อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต 175.1 จัสติสครูเซเดอร์ออกปฏิบัติการ
นี่คือวันหยุดฤดูร้อนครั้งแรกของมอปลาย
มันควรจะเป็นวันหยุดหน้าร้อนที่ฉันได้ไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนใหม่หรือครอบครัวอย่างสนุกสนาน
(ตารางการฝึกฝนช่วงเดือนสิงหา ยกเว้นวันที่ 9 ทุกวันคือวันแห่งการฝึก!!)
「วันหยุดฤดูร้อนของฉันมันจบแล้วสินะ……!!? 」
「ดูยังไงก็จบแล้วแหง」
พอรู้ตัวอีกทีก็เข้าเดือนกันยาแล้ว ไอร้อนแห่งฤดูร้อนยังคงอบอวนอยู่กับพวกเรา
คิราระเองก็มีสภาพเหมือนปลาตายไม่ต่างอะไรกับฉันขณะเดินคุยกันระหว่างไปโรงเรียนโดยมีแสงแดดแผดเผาร่างในยามเช้า
「เราต้องฝึกกันอีกนานแค่ไหน……」
「ลาก่อนชีวิตวัยรุ่นของฉัน……」
วันหยุดฤดูร้อนครั้งแรกของมอปลายจบลงด้วยการฝึกฝนเพื่อเป็นจัสติสครูเซเดอร์
ฉันก็ไม่ได้อยากจะบ่นหรอกเพราะมันคือเส้นทางที่พวกเราเลือก แต่มันก็แอบเสียดายที่ไปเที่ยวเทศกาลหน้าร้อนไม่ได้
「ว่าแต่ คิราระได้ไปเที่ยวไหนบ้างไหม? 」
「ฉันไม่ได้ไปเลย ก็แอบรู้สึกแย่ที่ปล่อยให้น้องชายกับน้องสาวไปเที่ยวโดยไม่มีฉันอยู่หรอก แต่ก็ขอบคุณพวกเขาที่เอาของฝากมาให้เต็มไปหมดเลย」
เป็นครอบครัวที่ดีจริิงๆ
กลับกันฉันดันโดนพวกพี่สาวล้อที่อดไปเที่ยวทะเลกับพวกเธอ
ถึงแม้ว่ารูปถ่ายที่เธอเอามาอวดจะมีแต่กลุ่มผู้หญิงทั้งนั้นเลยก็เถอะ
ที่อวดว่าตัวเองเนื้อหอมในมหาลัยนี่มันจริงหรือเปล่านะ
『พวกพี่โกหกแหงที่บอกว่าตัวเองเนื้อหอมน่ะ』
『ฉันเนื้อหอม (กับเพศเดียวกัน) จริงนะเออ』
『ใช่ๆ พวกฉันเนื้อหอม (กับเพศเดียวกัน) สุดๆ』
หวังว่าฉันคงไม่ได้คิดไปเองนะว่าพวกพี่สองคนพูดไม่หมด
แต่ก็นั่นแหละ เอาเป็นว่าหน้าร้อนแรกของมอปลายก็จบลงที่การฝึกฝน….ส่วนผลลัพธ์ที่ได้ก็คือพวกฉันสามารถใช้งานจัสติสสูทได้ดีกว่าเดิมเป็นอย่างมาก
ในมุมของประธานเขาบอกว่าเหลือแค่ให้พวกฉันลงสนามจริง
「โอ้ อรุณสวัสดิ์คิราระ!!!!」
ในขณะที่ฉันกำลังคิดเรื่องพวกนี้อยู่ ก็มีเสียงเรียกชื่อของคิราระมาจากด้านข้าง
หืม เธอเป็นผู้หญิงที่มักจะเจอกันในคาบพละนี่นา
รู้สึกว่าจะชื่อ ไฮรุ โคโนฮานะ หรือเปล่านะ?
ฉันจำเธอได้เพราะเธอเป็นคนที่ดูน่าประทับใจในเรื่องของบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลาย ซึ่งมาพร้อมกับผมสีดำยาวประบ่า
「อรุณสวัสดิ์ ไฮรุ ไม่ได้เจอกันเป็นเดือนเลยสินะ」
「อื้อ ลำบากสุดๆ เลยแหละวันหยุดทั้งที ต้องมาจัดการเรื่องการบ้านแล้วก็เรื่องปวดหัวสุดๆ นั่นอีก」
「นอกจากเรื่องการบ้านแล้วยังมีเรื่องปวดหัวอื่นอีกเหรอ? 」
「อื้อ เรื่องนั้น……」
「……ไฮรุ? 」
เสียงของคิราระดูประหลาดใจที่อยู่ดีๆ ไฮรุจังก็เงียบไป
ไม่นานนักเธอก็ปัดมือไปมาเหมือนกับจะบอกว่าไม่มีอะไร
「ไม่มีอะไรหรอก สุดท้ายก็แค่นั่งเบื่อในห้องแอร์น่ะ!」
「สรุปก็คือไม่มีความทรงจำดีๆ ในหน้าร้อนเลยนี่หว่า……? 」
「เหะๆ」
ไฮรุจังหัวเราะแห่งๆ ออกมา
จากนั้นฉันก็ได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง
「ฮายรุ้ววววว」
「ไม่เจอกันนานเลย」
เพื่อนของไฮรุจังสินะ?
เธอหันไปมองก่อนจะหันกลับมาหาพวกเราด้วยท่าทีเหมือนจะขอโทษ
「ก็เอาเป็นว่าทักทายประมาณี้ละกันเนอะ!」
「เอาเถอะ ยังไงก็ขอให้โชคดีในเทอม 2 ล่ะ」
「เช่นกันจ้า! แล้วเจอกันนะ」
พอพูดจบไฮรุจังก็โบกมือลาแล้วเดินไปหาเพื่อนของเธอที่อยู่ข้างหลัง
เป็นเด็กที่ดูสดใสจริงๆ
สดใสเสียจนเทียบกับฉันที่หน้าร้อนมีแค่การฝึกฝนจนลากเลือกแล้วคนละโลกเลย….
「โฮ่ย」
มีเสียงหนึ่งดังมาจากข้างๆ ของฉันอีกครั้ง
บางทีอาจจะเป็นเพราะการฝึกฝนในฤดูร้อนที่ผ่านมา ร่างกายของฉันมันก็เลยขยับไปเองก่อนจะตั้งการ์ด แล้วก็พบว่าคนที่ส่งเสียงเรียกฉันเป็นนักเรียนชายคนหนึ่ง
บนฝ่ามือของเขามีพวกกุญแจไรเดอร์สวมหน้ากากสีดำที่คล้ายกับอัศวินดำอยู่
หน้าของฉันถึงกับซีดก่อนจะรู้ตัวว่ามันคล้ายกับพวงกุญแจที่ฉันห้อยกับกระเป๋าเอาไว้เลย
「ฉันทำมันหล่นเหรอ…? 」
「……อ้า」
แย่แล้วสิ
เกือบไปแล้ว
แต่อยู่ดีๆ มาส่งเสียงดังใส่กันข้างหลังโดยที่ฉันไม่รู้สึกตัวแบบนี้ มันก็ช่วยไม่ได้นี่นา
แถมเขายังมาด้วยเจตนาดีอีก หากจะหัวเสียกับท่าทีของฉันก็คงไม่แปลกเลยมั้ง
「ขะ ขอบคุณนะ!」
「อะ อ้า ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ขอตัว? 」
จากนั้นเขาก็เบือนหน้าหนีแล้วเดินจากไป
ก็แค่นักเรียนชายคนหนึ่ง
แต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงละสายตาจากเขาไม่ได้เลย บรรยากาศรอบตัวเขามันช่างดึงดูดใจฉันเหลือเกิน
「……」
「อากาเนะ เป็นอะไรไปน่ะ? 」
「อะ อื้อ ไม่มีอะไรหรอก」
ทำไมรู้สึกเหมือนเคยเจอเขาที่ไหนสักแห่งมากก่อนนะ…..
แผ่นหลังของชายคนนั้นเหมือนไม่ได้เจอกันเป็นครั้งแรกเลยแฮะ
จากนั้นฉันก็เริ่มเดินไปกับคิราระต่อ
***
「เมื่อเช้าอากาเนะติดทำท่าแปลกๆ ใส่ชาวบ้านด้วยแหละ」
「รุ่นพี่เป็นโกลโกเหรอ? 」 (Ref : Golgo 13)
「อย่าพูดอะไรอีกเลย……」
หลังเลิกเรียน ฉันกับคิราระไปเจอกับอาโออิที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งระหว่างทางไปสำนักงานใหญ่จัสติสครูเซเดอร์
พฤติกรรมแปลกๆ ของฉันที่ทำใส่คนอื่นเมื่อเช้าเลยถูกเผยออกไปด้วย
ฉันมั่นใจเลยว่าในสายตาของชายคนนั้นฉันจะกลายเป็นผู้หญิงแปลกๆ คนหนึ่งแหง
「ต่อไปก็คือการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดจริงๆ ส่วนตัวแล้วฉันรู้สึกไม่พร้อม」
「ทำไมถึงคิดงั้นล่ะ? 」
「มันเหมือนกับการซ้อมยิงเป้าในโหมดฝึกฝน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยิงเพลเยอร์โดน」
ใช้เกมในการเปรียบเทียบกับสมกับเป็นเธอดี
คิราระที่ได้ฟังทำได้เพียงยิ้มแห้งๆ ให้…
「หากเป็นเกม สิ่งที่สำคัญก็คือการเล่นให้ชินมือ แต่ในความเป็นจริงของพวกเราสัตว์ประหลาดมันไม่ได้มารอให้เราฝึกซ้อมเพื่อสู้กับพวกมันจนเก่ง ไลฟ์พ้อยของพวกเราก็มีแค่ 1 หรือก็คือพวกเราล้มเหลวไม่ได้」
「เรื่องนั้นมันก็จริง」
หากพวกเราต้องออกไปต่อสู้ ความล้มเหลวก็เท่ากับความตาย
พวกเราไม่สามารถคาดหวังให้อัศวินดำมาช่วยเหลือพวกเราได้ แถมชีวิตของใครบางคนอาจจะตกอยู่ในอันตรายหากพวกเราพ่ายแพ้ด้วย
ดังนั้นพวกเราจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด
「แถมเวลาการปรากฏตัวของพวกมันก็น่าสงสัย」
「ปกติจะโผล่มาตอนกลางคืนแท้ๆ」
「แต่บางครั้งก็ดันมาตอนกลางวัน」
อย่างที่อาโออิบอก สัตว์ประหลาดบางตัวก็ปรากฏขึ้นกลางวันแสกๆ เหมือนกัน
「หากพวกมันปรากฏตัวระหว่างที่พวกเราเรียนอยู่ ก็คงต้องหาลู่ทางกันสักหน่อย」
「ก็พอทำใจไว้แล้ว」
ละทิ้งชีวิตประจำวันที่สงบสุขเพื่อช่วยเหลือผู้คน
หากฟังดูมันก็เป็นเรื่องที่สวยงามหรอก แต่การมุมปฏิบัติจริงค่อนข้างยากเลยทีเดียว
ตอนไม่ต่อสู้ก็ยังต้องคอยระวังหาทางจัดการเรื่องรอบตัวไม่ให้แดงออกมาอีก
「แต่ไม่ว่าจะยังไง หากเกินเรื่องขึ้น ถึงตอนนั้นพวกเราก็แค่พยายามทำให้เต็มที่」
「……นี่ เธอคืออาโออิแน่เหรอ?พูดจาดีจนไม่คิดว่าปกติเลย หรือโดนล้างสมองไปแล้วกัน」
「ว่ากันตามตรงฉันก็สงสัยเหมือนกันว่าคนตรงหน้าฉันคืออาโออิจริงไหม….」
「พวกเธอบ้ากันไปแล้วสินะ」
ลองคิดถึงหญิงสาวที่แม้จะเป็นช่วงฝึกก็พยายามจำลองเอาท่าที่ดูในหนังมาใช้งานเพื่อเติมเต็มความต้องการของตัวเอง หรือจะขนเอาพวกอาหารขยะมากมายมากองไว้ในห้องฝึกเพื่อให้กินได้สะดวกอีก
ฉันว่าเด็กม. 3 คนนี้ดูจะมีความกล้าในหลายๆ ความหมาย มากกว่าเด็กมหาลัยซะอีก
「อันที่จริง ฉันคือฮารุ น้องสาวของอาโออิ」
「เอ๋ ไม่จริงน่า!? 」
「อื้อ โกหก」
「……」
「อากาเนะ ฉันว่าเธอวางส้อมในมือลงก่อนเถอะ」
คิราระวางมือบนไหล่ของฉันเพื่อดึงสติ พอได้สติฉันก็วางส้อมที่ถืออยู่ลง
อาโออิที่เตรียมสวนฉันด้วยน้ำตาลก้อนในมือ ก็ปล่อยมันลงในถ้วยกาแฟแทนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
「แต่เรื่องที่ฉันมีน้องสาวน่ารักที่หน้าตาเหมือนกับฉัน นั่นจริง」
「「……」」
「นี่ อย่ามาส่งสายตาเหมือนกับจะบอกว่าสงสารน้องสาวของยัยนี่ชะมัดสิ」
ไม่ว่าจะมองมุมไหนการเป็นน้องสาวของอาโออิก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแหง
ในฐานะคนที่มีพี่สาวเจ้าปัญหาอยู่ในบ้าน ฉันเข้าใจความลำบากนั้นดี
「……ไปสำนักงานใหญ่ดีกว่า」
「เห็นด้วย」
พอได้เวลาพวกฉันก็ลุกจากเก้าอี้เพื่อตรงไปยังบริษัท KANEZAKI ทว่าอยู่ดีๆ จัสติสเชนเจอร์ในมือของพวกฉันก็สั่น
「นี่มัน สัญญาณฉุกเฉินใช่ไหม? 」
「เท่าที่อ่านคู่มือมาก็เหมือนจะเป็นแบบนั้น」
「ก็แปลว่า……」
พวกเรามองหน้ากันสลับกับจัสติสเชนเจอร์ที่สั่น
สาเหตุของการสั่นถูกระบุไว้ในคู่มือแล้ว
มันก็คือการปรากฏตัวขึ้นของสัตว์ประหลาด
***
สัตว์ประหลาดคืออะไร?
การดำรงอยู่ของมันภายในโลกใบนี้ยังเป็นปริศนาที่ไม่ถูกแก้ไข
ทั้งรูปลักษณ์และความสามารถของพวกมันแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
เนื้อเยื้อของพวกมันที่เก็บมาตรวจสอบก็ไม่ตรงกับสิ่งมีชีวิตใดบนโลกนี้เลย
สิ่งมีชีวิตลึกลับที่เต็มไปด้วยปริศนา…แต่อย่างน้อยที่ฉันมันใจเลยก็คือ
พวกมันโผล่มาจากใต้ดิน
「14.23 น. ———ตรวจพบสัตว์ประหลาดที่อุโมงค์รถไฟใต้ดิน!!」
เพื่อตอบรับเสียงเรียกฉุกเฉิน พวกฉันจึงรีบมุ่งหน้าไปยังสำนักงานใหญ่และขึ้นเฮลิคอปเตอร์ขนส่งของบริษัทคาเนะซากิทันที
มันคงจะเป็นเหตุฉุกเฉินมากแน่ๆ คนที่ขับฮอมาจึงเป็นประธาน และเขาก็กำลังอธิบายข้อมูลที่ได้รับมาผ่านอุปกรณ์แปลงร่างของพวกฉัน ภาพที่ฉันเห็นภายในนั้นมันชวนให้ท้องไส้รู้สึกปั่นป่วนสุดๆ
『กรี๊ดดดดด!!!』
『ไม่นะ!? 』
『ตัวอะไรกันนนนน!? 』
ในที่แห่งนั้นผู้คนวิ่งหนีตายกันเพื่อหลบรถไฟที่ตกราง โดยมีสัตว์ประหลาดที่รูปร่างคล้ายกับแมลงร่างหุ้มโครงกระดูก กำลังไล่โจมตีพวกเขาไปด้วย
ไม่เพียงแค่นั้น…
ในขณะที่ร่างของมันกำลังส่องแสงออกมา จำนวนของมันก็เพิ่มทวีคูณขึ้นเพื่อโจมตีผู้คนรอบๆ ต่อ
「เป้าหมายคราวนี้คือสัตว์ประหลาดร่างแยก ความสามารถของมันคือการจำลองร่างกายของตัวเองขึ้นมาเพื่อสร้างการโจมตีแบบทวีคูณ แม้พลังของร่างแยกที่มันสร้างขึ้นจะอ่อนแอกว่าร่างหลัก แต่มันก็มากพอที่จะพลิกรถไฟให้คว่ำได้ด้วยตัวคนเดียว!!」
「ประธาน! แล้วคนที่ถ่ายวิดีโอนี้มาเป็นใครกันคะ!? 」
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคือคนที่อยู่จุดเกิดเหตุ
ภาพที่แสดงออกมามีคนจำนวนมากกำลังถูกสัตว์ประหลาดไล่โจมตี
ฉันรู้ดีว่าหากถูกสัตว์ประหลาดหมายหัวเอาไว้แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น
ฉันมองภาพที่เกิดขึ้นพลางนึกถึงความกลัวในวันนั้น วันที่ฉันเผชิญกับพวกมัน ไม่นานนักภาพที่ถ่ายจากกล้องนั้นก็ร่วงลงกับพื้นก่อนที่หน้าจอจะมืดไปโดยมีกรงเล็บของสัตว์ประหลาดเป็นภาพติดสุดท้าย
「ประธาน!」
「ไม่เป็นไร!!」
ไม่กี่วินาทีต่อมากล้องก็กลับมาติดอีกครั้ง แม้จะมีรอยแตกร้าวในภาพก็ตาม แต่มันก็ทำให้เห็นว่าเพดานของสถานีรถไฟใต้ดินเกิดรูโหว่ขึ้น
「———เพราะเขาอยู่ที่นั่นแล้ว!!」
เงาสีดำที่ปรากฏมาพร้อมกับฝุ่นควันฟุ้ง———อัศวินดำคุงพุ่งเข้าไปเตะและบดขยี้พวกสัตว์ประหลาดทั้งหมดที่กำลังไล่ล่าคน
เมื่อกำจัดมันได้ 1 เขาก็ไล่ฆ่าตัวถัดไปทันที แต่ด้วยจำนวนที่มากของมันคงจะใช้เวลาไม่น้อย
「ตอนนี้อัศวินดำกำลังไล่จัดการกับสัตว์ประหลาดแยกร่างที่ปรากฏตัวอยู่!!」
「……แล้วพวกเราควรจะทำยังไง? 」
ประธานตอบคำถามของอาโออิหลังเงียบไปพักหนึ่ง
「เตรียมรับมือกับความเสี่ยงหากเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ในกรณีที่พวกมันหลุดออกมาจากใต้ดิน….คงจะเป็นเรื่องยากที่อัศวินดำผู้ไล่กวาดพวกมันบริเวณใต้ดินจะตามมาช่วยเหลือคนข้างบนได้」
「ก็แปลว่าพวกเราต้องเป็นคนเก็บงานส่วนนี้」
「…….ที่ฉันพูดก็แค่ความเป็นไปได้ แต่อย่างน้อยก็ระวังเผื่อเอาไว้เฉยๆ เพราะความเป็นไปได้ที่มันจะปรากฏตัวขึ้นเหนือพื้น———ชิ!」
『หัวหน้า สัตว์ประหลาดมันหลุดขึ้นมาข้างบนแล้วค่ะ!!』
「ให้ตายสิ ธงมันจะปักกันเร็วเกินไปแล้วเฟ้ย!!」
ประธานเหมือนจะไม่ค่อยพอใจกับรายงานของโอโมริซังสักเท่าไหร่
『พิจารณาจากลักษณะของมันแล้ว มีความเป็นไปได้สูงว่ามันคือร่างหลักค่ะ』
「ร่างหลักงั้นเหรอ?!ไอ้บัดซบเอ้ย!! เรด เยลโล่ บลู!!」
「「「ฮ่ะ!!」」」
พวกเราขานรับพร้อมกัน
ถึงเวลาต้องลุยแล้ว
「ฉันขออนุมัติ พวกเธอใช้งานจัสติสสูทได้!!」
ได้เวลาบรรเลงกับพวกสัตว์ประหลาด……!!
ว่าแล้วพวกเราก็แปลงร่างกันภายในเฮลิคอปเตอร์ลำที่ประธานขับมา
สัตว์ประหลาดแยกร่าง———ชื่อจริงของมันก็คือกิคุโร่
กลืนกินและเพิ่มจำนวน
สัตว์ประหลาดที่เกิดมาพร้อมกับพลังสุดเรียบง่าย ซึ่งขึ้นไปบนผืนดินเพื่อทำลายล้างญี่ปุ่น ตามคำสั่งโอเมก้าผู้เป็นนาย
สิ่งแรกที่มันต้องทำคือการกลืนกินมนุษย์ที่เหมือนกับมดปลวกในรถไฟใต้ดิน ก่อนจะบุกขึ้นผืนดิน
หากเป็นแบบนั้นจำนวนร่างแยกที่มันสร้างขึ้นมาได้ก็จะเพิ่มขึ้นยิ่งกว่าเดิม แถมแต่ละร่างยังมีความนึกคิดเป็นของตัวเองอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของมันก็เป็นอันต้องหยุดลงเมื่อมียมทูตมาพรากชีวิตมันไป
『ไปคุยกับรากมะม่วงซะ』
หมัดของนักรบทมิฬได้เล็งมายังร่างของพวกมันและฆ่าพวกมันทิ้งไปเป็นจำนวนมากโดยไม่มีการบอกล่าว
ร่างแยกต่างก็ตกใจกับการปรากฏตัวขึ้นของอัศวินดำ ร่างจำแลงแห่งการทำลายล้างที่ปราศจากความเมตตาต่อเหล่าสัตว์ประหลาด
ในขณะที่มันพยายามส่งร่างแยกออกไปรับมือ มันก็พยายามหนีออกมาเพื่อตั้งหลักใหม่
ร่างแยกของมันที่เผชิญหน้ากับอัศวินดำต่างก็สิ้นใจลงในหมัดเดียว
มันรู้สึกหวาดกลัวอัศวินดำเป็นอย่างมาก พลังของมันช่างไร้ค่าเมื่ออยู่ต่อหน้าอัศวินดำ สิ่งที่มันทำได้ตอนนี้คือขึ้นไปยังพื้นผิวก่อน ทว่า———
『อีกไกลแค่ไหนกว่าจะถึงพื้นผิวนะ!!? 』
สิ่งที่มันได้ข้อมูลมามีเพียงการขึ้นไปยังพื้นผิว
แต่มันไม่ได้รู้เลยว่าจะต้องขึ้นบันไดที่ทอดยาวจากใต้ดินไปข้างบนนั้นมาไกลสุดๆ
『ฮ๊าาาาา!!!』
มันรู้สึกเหมือนกำลังจะบ้าตายจากสิ่งที่ได้เจอ
ร่างแยกของมันถูกฆ่าไปเรื่อยๆ ราวกับหนอนแมลง
แต่อย่างน้อยในที่สุดมันก็สามารถขึ้นมาบนผืนดินได้เสียทีจากการเสียสละของร่างแยก
「ทีเหลือก็แค่กินพวกมนุษย์ให้หมด!!」
หากฆ่ามนุษย์ได้ ก็สามารถสร้างร่างแยกขึ้นมาใหม่ได้
ถ้าจำนวนของมันเพิ่มขึ้น ก็จะไม่มีใครรู้ว่าร่างไหนคือร่างหลัก
แม้จะเป็นอัศวินดำก็ตาม หากมีเวลาเพิ่มพลังมันก็พอจะโค่นได้
ในขณะที่มันกำลังจะวางแผนสะสมพลังขั้นถัดไป อยู่ดีๆ ก็มีร่าง 3 ร่างปรากฏขึ้นมาจากบนท้องฟ้า
พวกมันลงถึงพื้นอย่างนุ่มนวลพร้อมกับอาวุธในมือของพวกมัน อย่างดาบ ขวาน และปืนซึ่งทั้งหมดชี้มาที่ร่างของมัน
「เปลวเพลิงแห่งความกล้าหาญ! จัสติสเรด!」
「วารีแห่งปาฏิหาริย์! จัสติสบลู!」
「อสนีบาตแห่งความหวัง! จัสติสเยลโล่!」
「「「พวกเราสามคน! ขบวนการเซ็นไต 3 สี จัสติสครูเซเดอร์!!!」」」
พวกมันกำลังทำบ้าอะไร
นั่นคือสิ่งที่สัตว์ประหลาดร่างแยกคิดจากใจจริง
***
สารานุกรมสัตว์ประหลาด
【สัตว์ประหลาดร่างแยก】
・สามารถร่างแยกของตัวเองขึ้นมาได้เรื่อยๆตราบใดที่พลังของมันยังไม่หมด
・สามารถสร้างร่างกายส่วนที่ขาดหายขึ้นมาใหม่ได้
・สามารถย้ายแกนกลางของตัวเองไปยังร่างแยกได้เพื่อกำหนดให้กลายเป็นร่างหลักแทน
・ร่างหลักจะมีพลังต่อสู้สูงที่สุด
ในตอนนี้อัศวินดำคุงเดือดสุดๆหากเห็นหน้าของพวกสัตว์ประหลาด เพราะเขาผ่านเหตุการณ์ที่ไฮรุถูกพวกสัตว์ประหลาดเล่นงานมาไม่นานนัก
—จบ—
กลับมาลงภาคแยกแทน เรื่องราวหลังลบความทรงจำของไฮรุ พวกJC มือใหม่ที่ฝึกกันแค่ในสนาม ถึงเวลาเจอของจริง
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code
Comments