เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]บทที่ 1000 คนทรยศ

Now you are reading เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] Chapter บทที่ 1000 คนทรยศ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1000 คนทรยศ

บทที่ 1000 คนทรยศ

เสี่ยวเถียนคิดมาตลอดว่าเธอดูแลทุกคนอย่างดี

พวกเขาได้รับผลประโยชน์ และไม่มีทางทำสิ่งที่เป็นอันตรายต่อโรงงานได้

ทว่าเรื่องราวเลวร้ายก็ได้เกิดขึ้นแล้ว

ถึงจะเป็นสิ่งที่ไม่คาดฝัน แต่ไม่ได้สร้างความเสียหายให้เท่าไร

ต่อให้สูตรอาหารใหม่ที่ทีมวิจัยพัฒนาจะดีกว่า แต่ก็ใช่ว่าเราจะหาใหม่มาทดแทนไม่ได้นี่นา

ทว่าตระกูลซูไม่ได้คิดเช่นนั้น พวกเขาเป็นกังวลมากตอนทราบข่าว

“เสี่ยวเถียนอยากให้เราช่วยไหม? หนูเป็นเด็กด้วย ทำตัวคนเดียวมันลำบากมากนะ”

“เสี่ยวเถียน ถึงพ่อจะไม่สันทัดเรื่องพวกนี้แต่คงอยู่เฉย ๆ ให้เขารังแกลูกไม่ได้หรอก บอกพ่อได้เลย พ่อทำอะไรเพื่อหนูได้บ้าง?”

“หลานรัก หนูไม่ได้รับความยุติธรรมนะ หลังจากนี้ให้พี่ ๆ เขาช่วยจัดการนะ”

ทุกคนเสนอความช่วยเหลือ แม้แต่ซูเสี่ยวเฉ่าเองยังเป็นกังวลไปด้วย

เสี่ยวเถียนคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก

ต่อให้ปฏิเสธ แต่คนที่บ้านจะโล่งใจได้ยังไงล่ะ?

พวกเขาหารือกันแล้วขอให้ซูเสี่ยวซื่อมาช่วยจัดการปัญหา

ชายหนุ่มเชี่ยวชาญในการหาเงิน ทุกวันนี้เขาไปเรียนน้อยมากและมุ่งไปด้านการทำธุรกิจเป็นหลัก

ตอนนี้กิจการของเขารุ่งเรืองเป็นอย่างมาก

หลังจากได้ยินข่าวเรื่องโรงงานเจ้าตัวถึงกับวางทุกอย่างลงทันที

เรื่องหาเงินสำคัญก็จริง แต่น้องเล็กสำคัญกว่า

ต่อจากนั้นเขาได้ยินมาอีกว่าเสี่ยวเถียนไม่อยากให้เข้าไปยุ่ง จึงไม่ได้ไปหาน้อง

แต่จ้างคนไปช่วยตรวจสอบภายนอกแทน

เด็กสาวเดินทางไปโรงงานอย่างใจเย็น

ทุกคนในโรงงานรู้แล้วว่าสูตรอาหารที่พัฒนาขึ้นมาใหม่รั่วไหลออกไป

ตอนมาถึงบรรยากาศแปลกตาไปโดยสิ้นเชิง

หวังเซียงฮวาโกรธจัด เธอถึงกับขังตัวเองไว้ในห้อง และเอาแต่ร้องห่มร้องไห้

ทำไมใจร้ายขนาดนี้?

เสี่ยวเถียนดูแลพวกเขาอย่างดี ทุกคนมีชีวิตสบายกว่าคนงานโรงงานอื่นอีก

แล้วทำไมถึงเอาสูตรของเราไปขาย?

ถ้าโรงงานเสียหาย มันจะไปมีประโยชน์อะไรต่อพวกเขาล่ะ?

“มีแต่ไอ้พวกไร้หัวใจ เสียดายที่เสี่ยวเถียนดีต่อพวกเขาขนาดนั้น!”

“อย่าโกรธไปเลย มันต้องมีหนทางแน่ ๆ” ซูเหล่าต้าทำได้แค่ปลอบใจเสียงแผ่ว

ภรรยาเขาจริงใจต่อเสี่ยวเถียนมาก

พอเห็นหลานไม่ได้รับความยุติธรรมจึงเป็นห่วงมาก

“เสี่ยวเถียนยังเด็กมาก มีหลายสิ่งหลายอย่างให้พิจารณา ดูเจ้าพวกไร้จิตสำนึกพวกนั้นสิ ฮือ ๆ เสี่ยวเถียนของฉันน่าสงสารจังเลย”

“รอตรวจสอบเสร็จเมื่อไร ฉันจะตบหัวมันไม่เกรงใจเลย!”

ซูเหล่าต้าฟังคำคร่ำครวญของภรรยา และทำได้แค่ปลอบประโลมอีกฝ่าย

“ได้ ๆ ถึงตอนนั้นฉันจะช่วยอีกแรงแล้วกัน ถ้าไม่ไหวก็เรียกลูกมา”

“กลัวก็แต่จะหาตัวต้นตอไม่เจอเนี่ยสิ

อารมณ์ของหวังเซียงฮวาไม่ได้ผ่อนคลายลงสักนิด

เธอยังเป็นกังวลอยู่

ในเมื่อฝ่ายนั้นมีเจตนาแอบแฝงย่อมไม่เหลือหลักฐานแน่นอน โดยปกติเสี่ยวเถียนไม่ได้ประจำอยู่ที่โรงงานอยู่แล้ว จะไปหาเจอได้ยังไง

ทว่าเสี่ยวเถียนเดินทางมาถึงแล้ว

เธอไปพบกับผู้จัดการโรงงานก่อน แล้วถึงไปหากลุ่มนักวิจัย

ในฐานะที่ซูเสี่ยวเถียนเป็นเจ้าของโรงงาน ทุกคนจึงเป็นกังวลมากว่าอีกฝ่ายจะใช้มาตรการอย่างไรหลังจากเกิดเรื่องขึ้นในโรงงาน

ไม่คิดเลยว่าเจ้าตัวจะมาดูด้วยตัวเองจริง ๆ

เดิน ๆ อยู่ครึ่งวันเสี่ยวเถียนก็ออกจากโรงงาน ตรงมาฟาร์มเพาะพันธุ์ข้าง ๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย

คนดูแลคือคู่สองสามีภรรยาลูกชายคนโตของตระกูลซู เมื่อไรที่เด็กสาวมาโรงงานจะแวะไปหาพวกเขาเสมอ

แต่ใครจะรู้เล่าว่าพอไปถึงก็ต้องตกใจ

เกิดอะไรขึ้น? ทำไมแม่ใหญ่ร้องไห้แบบนั้นล่ะ?

หรือโดนคนเขารังแก?

“เสี่ยวเถียน หนูไม่เป็นไรใช่ไหม?”

หวังเซียงฮวาเห็นหลานสาวก็วิ่งเข้าไปจับแขนเสี่ยวเถียนไว้ ก่อนถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง

“หนูไม่เป็นไรค่ะแม่ใหญ่ ยังสบายดีอยู่ค่ะ”

“ถ้ามีอะไรบอกแม่นะ แม่กับพ่อจะช่วยเอง พี่ชายก็มี”

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูคิดไว้แล้วละ แม่ใหญ่กับพ่อใหญ่ดูแลฟาร์มเหมือนเดิมก็พอนะ” เสี่ยวเถียนปลอบใจพวกเขา

“แต่คนอื่นเขาเอาสูตรอาหารเราไปแล้วนะ ไม่ใช่ว่าเป็นการจะแย่งธุรกิจเราไปหรอกหรือ?” ซูเหล่าต้าถาม

“โรงงานเราก็มีสูตรคล้าย ๆ กันอยู่ค่ะ ถึงอนาคตจะไม่เอามาผลิตแล้วก็ไม่เป็นไรค่ะ”

ที่จริงสิ่งนี้ก็สำคัญอยู่นะ หากฝ่ายนู้นทำการผลิต วางขายด้วยราคาที่ถูกกว่าย่อมส่งผลต่อพวกเธออยู่แล้ว

เสี่ยวเถียนจึงไม่ได้บอกให้ผู้ใหญ่ที่บ้านเป็นกังวล

“หนูยังมีสูตรอีกเพียบค่ะ ไว้ถึงเวลาค่อยเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์อื่นดีกว่า”

สองสามีภรรยาทอดถอนใจ

เพราะพวกเขาไว้วางใจในตัวหลานสาว

และรู้ว่าเจ้าตัวมีอนาคตไกล คงไม่มีทางยอมเสียเปรียบหรอก

และเธอก็เป็นเด็กนิสัยแบบนั้น

วันนี้เจ้าตัวไม่ได้ทำอะไรมากมาย แค่เดินสำรวจไปรอบ ๆ

แต่ก็ได้รู้ในสิ่งที่ควรรู้แล้ว

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวผู้จัดการหรือรองผู้จัดการหรอก อยู่ที่ทีมวิจัยนั่นแหละ

ก่อนหน้านี้ตนแจ้งความเห็นส่วนตัวให้ทางผู้จัดการทราบแล้ว

ด้วยความที่ไม่ได้ประจำอยู่ที่นี่บ่อยจึงต้องฝากให้คนสนิทจัดการ

เธอยืนกรานว่าเราจำต้องยุติเรื่องนี้ให้ได้

โชคดีที่ก่อนหน้านี้มีการเซ็นสัญญาไว้แล้ว เธอจึงสามารถแจ้งตำรวจได้เลย

ตอนกลับเข้าเมือง เด็กสาวจึงติดต่อตำรวจทันที

รอยยิ้มบนใบหน้าฉายชัดหลังออกมาจากสถานี

ต่อให้คนทรยศทำตัวสงบเสงี่ยมไม่แสดงความรู้สึกรู้สา แต่มันก็ยังมีหลักฐานหลงเหลืออยู่

อันที่จริง การลากตัวผู้กระทำผิดออกมา ย่อมเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับเสี่ยวเถียน

แต่เธอไม่ทำ

เพราะในเมื่อมันกล้าทำเรื่องผิดกฎหมาย งั้นก็ยกหน้าที่ให้ตำรวจเสียเลย

ตอนแรกเธอไม่คาดหวังหรอกนะว่าตำรวจจะจับได้

เธอแค่ให้ข้อมูลและเบาะแสเท่านั้น

ในเมื่อมีสิ่งนี้แล้ว การตรวจสอบก็จะง่ายขึ้น

แต่ไม่คิดเลยว่าเพียงสัปดาห์เดียวก็ได้ทราบความคืบหน้า

ผลของการสืบสวนใช้เวลาสามวัน

ปกติเรื่องพวกนี้ใช้เวลานานน่ะ

คนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากหัวหน้าสถานีตำรวจอย่างอันซวี่หมิง ผู้ได้รับการเลื่อนตำแหน่งหลังจากพวกเสี่ยวเถียนให้ความช่วยเหลือจับโจรในตอนนั้น

เพราะผลงานที่ได้ทำไว้จึงได้รับการเลื่อนขั้น ตอนนี้เขาดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้กำกับที่รับผิดชอบคดีนี้อยู่

ตอนเสี่ยวเถียนมาแจ้งความ เขาตั้งใจสืบสวนเรื่องนี้มาก

ใจเป็นกังวลคอยจับตามองตลอดทั้งวัน

เหมือนว่าคดีมีหลักฐานที่ชี้ชัดตัวคนร้ายอยู่แล้ว การสืบสวนจึงเป็นไปอย่างราบรื่น

โดยใช้เวลาแค่สามวัน

แล้วจะไม่ให้เสี่ยวเถียนตกใจได้ยังไง

ตำรวจสมัยนี้จัดการคดีเร็วขนาดนี้เลยหรือ?

พวกเขามีประสิทธิภาพว่ายุคปัจจุบันเสียอีก!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด