เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน 321 ช้าไปเสียแล้ว

Now you are reading เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน Chapter 321 ช้าไปเสียแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่​ 321 ช้าไป​เสียแล้ว​

“ห๊ะ​ ! ”

ได้ยิน​เช่นนั้น​ พวก​นักพรต​ฉางเสวียน​ต่าง​ก็​มีสีหน้า​เปลี่ยนไป​ พร้อมกับ​มองหน้า​กัน​โดย​มิได้​นัดหมาย​

นับแต่​สมัย​บรรพกาล​จนถึง​ตอนนี้​ เพราะ​มีค่าย​กล​ต้องห้าม​จึงทำให้​สามารถ​ขัดขวาง​หายนะ​ ที่จะ​เกิดขึ้น​ได้​ครั้งแล้วครั้งเล่า​

บัดนี้​หาก​ค่าย​กล​รอบ​ดินแดน​ต้องห้าม​ถูก​ทำลาย​ลง​

สิ่งมีชีวิต​โบราณ​มากมาย​จะต้อง​รับรู้​ได้​ และ​ตื่นขึ้น​จาก​การ​หลับใหล​อีกครั้ง​

เมื่อ​พวกเขา​ก้าว​ออก​มาจาก​ส่วนลึก​ของ​แดน​ต้องห้าม​ นั่น​ก็​หมายถึง​หายนะ​ครั้ง​ใหญ่​ของ​โลก​มาถึงแล้ว​

ขณะเดียวกัน​ ยุค​นี้​ก็​จะเปลี่ยนไป​เพราะ​หายนะ​ใน​ครั้งนี้​

กลายเป็น​ยุคมืด​อีกครั้ง​ !

ทว่า​แม้ตัวการ​ทั้งหมด​นี้​จะเป็น​เพราะ​เผ่า​มาร​ แต่​ทุกคน​ต่าง​รู้ดี​ว่า​เบื้องหลัง​ของ​เผ่า​มาร​ ยังมี​จักรพรรดิ​มาร​ที่​มีพลัง​ไร้​เทียมทาน​คอย​หนุนหลัง​อยู่​

แต่​จักรพรรดิ​มาร​ตน​นี้​กลับ​ถูก​ผู้อาวุโส​เย่​ช่วย​ออกมา​

เช่นนี้​แล้ว​หรือว่า​ผู้อาวุโส​เย่​ จะเป็น​ผู้บงการ​และ​อยู่​เบื้องหลัง​หายนะ​ใน​ครั้งนี้​ทั้งหมด​ ?

แต่​หาก​เป็น​เช่นนั้น​จริง​ !

แท้จริง​แล้ว​เขา​ต้องการ​จะทำ​สิ่งใด​กัน​แน่​ ?

หรือว่า​บุคคล​ที่​ไร้​เทียมทาน​ระดับ​นั้น​ ต่าง​ก็​มีนิสัย​ที่​เลือดเย็น​เช่นนี้​เยี่ยง​นั้น​หรือ​ ?

จน​เวลา​ผ่าน​ไป​หลาย​อึดใจ​

เมื่อ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​เห็น​พวก​นักพรต​ฉางเสวียน​ต่าง​นิ่งงัน​ มีสีหน้า​สับสน​ คิ้ว​พลัน​ขมวด​มุ่น​ขึ้น​มาอย่า​งอด​มิได้​

“ทุกท่าน​ หรือว่า​ผู้อาวุโส​เย่​จาก​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​ไป​แล้ว​ ? ”

“หรือว่า​ไป​จาก​โลก​นี้​แล้ว​เยี่ยง​นั้น​หรือ​ ? ”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​เอ่ย​ถามขึ้น​

สิ้น​เสียง​ นักพรต​ฉางเสวียน​และ​พวก​สวี​ฉิงเทียน​ก็​ลอบ​สื่อสาร​กัน​ทาง​สายตา​ เมื่อ​เห็น​ทั้ง​สี่คน​ต่าง​ก็​พยักหน้า​ให้​ จึงค่อย ๆ​ เอ่ย​ขึ้น​ว่า​

“ผู้อาวุโส​ซีเห​มิน​ ท่าน​คง​ยัง​มิทราบ​ การ​ที่​ฝ่าย​มาร​โจมตี​จงหยวน​ใน​ครา​นี้​ ทั้งหมด​ล้วนแต่​เป็น​ฝีมือ​ของ​ท่าน​บรรพ​จารย์เย่​ขอรับ​ ? ”

ได้ยิน​เช่นนั้น​ ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​มีสีหน้า​เคร่งเครียด​ขึ้น​ทันที​ ก่อน​จะคำราม​ออกมา​เสียงดัง​ “เหลวไหล​สิ้นดี​ ข้า​มิเชื่อ​เรื่องไร้สาระ​เช่นนี้​เด็ดขาด​ ! ”

นักพรต​ฉางเสวียน​มีสีหน้า​เรียบ​นิ่ง​ พร้อมกับ​เอ่ย​อีกครั้ง​ว่า​ “ซีเห​มิย​เห​ลย​หู่​ ท่าน​คง​ยัง​มิรู้​ว่า​…”

จน​เวลา​ผ่าน​ไป​ประมาณ​หนึ่ง​ก้านธูป​

นักพรต​ฉางเสวียน​จึงเล่า​สิ่งที่​ได้​เห็น​และ​ได้ยิน​ทั้งหมด​ ตอนที่​ไป​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​ให้​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ฟัง

ทว่า​ซีเห​มิย​เห​ลย​หู่​กลับ​แค่น​หัวเราะ​ออกมา​ จากนั้น​ดวง​ตาคม​ปลาบ​ก็​จ้อง​ไป​ยัง​นักพรต​ฉางเสวียน​

“เจ้าสำนัก​ไท่​เสวียน​ เช่นนั้น​เจ้าเคย​คิด​หรือไม่​ว่า​ หาก​เรื่อง​ทั้งหมด​นี้​เป็น​เพราะ​ผู้อาวุโส​เย่อ​ยู่​เบื้องหลัง​จริง​ เช่นนั้น​เหตุใด​ก่อนหน้านี้​เขา​จะต้อง​มอบ​วาสนา​อัน​ยิ่งใหญ่​มากมาย​ให้​แก่​ลัทธิ​เต๋า​ด้วย​เล่า​ ? ”

“รวมถึง​ศิษย์​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​ของ​เจ้าด้วย​ ! ”

เอ่ยถึง​ตรงนี้​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​เบา​เสียง​ลง​เล็กน้อย​ แล้วจึง​เอ่ย​ต่อว่า​ “ข้า​มอง​ว่าการ​ที่​จักรพรรดิ​มาร​ตน​นั้น​อยู่​กับ​ผู้อาวุโส​เย่​ใน​ตอนนี้​ อาจ​เป็นไปได้​ว่า​ผู้อาวุโส​เย่​มิต้องการ​ให้​นาง​ออก​ไป​ก่อความวุ่นวาย​ภายนอก​ จึงได้​จองจำ​นาง​เอาไว้​ที่​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​แทน​”

“อีก​อย่าง​สิ่งมีชีวิต​โบราณ​ใน​ส่วนลึก​ของ​แดน​ต้องห้าม​แท้จริง​แล้ว​น่ากลัว​เพียงใด​ คิด​ว่า​คน​ของ​เผ่า​มาร​เอง​ก็​คง​รู้ดี​ การ​ที่​พวกเขา​ทำ​สิ่งที่​ไร้สติ​เช่นนี้​ เป็นไป​ได้มา​กว่า​ต้องการ​ทำ​เพื่อ​ช่วย​จักรพรรดิ​มาร​ตน​นั้น​ ! ”

“ห๊ะ​ ! ”

หลังจาก​ได้ยิน​คำพูด​ของ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​

พวก​นักพรต​ฉางเสวียน​ราวกับ​เพิ่ง​ตื่น​จาก​ความฝัน​ ก่อน​จะหันมา​มองหน้า​กัน​

‘ที่​ผู้อาวุโส​ซีเห​มิน​พูด​มามีเหตุผล​ ! ’

‘หาก​ผู้อาวุโส​เย่​เป็น​ผู้บงการ​เรื่อง​ทั้งหมด​นี้​จริง​ เช่นนั้น​เหตุใด​เขา​ต้อง​มอบ​โอกาส​และ​วาสนา​มากมาย​เช่นนี้​ให้​แก่​คน​ของ​ลัทธิ​เต๋า​กัน​เล่า​ ? ’

‘ช่างย้อน​แย้ง​จริง ๆ​ ! ’

‘อืม​ ! ’

‘หาก​มิมีสิ่งใด​ผิดพลาด​ล่ะ​ก็​ คงจะ​เป็น​ผู้อาวุโส​เย่​ที่​จองจำ​จักรพรรดิ​มาร​ตน​นั้น​เอาไว้​ที่​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​ จึงทำให้​เผ่า​มาร​คลุ้มคลั่ง​เช่นนี้​’

ใน​ตอนนั้น​เอง​เจ้าสำนัก​หยิน​หยาง​ ต้วน​ฉางเต๋อ​ ได้​เอ่ย​ถามนักพรต​ฉางเสวียน​ขึ้น​ว่า​ “พี่​ฉางเสวียน​ ใน​เมื่อ​ท่าน​ได้​พบ​จักรพรรดิ​มาร​ตน​นั้น​แล้ว​ ท่าน​สัมผัส​ได้​ถึงไอ​พลัง​จักรพรรดิ​บน​กาย​ของ​นาง​หรือไม่​ ? ”

ได้​ฟังเช่นนั้น​ นักพรต​ฉางเสวียน​ที่​มีท่าทาง​สับสน​ก็​นิ่งงัน​ไป​ ก่อน​จะส่ายหน้า​น้อย​ ๆ

มุมปาก​ของ​ต้วน​ฉางเต๋อ​โค้ง​ขึ้น​ พร้อมกับ​หัวเราะ​ออกมา​ “น่าเสียดาย​ที่​ข้า​มิใช่ท่าน​บรรพ​จารย์เย่​แห่ง​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​ของ​พวก​ท่าน​ มิเช่นนั้น​ข้า​จะทำให้​ท่าน​กลายเป็น​คน​บาป​ที่​ถูก​สาปแช่ง​ไป​ชั่วลูกชั่วหลาน​อย่าง​แน่นอน​”

นักพรต​ฉางเสวียน​เม้มริมฝีปาก​เล็กน้อย​ แต่กลับ​มิได้​แก้ตัว​ใด​ ๆ

“จริง​สิ”

ดวงตา​ของ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​มีประกาย​บางอย่าง​แวบ​ผ่าน​ ก่อน​จะเอ่ย​ถามขึ้น​อี​กว่า​ “ตอนที่​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ต่อ​สู่กับ​จักรพรรดิ​มาร​ตน​นั้น​ทาง​แดน​เหนือ​ จู่ ๆ ก็​เกิด​การ​รู้แจ้ง​ที่​แท้จริง​บน​วิถี​กระบี่​ถึงระดับ​สูงสุด​”

“มิรู้​ว่า​เวลานี้​จะฟื้นตัว​ได้​บ้าง​หรือยัง​ ? ”

นักพรต​ฉางเสวียน​ค่อย ๆ​ เงยหน้า​ขึ้น​ ก่อน​จะเอ่ย​อย่าง​ลังเล​ว่า​

“ผู้อาวุโส​ซือ​ถูหลังจาก​กลับ​มาจาก​แดน​เหนือ​ ก็​เข้าฌาน​อยู่​ที่​เขา​ด้านหลัง​มาโดยตลอด​ หาก​มิมีสิ่งใด​ผิดพลาด​ตอนนี้​ก็​น่าจะ​ยัง​เข้าฌาน​อยู่​ เพราะ​ศึก​แดน​เหนือ​ทำให้​เขา​ได้รับบาดเจ็บ​อย่าง​ร้ายแรง​ขอรับ​”

ใน​ตอนนั้น​เอง​ หลังจากที่​นักพรต​ฉางเสวียน​เอ่ย​จบ​

ไอ​พลัง​กระบี่​มหาศาล​กลุ่ม​หนึ่ง​ พลัน​ปกคลุม​ไป​ทั่ว​ทั้ง​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​

ขณะเดียวกัน​ ทุกคน​ที่​กำลัง​บำเพ็ญ​เพียร​วิถี​กระบี่​บน​เขา​ไท่​เสวียน​ เวลานี้​กระบี่​ของ​พวกเขา​ราวกับ​มีจิตวิญญาณ​ก็​มิปาน​ พวก​มัน​ต่าง​ก็​พุ่ง​ออกจาก​ฝัก​ได้​เอง​…

เมื่อ​สัมผัส​ถึงการเปลี่ยนแปลง​ของ​ฟ้าดิน​

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ที่​เคย​บั่นทอน​ตบะ​บารมี​ของ​ตนเอง​มาแล้ว​ พลัน​มีสีหน้า​เปลี่ยนไป​ ก่อน​จะเอ่ย​ออกมา​ด้วย​ความโมโห​ว่า​ “ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ผู้​นี้​จะใจร้อน​เกินไป​แล้ว​ ถึงกับ​อัญเชิญ​ทัณฑ์​สวรรค์​พิฆาต​มาใน​เวลา​เยี่ยง​นี้​น่ะ​หรือ​”

“อะไร​นะ​ ! ”

“ทัณฑ์​สวรรค์​พิฆาต​ ! ”

“หรือว่า​ผู้อาวุโส​ซือ​ถูจะขึ้น​สวรรค์​วันนี้​แล้ว​เยี่ยง​นั้น​หรือ​ ? ”

“ทั่ว​ทั้ง​จงหยวน​กำลังจะ​เผชิญ​หายนะ​ครา​ใหญ่​ แต่​ผู้อาวุโส​ซือ​ถูกลับ​จะขึ้น​สวรรค์​ใน​เวลา​เช่นนี้​จริง ๆ​ น่ะ​หรือ​ ? ”

“นี่​มัน​ ! ”

“ผู้อาวุโส​ซีเห​มิน​ เป็น​ความจริง​หรือ​ขอรับ​ ? ”

“ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​บรรลุ​ถึงระดับ​ที่​แท้จริง​ของ​วิถี​กระบี่​แล้ว​ บัดนี้​ก็​ยัง​กระตุ้น​ไอ​พลัง​กระบี่​มหาศาล​ขึ้น​มาอีก​ เช่นนี้​หาก​ยัง​มิขึ้น​สวรรค์​แล้ว​จะหมายความ​เช่นไร​เล่า​ ? ”

“พวก​เจ้าจะอึ้ง​กัน​อีก​นาน​ไหม​ รีบ​ไป​ขัดขวาง​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​เร็ว​เข้า​ ! ”

มินาน​ด้านหน้า​ของ​ตำหนัก​ไท่​เสวียน​

ลำแสง​อัน​ตระการตา​มากมาย​ก็​ทะยาน​ขึ้น​ฟ้า และ​มุ่งไป​ยัง​ภูเขา​ด้านหลัง​ของ​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​ในทันที​

เวลา​เดียวกัน​นี้​เอง​ ณ ภูเขา​ด้านหลัง​ของ​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​

เมฆหมอก​ล้อมรอบ​ ป่า​เขียวขจี​ปกคลุม​หนาแน่น​ เต็มเปี่ยม​ไป​ด้วย​ปราณ​วิญญาณ​ฟ้าดิน​

ใน​ส่วน​ที่​ลึก​ที่สุด​ ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ที่อยู่​ใน​ชุด​คลุม​สีดำ​กำลัง​ยืน​เอา​มือ​ไพล่หลัง​อยู่​กลางอากาศ​

ผม​และ​หนวด​ของ​เขา​ปลิว​สยาย​ ชุด​คลุม​สีดำ​สะบัด​ไปมา​อย่าง​รุนแรง​ มีกระบี่​แสงเจิดจ้า​ปกคลุม​รอบกาย​ ราวกับ​กระบี่​เซียน​ที่ตั้ง​ตระหง่าน​อยู่​กลางอากาศ​

โดยเฉพาะ​ไอ​พลัง​ที่​แผ่ออก​มาจาก​ร่างกาย​ของ​เขา​ ที่​ดู​แข็งแกร่ง​เป็นอย่างมาก​ จน​ทำให้​อากาศ​รอบ​ ๆ เกิด​ระลอกคลื่น​ขึ้น​

“กระบี่​มหา​มรรคา​ ข้า​เปรียบ​ดัง​กระบี่​ ชีวิต​ราวกับ​ฝัน​ เต๋า​ราวกับ​กระจก​”

“นับตั้งแต่​ข้า​เริ่ม​บำเพ็ญ​เพียร​มา ก็​ฝึกฝน​กระบี่​อย่าง​หนัก​มาโดยตลอด​ ประสบ​กับ​หลาย​สิ่งหลายอย่าง​ ในที่สุด​ก็​สามารถ​บรรลุ​ถึงระดับ​ที่​แท้จริง​ของ​วิถี​กระบี่​ได้​เสียที​”

“วันนี้​ข้า​จะใช้วิถี​กระบี่​อัญเชิญ​ทัณฑ์​สวรรค์​พิฆาต​ เพื่อ​เปิด​ประตู​สวรรค์​ บรรลุ​เป็น​เซียน​ ! ”

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​เอ่ย​ด้วย​ท่าทาง​เย็นชา​ แวว​ตาคม​ดุจ​กระบี่​จ้องมอง​ท้อง​นภา​ ที่​มีเมฆสีคราม​ลอย​ลงมา​

สิ้น​เสียง​เขา​ก็​เพ่ง​สมาธิ มือ​ทั้งสอง​ข้าง​ประสาน​ทำท่า​มุทรา​ในทันที​

“เปรี้ยง​ ! ”

ชั่วพริบตา​ กระบี่​แสงอัน​งดงาม​สาย​หนึ่ง​ที่​ห่อหุ้ม​ไป​ด้วย​ไอ​พลัง​วิถี​กระบี่​อัน​บริสุทธิ์​มากมาย​ ก็​พุ่ง​ขึ้น​สู่ท้องฟ้า​ด้วย​พลัง​อัน​ไร้​เทียมทาน​

ขณะเดียวกัน​ ทันทีที่​กระบี่​แสงอัน​งดงาม​สาย​นี้​พุ่ง​ขึ้นไป​ กลางอากาศ​พลัน​ปรากฏ​รอยแยก​อัน​น่ากลัว​ยาว​นับ​หมื่น​จั้ง เป็น​ปรากฏการณ์​ที่​อลังการ​ยิ่งนัก​

ทว่า​ใน​วินาที​ต่อมา​ ขณะเดียวกัน​เมฆสีคราม​ที่​ปกคลุม​บริเวณ​นั้น​ พลัน​พลุ่งพล่าน​จน​เกิด​มวล​พลัง​ที่​ปั่นป่วน​ขึ้น​มา

จากนั้น​ไอ​พลัง​ทำลายล้าง​จำนวน​มหาศาล​และ​น่าสะพรึงกลัว​กลุ่ม​หนึ่ง​ ก็​ค่อย ๆ​ ลอย​ลง​มาจาก​ส่วนลึก​ของ​ก้อน​เมฆราวกับ​เขื่อน​ทะลัก​

ราวกับ​สัมผัส​ได้​ถึงบางอย่าง​ มุมปาก​ของ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​จึงยก​ยิ้ม​ขึ้น​ พร้อมกับ​เอ่ย​ออกมา​ว่า​ “กำลัง​มาแล้ว​”

สิ้น​เสียง​ ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​พลัน​หรี่ตา​ลง​ สายตา​มุ่งมั่น​ พร้อม​เค้น​พลัง​วิญญาณ​ภายใน​กาย​ทั้งหมด​ออกมา​ทันที​

“เปรี้ยง​ ! ”

เวลา​ผ่าน​ไป​เพียง​ชั่ว​อึดใจ​

หลังจาก​เสียง​ที่​สนั่นหวั่นไหว​นั้น​ดัง​ขึ้น​ จาก​ส่วนลึก​ของ​กลุ่ม​เมฆ

ทันใดนั้น​ภายใน​รัศมี​หมื่น​ลี้​ เมฆสีคราม​ที่​ลอย​ต่ำ​ลง​ และ​เต็มไปด้วย​พลัง​อัน​ปั่นป่วน​ พลัน​พลุ่งพล่าน​รุนแรง​ขึ้น​มาในทันที​ เป็น​ภาพ​ที่​น่าสะพรึงกลัว​ยิ่งนัก​

มินาน​ หลังจาก​ลำแสง​สีขาว​อัน​พร่างพราย​นับ​มิถ้วน​ เปล่ง​ออก​มาจาก​เมฆสีคราม​

สายฟ้า​สาย​หนึ่ง​ก็​ทะลุ​ผ่าน​กลุ่ม​เมฆที่​ล่องลอย​ แผ่​ไอ​พลัง​ใน​การทำลายล้าง​อัน​รุนแรง​ออกมา​ ก่อน​จะฟาด​ลงมา​ในที่สุด​

ขณะเดียวกัน​ ห่าง​ออก​ไป​พัน​ลี้​พวก​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ ที่​กำลัง​รีบ​มาก็​เหมือน​จะสัมผัส​ได้​ถึงบางอย่าง​ จึงได้​หยุดชะงัก​ลง​

“ช้าไป​เสียแล้ว​ ! ”

มือ​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​กำหมัด​แน่น​ เส้นเลือด​ที่​ขมับ​เต้น​ตุบ ๆ​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด