยังประตูมิติอีกด้วย

 

 

 

 

『คุ ม่ายยยยยยยยยยย…นี่มัน…!? 』

 

 

เสียงกรีดร้องครั้งสุดท้ายของมอทัลเรดดังขึ้น

 

 

หลังสิ้นเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด น้ำเสียงอันเศร้าโศกของเขาก็ดังขึ้น

 

 

 

 

『……การล้างสมองหายไปแล้ว』

 

「คอสโม่จัง? 」

 

『บัดซบ ไอ้ตัวน่าขยะแขยง พอเห็นว่าไร้ประโยชน์แล้วก็ตัดหางทิ้งเลย….』

 

……。

 

 

ฉันเข้าใจในสิ่งที่คอสโม่จังต้องการจะบอก

 

หลังจากนี้ไปหากเป้าหมายสุดท้ายคือรูอิน สักวันหนึ่งพวกเราก็ต้องได้เผชิญหน้ากับสิ่งที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาแน่

 

นั่นคือลางสังหรณ์ของฉัน ภาพสุดท้ายก่อนที่ประตูมิติจะปิดลงคือภาพของเทพดาบดาราที่พลังทลายลง———、

 

 

 

『ข อ บ คุ ณ นะ』

 

 

ฉันรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงของมอทัลเรดที่แสนอ่อนโยนมันช่างแตกต่างกับเสียงที่เขาใช้มาจนถึงตอนนี้

 

ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า

 

พวกมันคือคนที่ฆ่าและทำลายชีวิตมามากมาย

 

 

ถึงจะรู้สาเหตุแต่ก็ไม่มีทางให้อภัยสิ่งที่พวกมันทำได้

 

 

 

「……ประธาน ฮิลด้ากับมอทัลเยลโล่ล่ะ? 」

 

『คัตสึมิคุงก็ได้ตามไปอยู่หรอก…แต่เหมือนอีกฝ่ายจะใช้ โมโมโกะ คาเสะอุระเป็นตัวประกัน เลยหลุดมือไปน่ะ』

 

「……」

 

 

ตอนนี้พวกเซไคเซ็นไตก็หายไปเกินครึ่งแล้ว พวกเราคงจะโล่งใจไปได้นิดหน่อย

 

มอทัลเยลโล่ก็เหมือนจะไม่ใช่พวกฆ่าล้างบางไม่เลือก ดังนั้นถึงจะปล่อยเธอไปก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เว้นเสียแต่ยัยนั่น……

 

***

พี่ชายของฉันได้จากไปแล้ว

 

เขาถูกส่งไปในอวกาศและตายไปพร้อมกับเรดด้วยฝีมือของจัสติสครูเซเดอร์

 

ฉันพูดอะไรไม่ออก

 

ฉันไม่ได้รู้สึกเกลียดชังจัสติสครูเซเดอร์

 

ฉันเห็นการตายของกรีนกับเรดด้วยตาตัวเอง

 

กลับกันฉันกับรู้สึกเสียใจมากกว่า

 

เสียใจและโกรธตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้เลย

 

สุดท้ายฉันก็ทำอะไรไม่ได้

 

ไม่สามารถช่วยพี่ชายหรือหยุดพวกพ้องที่บ้าคลั่งได้

 

 

 

「……」

 

「หายไปแล้ว」

 

 

ประตูมิติได้หายไป

 

ฮิลด้าวางมือเอาไว้บนไหล่ของฉันในขณะที่ฉันนั่งคุกเข่าอยู่ในตรอกแห่งหนึ่ง

 

 

 

「ฮิลด้าฉันจะออกไปมอบตัวกับพวกจัสติสครูเซเดอร์」

 

「เธออาจจะถูกฆ่าก็ได้นะ? 」

 

「ไม่สำคัญหรอก ตอนนี้ฉันไม่เหลือพี่หรือพวกพ้องอีกแล้ว….ไม่สิ….อย่างน้อยก็เหลือแกคนหนึ่ง ในฐานะพวกพ้องฉันจะซื้อเวลาให้แกหนีเอง」

 

 

ฉันรู้ดีว่าจัสติสครูเซเดอร์คไม่ฆ่าฉันหรอก

 

พวกเขาคือนักรบที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความยุติธรรมเช่นเดียวกับพวกเราก่อนจะคลั่ง

 

 

 

「คงปล่อยให้เธอโดนจับไปไม่ได้หรอก เพราะเธอยังมีค่าอยู่น่ะสิ」

 

「หา……」

 

 

พลังแห่งดวงดาวก่อตัวขึ้นที่ร่างของฮิลด้า

 

ก่อนที่มันจะโอบล้อมฉันเอาไว้ด้วย จากนั้นฉันก็ถูกพาไปยังสถานที่แห่งหนึ่งแทน

 

 

「ที่นี่มัน……」

 

「ยานของฉันเอง เพราะเทพดาบดาราที่ถูกทำลายมันออกมาไม่ไกลจากดาวโลกเท่าไหร่ก็เลยหาได้ง่ายน่ะ」

 

「หา? 」

 

 

ยานของฮิลด้า

 

เดี๋ยวนะ แล้วทำไมสภาพของมันถึงได้ใหญ่สุดๆ จนเทียบไม่ได้กับที่เห็นครั้งก่อนเลยล่ะ แถมสัตว์ประหลาดดวงดารายังอยู่ข้างในนี้เต็มไปหมด

 

ฉันก็รู้หรอกว่ายัยนี่วางแผนอะไรเอาไว้อยู่ แต่คาดไม่ถึงเลยว่ามันจะเยอะขนาดนี้

 

 

「พิกัดก็…ตรงนี้สินะ……」

 

 

ยานเริ่มเคลื่อนตัว

 

จากนั้นก็ไปหยุดตรงที่ไกลจากโลกกว่าเดิมนิดห่อย

 

 

 

「นั่นมัน…ซากของเทพดาบดารา? 」

 

「อื้อ ก็ตัวที่ถูกทำลายไปเมื่อกี้นี้แหละ」

 

 

ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ

 

ไม่เข้าใจเลยสักนิด

 

 

「เป้าหมายของแกคืออะไรกันแน่……? 」

 

「แกนกลาง」

 

「ห๊ะ!!」

 

 

ฉันรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที ก่อนจะเล็งปืนไปยังฮิลด้า

 

ทว่าอีกฝ่ายก็ควบคุมยานต่อโดยไม่ได้สนใจฉัน

 

 

「แกรู้อยู่แล้วว่าพวกเราจะต้องแพ้!!!!!」

 

「มันก็เป็นเรื่องที่เห็นๆ กันอยู่แล้วไหม? เธอเองก็รู้ว่าพวกเราไม่สามารถเอาชนะได้ อย่าหงุดหงิดไปเลยน่า」

 

 

เรื่องนั้นมันก็จริงอยู่…!!

 

แต่ถึงจะรู้แบบนั้น….มันก็คนละกรณีกับฉัน….

 

 

 

 

「งั้นแกก็ฆ่าฉันด้วยเลยสิ……」

 

「……」

 

 

ฉันทิ้งปืนที่เล็งฮิลด้าลงแล้วคุกเข่ากับพื้น

 

ถ้าฉันต้องตายก็ขอตายกับพวกพ้องดีกว่า

 

หากถูกฆ่าไปพร้อมกับพวกเขา ฉันคงไม่ต้องมารู้สึกสมเพชตัวเองอะไรอีก

 

「เกี่ยวกับพี่ชายของเธอ…」

 

ฮิลด้าพูดกับฉันด้วยเสียงที่เรียบนิ่งก่อนจะมาย่อตัวอยู่ข้างๆ ฉัน

 

 

 

 

「เธอเองก็เห็นไม่ใช่เหรอว่าพี่ชายของเธอไม่ได้กลับมาพร้อมกับพวกนั้น? 」

 

「……หมายความว่ายังไง? 」

 

 

ถึงพี่ชายของฉันจะถูกกระสุนของบลูเจาะอกไป แต่ก็ไม่มีร่างใหม่ลงมาจากยาน

 

นั่นอาจจะเป็นเพราะพี่ชายของฉันอยากจะหยุดแล้วก็ได้

 

ตอนนี้เขาก็คงจะกลายเป็นเศษฝุ่นในจักรวาลนี้…..

 

「เอ้า ดูนี่ซะสิ」

 

「? ……หือ!!」

 

 

สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าของฉันทำให้ฉันแทบหมดสติ

 

มันคือร่างของพี่ชายฉันที่หลับใหลอยู่ในแคปซูล

 

ฉันมองดูเขาราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น

 

 

「ฉันช่วยเอาไว้ได้น่ะ ทีนี้ก็ต้องขอบคุณกันสักหน่อยไหมเอ่ย? 」

 

「พะ พี่……」

 

 

เขายังมีชีวิตอยู่ถึงจะไม่ได้สติก็เถอะ

 

ถึงฉันจะมีความสุขแต่พอนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรดฉันก็….

 

 

「แกต้องการอะไร……」

 

「หืม? 」

 

「เป้าหมายจริงๆ ของแกคืออะไรกันแน่? ทำไมถึงต้องให้จัสติสครูเซเดอร์ทำลายเซไคเซ็นไตของพวกเราด้วยล่ะ? ไหนบอกต้องการแค่แกนกลางเอาไปเฉยๆ เลยก็ได้นี่? 」

 

「ฟุฟุฟุ」

 

 

ฮิลด้ายิ้มออกมาก่อนจะมองไปยังจอภาพที่ฉายอยู่

 

ลูกแก้ว 5 สีปรากฏขึ้นที่ด้านหน้ายาน แดง น้ำเงิน เหลือง เขียว ชมพู

 

 

「นี่คือแกนกลางที่ซ่อนอยู่ในเทพดาบดารา ฟุฟุฟุ และวิธีที่เร็วที่สุดในการเอาออกมาก็คือทำลายมันทิ้ง」

 

「ไม่จริงน่า งั้นตั้งแต่แรกเธอก็……」

 

「จ้า ถูกต้องแล้ว」

 

 

เมื่อฮิลด้ายื่นมือออกไป ลูกแก้วทั้ง 5 ก็เข้ามาประกอบกัน ก่อนที่มันจะพุ่งทะลุผ่านหน้าต่างของยานเข้าไปข้างในเข็มขัดที่ฮิลด้าถืออยู่

 

 

รูปร่างของเข็มขัดได้เปลี่ยนไป

 

「หึ……ฮ่าๆๆๆๆ!!」

 

「ฮะ ฮิลด้า? 」

 

「ฮ๊า ในที่สุด ด้วยสิ่งนี้แหละจะทำให้ฉันปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมาได้!! จะไม่ยอมให้นายเมินฉันอีกต่อไปแล้ว!! ทนรอไม่ไหวแล้วสิ!!」

 

 

 

เธอถือมันขึ้นมากอดเอาไว้ที่แก้มพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้ม

 

 

『VENOM SCOPIO』

 

「คัตสึมิ ฉันผู้นี้จะกลายเป็นพิษที่กัดกินหัวใจของนายเอง」

 

 

น้ำเสียงของเธอช่างดูน่าขนลุก

 

ฮิลด้าใช้พวกฉันเพื่อเป้าหมายของเธอ

 

เธอเล่าทุกอย่างให้ฉันฟัง

 

เธอต้องการจะทำอะไรกับฉันกันแน่นะ

 

หรือฉันจะต้องกลายเป็นผู้เฝ้ามองอนาคตของเธอต่อจากนี้กัน

 

 

–จบ–

 

ฮิลด้าอัพเกรด ส่วนคอสโม่คงต้องรอเรมะสร้างยานให้ละมั้ง

 

มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ  และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด