เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้ายบทที่ 398 งานแต่ง (ตอนกลาง)

Now you are reading เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย Chapter บทที่ 398 งานแต่ง (ตอนกลาง) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 398 งานแต่ง (ตอนกลาง)

ภายในห้องเงียบไปครู่หนึ่ง คนในหมู่บ้านฟังไม่เข้าใจ ได้แต่มองกันอย่างนิ่งงัน

กลับเป็นเสียงของฮวาเซียงเซียงที่ดังออกมาจากด้านใน “แค่บทเดียวน่ะหรือ? ไม่พอ ๆ!”

เผยยวนรู้อยู่แล้วว่าไม่ได้ง่ายดายเพียงนั้น จึงท่องกลอนออกมาอีกสองบท เผยจี้ฉือก็ร้อนใจเช่นกัน

เจ้าหน้าที่ท่านนั้นของกรมพิธีการเห็นว่าน่าจะเพียงพอแล้ว จึงเอ่ยออกมา “โจรมาต้องตี แขกมาต้องมอง ขอน้องสะใภ้ ออกมาดูด้วย!”

ฮวาเซียงเซียงก็เป็นคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ จึงหันหน้าไปมององค์หญิงใหญ่ “หมายความว่าอย่างไรหรือเจ้าคะ?”

“หลอกให้พวกเจ้าเปิดประตูออกไปอย่างไรเล่า” นางให้ฮวาเซียงเซียงก้าวไปข้างหน้า สอนนางประโยคหนึ่งเพื่อให้นางไปหลอกเอาอั่งเปามา

คนนอกได้ยินแค่เสียงของสตรีที่อยู่ในห้องดังขึ้นมา “ไม่ทราบว่าเป็นแขกมาจากที่ใด ถึงได้มาหยุดอยู่ที่ประตูนี้?”

“อันนี้ข้าถนัด ข้าเอง ๆ!” อย่างไรเสียวันนี้เซียวเย่เจ๋อก็มาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้เผยยวน เมื่อก่อนก็เคยรับเกี้ยวเจ้าสาวแทนพี่น้องในตระกูล จะไม่รู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไรกัน

เขากระแอมเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไป “ข้าเป็นบุรุษเมืองเอี่ยนเฉิง (บ้านเดิมของบรรพบุรุษเผยยวน) มาเพื่อเยี่ยมเยียน พูดคุยเรื่องความเจริญรุ่งเรือง น้องสะใภ้ ตอนนี้ไม่ทราบว่าเป็นเช่นไรบ้าง? หากว่าอารมณ์ดี ให้พวกเราเข้าไปดื่มชาสักอึกได้หรือไม่?”

ฮวาเซียงเซียงได้ยินเสียงก็รู้ว่าเป็นเซียวเย่เจ๋อ “มีเรื่องอันใดได้โปรดรีบกล่าวมา ขออย่าได้ชักช้า!”

“ได้ยินคำชม จึงรีบมาพบหน้า สาวงามที่แสนดีเอ๋ย เจ้าเป็นที่หมายปองของชายหนุ่ม พวกเราจึงได้มารับหญิงงามผู้นั้น”

เอ่ยจบ เซียวเย่เจ๋อก็รีบยัดอั่งเปาปึกใหญ่ให้กับว่าที่ภรรยาของเขาผ่านทางช่องประตู เพื่อให้คนข้างในเอาไปแบ่งกัน

เซี่ยวั่งซูจึงเอ่ยเสียงดังขึ้นมา “แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ยืนหน้าประตูเสียนาน ทั้งยังถูกสอบถาม เสียดายเวลาหรือไม่?”

“นางเป็นคนเก่งที่งามพร้อม ฉลาดปราดเปรื่อง เหตุใดต้องเสียดายเวลาด้วย”

คราวนี้องค์หญิงใหญ่จึงได้พอใจ นับว่าพวกเขาปากหวานไม่น้อย “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ขอเชิญท่านเข้ามาด้านใน ค่อย ๆ ปรึกษาหารือกันเถิด!”

เอ่ยจบ ก็ให้พวกฮวาเซียงเซียงไปเปิดประตู

ประตูห้องโถงถูกเปิดออก เผยยวนเป็นคนแรกที่เข้ามา เขาคิดว่าจะได้พบจี้จือฮวนแล้ว แต่ใครจะไปคิดว่าประตูห้องของนางกลับปิดแน่น อีกทั้งถูลี่ยังได้พายอดฝีมือหลายคนของถู่เจียมาอยู่ในห้องด้วย เวลานี้เพิ่งจะปรากฏตัวให้เห็น เผยยวนมองกองทัพทหารเกราะเหล็กที่ยกเป็นสินเดิมให้จี้จือฮวนแล้ว ตามหลักเขาทำได้เพียงต้องต่อสู้เพียงลำพัง

น่าเสียดายที่กองทัพทหารเกราะเหล็กต้องไปเข้าข้างคนอื่น เพราะที่ผ่านมาพวกเขาต่างก็เข้าข้างท่านแม่ทัพของตัวเอง

เมื่อเห็นประตูห้องโถงเปิดออกแล้ว มีเพียงประตูไม้บานหนึ่งขวางกั้นไว้เท่านั้น พวกเขาจึงตะโกนโดยพร้อมเพรียงกัน “เจ้าสาว! ออกมาเถอะขอรับ! เจ้าสาว! ออกมาเถอะขอรับ!”

เสียงเอ่ยเร่งที่ดังลั่นเช่นนี้ จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าพื้นดินสั่นสะเทือนขึ้นมา ดังจนคนหูอื้อไปหมด

ท่านป้าหยางยกเหล้าจอกหนึ่งมา ฮวาเซียงเซียงรับเอาไว้แล้วเอ่ยกับเผยยวนว่า “บทกลอนเหล่านั้นข้าจำไม่ได้แล้ว แต่หลังจากนี้พี่น้องของข้าจะเป็นภรรยาของเจ้า ดังนั้นเจ้าต้องดีกับนางไปชั่วชีวิต ดื่มเหล้าจอกนี้แล้ว ข้าจะไปเชิญเจ้าสาวออกมาให้เจ้า”

เผยยวนย่อมรับปากอย่างหนักแน่น อย่าว่าแต่เหล้าหนึ่งจอกเลย ต่อให้เขาต้องดื่มจนหมดไหก็ยังได้

เมื่อเขาเงยหน้าและดื่มเหล้าลงไปแล้ว ประตูห้องด้านในจึงเปิดออก จี้จือฮวนที่สวมชุดแต่งงานสีแดงสด ศีรษะประดับด้วยมงกุฎหงส์ มือถือพัดทรงกลม ดวงตาคู่งามคู่นั้นกำลังมองมาที่เขา เผยยวนมองนางจนใจเต้นแรง ไม่อาจละสายตาไปได้ชั่วขณะ

เจ้าหน้าที่กรมพิธีการเองก็เป็นครั้งแรกที่เห็นเจ้าสาวที่งดงามเพียงนี้ จึงรีบตะโกนขึ้นมา “เริ่มพิธีได้!”

ม่านปักของห้องโถงใหญ่ถูกนำออก อาชิงและอาอินถูกอุ้มเข้าไป พลางวิ่งดุกดิกไปย้ายอานม้าและเบาะรองนั่งตามคำแนะนำของผู้ใหญ่

จี้จือฮวนนั่งหันหน้าไปทางทิศใต้ตามกฎ ข้างหลังนางคือเซียวเย่เจ๋อ ฮวาเซียงเซียง และพวกไป๋จิ่นที่ยืนเรียงเป็นแถว ในมือถือผ้าสีแดงรอให้เผยยวนโยนห่านป่าจากอีกด้านหนึ่งของม่านกั้นมา

ขั้นตอนนี้สำคัญอย่างมาก ฮวาเซียงเซียงจับผ้าสีแดงเอาไว้อย่างประหม่า “เจ้ามองให้ดี ๆ ล่ะ อย่าให้ห่านนั่นบินหนีไปได้”

“อย่าปากเสีย ไม่มีทางอยู่แล้ว!” เซียวเย่เจ๋อส่งเสียงสูดปากหนึ่งที

เยว่พั่วหลัวตื่นเต้นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยกับไป๋จิ่น “นี่เป็นห่านที่ข้าเลือกมาจากหนึ่งหมื่นคู่ เจ้าต้องอุ้มให้ดี ๆ ล่ะ”

ไป๋จิ่นกำลังจะต่อว่าว่านางพูดมากเกินไปแล้ว เผยยวนก็โยนห่านมาพอดี

ทั้งสองคู่ต่างแย่งกันรับ ทว่าสุดท้ายกลับถูกเผยเสี่ยวเตาแย่งไปเสียก่อน นางรวบปีกและกดเอาไว้เรียบร้อย จากนั้นก็ใช้ผ้าไหมหลากสีมัดปากห่านเอาไว้ รอถึงจวนหย่งกวานโหวก็ค่อยให้พวกเขามาไถ่ห่านตัวนี้ไป

หลังจากพิธีโยนห่านก็เป็นการเอาพัดที่ปิดหน้าลงและยกม่านกั้นออก เผยยวนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงดังออกมา “ม่านงดงามปิดบังแน่นหนา ชุดงดงามส่งกลิ่นหอมหวน เจรจากับสาวใช้นางบอกว่าไปได้แล้ว”

เมื่อได้ยินเสียงร้อนรนของเผยยวน ทันใดนั้นทั้งห้องโถงก็โห่ร้องกันขึ้นมา เพราะเสียงโห่ร้องด้านนอกจึงทำให้จี้จือฮวนว้าวุ่นใจเช่นกัน

ม่านกั้นถูกยกออกไป เจ้าหน้าที่กรมพิธีก็นำห่านป่าอีกตัวมาใส่ไว้ในมือของเผยยวน ตามประเพณีงานแต่ง ฝ่ายที่มาขอแต่งงานควรหันหน้าไปทางทิศเหนือในตำแหน่งที่ต่ำกว่า ก่อนจะคุกเข่าอยู่ข้าง ๆ จี้จือฮวน และวางห่านไว้ข้าง ๆ นาง แทนความหมายว่าต่อไปสามีภรรยาจะปรองดองกัน เขาจะทะนุถนอมเจ้าสาวให้ดีที่สุดบราวนี่ออนไลน์

จี้จือฮวนได้กลิ่นที่คุ้นเคยบนตัวเขา เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็สบกับดวงตาที่แฝงรอยยิ้มของเผยยวน ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเกลื่อนไปด้วยความสุข ใบหน้าของนางสะท้อนให้เห็นจากดวงตาของเขา

“เจ้าสาวต้องเอาพัดลงแล้ว!”

มุมปากของจี้จือฮวนแฝงไว้ด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเอาพัดทรงกลมตรงหน้าลงอย่างช้า ๆ ทุกคนต่างจับจ้องนางไม่วางตา และพบว่านางในเวลานี้ช่างงดงามหยาดเยิ้มยิ่งนัก ทั้งสายตาและหัวใจล้วนเต็มไปด้วยเผยยวน ช่างเหมาะสมกันจริง ๆ ทำให้คนรู้สึกอิจฉาเป็นอย่างมาก หากว่าพวกเขามีลูก ไม่รู้ว่าจะมีหน้าตางดงามเพียงใด

เผยยวนอาศัยตอนที่ทุกคนกำลังอึ้งกันอยู่ รีบอุ้มนางขึ้นมาทันที จี้จือฮวนร้องออกมาเบา ๆ ก่อนจะโอบรอบคอของเขาเอาไว้แน่น และได้ยินเขาพูดราวกับกระซิบว่า “น้องหญิง พวกเรากลับบ้านกันเถอะ”

ถูลี่จึงตะโกนขึ้นมาทันที “เหตุใดถึงมาแย่งงานของข้าด้วยเล่า?”

การส่งเจ้าสาวขึ้นเกี้ยว ถือเป็นหน้าที่ของพี่ชายเจ้าสาว

เผยยวนเลิกคิ้วขึ้น “ภรรยาข้า ข้าย่อมต้องเป็นคนอุ้มสิ”

เขาไม่กล้าบอกว่าถึงแม้จะเป็นถูลี่เขาก็อดที่จะหึงไม่ได้

เมื่อเห็นเผยยวนอุ้มเจ้าสาวออกมา เหล่าทหารของกองทัพทหารเกราะเหล็กต่างก็รีบเปิดทางให้

ยาวจนไปถึงหน้าห้องโถงที่ใช้จัดงานแต่งในหมู่บ้านเลยทีเดียว

พ่อแม่ของพวกเขาต่างก็ไม่อยู่แล้ว จึงให้ไท่ซ่างหวงช่วยเป็นสักขีพยานให้พวกเขาแทน

นับจากนี้ไปพวกเขาก็เป็นสามีภรรยากันจริง ๆ แล้ว โดยมีญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงทุกคนเป็นสักขีพยาน ขณะผ่านพิธีการอันศักดิ์สิทธิ์นี้

ภายในลานเล็ก ๆ ใกล้กับศาลบรรพชน มีเสียงเป่าแตรและตีกลองดังมาจากข้างนอกอย่างต่อเนื่อง เซี่ยฉงฟางกลอกตาไปมา พลางส่งเสียงอึกอักไม่เป็นภาษา จื่อเยว่ก้มหน้าลง “ท่านหญิง จะดื่มน้ำหรือไม่เจ้าคะ?”

เซี่ยฉงฟางอยากส่ายหน้าแต่กลับขยับไม่ได้ ความจริงแล้วนางอยากจะถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

เมื่อคืนนี้มีคนเอายาเม็ดหนึ่งมายัดใส่ปากนาง สติของนางในวันนี้จึงฟื้นคืนมาเล็กน้อย ไม่ได้ง่วงเหงาหาวนอนเหมือนเช่นเคย

จื่อเยว่เห็นนางมองไปด้านนอกตลอดเวลา จึงเอ่ยด้วยความขมขื่น “วันนี้เป็นวันแต่งงานของนายน้อย เขามาสู่ขอจี้จือฮวนเจ้าค่ะ”

เซี่ยฉงฟางดวงตาเบิกโพลง อ้าปากกว้าง “อ๊ากกกกก!”

น้ำลายไหลลงมาตามมุมปาก เซี่ยฉงฟางคว้าจื่อเยว่เอาไว้อย่างสุดแรง จื่อเยว่เข้าใจนางดี จึงย้ายนางลงมาจากเตียง ก่อนจะลากนางไปที่ประตู เพื่อให้นางมองตามร่องของประตูออกไป

บ่าวสาวกำลังกราบไหว้ฟ้าดิน พวกเขาสวมชุดสีแดงบาดตานางยิ่งนัก

นิ้วของนางจับประตูเอาไว้แน่น เผยเกอ เผยเกอ เจ้าแต่งงานกับเซี่ยชิงหรูได้อย่างไรกัน?

ข้าต่างหากเป็นภรรยาของเจ้า ข้าต่างหาก!

ภายใต้แสงอาทิตย์ ใบหน้าที่งดงามของหญิงสาวราวกับภาพวาดที่งดงามที่สุดบนโลกใบนี้ สงบและอ่อนโยนเพียงนั้น ไม่ใช่เซี่ยชิงหรูแล้วจะเป็นใครไปได้

.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด