เกิดใหม่เป็นไอหนุ่ม NTR ในเกมเอโรเกะ แต่ฉันไม่มีวันแย่งเธอมาเด็ดขาด 9.2 เดทหลังเลิกเรียน

Now you are reading เกิดใหม่เป็นไอหนุ่ม NTR ในเกมเอโรเกะ แต่ฉันไม่มีวันแย่งเธอมาเด็ดขาด Chapter 9.2 เดทหลังเลิกเรียน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากนั้นฉันก็เดินไปตามทางเดินกับอายานะ

 

สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากเรื่องทั้งหมดนั้น และดูเหมือนเธอจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษเห็นได้จากรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ

 

(ฉันแน่ใจว่า…เธอต้องได้เคยรับคำสารภาพรักจากผู้คนมากมายในลักษณะนั้นแน่)

 

ครั้งนี้เป็นเพียงการเรียกตัวไปเท่านั้น แต่ถ้าคุณนับว่านี้เป็นการสารภาพรัก ก็คงจะมีไม่น้อย..…อายานะเป็นเด็กสาวที่มีเสน่ห์มาก เพราะงั้นคุณไม่ควรจะทิ้งเธอไว้ตามลำพัง

 

“…หืม?”

 

ขณะเดินอยู่ในโถงทางเดินกับอายานะ ฉันสังเกตเห็นชูกับอิโอริกำลังช่วยกันถือของจำพวกกระเป๋ากันอยู่หลายใบ

 

แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้สังเกตเห็นเรา แต่ฉันอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่ากระเป๋าที่พวกเขาถือมันไม่เยอะเกินไปเหรอ?

 

ฉันควรจะเสนอตัวไปช่วยไหม?.…ฉันคิดแบบนั้น แต่น่าแปลกที่ขาของฉันไม่ยอมขยับ

 

(ทำไมละ..…?)

 

ฉันสงสัยว่าทำไมเท้าของฉันถึงขยับไม่ได้ อย่างไรก็ตามอายานะที่จับมือฉันไว้พูดประมาณว่า

 

“โทวะคุง ชูคุงกับอิโอริไม่เป็นไรหรอก กลับบ้านกันเถอะ”

 

ทันทีที่ฉันได้ยินคำพูดของอายานะ ขาของฉันซึ่งดูเหมือนจะติดอยู่กับพื้นก็เริ่มขยับ

 

ราวกับว่าความอบอุ่นอันและความอ่อนโยนของเธอบนฝ่ามือของฉันและเสียงที่ไพเราะของเธอกำลังกระซิบกับฉันว่าฉันควรจะไว้วางใจเธอ

 

ยิ่งเราออกห่างจากชูและอิโอริมากเท่าไร ความรู้สึกไม่สบายใจที่ฉันรู้สึกก่อนหน้านี้ก็หายไป และเมื่อเราออกจากอาคารเรียนฉันก็ไม่รู้สึกกังวลเรื่องนั้นอีกต่อไป

 

“เราจะไปที่ไหนก่อนไหม? หรือเรามุ่งหน้าตรงกลับบ้านกันดี?”

 

“แบบนั้นมันไม่น่าเบื่อไปหน่อยเหรอ?”

 

“หมายความว่า…..เธออยากอยู่กับฉันต่อเหรอ?”

 

อายานะวางนิ้วไว้บนริมฝีปากของเธอด้วยท่าทางสนุกสนาน

 

ไม่ว่าเธอจะแสดงท่าทางอะไรเธอก็ดูน่าทึ่งอยู่เสมอ และราวกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติที่สุดในโลก ฉันก็พยักหน้าเห็นด้วย

 

“ถ้าอย่างนั้น มาทำให้เดทวันนี้เป็นเดทที่น่าจดจำกันเถอะ!”

 

“จ้า”

 

ใช่แล้ว…เราไปสนุกกับการออกเดทให้เต็มที่กันเถอะ

 

อย่างไรก็ตาม เรายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะทำอะไรหรือจะไปที่ไหนกัน ดังนั้นฉันคงจะเดินไปรอบๆกับอายานะตามความตั้งใจของเธอในวันนี้

 

ขณะที่เรากำลังเดินออกจากประตูโรงเรียน ฉันสังเกตเห็นสมาชิกชมรมกรีฑากำลังวิ่งกันอยู่

 

ดูเหมือนว่าพวกเขาจะพึ่งกลับมาจากการออกไปวิ่งข้างนอกกัน และในหมู่พวกเขา ฉันก็เห็นใบหน้าที่คุ้นตา

 

“โอ้ รุ่นพี่อายานะ รุ่นพี่ยูกิชิโระ สวัสดีค่ะ!”

 

แม้ว่าจะวิ่งจนหายใจไม่ทัน แต่คำทักทายอันร่าเริงก็ออกมาจากอุชิดะ มาริ ผู้เป็นรุ่นน้องของเราและเป็นหนึ่งในนางเอกเหมือนกันกับอายานะและอิโอริ

 

“สวัสดีจ้า มาริจัง วันนี้ก็ซ้อมหนักเหมือนเคยเลยนะ”

 

“ใช่แล้วค่ะ! ไม่ว่าเมื่อไหร่หนูก็ทุ่มสุดตัวเสมอ!”

 

มาริที่ยังคงขยับขาของเธออย่างต่อเนื่องแม้ว่าเธอจะหยุดคุยกับพวกเรา เธอเหมือนกับกลุ่มก้อนพลังงาน เมื่อฉันคุยกับเธอครั้งแรก ฉันก็คิดเหมือนกันว่าความร่าเริงอันไร้ขอบเขตของเธอสามารถแพร่เชื้อได้และฉันก็อดยิ้มไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้

 

“อะ แล้วรุ่นพี่ชูอยู่ไหนเหรอคะ?”

 

“เขาไปช่วยงานสภานักเรียนนะ”

 

“…..มูมู”

 

มาริดูไม่พอใจกับคำตอบของฉันอย่างเห็นได้ชัด แต่มันก็เหมาะกับเธอแล้วเพราะเธอมีใบหน้าที่น่ารักเป็นทุนเดิม และการแสดงออกใดๆที่เธอทำก็เน้นย้ำถึงความน่ารักของเธอเพียงเท่านั้น

 

“เฮ้ อุชิดะ! เรายังอยู่ระหว่างการซ้อมนะ!”

 

“โอ้จริงด้วย! ถ้าอย่างนั้นรุ่นพี่ไว้มาคุยกันอีกนะ!”

 

“ได้สิ”

 

“ฟุฟุ ฉันจะตั้งตารอนะ”

 

หลังจากคุยกับมาริเสร็จเราก็มุ่งหน้าไปยังย่านใจกลางเมืองที่คึกคัก

 

อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ เราไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ดังนั้นฉันจึงใช้เวลาเดินไปรอบๆกับอายานะอย่างไร้จุดหมาย

 

(…แต่คุณก็รู้ มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น)

 

แค่ได้อยู่กับอายานะก็ทำให้ฉันมีความสุขแล้ว

 

ฉันจะทำอะไรให้เธอได้บ้าง…ฉันไม่ได้จริงจังขนาดนั้นนะ แต่ฉันอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าตอนนี้ฉันจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้เธอมีความสุขมากขึ้น ฉันควรทำอะไรดี?

 

“โอ้ พี่สาวกับพี่ชายตรงนั้นกำลังเดทกันอยู่เหรอ? ทาโกะยากิสักหน่อยมั้ย?”

 

ขณะที่เราเดินด้วยกันไปเรื่อยๆ คุณลุงที่ทำทาโกะยากิก็ร้องเรียกเรา

 

ทาโกะยากิ..…อืม…..

 

ฉันรู้สึกหิวนิดหน่อยเลยมองไปที่อายานะแล้วเธอก็พยักหน้า เธอบอกว่าเราควรจะลองมันสักหน่อย

 

“เอาล่ะ นั้นเราเอา8ลูก”

 

“ได้เลย แล้วมายองเนสล่ะ?”

 

“รบกวนด้วยครับ!”

 

“เข้าใจแล้ว!”

 

ทาโกะยากิที่ไม่มีมายองเนส ฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นมาก่อนเลย

 

ดังนั้นเราจึงรับทาโกะยากิร้อนๆจากคุณลุงและนั่งลงที่ม้านั่งใกล้ๆ

 

เราทั้งสองเป่ามันเพื่อทำให้มันเย็นลงเราระวังไม่ให้ปากไหม้ และไม่น่าแปลกใจเลยที่การกินมันจะลำบากเล็กน้อยเนื่องจากความร้อน

 

“ร้อน…ร้อน!”

 

“อาใช่ ร้อน…ร้อน!”

 

เราทั้งคู่อุทานว่ามันร้อนพร้อมกันขณะที่เราพยายามใส่ทาโกะยากิเข้าปากโดยไม่ทำให้ปากไหม้

 

แม้มันจะร้อนและกินยาก แต่รสชาติก็ถือว่ายอดเยี่ยมมาก

 

ไม่นานเราก็กินทาโกะยากิทั้ง8ลูกจนหมดและตบท้ายด้วยเครื่องดื่มเย็นๆที่อยู่ในมือ

 

“โทวะคุง”

 

“หืม มีอะไรเหรอ?”

 

“ขอบคุณนะ ที่นายเข้ามาช่วยฉันก่อนหน้านี้นะ”

 

“ก่อนหน้านี้…..อ่า เธอหมายถึงเรื่องรุ่นพี่คนนั้นเหรอ?”

 

“ใช่”

 

ดูเหมือนเธอจะขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือของฉัน

 

แต่ดีที่มันไม่บานปลายไปสู่การทะเลาะวิวาท และชายคนนั้นก็ถอยหลังทันทีเมื่อฉันปรากฏตัว ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องขอบคุณจริงๆ

 

ฉันเอื้อมมือไปแตะแก้มของอายานะอย่างเป็นธรรมชาติและพูดต่อ

 

“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก ฉันรู้ว่าเธอคงลำคาญ และเหนือสิ่งอื่นใดฉันไม่สามารถปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นต่อหน้าฉันได้หรอก”

 

“จ้า♪”

 

อายานะค่อยๆ ถูแก้มของเธอกับมือฉันอย่างมีความสุข และเธอก็เอามือของเธอมาโอบมือของฉันไว้

 

“เราอยู่แบบนี้กันสักพักได้ไหม?”

 

“ได้สิ”

 

ถ้าเป็นคำขอของเจ้าหญิงคนนี้ ฉันคงปฏิเสธไม่ได้

 

แต่…อายานะเป็นเด็กผู้หญิงที่แปลกจริงๆ หรือเธอค่อยข้างจะมีเสน่ห์อยู่ในระดับที่น่าหลงใหลกัน

 

แม้ว่าจะไม่ใช่สิ่งที่ฉันไม่สนใจ แต่ฉันพบว่าตัวเองคิดว่าฉันสามารถปล่อยวางทุกสิ่งและสนุกไปกับชีวิตที่ไร้กังวลในฐานะยูกิชิโระ โทวะ ได้

 

(นั่นคงเป็นเส้นทางที่ง่าย…แค่ใช้ชีวิตแบบยูกิชิโระ โทวะ โดยไม่ต้องคิดอะไร… มันอาจจะเป็นเส้นทางสู่ชีวิตประจำวันอันแสนหวานก็ได้)

 

ในฐานะมนุษย์เป็นเรื่องปกติที่จะเลือกเส้นทางที่ง่ายกว่าหากมีอยู่แทนที่จะเลือกเส้นทางที่ยาก

 

อย่างไรก็ตาม มีบางอย่างในตัวฉันกรีดร้องว่ามันไม่ถูกต้อง ดังนั้นฉันต้องไม่กลายเป็นคนเฉยเมยไป

 

“อายานะ คราวนี้ฉันขอเป็นคนนำได้ไหม”

 

“เอ๊ะ?”

 

ฉันค่อยๆปล่อยมือออกจากแก้มของเธอ และวางมือบนไหล่ของเธอ แล้วดึงเธอเข้ามาใกล้ๆ

 

ขณะที่ฉันกอดอายานะไว้ในอ้อมแขน สิ่งแปลกประหลาดก็เกิดขึ้น—ความรู้สึกเสน่หาต่อเธอก็พลุ่งพล่านขึ้นในใจฉัน

 

มันเหมือนกับที่เคยเป็นมา..…..

 

แต่ความมุ่งมั่นที่อยู่ในใจนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะถูกลบหายไปง่ายๆ ฉันไม่สามารถทำตามความรู้สึกนั้นได้ นั่นอาจจะผิดอารมณ์สองอารมณ์ที่ขัดแย้งกันในตัวฉันแทบจะทำให้ฉันอยากจะหัวเราะ แต่ความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของฉันคือสิ่งเดียวที่แน่นอน

 

“อืม! ขอบใจนะอายานะ”

 

“เอ่อ…โทวะคุง?”

 

“ฮ่าฮ่า อายานะ สีหน้าตกใจของเธอน่ารักจริงๆ”

 

“ขอบคุณ..…?”

 

อายานะไม่ใช่แค่เบิกตากว้างเท่านั้น แต่เธอกระพริบตาถี่ๆด้วย และมันก็น่ารักสุดๆ

 

เราใช้เวลาเดินเล่นตามร้านขายของข้างทางประมาณหนึ่งชั่วโมง และเมื่อถึงเวลา 5 โมงเย็น เราก็ตัดสินใจว่าถึงเวลากลับบ้านแล้ว..…

 

อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้น ฉันได้เห็นใครบางคนที่ทำให้ฉันพูดไม่ออก

 

“อา…..”

 

“โทวะคุง?”

 

คนที่ฉันเห็น…มันชัดเจนมากแม้ฉันจะเห็นแค่ข้างหลังพวกเธอก็ตาม

 

[ไม่มีใครต้องการเธอ]

 

[พี่อายานะ หมอนั้นเป็นตัวหายนะใช่ไหม!]

 

ราวกับการเปิดบาดแผลเก่า เสียงเหล่านั้นดังก้องอยู่ในใจของฉัน

 

คนสองคนที่หันหลังให้ฉัน – ซาซากิ ฮัตสึเนะ แม่ของชู และซาซากิ โคโตเนะ น้องสาวของชู

 

ฉันได้พบกับโคโตเนะครั้งหนึ่งตั้งแต่ฉันมาเป็นโทวะ แต่ฉันไม่เคยพบหรือพูดคุยกับฮัทสึเนะเลย…แม้ว่าฉันจะจำบทสนทนาในความฝันที่โรงพยาบาลได้ แต่ฉันก็มีความทรงจำอันเลวร้ายที่เกี่ยวข้องกับพวกเธออยู่

 

“โทวะคุง มานี่หน่อยสิ”

 

อายานะจูงมือฉันเบาๆ

 

เพียงเสี้ยววินาที…เพียงเสี้ยววิเท่านั้น ฉันคิดว่าฉันเห็นสีหน้าของอายานะดูเคร่งขรึมขึ้น แต่ฉันคิดว่ามันเป็นเพียงจินตนาการของฉัน และในขณะที่ฉันเอียงหัวด้วยความสับสน ทุกสิ่งรอบตัวฉันก็เงียบลงทันทีราวกับว่าเสียงทั้งหมดหายไป

 

“เกิดอะไรขึ้น…?”

 

รู้สึกเหมือนว่าฉันถูกทิ้งไว้คนเดียวบนโลกนี้ ราวกับว่าฉันเป็นเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่

 

อายานะยังคงจูงมือฉัน และทุกอย่างดูเหมือนเคลื่อนไหวช้าลง เกิดอะไรขึ้นกัน…?

 

“อายานะ—”

 

“ตอนนี้นายรู้สึกอย่างไรบ้าง”

 

ฉันกำลังจะถามอายานะว่าเราจะไปที่ไหนกันแต่ในขณะเดียวกันก็มีคนเดินผ่านฉันไป

 

ในสถานการณ์ที่แปลกประหลาดนี้ ฉันอดไม่ได้ที่จะสนใจการมีอยู่ของคนๆนั้น คนในเสื้อฮูดสีดำ ฉันละสายตาจากเธอไม่ได้

 

“…เอ๊ะ?”

 

เมื่อฉันพยายามมองเธออีกครั้ง เธอก็หายไปแล้ว

 

ราวกับว่าเธอไม่เคยอยู่ตรงนั้นตั้งแต่แรก

 

ประสบการณ์ประหลาดนี้ทำให้ฉันพูดไม่ออก แต่เมื่อฉันหันไปมองที่ที่ฉันเพิ่งมองไป โคโตเนะและฮัทสึเนะซังยังคงอยู่ที่นั่นโดยหันหลังให้พวกเรา

 

ต้องทำให้เขาจนมุม…..ไล่ต้อนเขา…..

 

ทำให้เขาทุกข์ทรมาน……ทำให้เขาเจ็บปวด…….

 

มีคนกระซิบข้างหูฉันแบบนั้น…มันเป็นเสียงของผู้หญิง

 

และดูเหมือนว่ามันจะเป็นข้อความเดียวกันกับที่ปรากฏบนกระดานระหว่างคาบเรียนวันนี้

 

“…!”

 

ฉันเอามือปิดปากแล้วหยุดเดินทันที ทันใดนั้นภาพในอดีตก็แวบขึ้นมาในหัวฉัน

 

มันเป็นภาพที่โคโตเนะและฮัทสึเนะซังที่ถูกผู้ชาย*่ม*ืนอยู่มันเป็นฉากภายในเกม ที่พวกเธอพูดถึงความเลวทรามของพวกเธอ โดยที่พวกเธอพูดถึงชูคนที่พวกเธอรักมากราวกับว่าเขาเป็นก้างขวางคอ……และ

 

“โทวะคุง!”

 

“!?”

 

ฉันกลับมาสู่ความเป็นจริงอีกครั้งเมื่อชื่อของฉันถูกเรียก ฉันคิดว่าเราไม่ได้เดินไปไกลขนาดนั้น แต่เห็นได้ชัดว่ามันเป็นความสับสนของฉันเอง เราอยู่ห่างจากโคโตเนะและฮัทสึเนะซังค่อนข้างไกล ทำไมฉันถึงได้เหม่อขนาดนี้กัน?

 

“เธอสบายดีไหม? ดูเหมือนเธอจะอาการไม่ดีเลยนะ”

 

“ฉันสบายดี…ใช่ ฉันสบายดี ขอโทษนะอายานะ”

 

“………”

 

เอาน่า เธอไม่ควรกังวลขนาดนั้นนะ!

 

เธอไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรและฉันอยากให้เธอรู้เรื่องนี้ไว้ ฉันจึงจับมืออายานะแล้วเริ่มเดินโดยบอกให้เธอรู้ว่าฉันสบายดี

 

เรามุ่งหน้าไปยังสวนสาธารณะแห่งนั้น สถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำของเราทั้งคู่

 

เนื่องจากเป็นเวลาดึกแล้วจึงไม่มีเด็กๆวิ่งเล่นกันเหมือนปกติ และไม่มีใครนอกจากพวกเรา

 

“……”

 

ตั้งแต่เรามาที่นี่หรือบางทีตั้งแต่ตอนที่ฉันจับมือเธอ อายานะก็เป็นแบบนี้ แม้ว่าเธอมักจะยิ้มเมื่อเธออยู่ข้างๆฉัน แต่ตอนนี้เธอแค่มองลงต่ำอย่างเงียบๆ

 

สาเหตุน่าจะเป็นปฏิกิริยาของฉันเมื่อเห็นโคโตเนะและฮัทสึเนะซัง…ฉันกอดอายานะและลูบหลังเธอเบาๆ

 

“ฉันสบายดี ฉันแค่แปลกใจและ…”

 

“นั่นโกหกใช่ไหม”

 

“………”

 

เธอบอกว่ามันเป็นเรื่องโกหก และฉันก็เงียบไป ตั้งแต่ฉันกอดเธอใบหน้าของเราก็อยู่ใกล้กันมากเมื่อเรามองหน้ากัน และดวงตาสีเข้มและขุ่นมัวของเธอก็จับจ้องมาที่ฉัน

 

“อายานะ?”

 

“ใช่ ตอนนี้ฉันคืออายานะ”

 

เสียงของเธออ่อนโยนมาก แต่ดวงตาของเธอกลับดูน่ากลัว และฉันก็รู้สึกอยากจะหลบสายตาของเธอ

 

อายานะเอาแขนของเธอโอบหลังฉัน กอดฉันไว้แน่น แล้วพูดต่อ

 

“ไม่เป็นไรนะโทวะคุง ฉันสัญญาว่าฉันจะจัดการทุกอย่างเอง…..”

 

“เธอทำอะไรนะ..…?”

 

“อืม ไม่เป็นไรนะโทวะคุง”

 

ทุกอย่างจะโอเค เสียงถ้อยคำเหล่านั้นราวกับทำนองอันไพเราะที่บุกรุกส่วนลึกของหัวใจของฉัน

 

แม้ว่าท่าทางของเธอจะแตกต่างจากปกติและมีบางอย่างที่น่ากลัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ฉันก็ยังยอมรับอ้อมกอดของเธอและโอบกอดเธอไว้

 

“อายานะ…..เธอรู้สึกอย่างไงกับสองคนนั้น?”

 

เธอตอบคำพูดของฉันด้วยรอยยิ้มและหัวเราะเบา ๆ

 

“ฉันเกลียดพวกเธอ ฉันเกลียดพวกเธอมาโดยตลอดจากก้นบึ้งของหัวใจ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด