เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]บทที่ 647 การขายเป็นเรื่องใหญ่นะ

Now you are reading เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] Chapter บทที่ 647 การขายเป็นเรื่องใหญ่นะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 647 การขายเป็นเรื่องใหญ่นะ

บทที่ 647 การขายเป็นเรื่องใหญ่นะ

“เสี่ยวเถียน เคยคิดไหมว่าถ้าสร้างโรงงานแล้วจะขายของยังไงน่ะ?”

สำหรับหลี่ว์หรูหยา เรื่องผลิตสินค้าไม่ใช่ปัญหา แต่มันอยู่ที่การขายต่างหาก

ช่วงนี้เขาทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อเพิ่มยอดขายเลย

ระบบเศรษฐกิจแบบวางแผนก่อนหน้านี้ ตราบใดที่ผลิตตามแผนการเราขายได้อยู่แล้ว

แต่ตอนนี้มีผลิตภัณฑ์ที่ต้องทำลายทิ้งเยอะมาก แรงกดดันสำหรับเขาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

เสี่ยวเถียนบอกจะตั้งโรงงาน เขาเลยกลัวว่ายอดขายจะไม่เยอะตามเป้า

แต่เขาจะรู้ที่ไหนล่ะว่า ที่กดดันแบบนี้เพราะพนักงานขายในโรงงานเอาแต่ให้คนอื่นป้อนข้าวมาตั้งหลายปี แต่ตัวเองกลับหยิบถ้วยไม่เป็นด้วยซ้ำ

คนที่มีความคิดแบบนี้ไม่คิดเปลี่ยนก็เป็นพวกที่ไม่ได้ทำหน้าที่ตรงนั้น คงจะแปลกหากสามารถทำยอดขายให้ได้

เสี่ยวเถียนรู้สึกขอบคุณที่อีกฝ่ายเอ่ยอย่างจริงใจ

“ขอบคุณนะคะ”

จู่ ๆ ก็ได้รับคำขอบคุณกลับมา มันทำให้เขาสับสนจนต้องโบกมือ “ไว้ว่ากันทีหลังก็ได้ เสี่ยวเถียน ขายของมันยากมากเลยนะ ขนาดโรงงานเรายังมีปัญหาเลย แล้วโรงงานใหม่แบบเธอจะไหวหรือ?”

นี่คือสิ่งที่เขากังวลมาก

เด็กสาวหัวเราะ

“ผู้อำนวยการหลี่ว์ มีร้านขายของเหมือนกันอยู่ที่ตะวันตกเฉียงเหนือด้วยค่ะ ในอำเภอที่หนึ่ง ในตัวมณฑลอีกที่หนึ่งค่ะ ถึงจะขายได้ไม่ดี แต่หนูเชื่อว่าหากสร้างโรงงานขึ้นมา มันก็ยังแข่งขันกันสูงอยู่ดีค่ะ”

หลี่ว์หรูหยาอยากจะบอกเหลือเกินว่าการเปิดร้านกับโรงงานมันเหมือนกันที่ไหน

“แต่จะมีช่วงหนึ่งที่เราจะต้องทำรูปแบบการทำการตลาด ขอแค่มีตลาดมันจะขายได้แน่นอน”

นี่เป็นครั้งแรกที่เสี่ยวเถียนพูดคำว่า รูปแบบการทำการตลาด และเขาก็ได้ยินเป็นครั้งแรกด้วย

เขารู้สึกสนใจขึ้นมา

รูปแบบการทำการตลาด?

ถึงจะไม่เข้าใจว่าคืออะไร แต่ทำไมฟังดูสูงส่งจัง?

“รูปแบบการทำการตลาดหรือ?” เขาพึมพำ

“ใช่ค่ะ เราจะอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ขายได้ และในยามจำเป็นก็จะใช้วิธีโปรโมทการขายอย่างแจกของขวัญ ให้ส่วนลดอะไรแบบนี้ค่ะ ขอแค่บรรลุวัตถุประสงค์ก็พอ”

อีกหลายปีข้างหน้า การตลาดหลากหลายวิธีการจะเกิดขึ้น แต่ในยุคนี้ยังไม่มี

เสี่ยวเถียนคิดจะใช้วิธีนี้กับธุรกิจของเธอ แต่โรงงานผ้าไหมฉี่ลี่มันแค่ผลิต ไม่ใช่โรงงานขาย

แล้วก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากด้วย เพราะราคาผ้าไหมสูง ให้เป็นของของขวัญไม่ไหว

ไม่รู้ว่าอนาคตจะรวมมือได้ไหม อย่าซื้อผ้าไหมแถมไข่ฟรีอะไรแบบนี้

ความคิดนี้แวบเข้ามาในหัว

โรงงานในตอนนี้ยังก่อสร้างไม่เสร็จ คนงานก็ยังไม่ได้จ้าง ยังเร็วไปหากจะพูดเรื่องนี้

และถ้าวันนั้นมาถึงจริง ๆ ก็คงไม่สายเกินไปที่จะคุยเรื่องนี้

แต่ไหนแต่ไรมาเธอมักคิดแปลก ๆ อยู่แล้ว จึงสามารถคิดเรื่องร่วมมือกับโรงงานผ้าไหมได้

ส่วนหลี่ว์หรูหยากำลังตกอยู่ในห้วงความคิด

โปรโมทการขาย?

ให้ของขวัญ?

ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นะ แต่ทำไมรู้สึกแปลก ๆ จัง?

ขณะที่กำลังสับสน ผู้อำนวยการหลิวเข้ามาพร้อมกับใครบางคน

อีกฝ่ายเป็นชายวัยห้าสิบ เป็นคนอ้วน แต่บอกได้จากสายตาเลยว่าเฉลียวฉลาดมาก

“ผู้อำนวยการหลิว ท่านมาแล้ว!” หลี่ว์หรูหยาตอบสนอง แล้วรีบยกยิ้มก่อนยื่นมือออกไป

หลังจากจับมือ อีกฝ่ายก็แนะนำคนที่พามาด้วยให้รู้จัก

“ท่านนี้คือหัวหน้าตู้น่ะ เป็นหัวหน้าฝ่ายสินเชื่อของธนาคารสาขาที่ห้าเมืองหลวงของเรา ถ้าอยากกู้เงินต้องมาหาหัวหน้าตู้เลย”

“สวัสดีครับหัวหน้าตู้ ผมได้ยินชื่อเรียงนามมานานเลยครับ!” หลี่ว์หรูหยาเอ่ยอย่างสุภาพ

ตอนนี้หัวหน้าตู้ดูทะนงตนเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้มากขนาดนั้น

ไม่ใช่ว่าอยากทำแต่เพราะหน้าที่การงานเลยทำไปด้วยความเคยชิน

“สวัสดีครับผู้อำนวยการหลี่ว์ ผมได้ยินมาว่าคุณอยากกู้เงิน เห็นแก่หน้าตาของผู้อำนวยการหลิวผมก็เลยเดินทางมาน่ะ!”

เสี่ยวเถียนยกยิ้มบาง ๆ

“ต้องขอบคุณผู้อำนวยการหลิวจริง ๆ ครับ ผมกับเขาเป็นสหายมานานหลายปีแล้วล่ะ!”

“ผมกับเหล่าหลิวเองก็เป็นพี่น้องมาหลายปีเช่นกัน!” หัวหน้าตู้ยกนิ้ว

“เช่นนั้นพวกเราไปห้องส่วนตัวกันก่อนครับ อาหารหออีหมิงควรค่าแก่การลิ้มลองมากเลยครับ” หลี่ว์หรูหยาคอยต้อนรับอย่างอบอุ่นราวกับเป็นเจ้าของร้าน

หัวหน้าตู้ “ผมได้ยินชื่อเสียงหออีหมิงมานานแล้ว แต่ไม่มีเวลามาลองเสียที วันนี้มีโอกาสอันดีเลยนะ!”

“อาหารพิเศษของที่นี่อร่อยมากเลยครับ คุณสามารถลองดูได้นะครับ!”

หลังจากทุกคนเข้าไป เสี่ยวเถียนก็เรียกพนักงานเข้าไปทำหน้าที่เสิร์ฟชาด้านใน แล้วตามเข้าไปด้วย

หลี่ว์หรูหยาแนะนำทันทีหลังจากเธอเข้ามา “หัวหน้าตู้ครับ คนนี้คือสหายซูเสี่ยวเถียน นักแปลอาวุโสของโรงงานเรา และเป็นเจ้าของร้านหออีหมิงครับ”

หัวหน้าตู้ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมถึงต้องแนะนำให้เขาด้วย ตนจึงไม่ได้สนใจนักแล้วพยักหน้ารับเบา ๆ เป็นการทักทาย

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะหัวหน้าตู้!” รอยยิ้มที่แสดงตัวออกมาได้ไม่ถ่อมตนหรือทะนงตัว

หลี่ว์หรูหยาเห็นปฏิกิริยาแขกก็ทำได้แค่พูดต่อ

“หัวหน้าตู้ครับ วันนี้ที่ผมเชิญคุณมาที่นี่ก็เพื่อช่วยสหายเสี่ยวเถียนทำเรื่องกู้เงินครับ”

ชายวัยกลางคนตกใจมาก

อันนี้คือหลอกกันเล่นอยู่หรือเปล่า?

เด็กแค่นี้จะยืมเท่าไรกัน?

หน้าที่ของเราในตอนนี้คือ ต้องทำยอดเงินให้ได้ 150,000 หยวน

จนตอนนี้เดือนเจ็ดแล้ว ยังไม่ถึง 20,000 ด้วยซ้ำ

คราวเหล่าหลิวบอกว่ามีคนอยากกู้เงินสร้างโรงงาน เขาเลยสนใจมาก และเดินทางมาด้วยเพื่อทำงานให้ตามเป้าหมาย

แต่ตอนนี้กลับเป็นเด็กคนหนึ่งที่อยากกู้เงิน

เหมือนตกจากสวรรค์เลย

สาวน้อย เธอจบประถมหรือยัง? แล้วมาบอกจะกู้เงิน?

ถ้าจะกู้จริง ๆ จะกู้เท่าไร?

ยิ่งคิดก็ยิ่งมีสีหน้าน่าเกลียดมากขึ้น

หัวหน้าตู้ผิดหวังมาก ความรู้สึกของเหยื่ออย่างลูกค้ารายงานเพียงเอื้อมเพิ่งบินหายไป

ไม่มีทาง เสี่ยวเถียนยังเด็กเกินไป ไม่เชื่อหรอกว่าเธอจะกู้เงินจริงๆ แล้วกู้เงินก้อนโตด้วย

ส่วนเสี่ยวเถียนมองเห็นความสงสัยพวกนั้น

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *