อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》 128 ลางสังหรณ์ของจิ้งจอกสาว

Now you are reading อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》 Chapter 128 ลางสังหรณ์ของจิ้งจอกสาว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

                   อีวานถอนหายใจออกมาเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ ตอนที่คลอร์ดเดินวนรอบห้องเข้าสู่รอบที่ 284 

                   ประตูถูกเปิดออกอย่างแรง และคนที่กลิ้งเข้ามาในห้องคือเด็กหนุ่มลูมาเนียผมบลอนด์—-โรเย่

                   “ผ่านแล้ว! ‘สหพันธ์นักเรียน’ ได้รับการอนุมัติแล้ว!”

                   อีวานยืนขึ้น ส่วนคลอร์ดมองไปที่โรเย่

                   “คะแนนเสียง 4 ต่อ 3 ตามที่คาดเอาไว้! ต่อจากนี้จะเป็นข้อเสนอของซิลเวสเตอร์เรื่องการแต่งงานของคลอร์ดกับลูกะ!”

                   “โอ้ววว มาแล้ว!”

                   “โรเย่ ลูดันช่าเป็นไงบ้าง!?”

                   “ไม่รู้อะไรเท่าไร แต่รีกฝากบอกมาว่า ‘ให้เตรียมเผื่อสถานการณ์เลวร้ายที่สุด’ เอาไว้”

                   “———-”

                   “อ๊ะ นี่ คลอร์ด รอก่อน!”

                   คลอร์ดออกวิ่ง ส่วนอีวานและโรเย่ก็ตามไปติดๆ

                   รีกได้เตรียมไว้แล้วว่าถ้า “สหพันธ์นักเรียน” ได้รับการอนุมัติจะให้โรเย่มาส่งข่าว นั่นก็เพราะว่ามีความกังวลอันใหญ่หลวงอยู่หนึ่งเรื่อง

                   ข้อเสนอหลังจากนั้นคือ “การจัดงานสมรสรวม” และเรื่อง “การแต่งงานของคลอร์ดแห่งคิรีฮาล กับลูกะแห่งลูดันช่า”

                   ถ้าหากตัวแทนของลูดันช่าไม่โง่ คงรู้อยู่แล้วว่าจะผ่านการอนุมัติด้วยคะแนนเสียง 4 ต่อ 3 เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว—-

                   “ลูกะ……! รอก่อนนะ!”

                   ถ้าจะให้ลูกสาวแก่คิรีฮาลแล้วละก็ สู้ฆ่าทิ้งยังดีซะกว่า

                   บางทีอาจจะเลือก “สิ่งที่เลวร้ายที่สุด” อย่างนั้นก็ได้ ความแตกร้าวระหว่างคิรีฮาลกับลูดันช่ามันเลวร้ายถึงขั้นนั้น

                   นั่นคือความหมายของคำว่า “ให้เตรียมเผื่อสถานการณ์เลวร้ายที่สุด”

                   พวกคลอร์ดจะต้องไปปกป้องลูกะให้ได้ก่อนที่ตัวแทนของลูดันช่าจะส่งคนไปคุมตัวเธอ จะดีที่สุดหากพบลูกะก่อนโดนเอาไปซ่อน เพราะมีความเป็นไปได้ที่ตัวแทนของลูดันช่าจะส่งคนออกมาระหว่างการประชุม

                   อย่างแย่ที่สุดคือต้องเอาตัวเข้าเสี่ยงเพื่อถ่วงเวลาจนกว่าการประชุมเจ็ดประเทศจะจบลง แล้วให้อเล็กเซ่ยื่นมือเข้ามาช่วย ถ้ารวมผู้แข็งแกร่งของจาราซักเข้าร่วมน่าจะชนะได้อยู่

                   แต่จะไปพบลูกะก่อนการประชุมไม่ได้ แถมไม่รู้ด้วยว่าการประชุมจะลากยาวไปถึงขนาดไหน ถ้าไปหาก่อนแล้วตัวแทนของลูดันช่ารู้ตัวจะทำให้แผนแตก

                   อย่างแรก “สหพันธ์นักเรียน” อาจจะไม่ได้ยอมรับก็ได้

                   กล่าวคือหลังการอนุมัติเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด

                   “ทางนี้!”

                   “อาจารย์มิไฮล์!”

                   พอออกมาข้างนอก มิไฮล์ก็ขับรถม้ามารออยู่แล้ว พอกระโดดขึ้นไป รถม้าก็ออกวิ่ง

                   คนที่เห็นการเคลื่อนไหวนี้มีอยู่หลายคน ซึ่งพวกเขาออกวิ่งอย่างรีบร้อน—-ไม่รู้ว่าคนของที่ไหน แต่ดูเหมือนจะโดนจับตาอยู่ กะแล้วเชียวว่ารอจนกว่าจะถึงช่วงสุดท้ายของการประชุมนั้นเป็ฯคำตอบที่ถูกต้อง

                   รู้อยู่แล้วว่าลูกะอยู่ที่ไหน วันนี้มีงานเลี้ยงน้ำชากับผู้ทรงอิทธิพลของลูดันช่าที่อาศัยอยู่ในฟอเรสซาร์ด

                   “รอก่อนนะลูกะ!”

                   ม้าห้อทะยานไปในเมืองฟอเรสซาร์ด

 

                   “อภัยให้ไม่ได้……!! กล้ามาวางแผนใส่ฉัน……!!”

                   ตัวแทนของลูดันช่าทุบกำปั้นลงไปบนโต๊ะจนเกิดเสียงขึ้นอย่างดัง ตัวแทนของยูราบะที่นั่งอยู่ข้างๆ ยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่มราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

                   ตัวแทนของลูดันช่าที่ได้ยินข้อเสนอแนะของซิลเวสเตอร์ลงมือตามที่รีกคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า กล่าวคือลูกะลูกสาวของเธอหรือ “องค์หญิงลำดับที่สาม” จะต้องแต่งงานกับผู้ชายของคิรีฮาล

                   ตัวแทนของลูดันช่าที่โดนเซอร์ไพรส์อันนี้—-ที่อเล็กเซ่เรียกในใจว่า “จิ้งจอกสาว” คนนี้ถึงกับฉุนขาด

                   “กะ กรุณาเงียบด้วย ตอนนี้อยู่ระหว่างการประชุม—-”

                   “ไม่ใช่เวลามาเข้าร่วมการประชุมที่ไร้สาระอย่างนี้”

                   ตัวแทนของลูดันช่า และอีกหลายคนตั้งใจจะออกจากการประชุม

                   (อันนี้ก็ตามที่คาดเอาไว้)

                   รีกเอาโน๊ตที่เขียนไว้เมื่อครู่ว่า “สหพันธ์นักเรียนอนุมัติแล้ว ให้เตรียมเผื่อสถานการณ์เลวร้ายที่สุด” ส่งให้โรเย่ที่รออยู่ข้างนอก ถึงพ่อจะเห็นตอนที่เขียนก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

                   ตอนนี้โรเย่น่าจะไปหาพวกคลอร์ด แล้วมุ่งหน้าไปหาลูกะอยู่แน่ๆ

                   “……มันดูไม่งามเลยนะ จงร่วมประชุมจนจบด้วย”

                   มัลเกโด้พูดพร้อมกับส่งสายตาที่เย็นชา

                   “หา จากมุมมองของเธอ การให้ผู้ชายของตระกูลซาฮาร์ดที่เป็นคู่แค้นมาอย่างนี้ คงอยากให้เป้าความโกรธทั้งหมดมาลงที่พวกฉันใช่ไหมล่ะ? น่าเสียดาย ที่มองทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว ฉันไม่มีทางยกโทษให้คิรีฮาลหรอก”

                   “พูดจาเสียมารยาทนะครับ!”

                   “หนวกหู!”

                   ผู้จดการประชุมพูดตักเตือนออกไป แต่พอโดนตวาดไปหนึ่งทีก็เงียบลง

                   สีหน้าที่โกรธเกรี้ยวนั้นบิดเบี้ยวจนแทบจะทำให้เครื่องสำอางหลุดออกมาเลย

                   “……เพราะสังหรณ์ใจไม่ดี เลยเอาลูกะมาอยู่ใกล้ตัวอย่างนี้ค่อยดีขึ้นหน่อย”

                   พอรีกได้ยินดังนั้นก็ทำตาโต

                   (สังหรณ์ใจไม่ดี เอามาอยู่ใกล้ตัว—-งั้นเหรอ? หมายความว่ายกเลิกกำหนดการณ์วันนี้ของลูกะ……! แย่แล้ว พวกคลอร์ดกำลังมุ่งหน้าไปทางนู้น—-)

                   ตัวแทนของลูดันช่าหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกจากห้องประชุม

                   ถ้าหากพวกคลอร์ดไม่สามารถไปเอาตัวลูกะมาได้จะเป็นอย่างไรกัน—-ถ้าไปพบลูกะทั้งที่ยังโกรธอย่างนั้น มันอันตรายถึงชีวิตเลย

                   ได้บอกให้โรเย่ไปแจ้งเตรียมเผื่อสถานการณ์เลวร้ายที่สุดไว้แล้ว แต่ไม่นึกเลยว่าตัวแทนของลูดันช่าจะรับมือกับสถานการณ์ที่ผิดปกติอย่างนี้ไว้แล้ว สิ่งนั้นมัน “ก้าวข้าม” “สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด” ไปอีก

                 “งี่เง่า ทำการเคลื่อนไหวที่ไม่ควรทำที่สุดอย่างการออกจากงานประชุม อย่างนี้ลูดันช่าคงตกอยู่ในอันตราย—-ช่างเป็นคนที่โง่เง่าจริงๆ”

                   บิริออนพ่อของรีกที่อยู่ข้างๆเขาพึมพำออกมา

                   คนโง่เง่า

                   คำพูดนั้นโถมเข้าใส่รีก

                   คนที่โง่เง่าจริงๆ อาจจะเป็นตัวเองก็ได้

 

                   ภายในห้องที่กว้างขวางมีคนอยู่แค่สองคน ไม่มีทีท่าว่าจะดื่มน้ำชาเลย เธอเอามือวางไว้ตรงตักราวกับดอกไม้อันโดดเดี่ยว

                   ผู้หญิงที่คอยดูแลเอาใจใส่ลูกะคือสาวใช้สูงวัยที่คอยดูแลเธอมาโดยตลอด

                   “ท่านหญิงลูกะคิดอะไรอยู่หรือเจ้าคะ  คงเศร้าใจที่องค์ราชาห้ามไม่ให้ออกจากห้องตั้งแต่ตอนเช้าหรือเจ้าคะ”

                   ตัวแทนของลูดันช่าถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ก็ชอบให้เรียกว่า “องค์ราชา”

                   “คุณป้า วันนี้กลับไปก่อนได้เลยค่ะ วันนี้ฉันอยากจะอยู่ตัวคนเดียว”

                   “ไม่ได้หรอกค่ะ สภาพของท่านหญิงวันนี้ดูแปลกไป นอกจากป้าคนนี้แล้วให้คนอื่นไปพักหมดแล้วค่ะ……”

                   แต่ลูกะไม่ยอมตอบ

                   “ท่านหญิง มีอะไรอย่างนั้นหรือเจ้าคะ? ในเวลาแบบนี้ไปก่อปัญหาอะไรมาหรือเจ้าคะ”

                   “……เธอไม่รู้น่าจะดีกว่าค่ะ เพราะอยากให้เธอมีชีวิตที่ยืนยาวกว่านี้”

                   “มีชีวิตยืนยาว!? พูดอะไรอย่างนั้นเจ้าคะ ป้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปตราบที่ท่านหญิงต้องการอยู่แล้วเจ้าค่ะ”

                   ตอนนั้นเองที่หญิงชรารู้สึกว่าด้านหน้าเกิดความวุ่นวายอะไรสักอย่างขึ้น พอมองออกไปทางกระจกก็เห็นตัวแทนของลูดันช่ากลับมา—-พร้อมกับทหารอีก 50 คน

                   “ท่านหญิง……องค์ราชากลับมาแล้วค่ะ แถมบรรยากาศยังดูแปลกๆไปด้วยค่ะ”

                   “ขอโทษด้วยนะ ที่ทำให้ป้าต้องมาพัวพันกับเรื่องนี้ไปด้วย”

                   “ท่านหญิง?”

                   ลูกะรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะต้องเกิดเรื่องอย่างนี้ เลยไม่แสดงความหวั่นไหวออกมา ที่ไม่รู้เรื่องมีแค่หญิงชราเท่านั้น

                   เสียงฝีเท้าจำนวนมากเข้ามาใกล้ แล้วประตูก็เปิดออก—-

                   “ลูกะ!!”

                   แม่ที่กำลังโกรธ—-ตัวแทนของลูดันช่าอยู่ตรงนั้น

                   “โห……ไม่หนีไปด้วยเนี่ย ช่างน่าชื่นชมนะ”

                   “ค่ะ เพราะคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องหนีค่ะ”

                   มันเป็นการโกหก

                   ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะบอกที่อยู่ตรงนี้ให้พวกคลอร์ดอยู่หรอก แต่ก็ไม่สามารถทำได้

                   การที่ถูกพามาที่นี่และไม่ให้ติดต่อใครเลยเป็นอะไรที่ผิดคาดมาก

                   ลูกะไม่รู้เรื่องที่สหพันธ์นักเรียนได้รับการอนุมัติแล้ว ดังนั้นเลยไม่เคลื่อนไหวจนกว่าคลอร์ดจะมาถึง—-แต่จากสภาพของแม่ในตอนนี้ ดูเหมือนจะได้รับการอนุมัติแล้ว

                   “รู้จักละอายใจซะบ้าง!”

                   เธอเขวี้ยงพัดที่ถืออยู่ไปโดนหน้าผากของลูกะ

                   “องค์ราชา!? จะทำอะไรกับท่านหญิงหรือคะ!”

                   “อ้า……เธอเองก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดสินะ?”

                   “ไม่ใช่ค่ะ! ป้าไม่เกี่ยวอะไรทั้งนั้น!”

                   “เกิดอะไรขึ้นคะ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ!?”

                   “ถ้าไม่รู้อะไรก็ดีแล้ว ออกไปซะ”

                   “มะ ไม่ออกค่ะ”

                   หญิงชรามายืนขวางหน้าราวกับต้องการจะปกป้องลูกะ ทำให้ตัวแทนของลูดันช่าเดาะลิ้น และสั่งการเหล่าทหาร

                   “ไปจับตัวทั้งคู่ซะ อย่าให้หนีไปได้”

                   “จะดีจริงหรือครับ……?”

                   “ไปซะ”

                   “องค์ราชา!? ท่านหญิงเป็นลูกสาวแท้ๆ—-”

                   “หนวกหู!!”

                   คำพูดนั้นคำพูดเดียวทำให้เหล่าทหารที่ลังเลก้าวเท้าออกไป ถึงพวกเขาจะเป็นทหารที่สังกัดกับตัวแทนโดยตรง แต่ไม่รู้เรื่องราวอะไร แค่บอกให้รีบมาที่นี่หลังจบการประชุมเจ็ดประเทศ

                   “……ป้า ไม่เกี่ยวข้องค่ะ”

                   ลูกะพูดออกมา ถ้ามาถึงตรงนี้คงได้แต่เตรียมตัวเตรียมใจ

                   บางทีตัวเองอาจจะต้องตายก็ได้ เพราะรู้ดีว่าแม่อารมณ์รุงแรงแค่ไหน

                   (แต่……ต่อให้ฉันตายความมุ่งมั่นก็จะยังคงหลงเหลืออยู่ ความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะได้อยู่ร่วมกับคลอร์ด รับรองว่าจะต้องเป็นสิ่งที่ผลักดันให้เหล่าผู้คนก้าวข้ามสิ่งที่เรียกว่าเชื้อชาติไปได้)

                   เธอเตรียมใจได้แล้ว เลยไม่อยากให้มีใครต้องมาเสียสละเพิ่มอีก

                   “ท่านแม่ ปล่อยป้าไปเถอะค่ะ เธอไม่รู้อะไรทั้งนั้น ฉันจะยอมทำตามที่ท่านแม่บอก—-”

                   “อ้า ผู้ใหญ่มากมายอย่างนี้ คิดจะทำอะไรกับเด็กคนเดียวเนี่ยเมี้ยว?”

                   ได้ยินเสียงที่ฟังดูล้อเล่นออกมา

                   พรึ่บ……มีผู้หญิงคนหนึ่งกระโจนออกมาจากผ้าม่าน ผมลอนสั้นสีม่วง เธอสวมผ้าคลุมเอาไว้ บางทีคงมีผลที่ช่วยลบร่องรอยของตัวเธอก็ได้

                   “ใครกัน”

                   เหล่าทหารชักดาบออกมาก่อนที่ตัวแทนจะโดนทำอะไร

                   “……ใครที่ว่าเนี่ย เป็นการทักทายสินะ เพราะฉันอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว แค่ไม่มีใครรู้สึกตัวเลยต่างหาก?”

                   เอ๊ะ? ลูกะคิดขึ้นมาว่าในห้องนี้มีแค่เธอกับหญิงชราเท่านั้น—-ซ่อนตัวมาโดยตลอดอย่างนั้นหรือ? ตลอดที่ว่าเนี่ย ตั้งแต่เมื่อไร?

                   เธอยิ้มออกมา คงไม่มีความคิดที่จะตอบข้อสงสัยของลูกะอยู่แล้ว ก่อนที่จะกระซิบให้ลูกะ

                   “……ฮิคารุนี่ใช้คนโหดจริงๆเลยนะ แต่พวกฉันก็ให้ความสำคัญกับงานจ้างวานด้วยนี่สิ”

                   ฮิคารุ

                   คำพูดนั้นทำให้เส้นทางของลูกะสว่างขึ้นทันที

                   เด็กหนุ่มผมดำตาดำผู้ลึกลับ ผู้ที่คิดเรื่องการก่อตั้งสหพันธ์นักเรียนรวมไปถึงการสมรสรวม

                   เขา—-ส่งคนคนนี้มา?

                   เธอรับรู้ถึงสายตาของลูกะจากข้างๆ ก่อนจะพูดออกมา

                   “ถ้าอยากรู้ชื่อจะบอกให้ก็ได้ ฉันชื่อซาร่าเป็นนักผจญภัยอยู่ปาร์ตี้ ‘จตุรดาราแห่งบูรพา’

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด