อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》 137 ผู้ร่วมทางไปซูบร้า

Now you are reading อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》 Chapter 137 ผู้ร่วมทางไปซูบร้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

              เนื่องจากจะไปซูบร้าเลยพกเอากล่องจดหมายมังกรมิติไปด้วย ศิลามังกรของเอิร์ทดรากอนกลายพันธ์ ยังไม่เห็นว่าจะใช้ยังไงเลยวางเอาไว้ที่บ้าน ถึงกลัวว่าอาจจะโดนขโมยตอนไม่อยู่ แต่กลัวว่าจะทำมันแตกอย่างเปล่าประโยชน์มากกว่า ซึ่งฮิคารุคิดว่า……จะหาวิธีการใช้มันนั้นค่อนข้างยากลำบากอยู่

              ตอนที่เซริก้ามาถึง เป็นตอนเช้าที่อากาศเริ่มอบอุ่นเพราะแสงจากพระอาทิตย์ขึ้น

              “เอาละ! ไปโบราณสถานซูบร้ากันเถอะ!”

              “………….”

              “ไปกันเลย!”

              “……เดี๋ยวก่อน”

              ฮิคารุที่ไม่ได้พบกับเซริก้ามาหลายวัน ถึงกับเอานิ้วกลางกดตรงระหว่างคิ้ว

              “จริงอยู่ที่บอกว่าจะไปซูบบร้ากับเธอ”

              “ดังนั้น ก็ไปกันเถอะ!”

              “แล้ว 3 คนด้านหลังนั่นคืออะไร?”

              เซริก้าพาโซริส ซาร่าแล้วก็ชูฟี่มาด้วย

              โซริสแสดงรอยยิ้มแบบที่ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ซาร่ายิ้มเล็กยิ้มน้อย ส่วนชูฟี่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด

              ‘ฉันบอกว่าไปคนเดียวได้อยู่ แต่พวกเธอบอกว่าจะไปด้วย ช่างเป็นพวกขี้กังวลเกินเหตุจริงๆ’

              ‘นี่มันไม่ใช่กังวลเกินเหตุแล้ว……ต้องวางแผนอะไรไว้อยู่แน่ๆ’

              ‘เหรอ?’

              ‘อธิบายยังไงของเธอเนี่ย’

              ‘บอกว่าจะไปซูบร้ากับฮิคารุ เพื่อดูโบราณสถานที่ดูเหมือนคนญี่ปุ่นเหลือเอาไว้น่ะ’

              ‘นั่นแหละ มันต้องสนใจกันอยู่แล้ว เทคโนโลยีของญี่ปุ่นเนี่ย’

              ชูฟี่มีบรรยากาศต่างจากคนอื่นอยู่

              “ท่านฮิคารุ! อรุณสวัสดิ์ค่ะ”

              “อรุณสวัสดิ์พอลล่า อ้าว เอาของมาแล้วเหรอ”

              พอลล่า ถือกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ที่พอจะถือด้วยมือทั้งสองข้างมา

              “ค่ะ คุณเซริก้าแวะมาหาตรงที่พักก่อนแล้วค่ะ”

              “อ้อ แล้ว—-”

              “ท่านพอลล่า”

              ชูฟี่เข้ามาแทรกการสนทนาระหว่างฮิคารุกับพอลล่า

              “มาพูดคุยกันระหว่างเดินทางไกลนี้เถอะค่ะ?”

              “เอ๋!?คะ คุณชูฟี่ บลูมฟิลด์!? แถมสมาชิกของจตุรดาราแห่งบูรพา……!?”

              ดูเหมือนคงไม่รู้ว่าสมาชิกปาร์ตี้ของเซริก้าจะมาครบทีมอย่างนี้

              ฮิคารุรู้เลยว่าชูฟี่สนใจในตัวของพอลล่าที่สามารถใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูได้ระดับเดียวกับตัวเอง เลยขอตามมาด้วยอย่างนี้

              (ถึงพอลล่าจะเหนือกว่าก็เหอะ)

              แน่นอนว่าไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับชูฟี่ และบอกให้พอลล่าปิดปากเงียบเอาไว้แล้ว

              “ฮิคารุ ช่วยขึ้นมาข้างบนอีกครั้ง—-” 

              ลาเวียที่เดินลงมา พอเห็นจตุรดาราแห่งบูรพาทุกคนก็ทำคิ้วขมวด

              “……ขอบอกไว้ก่อนเลย ไม่ใช่ความผิดของผมนะ”

              “อือ ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย……อย่างนี้ต้องนั่งรถม้าสินะ”

              “จำเป็นต้องใช้ 2 คันหรือเปล่า?”

              “สบายหายห่วง! แค่ 7 คนรถม้าขนาดใหญ่น่าจะจุได้แบบฉิวเฉียด!”

              “อ้อ มีผู้ร่วมทางไปด้วยอีกคน……”

              หลังจากนี้จะไปรวมตัวกับเคธี่ ซึ่งเธอรู้สึกดีใจและปลอดภัยมากที่ได้เดินทางพร้อมกับจตุรดาราแห่งบูรพา ขนาดนักวิจัยอย่างเคธี่ยังรู้จักชื่อเสียงของจตุรดาราแห่งบูรพา

              “แล้วทำไมอาจารย์ถึงตามมาด้วยเนี่ย”

              ปัญหาคือมิเรที่มาพร้อมกับเคธี่

              “บอกแล้วนี่ว่าจะตามไปด้วย! ดังนั้นก็เลยตามมาไง!”

              “เอ่อ……อย่างนี้มันรบกวนคนอื่นนะ”

              “พูดตรงๆอย่างนี้มันเจ็บจี๊ดนะเนี่ย!?”

              “ถ้าอย่างนี้จะ 7 คน หรือ 8 คนก็เหมือนกันแหละ! ไปขึ้นรถม้ากันเถอะ!”

              ถึงเซริก้าจะพูดอย่างกระตือรือร้น แต่การจะไปถึงซูบร้าต้องใช้เวลาเดินทาง 4 วัน การที่ต้องเดินทางในรถม้าแคบ ๆอย่างนั้นเนี่ย

              “ไม่ไหวหรอก”

              “อะไรกันเนี่ย!”

              “นอกจากผมแล้วทุกคนเป็นผู้หญิงหมดเลย อย่างน้อยช่วยคิดอะไรที่มันละเอียดอ่อนหน่อยสิ”

              “ฮิคารุเนี่ยเป็นเด็กลามกกว่าที่คิดนะเนี่ย!”

              “อย่าบอกว่าเด็กลามกสิ ไม่งั้นจะพูดเรื่องไดเอทด้วยแคลอรี่เมทนะ”

              “!?”

              “เมื่อกี้ เหมือนได้ยินอะไรที่น่าสนใจอยู่น้า!”

              “ดะ เดี๋ยวสิ ซาร่าอย่ามาร่วมวงสิ!”

              “อย่างไรก็ตาม รถม้า 2 คัน เข้าใจไหม จตุรดาราแห่งบูรพาเอาไปคันหนึ่งเลยก็ได้”

              ฮิคารุพูดออกมา

              “อ้า? ดิฉันอยากจะนั่งกับท่านพอลล่าค่ะ”

              “ใช่แล้ว! ฉันเองก็อยากคุยกับฮิคารุ!”

              “ไม่ได้ ไม่ยอมให้พอลล่าไปทางนู้นหรอก ส่วนเซริก้า ไม่ได้จะคุยเรื่องเมื่อก่อนตลอดเวลาสักหน่อย ไม่จำเป็นต้องนั่งรถม้าคันเดียวกันก็ได้นี่”

              “แหม่ๆ……”

              “ฮึม!”

              ชูฟี่ที่ต้องการนั่งกับพอลล่าหรี่ตามอง ส่วนเซริก้าทำหน้าบึ้ง

              “อ้อ เพราะคิดไว้แล้วว่าจะเป็นอย่างนี้ เลยเตรียมรถม้าขนาดใหญ่เอาไว้น่ะ”

              ทันใดนั้น เคธี่ก็พูดสิ่งที่ฟังดูไม่คุ้นออกมา

              “……นั่นมัน อะไรเหรอ”

              “รถม้าที่ออกแบบมาให้นั่งได้เกิน 10 คนไง เป็นสิ่งที่โคโทบี้เพิ่งพัฒนามาได้เร็วๆนี้ ถ้าแค่ 8 คนน่าจะไหวอยู่แล้วนี่? อ้อ ส่วนรถม้าฉันเตรียมเอาไว้สำหรับตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ต้องจ่ายเงินหรอก แต่อยากให้อาจารย์มิเรได้ไปด้วยน่ะ”

              “สมกับที่เป็นอาจารย์เคธี่!”

              มิเรแสดงความยินดีออกมา

              “เอ่อ……ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมอาจารย์เคธี่ถึงให้ความช่วยเหลืออาจารย์มิเรขนาดนี้”

              “ฮึๆ ฉันเองก็เป็นผู้หญิง ดังนั้นก็ต้องช่วยผู้หญิงด้วยกันสิ”

              “เดี๋ยวสิ อย่าพูดอะไรแปลกๆได้ไหม!”

              มิเรที่หน้าแดงพูดทักท้วงออกมา ทำให้ฮิคารุถึงกับเอียงคอด้วยความสงสัย

              (……หรือว่าอาจารย์มิเรจะชอบอาจารย์เคธี่เหรอ……? อ้อ อย่างนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นพอจะเข้าใจได้อยู่ พออาจารย์เคธี่บอกว่าจะไปซูบร้า เลยพยายามตื้อจะไปด้วยให้ได้ถึงขนาดนั้นเนี่ย)

              ได้ข้อสรุปแล้ว

              “อาจารย์ ผมไม่รู้มาก่อนเลย พยายามเข้านะ ถึงจะเป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยขวากหนามก็ตาม……”

              “……ฮิคารุคุง? ทำไมถึงมองด้วยสายตาที่อบอุ่นอย่างนั้นเนี่ย!?”

              “พวกผมเอาของขึ้นรถก่อนก็แล้วกัน”

              เพราะอย่างนั้นฮิคารุเลยกลับขึ้นไปบนห้องกับลาเวียเพื่อเอากระเป๋าลงมา

              “ไม่ลืมอะไรแล้วแน่นะ”

              “ฮะๆ เดิมทีก็ไม่ได้มีของส่วนตัวอะไรขนาดนั้นอยู่แล้วด้วย”

              “……คิดอยู่แล้วเชียวว่ามันไม่ค่อยเหมือนใช้ชีวิตตามปกติเท่าไร เพราะไม่ค่อยมีของส่วนตัวนี่เอง”

              “ถ้าไม่พอค่อยซื้อเพิ่มก็แล้วกัน”

              หลังจากตรวจรอบสุดท้ายก็ทำการล็อคห้อง

              อาจจะไม่ได้กลับมาเกิน 1 เดือนก็ได้ แต่ไม่รู้สึกประหลาดใจหรือไม่สบายใจเลย มีแต่ความรู้สึกตื่นเต้น

              “นั่นสินะ มันเป็นการเดินทางแรกของผม ที่ไม่ใช่เพื่อหนีหรือมีชีวิตรอดนี่เนอะ”

              “ฉันเองก็เหมือนกัน ถึงจะเงียบๆอย่างนี้ แต่ก็เป็นการเดินทางที่ตั้งหน้าตั้งตารอจนอยากจะกระโดดโลดเต้นเลย”

              “ลาเวียกระโดดโลดเต้น? อย่าหกล้มก็แล้วกัน……”

              “…………”

              “เจ็บๆ!”

              โดนศอกเหล็กเข้าไปเต็มๆ

              ทำให้คิดขึ้นมาว่า—-ลาเวียที่ในอดีตเคยเป็น “นกในกรง” นั้นราวกับเรื่องโกหกเลย

              ฮิคารุกระโดดบันได 2 ขั้นสุดท้ายลงมา ทำให้กระเป๋าเดินทางหนักๆที่อยู่ในมือสั่นไปมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด