อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต 175.1 จัสติสครูเซเดอร์ออกปฏิบัติการ

Now you are reading อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต Chapter 175.1 จัสติสครูเซเดอร์ออกปฏิบัติการ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

นี่คือวันหยุดฤดูร้อนครั้งแรกของมอปลาย

 

มันควรจะเป็นวันหยุดหน้าร้อนที่ฉันได้ไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนใหม่หรือครอบครัวอย่างสนุกสนาน

 

(ตารางการฝึกฝนช่วงเดือนสิงหา ยกเว้นวันที่ 9 ทุกวันคือวันแห่งการฝึก!!)

 

「วันหยุดฤดูร้อนของฉันมันจบแล้วสินะ……!!? 」

 

「ดูยังไงก็จบแล้วแหง」

 

พอรู้ตัวอีกทีก็เข้าเดือนกันยาแล้ว ไอร้อนแห่งฤดูร้อนยังคงอบอวนอยู่กับพวกเรา

 

คิราระเองก็มีสภาพเหมือนปลาตายไม่ต่างอะไรกับฉันขณะเดินคุยกันระหว่างไปโรงเรียนโดยมีแสงแดดแผดเผาร่างในยามเช้า

 

 

 

「เราต้องฝึกกันอีกนานแค่ไหน……」

 

「ลาก่อนชีวิตวัยรุ่นของฉัน……」

 

 

วันหยุดฤดูร้อนครั้งแรกของมอปลายจบลงด้วยการฝึกฝนเพื่อเป็นจัสติสครูเซเดอร์

 

ฉันก็ไม่ได้อยากจะบ่นหรอกเพราะมันคือเส้นทางที่พวกเราเลือก แต่มันก็แอบเสียดายที่ไปเที่ยวเทศกาลหน้าร้อนไม่ได้

 

 

 

「ว่าแต่ คิราระได้ไปเที่ยวไหนบ้างไหม? 」

 

「ฉันไม่ได้ไปเลย ก็แอบรู้สึกแย่ที่ปล่อยให้น้องชายกับน้องสาวไปเที่ยวโดยไม่มีฉันอยู่หรอก แต่ก็ขอบคุณพวกเขาที่เอาของฝากมาให้เต็มไปหมดเลย」

 

 

เป็นครอบครัวที่ดีจริิงๆ

 

กลับกันฉันดันโดนพวกพี่สาวล้อที่อดไปเที่ยวทะเลกับพวกเธอ

 

ถึงแม้ว่ารูปถ่ายที่เธอเอามาอวดจะมีแต่กลุ่มผู้หญิงทั้งนั้นเลยก็เถอะ

 

ที่อวดว่าตัวเองเนื้อหอมในมหาลัยนี่มันจริงหรือเปล่านะ

 

 

『พวกพี่โกหกแหงที่บอกว่าตัวเองเนื้อหอมน่ะ』

 

『ฉันเนื้อหอม (กับเพศเดียวกัน) จริงนะเออ』

 

『ใช่ๆ พวกฉันเนื้อหอม (กับเพศเดียวกัน) สุดๆ』

 

 

หวังว่าฉันคงไม่ได้คิดไปเองนะว่าพวกพี่สองคนพูดไม่หมด

 

แต่ก็นั่นแหละ เอาเป็นว่าหน้าร้อนแรกของมอปลายก็จบลงที่การฝึกฝน….ส่วนผลลัพธ์ที่ได้ก็คือพวกฉันสามารถใช้งานจัสติสสูทได้ดีกว่าเดิมเป็นอย่างมาก

 

ในมุมของประธานเขาบอกว่าเหลือแค่ให้พวกฉันลงสนามจริง

 

 

 

「โอ้ อรุณสวัสดิ์คิราระ!!!!」

 

 

ในขณะที่ฉันกำลังคิดเรื่องพวกนี้อยู่ ก็มีเสียงเรียกชื่อของคิราระมาจากด้านข้าง

 

หืม เธอเป็นผู้หญิงที่มักจะเจอกันในคาบพละนี่นา

 

รู้สึกว่าจะชื่อ ไฮรุ โคโนฮานะ หรือเปล่านะ?

 

ฉันจำเธอได้เพราะเธอเป็นคนที่ดูน่าประทับใจในเรื่องของบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลาย ซึ่งมาพร้อมกับผมสีดำยาวประบ่า

 

 

 

「อรุณสวัสดิ์ ไฮรุ ไม่ได้เจอกันเป็นเดือนเลยสินะ」

 

「อื้อ ลำบากสุดๆ เลยแหละวันหยุดทั้งที ต้องมาจัดการเรื่องการบ้านแล้วก็เรื่องปวดหัวสุดๆ นั่นอีก」

 

「นอกจากเรื่องการบ้านแล้วยังมีเรื่องปวดหัวอื่นอีกเหรอ? 」

 

「อื้อ เรื่องนั้น……」

 

「……ไฮรุ? 」

 

 

เสียงของคิราระดูประหลาดใจที่อยู่ดีๆ ไฮรุจังก็เงียบไป

 

ไม่นานนักเธอก็ปัดมือไปมาเหมือนกับจะบอกว่าไม่มีอะไร

 

 

「ไม่มีอะไรหรอก สุดท้ายก็แค่นั่งเบื่อในห้องแอร์น่ะ!」

 

「สรุปก็คือไม่มีความทรงจำดีๆ ในหน้าร้อนเลยนี่หว่า……? 」

 

「เหะๆ」

 

 

ไฮรุจังหัวเราะแห่งๆ ออกมา

 

จากนั้นฉันก็ได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง

 

 

「ฮายรุ้ววววว」

 

「ไม่เจอกันนานเลย」

 

 

เพื่อนของไฮรุจังสินะ?

 

 

เธอหันไปมองก่อนจะหันกลับมาหาพวกเราด้วยท่าทีเหมือนจะขอโทษ

 

 

「ก็เอาเป็นว่าทักทายประมาณี้ละกันเนอะ!」

 

「เอาเถอะ ยังไงก็ขอให้โชคดีในเทอม 2 ล่ะ」

 

「เช่นกันจ้า! แล้วเจอกันนะ」

 

 

พอพูดจบไฮรุจังก็โบกมือลาแล้วเดินไปหาเพื่อนของเธอที่อยู่ข้างหลัง

 

เป็นเด็กที่ดูสดใสจริงๆ

 

สดใสเสียจนเทียบกับฉันที่หน้าร้อนมีแค่การฝึกฝนจนลากเลือกแล้วคนละโลกเลย….

 

 

 

「โฮ่ย」

 

 

มีเสียงหนึ่งดังมาจากข้างๆ ของฉันอีกครั้ง

 

บางทีอาจจะเป็นเพราะการฝึกฝนในฤดูร้อนที่ผ่านมา ร่างกายของฉันมันก็เลยขยับไปเองก่อนจะตั้งการ์ด แล้วก็พบว่าคนที่ส่งเสียงเรียกฉันเป็นนักเรียนชายคนหนึ่ง

 

บนฝ่ามือของเขามีพวกกุญแจไรเดอร์สวมหน้ากากสีดำที่คล้ายกับอัศวินดำอยู่

 

หน้าของฉันถึงกับซีดก่อนจะรู้ตัวว่ามันคล้ายกับพวงกุญแจที่ฉันห้อยกับกระเป๋าเอาไว้เลย

 

 

 

「ฉันทำมันหล่นเหรอ…? 」

 

「……อ้า」

 

 

แย่แล้วสิ

 

เกือบไปแล้ว

 

แต่อยู่ดีๆ มาส่งเสียงดังใส่กันข้างหลังโดยที่ฉันไม่รู้สึกตัวแบบนี้ มันก็ช่วยไม่ได้นี่นา

 

แถมเขายังมาด้วยเจตนาดีอีก หากจะหัวเสียกับท่าทีของฉันก็คงไม่แปลกเลยมั้ง

 

 

 

「ขะ ขอบคุณนะ!」

 

「อะ อ้า ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ขอตัว? 」

 

 

จากนั้นเขาก็เบือนหน้าหนีแล้วเดินจากไป

 

ก็แค่นักเรียนชายคนหนึ่ง

 

แต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงละสายตาจากเขาไม่ได้เลย บรรยากาศรอบตัวเขามันช่างดึงดูดใจฉันเหลือเกิน

 

「……」

 

「อากาเนะ เป็นอะไรไปน่ะ? 」

 

「อะ อื้อ ไม่มีอะไรหรอก」

 

 

ทำไมรู้สึกเหมือนเคยเจอเขาที่ไหนสักแห่งมากก่อนนะ…..

 

แผ่นหลังของชายคนนั้นเหมือนไม่ได้เจอกันเป็นครั้งแรกเลยแฮะ

 

จากนั้นฉันก็เริ่มเดินไปกับคิราระต่อ

 

***

 

 

「เมื่อเช้าอากาเนะติดทำท่าแปลกๆ ใส่ชาวบ้านด้วยแหละ」

 

「รุ่นพี่เป็นโกลโกเหรอ? 」 (Ref : Golgo 13)

 

「อย่าพูดอะไรอีกเลย……」

 

 

หลังเลิกเรียน ฉันกับคิราระไปเจอกับอาโออิที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งระหว่างทางไปสำนักงานใหญ่จัสติสครูเซเดอร์

 

พฤติกรรมแปลกๆ ของฉันที่ทำใส่คนอื่นเมื่อเช้าเลยถูกเผยออกไปด้วย

 

ฉันมั่นใจเลยว่าในสายตาของชายคนนั้นฉันจะกลายเป็นผู้หญิงแปลกๆ คนหนึ่งแหง

 

 

 

「ต่อไปก็คือการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดจริงๆ ส่วนตัวแล้วฉันรู้สึกไม่พร้อม」

 

「ทำไมถึงคิดงั้นล่ะ? 」

 

「มันเหมือนกับการซ้อมยิงเป้าในโหมดฝึกฝน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยิงเพลเยอร์โดน」

 

 

ใช้เกมในการเปรียบเทียบกับสมกับเป็นเธอดี

 

คิราระที่ได้ฟังทำได้เพียงยิ้มแห้งๆ ให้…

 

 

「หากเป็นเกม สิ่งที่สำคัญก็คือการเล่นให้ชินมือ แต่ในความเป็นจริงของพวกเราสัตว์ประหลาดมันไม่ได้มารอให้เราฝึกซ้อมเพื่อสู้กับพวกมันจนเก่ง ไลฟ์พ้อยของพวกเราก็มีแค่ 1 หรือก็คือพวกเราล้มเหลวไม่ได้」

 

「เรื่องนั้นมันก็จริง」

 

 

หากพวกเราต้องออกไปต่อสู้ ความล้มเหลวก็เท่ากับความตาย

 

พวกเราไม่สามารถคาดหวังให้อัศวินดำมาช่วยเหลือพวกเราได้ แถมชีวิตของใครบางคนอาจจะตกอยู่ในอันตรายหากพวกเราพ่ายแพ้ด้วย

 

ดังนั้นพวกเราจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด

 

 

「แถมเวลาการปรากฏตัวของพวกมันก็น่าสงสัย」

 

「ปกติจะโผล่มาตอนกลางคืนแท้ๆ」

 

「แต่บางครั้งก็ดันมาตอนกลางวัน」

 

 

อย่างที่อาโออิบอก สัตว์ประหลาดบางตัวก็ปรากฏขึ้นกลางวันแสกๆ เหมือนกัน

 

 

「หากพวกมันปรากฏตัวระหว่างที่พวกเราเรียนอยู่ ก็คงต้องหาลู่ทางกันสักหน่อย」

 

「ก็พอทำใจไว้แล้ว」

 

 

ละทิ้งชีวิตประจำวันที่สงบสุขเพื่อช่วยเหลือผู้คน

 

หากฟังดูมันก็เป็นเรื่องที่สวยงามหรอก แต่การมุมปฏิบัติจริงค่อนข้างยากเลยทีเดียว

 

ตอนไม่ต่อสู้ก็ยังต้องคอยระวังหาทางจัดการเรื่องรอบตัวไม่ให้แดงออกมาอีก

 

 

 

「แต่ไม่ว่าจะยังไง หากเกินเรื่องขึ้น ถึงตอนนั้นพวกเราก็แค่พยายามทำให้เต็มที่」

 

「……นี่ เธอคืออาโออิแน่เหรอ?พูดจาดีจนไม่คิดว่าปกติเลย หรือโดนล้างสมองไปแล้วกัน」

 

「ว่ากันตามตรงฉันก็สงสัยเหมือนกันว่าคนตรงหน้าฉันคืออาโออิจริงไหม….」

 

「พวกเธอบ้ากันไปแล้วสินะ」

 

 

ลองคิดถึงหญิงสาวที่แม้จะเป็นช่วงฝึกก็พยายามจำลองเอาท่าที่ดูในหนังมาใช้งานเพื่อเติมเต็มความต้องการของตัวเอง หรือจะขนเอาพวกอาหารขยะมากมายมากองไว้ในห้องฝึกเพื่อให้กินได้สะดวกอีก

 

ฉันว่าเด็กม. 3 คนนี้ดูจะมีความกล้าในหลายๆ ความหมาย มากกว่าเด็กมหาลัยซะอีก

 

 

「อันที่จริง ฉันคือฮารุ น้องสาวของอาโออิ」

 

「เอ๋ ไม่จริงน่า!? 」

 

「อื้อ โกหก」

 

「……」

 

「อากาเนะ ฉันว่าเธอวางส้อมในมือลงก่อนเถอะ」

 

 

คิราระวางมือบนไหล่ของฉันเพื่อดึงสติ พอได้สติฉันก็วางส้อมที่ถืออยู่ลง

 

อาโออิที่เตรียมสวนฉันด้วยน้ำตาลก้อนในมือ ก็ปล่อยมันลงในถ้วยกาแฟแทนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

 

 

「แต่เรื่องที่ฉันมีน้องสาวน่ารักที่หน้าตาเหมือนกับฉัน นั่นจริง」

 

「「……」」

 

「นี่ อย่ามาส่งสายตาเหมือนกับจะบอกว่าสงสารน้องสาวของยัยนี่ชะมัดสิ」

 

 

ไม่ว่าจะมองมุมไหนการเป็นน้องสาวของอาโออิก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแหง

 

ในฐานะคนที่มีพี่สาวเจ้าปัญหาอยู่ในบ้าน ฉันเข้าใจความลำบากนั้นดี

 

 

 

 

「……ไปสำนักงานใหญ่ดีกว่า」

 

「เห็นด้วย」

 

 

พอได้เวลาพวกฉันก็ลุกจากเก้าอี้เพื่อตรงไปยังบริษัท KANEZAKI ทว่าอยู่ดีๆ จัสติสเชนเจอร์ในมือของพวกฉันก็สั่น

 

 

 

「นี่มัน สัญญาณฉุกเฉินใช่ไหม? 」

 

「เท่าที่อ่านคู่มือมาก็เหมือนจะเป็นแบบนั้น」

 

「ก็แปลว่า……」

 

 

พวกเรามองหน้ากันสลับกับจัสติสเชนเจอร์ที่สั่น

 

สาเหตุของการสั่นถูกระบุไว้ในคู่มือแล้ว

 

มันก็คือการปรากฏตัวขึ้นของสัตว์ประหลาด

 

***

 

 

สัตว์ประหลาดคืออะไร?

 

การดำรงอยู่ของมันภายในโลกใบนี้ยังเป็นปริศนาที่ไม่ถูกแก้ไข

 

ทั้งรูปลักษณ์และความสามารถของพวกมันแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

 

 

เนื้อเยื้อของพวกมันที่เก็บมาตรวจสอบก็ไม่ตรงกับสิ่งมีชีวิตใดบนโลกนี้เลย

 

สิ่งมีชีวิตลึกลับที่เต็มไปด้วยปริศนา…แต่อย่างน้อยที่ฉันมันใจเลยก็คือ

 

พวกมันโผล่มาจากใต้ดิน

 

 

「14.23 น. ———ตรวจพบสัตว์ประหลาดที่อุโมงค์รถไฟใต้ดิน!!」

 

 

เพื่อตอบรับเสียงเรียกฉุกเฉิน พวกฉันจึงรีบมุ่งหน้าไปยังสำนักงานใหญ่และขึ้นเฮลิคอปเตอร์ขนส่งของบริษัทคาเนะซากิทันที

 

มันคงจะเป็นเหตุฉุกเฉินมากแน่ๆ คนที่ขับฮอมาจึงเป็นประธาน และเขาก็กำลังอธิบายข้อมูลที่ได้รับมาผ่านอุปกรณ์แปลงร่างของพวกฉัน ภาพที่ฉันเห็นภายในนั้นมันชวนให้ท้องไส้รู้สึกปั่นป่วนสุดๆ

 

 

 

『กรี๊ดดดดด!!!』

 

『ไม่นะ!? 』

 

『ตัวอะไรกันนนนน!? 』

 

 

ในที่แห่งนั้นผู้คนวิ่งหนีตายกันเพื่อหลบรถไฟที่ตกราง โดยมีสัตว์ประหลาดที่รูปร่างคล้ายกับแมลงร่างหุ้มโครงกระดูก กำลังไล่โจมตีพวกเขาไปด้วย

 

ไม่เพียงแค่นั้น…

 

ในขณะที่ร่างของมันกำลังส่องแสงออกมา จำนวนของมันก็เพิ่มทวีคูณขึ้นเพื่อโจมตีผู้คนรอบๆ ต่อ

 

 

 

「เป้าหมายคราวนี้คือสัตว์ประหลาดร่างแยก ความสามารถของมันคือการจำลองร่างกายของตัวเองขึ้นมาเพื่อสร้างการโจมตีแบบทวีคูณ แม้พลังของร่างแยกที่มันสร้างขึ้นจะอ่อนแอกว่าร่างหลัก แต่มันก็มากพอที่จะพลิกรถไฟให้คว่ำได้ด้วยตัวคนเดียว!!」

 

「ประธาน! แล้วคนที่ถ่ายวิดีโอนี้มาเป็นใครกันคะ!? 」

 

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคือคนที่อยู่จุดเกิดเหตุ

 

ภาพที่แสดงออกมามีคนจำนวนมากกำลังถูกสัตว์ประหลาดไล่โจมตี

 

ฉันรู้ดีว่าหากถูกสัตว์ประหลาดหมายหัวเอาไว้แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น

 

ฉันมองภาพที่เกิดขึ้นพลางนึกถึงความกลัวในวันนั้น วันที่ฉันเผชิญกับพวกมัน ไม่นานนักภาพที่ถ่ายจากกล้องนั้นก็ร่วงลงกับพื้นก่อนที่หน้าจอจะมืดไปโดยมีกรงเล็บของสัตว์ประหลาดเป็นภาพติดสุดท้าย

 

 

「ประธาน!」

 

「ไม่เป็นไร!!」

 

 

ไม่กี่วินาทีต่อมากล้องก็กลับมาติดอีกครั้ง แม้จะมีรอยแตกร้าวในภาพก็ตาม แต่มันก็ทำให้เห็นว่าเพดานของสถานีรถไฟใต้ดินเกิดรูโหว่ขึ้น

 

 

「———เพราะเขาอยู่ที่นั่นแล้ว!!」

 

 

เงาสีดำที่ปรากฏมาพร้อมกับฝุ่นควันฟุ้ง———อัศวินดำคุงพุ่งเข้าไปเตะและบดขยี้พวกสัตว์ประหลาดทั้งหมดที่กำลังไล่ล่าคน

 

เมื่อกำจัดมันได้ 1 เขาก็ไล่ฆ่าตัวถัดไปทันที แต่ด้วยจำนวนที่มากของมันคงจะใช้เวลาไม่น้อย

 

 

 

 

「ตอนนี้อัศวินดำกำลังไล่จัดการกับสัตว์ประหลาดแยกร่างที่ปรากฏตัวอยู่!!」

 

「……แล้วพวกเราควรจะทำยังไง? 」

 

 

ประธานตอบคำถามของอาโออิหลังเงียบไปพักหนึ่ง

 

 

「เตรียมรับมือกับความเสี่ยงหากเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ในกรณีที่พวกมันหลุดออกมาจากใต้ดิน….คงจะเป็นเรื่องยากที่อัศวินดำผู้ไล่กวาดพวกมันบริเวณใต้ดินจะตามมาช่วยเหลือคนข้างบนได้」

 

「ก็แปลว่าพวกเราต้องเป็นคนเก็บงานส่วนนี้」

 

「…….ที่ฉันพูดก็แค่ความเป็นไปได้ แต่อย่างน้อยก็ระวังเผื่อเอาไว้เฉยๆ เพราะความเป็นไปได้ที่มันจะปรากฏตัวขึ้นเหนือพื้น———ชิ!」

 

『หัวหน้า สัตว์ประหลาดมันหลุดขึ้นมาข้างบนแล้วค่ะ!!』

 

「ให้ตายสิ ธงมันจะปักกันเร็วเกินไปแล้วเฟ้ย!!」

 

 

ประธานเหมือนจะไม่ค่อยพอใจกับรายงานของโอโมริซังสักเท่าไหร่

 

『พิจารณาจากลักษณะของมันแล้ว มีความเป็นไปได้สูงว่ามันคือร่างหลักค่ะ』

 

「ร่างหลักงั้นเหรอ?!ไอ้บัดซบเอ้ย!! เรด เยลโล่ บลู!!」

 

「「「ฮ่ะ!!」」」

 

 

พวกเราขานรับพร้อมกัน

 

ถึงเวลาต้องลุยแล้ว

 

 

 

 

「ฉันขออนุมัติ พวกเธอใช้งานจัสติสสูทได้!!」

 

 

 

ได้เวลาบรรเลงกับพวกสัตว์ประหลาด……!!

 

ว่าแล้วพวกเราก็แปลงร่างกันภายในเฮลิคอปเตอร์ลำที่ประธานขับมา

 

 

สัตว์ประหลาดแยกร่าง———ชื่อจริงของมันก็คือกิคุโร่

 

 

กลืนกินและเพิ่มจำนวน

 

สัตว์ประหลาดที่เกิดมาพร้อมกับพลังสุดเรียบง่าย ซึ่งขึ้นไปบนผืนดินเพื่อทำลายล้างญี่ปุ่น ตามคำสั่งโอเมก้าผู้เป็นนาย

 

สิ่งแรกที่มันต้องทำคือการกลืนกินมนุษย์ที่เหมือนกับมดปลวกในรถไฟใต้ดิน ก่อนจะบุกขึ้นผืนดิน

 

หากเป็นแบบนั้นจำนวนร่างแยกที่มันสร้างขึ้นมาได้ก็จะเพิ่มขึ้นยิ่งกว่าเดิม แถมแต่ละร่างยังมีความนึกคิดเป็นของตัวเองอีกด้วย

 

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของมันก็เป็นอันต้องหยุดลงเมื่อมียมทูตมาพรากชีวิตมันไป

 

 

 

『ไปคุยกับรากมะม่วงซะ』

 

 

หมัดของนักรบทมิฬได้เล็งมายังร่างของพวกมันและฆ่าพวกมันทิ้งไปเป็นจำนวนมากโดยไม่มีการบอกล่าว

 

ร่างแยกต่างก็ตกใจกับการปรากฏตัวขึ้นของอัศวินดำ ร่างจำแลงแห่งการทำลายล้างที่ปราศจากความเมตตาต่อเหล่าสัตว์ประหลาด

 

ในขณะที่มันพยายามส่งร่างแยกออกไปรับมือ มันก็พยายามหนีออกมาเพื่อตั้งหลักใหม่

 

ร่างแยกของมันที่เผชิญหน้ากับอัศวินดำต่างก็สิ้นใจลงในหมัดเดียว

 

มันรู้สึกหวาดกลัวอัศวินดำเป็นอย่างมาก พลังของมันช่างไร้ค่าเมื่ออยู่ต่อหน้าอัศวินดำ สิ่งที่มันทำได้ตอนนี้คือขึ้นไปยังพื้นผิวก่อน ทว่า———

 

 

 

『อีกไกลแค่ไหนกว่าจะถึงพื้นผิวนะ!!? 』

 

 

สิ่งที่มันได้ข้อมูลมามีเพียงการขึ้นไปยังพื้นผิว

 

แต่มันไม่ได้รู้เลยว่าจะต้องขึ้นบันไดที่ทอดยาวจากใต้ดินไปข้างบนนั้นมาไกลสุดๆ

 

 

『ฮ๊าาาาา!!!』

 

 

มันรู้สึกเหมือนกำลังจะบ้าตายจากสิ่งที่ได้เจอ

 

ร่างแยกของมันถูกฆ่าไปเรื่อยๆ ราวกับหนอนแมลง

 

แต่อย่างน้อยในที่สุดมันก็สามารถขึ้นมาบนผืนดินได้เสียทีจากการเสียสละของร่างแยก

 

 

 

「ทีเหลือก็แค่กินพวกมนุษย์ให้หมด!!」

 

 

หากฆ่ามนุษย์ได้ ก็สามารถสร้างร่างแยกขึ้นมาใหม่ได้

 

ถ้าจำนวนของมันเพิ่มขึ้น ก็จะไม่มีใครรู้ว่าร่างไหนคือร่างหลัก

 

แม้จะเป็นอัศวินดำก็ตาม หากมีเวลาเพิ่มพลังมันก็พอจะโค่นได้

 

ในขณะที่มันกำลังจะวางแผนสะสมพลังขั้นถัดไป อยู่ดีๆ ก็มีร่าง 3 ร่างปรากฏขึ้นมาจากบนท้องฟ้า

 

พวกมันลงถึงพื้นอย่างนุ่มนวลพร้อมกับอาวุธในมือของพวกมัน อย่างดาบ ขวาน และปืนซึ่งทั้งหมดชี้มาที่ร่างของมัน

 

 

 

「เปลวเพลิงแห่งความกล้าหาญ! จัสติสเรด!」

 

「วารีแห่งปาฏิหาริย์! จัสติสบลู!」

 

「อสนีบาตแห่งความหวัง! จัสติสเยลโล่!」

 

 

 

「「「พวกเราสามคน! ขบวนการเซ็นไต 3 สี จัสติสครูเซเดอร์!!!」」」

 

 

 

พวกมันกำลังทำบ้าอะไร

 

นั่นคือสิ่งที่สัตว์ประหลาดร่างแยกคิดจากใจจริง

 

***

 

 สารานุกรมสัตว์ประหลาด

 

【สัตว์ประหลาดร่างแยก】

 

・สามารถร่างแยกของตัวเองขึ้นมาได้เรื่อยๆตราบใดที่พลังของมันยังไม่หมด

・สามารถสร้างร่างกายส่วนที่ขาดหายขึ้นมาใหม่ได้

・สามารถย้ายแกนกลางของตัวเองไปยังร่างแยกได้เพื่อกำหนดให้กลายเป็นร่างหลักแทน

・ร่างหลักจะมีพลังต่อสู้สูงที่สุด

 

ในตอนนี้อัศวินดำคุงเดือดสุดๆหากเห็นหน้าของพวกสัตว์ประหลาด เพราะเขาผ่านเหตุการณ์ที่ไฮรุถูกพวกสัตว์ประหลาดเล่นงานมาไม่นานนัก

 

 —จบ—

 

กลับมาลงภาคแยกแทน เรื่องราวหลังลบความทรงจำของไฮรุ พวกJC มือใหม่ที่ฝึกกันแค่ในสนาม ถึงเวลาเจอของจริง

 

มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ  และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด