อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต 163 ตัวฉันที่กลายพันธุ์ (อิริสเตร่า)

Now you are reading อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต Chapter 163 ตัวฉันที่กลายพันธุ์ (อิริสเตร่า) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

 

อิริสเตโอ้คือลำดับแห่งดวงดาราที่ 2

 

บุคคลที่มีตัวตนอยู่ในทุกมิติแหละพหุจักรวาล

 

ไม่มีใครรู้ว่าตัวตนของเขากำเนิดหรือเริ่มต้นมาจากที่ไหน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร

 

 

สรุปง่ายๆคือสิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือธรรมชาติซึ่งอยู่ในทุกเส้นเวลา

 

แม้อิริสเตโอ้จะมีความนึกคิดเป็นของตัวเอง แต่พวกมันทุกคนก็เชื่อมจิตถึงกัน หากมีอิริสเตโอ้ในจักรวาลไหนตายไป อิริสเตโอ้ตัวใหม่ก็จะปรากฏขึ้นมาแทน———เรียกได้ว่ามันสามารถกลับชาติมาเกิดและสืบทอดความทรงจำเก่าเลยยังง่ายกว่า

 

เป้าหมายหลักของ อิริสเตโอ้คือการสังเกตความเป็นไปได้

 

เหตุการณ์พิเศษภายในจักรวาลแทบจะทุกครั้งมีเขาอยู่เบื้องหลังหรือเกี่ยวข้องเสมอ

 

 

แต่แน่นอนว่าการเข้าไปแทรกแซงในห้วงเวลาและมิติย่อมเกิดปัญหาขึ้นเสมอ

 

ยิ่งจำนวนของอิริสเตโอ้มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ ความเป็นไปได้ใหม่ๆของมันก็ยิ่งเกิดมากขึ้นเท่านั้น

 

และสุดท้ายความผิดพลาดครั้งใหญ่ก็ได้เกิดขึ้น ตัวตนที่ถูกเรียกว่าอิริสเตโอ้ที่ไม่ใช่อิริสเตโอ้ได้ถือกำเนิดขึ้น

 

ซึ่งความผิดพลาดดังกล่าวนั่นก็คือตัวฉันเอง ผู้ข้ามมิติกลายพันธุ์อิริสเตร่า

 

 

ความผิดพลาดที่ถือกำเนิดขึ้น

 

สิ่งแปลกปลอมที่มีความคิดซึ่งตัวตนอย่างอิริสเตโอ้มองว่าว่าไม่จำเป็นและสมควรถูกกำจัด

 

แต่นั่นไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้อิริสเตโอ้ดูถูกและผลักไสฉัน

 

สิ่งที่สำคัญหลักๆเลยก็คือความสามารถแทรกแซงการเฝ้ามองระหว่างมิติของพวกมัน ทักษะที่พวกมันภูมิใจนักหนา

 

ส่วนความสามารถที่เหลือของฉันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรมากนัก แต่เพราะพลังนี้จึงทำให้เหล่าอิริสเตโอ้ไม่สามารถยกโทษให้กับฉันได้

 

 

 

 

『อันตราย』『ไม่ควรค่า』『ทำยังไงดี?』『ปล่อยไว้เฉยๆ?』『กำจัดมันให้จบๆ』『ไม่ดีมั้ง』『ไม่ควร』『จะดีเหรอ?』『เห็นด้วย』『น่าจะแย่』『การฆ่ามันอาจจะสร้างตัวแปรชนิดใหม่ขึ้นแทน』『เห็นด้วย』『งั้นทำอย่างไรต่อ?』『ยุ่งยาก』『ปวดหัว』『ระดมความคิด』『วิธีที่เหมาะสม』『ทำยังไงดี』『กักขัง?』『มิติที่ไม่มีสิ่งใด』『จักรวาลที่ตายไปแล้ว』『ความคิดดี』『เช่นนั้นก็เริ่มเลย』

 

 

 

 

 

『『『จัดการตามนั้น』』』

 

 

 

พลังที่น่ารังเกียจสำหรับอิริสเตโอ้….ด้วยเหตุนี้ฉันจึงถูกพวกมันนำตัวมากักขังอยู่ภายในจักรวาลที่ตายไปแล้ว

 

จักรวาลที่ไร้ซึ่งสีสันซึ่งเกิดมาจากการกระทำที่ต้องการความบันเทิงใจของพวกอิริสเตโอ้

 

 

 

『ทำไม่สิ่งแปลกปลอมอย่างแกถึงได้กำเนิดมาจากพวกฉันกัน?』『สัตว์ประหลาด』『พูดไม่ออกล่ะสิ』『ความผิดพลาดของอิริสเตโอ้』『ร้องไห้เหรอ?』『สมเพช』『จงอยู่แบบหนอนแมลงไปเสีย』『ความล้มเหลว』『ไม่มีใครยอมรับแกหรอก』『จงขอบคุณที่ยังมีชีวิตอยู่เสียเถอะ』『ใช่แล้ว』

 

 

ในจักรวาลที่ล่มสลาย พวกมันได้เข้ามาเหยียดหยามฉันอย่างสนุกสนานซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

….เป็นการข่มเหงที่ไร้ซึ่งความเมตตาใดๆ

 

…อิริสเตโอ้ไม่จำเป็นต้องมีความกลัว

 

ไม่จำเป็นต้องรู้สึกเจ็บปวด

 

ไม่จำเป็นต้องรู้สึกโศกเศร้า

 

ตัวตนที่ใฝ่หาเพียงความสนุก

 

และตอนนี้พวกมันกำลังรังแกฉันเพื่อความสนุกของพวกมัน

 

 

『———อึก』

 

 

ฉันรู้สึกเศร้าและหงุดหงิดในเวลาเดียวกัน ตัวตนที่เหล่าเอริสเตโอ้มองว่าไม่จำเป็น

 

เสียงของพวกมันดังอยู่ในหัวตลอดเวลาหากไม่ระงับการแทรกแซงของพวกมันเอาไว้ ฉันพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะไม่แสดงความอ่อนแอให้พวกมันเห็น

 

โดยระหว่างที่ถูกคุมขังเอาไว้ ฉันก็พลางใช้ประโยชน์จากการเดินทางข้ามมิติไปมาของพวกมันมาเป็นแบบแล้ววาดมันออกมาเพื่อบรรเทาความเหงาภายในใจ

 

 

 

เวลาได้ผ่านพ้นไป

 

ภาพของโลกภายนอกที่ฉันได้เห็นคือช่วงสั้นๆก่อนที่อิริสเตโอ้จะรู้ตัว

 

สิ่งที่น่าสนใจจนทำให้ดวงตาของฉันลุกวาวภายในจักรวาลสีขาวดำ ฉันได้เริ่มเดินทางภายในเส้นทางของการวาด

 

ซ้ำแล้วซ้ำเล่า การวาดภาพที่ไร้จุดจบ จนวันหนึ่งฉันก็เกิดคำถามขึ้นมาในใจ

 

ตัวฉันจะต้องอยู่คนเดียวไปอีกนานแค่ไหนกัน?

 

โลกที่เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวาตรงเบื้องหน้าที่ฉันเห็นมันช่างแตกต่างกับจักรวาลรกร้างที่ฉันอยู่

 

แต่ในฐานะสิ่งมีชีวิตที่ผิดแปลกไปจากพวก ตัวตนที่ปฏิเสธตัวตนอื่นทั้งหมด ฉันจึงถูกกักขังเอาไว้ในนี้

 

ฉันใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอย่างสิ้นหวังภายในสถานที่ที่ไม่สามารถหลบหนีได้

 

 

***

 

แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ชะตาชีวิตของฉันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

 

ในขณะที่ฉันกำลังสิ้นหวังอยู่ภายในจักรวาลขาวดำ เสียงกรีดร้องของอิริสเตโอ้ก็ดังขึ้น

 

 

 

 

『『『『ม่ายยยยยยยยยยย!!?』』』』

 

 

 

 

เสียงกรีดร้องของอิริสเตโอ้ทุกมิติจักรวาล

 

ในขณะเสียงกรีดร้องนั้นดังขึ้นฉันก็รีบเข้าไปแทรงแซงมิติก่อนจะทำให้ฉันเห็นว่า

 

อิริสเตโอ้ทั้งหมดยกเว้นตัวฉันถูกทำลายแขนขวาทิ้งไปและส่งเสียงกรีดร้องออกมา

 

 

「……หา?」

 

 

ฉันทำการเสยหน้าม้าด้วยมือขวา ก่อนจะมองไปยังอิริสเตโอ้ซึ่งเผชิญหน้ากับไรเดอร์คนหนึ่ง

 

คัตสึมิ โฮมุระ ไรเดอร์ที่สวมสูทสีขาวดำ

 

สิ่งมีชีวิตพิเศษที่อิริสเตโอ้คนหนึ่งให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และตอนนี้เขาได้ถือแขนที่ขาดหายไปของอิริสเตโอ้ไว้ในมือ

 

 

『อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!!』

 

 

พลังที่เหนือกว่าหลายขุม

 

ฉันถึงกับนิ่งไปจนพูดอะไรไม่ออกระหว่างที่มองดูภาพจากมิติอื่น

 

 

 

「———」

 

 

หลายสิบวิผ่านไป…ไม่สิ อาจจะหลายชั่วโมงเลยก็ได้ พอฉันรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองกำลังยิ้มออกมาขณะที่เห็นพวกมันส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

 

 

 

「……หึ ฮะๆ……」

 

 

ฉันหัวเราะแห้งๆออกมา

 

นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันหัวเราะ

 

สดชื่นชะมัด

 

พอได้มาเห็นอิริสเตโอ้ผู้ที่ควรจะไร้ซึ่งความหวาดกลัวและความเจ็บปวด กำลังหวาดกลัวและส่งเสียงร้องเหมือนหมาออกมา

 

 

「สมน้ำหน้า」

 

 

 

พวกมันจะไม่มีวันกลับไปเป็นแบบเดิม

 

อิริสเตโอ้ผู้ไม่เคยรู้จักความพ่ายแพ้ใดๆ

 

บัดนี้พวกมันสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวแล้ว

 

จิตใจที่เปราะบางของพวกมันผู้ไม่เคยสัมผัสความรู้สึกเช่นนี้มาก่อนพังทลายลงทันที

 

 

 

「นี่แหละ เนื้อในที่แท้จริงของพวกนาย!」

 

 

พวกขี้ขลาดที่เอาแต่ซ่อนอยู่ภายในมิติซึ่งไม่มีใครเข้าไปแตะต้องได้

 

พวกมันเอาแต่ภูมิใจในพลังของตัวเองและบิดเบือนสิ่งมีชีวิตในมิติต่างๆมากมายที่พวกมันสนใจให้เป็นไปตามที่ตัวเองอยาก

 

หลังจากพ่นคำด่าเท่าที่ฉันจะคิดขึ้นมาได้ใส่พวกมันเพื่อระบายความคับข้องใจที่เก็บเอาไว้มานาน ฉันก็ถอนหายใจแล้วพูดขึ้น

 

 

 

「……ฉันเป็นอิสระแล้ว」

 

 

เมื่อตระหนักได้ถึงสิ่งนี้ สิ่งที่อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับใครบางคน แต่มันช่างห่างไกลกับฉันเหลือเกิน ทว่าในที่สุดฉันก็ได้มันมาในมือแล้ว

 

***

 

 

หลังการต่อสู้ของคัตสึมิ โฮมุระและซาอิน อาริสเตโอ้ก็หลบหนีออกจากจักรวาลที่รูอินอาศัยอยู่

 

แน่นอนว่าพวกอิริสเตโอ้คนอื่นๆที่มีจิตวิญญาณและนิสัยแบบเดียวกันย่อมปฏิเสธที่จะเข้ามาแทนที่เขาในจักรวาลนี้

 

ทว่าตามกฏแล้วยังไงก็จำเป็นต้องมีคนเข้ามาแทนที่จักรวาลที่มีทั้งคัตสึมิ โฮมุระและรูอินอยู่

 

 

 

『ถ้างั้นฉันจะรับหน้าที่นั้นเอง!!!』

 

 

เมื่อเห็นว่าเป็นโอกาส ฉันจึงอาสาเข้าไปดูแลจักรวาลของรูอิน

 

มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยด้วย

 

ถึงฉันจะเป็นพวกกลายพันธุ์ แต่ก็มีพลังแบบเดียวกับพวกมัน แถมฉันยังรู้นิสัยที่เน่าเฟะของพวกมันอย่างการผลักภาระที่ตัวเองไม่ชอบให้คนอื่นด้วย

 

 

 

「……โย้ช」

 

 

ในที่สุดฉันก็ได้เดินทางออกมาจากจักรวาลที่ตายไปแล้วสู่จักรวาลที่รูอินอยู่

 

พูดตามตรงฉันไม่ได้สนใจเรื่องของรูอิน คัตสึมิ โฮมุระ หรือการเฝ้าสังเกตการณ์อะไรสักนิด

 

ที่ฉันต้องการก็แค่อิสระในการไปไหนมาไหน

 

 

อันที่จริงแค่ได้ด่าพวกอิริสเตโอ้ที่จิตใจแตกสลายก็ไม่รู้จะสุขยังไงแล้ว

 

 

นอกจากนี้ก็ไม่คิดจะหาทำอะไรแปลกๆในจักรวาลที่มีทั้งรูอินและอาสึอยู่ด้วย

 

…..พูดตามตรงยุ่งไปก็เจ็บตัวเปล่า

 

หากอีกฝ่ายไม่พอใจคงฆ่าฉันทิ้งแหง

 

ยัยพวกนี้น่ากลัวจะตาย

 

 

 

「ส่วนคัตสึมิ โฮมุระน่าจะไม่เป็นไร」

 

 

เท่าที่ฉันเห็นขอแค่ไม่ไปยุ่งกับอีกฝ่าย เขาก็ไม่คิดจะทำอะไรฉัน ดังนั้นเพื่ออายุที่ยืนยาวขอไม่ไปยุ่งกับเขาละกัน

 

ว่าแล้วฉันก็เดินทางไปยังดาวโลกเพื่อตามฝันในอดีต อพาร์ทเมนท์ก็ทำสัญญาเช่าไว้แล้วด้วย

 

ในขณะที่ฉันกำลังใช้ชีวิตตามปกติแล้วเปิดประตูห้อง———

 

 

 

「อิริสเตโอ้ ไม่สิ ควรจะเรียกแกว่าอิริสเตร่าสินะ?」

 

「เอ๋?」

 

 

พอรู้สึกตัวอีกที ฉันก็ถูกย้ายร่างออกจากอพาร์ทเมนต์ที่ฉันเช่ามายังมิติว่างเปล่าและกว้างใหญ่เหมือนอวกาศ

 

ตรงหน้าของฉันคือรูอิน ตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์

 

เนื่องจากเป็นการโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว สภาพการแต่งตัวในตอนนี้ของฉันจึงห่างไกลกับชุดออกรบที่เคยสวมออกไปตอนเย้ยพวกอิริสเตโอ้ไร้ค่าก่อนหน้า ชุดที่ใส่คือชุดวอร์ม ผมก็ยุ่งสุดๆ เอาเป็นว่ามันเป็นสภาพที่ไม่ควรออกไปเจอใครที่ไหนเลยนั่นแหละ

 

 

 

 

「……เอ๋? ระ อะไรกัน? นี่มัน……」

 

「หื้ม แบบนี้นี่เอง ดูแล้วก็แตกต่างจากเจ้าตัวก่อนหน้านี้ที่ชอบท้าทายอำนาจพอสมควร แขนขวาที่ควรจะถูกคัตสึมิลบออกไปก็ดูไม่บุบสลายนี่…..เป็นว่าแปรสินะ? บางทีก็คงจะเป็นตัวตนพิเศษที่แยกออกมาจากพวกมันทั้งหมด….?」

 

 

ถูกรู้ในทันทีที่เจอกัน

 

ฉันบอกอิริสเตโอ้ไปว่าแขนขวาของฉันก็ถูกลบออกไปเหมือนกันแน่นอนว่าโม้

 

แต่ก็อย่างที่เธอว่าฉันมันพวกกลายพันธุ์ เป็นตัวแปรที่ไม่ขึ้นตรงกับอิริสเตโอ้ดังนั้นการโจมตีของคัตสึมิ โฮมุระเลยไม่มาถึงฉันด้วย

 

 

 

「…การที่ฉันพาแกมาอยู่ที่นี่・・・・・・」

 

 

ทั้งที่คิดว่าจะได้เริ่มต้นใหม่แล้วแท้ๆ

 

ดินสอกับสีก็ซื้อมาซะเยอะเพราะคิดว่าจากนี้คงได้วาดภาพอะไรตามใจชอบ

 

แต่มันจะจบลงโดยที่ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยงั้นเหรอ

 

 

 

「……อะ อึก เอ่อ คือ อื้อออ」

 

「หือ?」

 

 

ไม่ไหวแล้วอ้า

 

ทั้งที่ดีใจสุดๆที่สามารถหลุดออกมาจากจักรวาลนั้นได้ แต่สุดท้ายก็ต้องมาเผชิญหน้ากับแรงกดดันที่แทบจะทำให้คายของเก่าออกมา

 

น้ำตาของฉันไหลออกมาไม่หยุด

 

 

 

 

「……แม้จะมีคุณสมบัติเหมือนกัน แต่สภาพวิญญาณแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเหรอ วิวัฒนาการของแกเหมือนจะมีข้อบกพร่องอยู่นะ หรือว่าการถูกกักขังเอาไว้เป็นเวลานานนำพามาสู่สิ่งนี้เหรอ? อย่างที่คิดพวกของแกเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าเบื่อจริงๆ」

 

 

รูอินพูดกับตัวเองขณะมองมาที่ฉันซึ่งไม่สามารถขยับตัวได้เลย

 

 

 

「อิริสเตร่า ฉันขอแต่งตั้งให้แกเป็นลำดับแห่งดวงดาราที่ 2」

 

「……เอ๋ ตะ แต่ว่า ฉัน……」

 

 

 

ไม่โดนพามาฆ่าเหรอ……!?

 

หรือเพราะร้องไห้งอแงออกมาก็เลยสมเพชจนไม่อยากฆ่า?!

 

แปลว่าร้องไห้เป็นตัวเลือกที่ถูกสินะ?!

 

 

「งั้นก็ขอให้คำสั่งแรกกับแกเลยแล้วกัน」

 

 

 

กะทันหันไปไหม?!

 

ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็คงถูกสั่งให้ไปทำอะไรแปลกๆแหง แต่ตัวฉันที่สิ้นหวังก็ไม่มีสิทธิ์ค้านหรอก จากนั้นรูอินก็ยิ้มออกมาก่อนพูดขึ้น

 

 

「เข้าหาคัตสึมิซะ」

 

「……เอ๋?」

 

***

 

เข้าหาคัตสึมิ โฮมุระ

 

คำสั่งช่างดูเรียบง่ายสุดๆ แต่หากมองให้ดีๆมันเป็นเรื่องที่ยากโคตรๆ เพราะมันหมายถึงการต้องไปใกล้ชิดกับคัตสึมิ โฮมุระแล้วตรวจสอบข้อมูลเพื่อรายงานให้รูอินได้รู้

 

แล้วเหตุผลล่ะ?

 

ถึงถามไปก็คงไม่ได้คำตอบแหง

 

 

 

「……เฮ้อ」

 

 

คัตสึมิ โฮมุระ….หลังเดินทางไปยังร้านกาแฟเซอไซนัสที่คัตสึมิซังทำงานอยู่ ฉันก็ตรงกลับมายังอพาร์ตเมนต์ที่ฉันเช่าไว้

 

ห้องพักค่าเช่าเดือนประมาณ6หมื่นเยน เมื่อฉันปิดประตูห้องและถอดรองเท้าฉันก็เอาตัวเองนั่งพิงกับประตูแล้วถอนหายใจ

 

 

 

「ดะ โดนตามมาจริงด้วย……」

 

 

เรมะ คาเนะซากิเป็นผู้ชายที่รอบคอบ ซึ่งเห็นได้ชัดจากการกระทำที่ผ่านมาของเขา

 

ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้เอเลี่ยนปริศนาที่อยู่ดีๆก็โผล่มาจากไปแต่โดยดี

 

แต่ก็เอาเถอะ

 

 

 

 

「ยะ ยังไงฉันก็ไม่คิดจะสร้างปัญหานี่นา…คงไม่เป็นไรแหละ….」

 

 

ฉันไม่คิดจะเป็นศัตรูกับพวกเขา และก็ไม่คิดจะใช้พลังของตัวเองทำอันตรายกับคนบนโลกด้วย

 

บอกตามตรงหากเป็นไปได้ก็ไม่อยากจะออกไปไหนและขลุกตัวอยู่ในห้องนี้ตลอดไปด้วยซ้ำ

 

 

「ฟู้วววว……」

 

 

ความรู้สึกเหนื่อยล้าทางใจนี่มันหนักจริงๆ ฉันตรงไปที่เตียงแล้วล้มตัวลงนอน———ระหว่างนั้นฉันก็ได้ทำการเข้าไปเชื่อมจิตกับอิริสเตโอ้ที่กำลังพูดคุยกันอยู่

 

 

ตอนนี้พวกมันกำลังเดือดกันสุดๆเพราะพลังของฉันทำให้พวกมันไม่สามารถมองเห็นความเป็นไปของจักรวาลนี้ได้นั่นเอง

 

***

91: ตัวฉันที่ไร้ประโยชน์และทำอะไรไม่ได้นอกจากเห่า

 

 

ทำไมกัน ทำไมถึงมองไม่เห็น มันเกิดอะไรขึ้น

 

 

92:ตัวฉันที่ไร้ประโยชน์และทำอะไรไม่ได้นอกจากเห่า

 

หลอกกันนี่หว่า? ทำไมถึงไม่ให้พวกเราเห็นล่ะ?

 

 

 

93:ตัวฉันที่ไร้ประโยชน์และทำอะไรไม่ได้นอกจากเห่า

 

แสดงสิ่งที่แกเห็นให้ฉันดูซะ

 

 

 

94:ตัวฉันที่ไร้ประโยชน์และทำอะไรไม่ได้นอกจากเห่า

 

ลืมน้ำใจที่พวกเรามอบให้ไปแล้วเหรอ?

 

 

 

95:ตัวฉันที่ไร้ประโยชน์และทำอะไรไม่ได้นอกจากเห่า

 

ตัวตนของแกไม่สมควรถือกำเนิดขึ้นมา

 

 

 

96:ตัวฉันที่ไร้ประโยชน์และทำอะไรไม่ได้นอกจากเห่า

 

ไอ้ขยะที่มีพลังไร้ประโยชน์

 

 

 

97:ตัวฉันผู้กลายพันธุ์แสนน่ารัก

 

จ้าๆๆ หุบปากกันได้แล้วไอ้พวกโง่!!

 

เชิญร้องไห้คร่ำครวญเพราะไม่สามารถเข้ามาส่องจักรวาลนี้ได้ต่อไปเถอะ เห้อ แหยงชะมัด

 

 

 

98:ตัวฉันผู้กลายพันธุ์แสนน่ารัก

 

แค่นี้ก็ทนรอกันไม่ไหวแล้วงั้นเหรอไอ้พวกงี่เง่า!!

 

 

 

99:ตัวฉันผู้กลายพันธุ์แสนน่ารัก

 

โอ๊ะ จริงสิ เป็นแค่หมาเลยทำให้แค่เห่านี่เนอะจะไปมีปัญญาทำอะไรนอกจากนั้นได้

 

เอาเป็นว่าขอพูดตรงนี้เลยแล้วกัน

 

นั่งเงียบๆแล้วก็หุบปากไปซะไอ้พวกขี้แพ้

 

 

100:ตัวฉันที่ไร้ประโยชน์และทำอะไรไม่ได้นอกจากเห่า

 

ฉันได้ทำการลบความคิดเห็นนี้แล้ว★

 

 

 

101:ตัวฉันที่ไร้ประโยชน์และทำอะไรไม่ได้นอกจากเห่า

 

ฉันได้ทำการลบความคิดเห็นนี้แล้ว★

 

 

 

102:ตัวฉันที่ไร้ประโยชน์และทำอะไรไม่ได้นอกจากเห่า

 

ฉันได้ทำการลบความคิดเห็นนี้แล้ว★

 

***

 

อยู่ดีๆก็เกิดนึกครึ้มอยากไปยั่วพวกมัน แล้วก็ไล่ลบข้อความที่ถูกส่งมาหลังจากนั้นให้หมดด้วยพลังของฉัน

 

ความโกรธแค้นที่ทำให้จิตใจของฉันแทบพังทลาย ฉันถอนหายใจออกมาแล้ว

กระโดดไปมาบนเตียง

 

 

 

『ไร้ค่า』

 

『เศษขยะ』

 

『ความล้มเหลว』

 

『ไม่ควรจะเกิดมาด้วยซ้ำ』

 

 

จากนั้นฉันก็บิดตัวไปมาด้วยความโกรธ

 

 

「โอ้ยยยยยย….ไอ้พวกนั้นไม่ว่าจะหน้าไหน…!!!」

 

 

หงุดหงิด หงุดหงิดสุดๆ!! เป็นพวกที่น่าหนวกหูจริงๆ!!

 

ฉันเอาหมอนปิดหูแล้วร้องไห้ออกมา

 

 

 

「……เห้อ」

 

 

ไม่นานนักพอได้สติ ฉันก็ดึงเอาสมุดดสเก็ตช์ภาพออกจากกระเป๋าแล้วเปิดออก

 

มังงะเรื่องแรกที่ฉันวาด

 

เรื่องราวที่อ้างอิงมาจากชีวิตของฉัน อาจจะเรียกว่าเป็นการระบายถึงความในใจที่ไม่มีใครเคยรับรู้มาก่อน

 

 

「ถึงจะถูกตบมาซะเยอะ….แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธตัวผลงาน」

 

 

คัตสึมิซังชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดหรือเรื่องที่ควรแก้ไขในมุมมองของนักอ่าน

 

เขาไม่ได้เกลียดหรือปฏิเสธผลงานของฉันแถมยังชมด้วยซ้ำ

 

 

 

『ฉันพูดไปเยอะแล้ว สรุปก็น่าสนใจดีนะ น่าทึ่งจริงๆ ที่เธอสามารถเขียนเรื่องแบบนี้ออกมาได้』

 

 

คำพูดของคัตสึมิซังได้ดังขึ้นแทนเสียงที่น่ารำคาญภายในใจ

 

ฉันรู้สึกได้ว่าตัวเองไม่ควรจะหยุดอยู่แค่นี้อีกต่อไป

 

 

 

「……โย้ช」

 

 

ฉันลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วตรงไปที่โต๊ะ

 

อุปกรณ์หลายๆอย่างยังขาดไปบ้าง ไว้ไปหาซื้อเพิ่มทีหลังละกัน

 

หากจะให้สะดวกจริงก็คงต้องไปหาอุปกรณ์ที่วาดภาพแบบดิจิทัลได้ แต่ตอนนี้ก็เอาเท่าที่มีก่อน

 

 

「มากกว่านี้……」

 

 

แม้จะรู้สึกแย่ที่มีคนวิจารณ์และตำหนิ

 

แต่มันก็แตกต่างจากอิริสเตโอ้ที่เอาพ่นคำพูดออกมาด้วยเจตนาร้ายอย่างเดียว

 

ตอนนี้ฉันรู้สึกดีใจที่ได้รับคำวิจารณ์ เพราะเขาเห็นถึงสิ่งที่ฉันกำลังจะทำอยู่

 

ฉันดีใจมากที่เขาบอกว่ามันน่าทึ่ง

 

ฉันดีใจที่เขาบอกว่ามันน่าสนใจ

 

ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีความสุขขนาดนี้เมื่อมีคนมาสนใจ

 

 

「ต้องพยายามให้มากกว่านี้」

 

 

ถึงจะไม่รู้ว่ามันคือการพยายามทำตามคำสั่งของรูอินหรือพยายามวาดมังงะก็เถอะ

 

ว่าแล้วฉันก็หยิบดินสออันใหม่ขึ้นมาแล้วเริ่มวาดรูปบนโต๊ะที่มีแสงไฟจ้า

 

—จบ—

 

พลังในการแบนของอิริสจังทำให้ชีวิตของเธอต้องลำบาก  จะแบนตลอดก็ไม่ได้เพราะจิตใจคงได้แตกสลายจากความโดดเดี่ยวแม้จะต้องเผชิญคำว่าร้ายของอีกฝ่ายก็ตาม

 

ส่วนเหตุผลที่รูอินส่งมาก็ไม่อาจทราบได้จริงๆ

มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ  และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด