เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้ายบทที่ 625 ขอบคุณที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า
บทที่ 625 ขอบคุณที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า
…………….
คุกใต้ดินของกรมอาญา
จากการพิจารณาคดีมากมาย ทุกคนที่สมรู้ร่วมคิดกับเจ้าหน้าที่ ทำร้ายประชาชน ปกป้องลูกของตัวเอง ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปลอมแปลงประวัติการศึกษาต่างก็ถูกนำตัวเข้ามา
ทุกคนต่างก็คิดไม่ถึงว่านี่จะเป็นคดีที่เด็กผู้หญิงสองคนตั้งใจทำเพื่อเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่ง
คนเหล่านั้นยังคงไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดพวกเขาถึงเดือดร้อนได้ การหลอกลวงเบื้องสูงและรังแกประชาชนพวกเขาต่างก็ทำมาหลายปีแล้ว ทว่าก็ไม่เคยมีปัญหาใด ๆ
“นี่ ๆ ๆ จัดการพวกเขาให้เรียบร้อย คนที่ต้องสอบสวนก็ให้สอบสวนไป คนที่สมควรฆ่าก็ฆ่าซะ เดือนหน้าฮ่องเต้และฮองเฮาจะอภิเษกแล้ว จะมีการลดโทษให้ทั้งใต้หล้า แต่อย่างไรเสียเบื้องบนเป็นคนส่งพวกเขามาเอง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีสิทธิ์ได้รับการอภัยโทษ”
คนเหล่านั้นได้ยินก็โมโหขึ้นมา “เรื่องอะไรกัน! พวกเจ้าไม่ใช่ฮ่องเต้สักหน่อย!”
หัวหน้าผู้คุมหัวเราะเยาะ “ใช่ พวกเราไม่ใช่ฮ่องเต้ก็จริง แต่พวกเจ้ากลับกล้าทุบตีน้องสาวของฮ่องเต้ ด่าฮ่องเต้ว่าไม่มีครอบครัวสั่งสอน บอกว่าพระชายาเนี่ยเจิ้งอ๋องไม่สั่งสอนลูก บอกว่าเนี่ยเจิ้งอ๋องตายแล้ว สาปแช่งไท่ซ่างหวงและองค์หญิงใหญ่ทั้งครอบครัวให้ตายให้หมด ข้อหาเหล่านี้ยังไม่พอให้สอบสวนพวกเจ้าอีกอย่างนั้นหรือ?”
ทุกคนต่างก็ตกตะลึง จากนั้นไม่นานพวกเขาก็ได้สติขึ้นมา ชื่อของเด็กคนนั้นช่างคุ้นหูมากจริง ๆ!
เป็นแก้วตาดวงใจของเนี่ยเจิ้งอ๋อง เด็กที่เป็นที่โปรดปรานที่สุดในแผ่นดิน ตอนสามขวบก็สามารถเอาตราแผ่นดินมาเล่นในท้องพระโรงได้แล้ว!
หมดกัน คราวนี้ซวยจริง ๆ แล้ว!
…
พูดถึงวันอภิเษกของฮ่องเต้และฮองเฮา ราษฎรทั้งเมืองหลวงต่างก็ออกมาร่วมเฉลิมฉลองกัน ลูกสาวตระกูลเสิ่นได้เป็นฮองเฮาอีกครั้ง และแต่งงานกับฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ว่ากันว่าทั้งสองคนเป็นสหายร่วมศึกษามาตั้งแต่เด็ก รู้จักกันตั้งแต่ตอนน้ำท่วมที่หลูโจว หญิงสาวตระกูลเสิ่นมีความรู้กว้างขวาง และมีความสามารถรอบด้าน หลายปีมานี้ทำเพื่อประชาชนมากมาย จึงมีชื่อเสียงอย่างมากในหมู่ราษฎร
วันอภิเษกทุกแคว้นต่างก็มาที่ราชสำนัก ไท่ซ่างหวงเป็นประธานในงาน องค์หญิงใหญ่อู๋ซวงหวีผมให้เจ้าสาวตระกูลเสิ่นด้วยพระองค์เอง เนี่ยเจิ้งอ๋องและพระชายาก็ไปรับเจ้าสาวด้วยตัวเอง
สินสอดที่ยาวนับสิบลี้ ทอดยาวไปตลอดทาง ผู้คนยืนเรียงรายตามถนนเพื่อแสดงความยินดี หลังจากที่เสิ่นเยี่ยนชิวกับเซี่ยฉือลงนามในหนังสืออภิเษกสมรสโดยมีเหล่าขุนนางเป็นพยานแล้ว ก็นับว่าพิธีได้เสร็จสิ้นลงอย่างสมบูรณ์
คืนอภิเษกของฮ่องเต้และฮองเฮาย่อมต้องมีการคุ้มกันแน่นหนา
เพื่อป้องกันคนมาปลุกห้องเจ้าสาว ภายในและภายนอกตำหนักเจียวฝางล้วนมีคนเฝ้าอยู่ทุกจุด
เซี่ยห่วงเมื่อปีก่อนเพิ่งแต่งพระชายาไป โดยเป็นสตรีที่มีความสามารถมาก ทุกวันจึงสามารถสรรหาวิธีบังคับให้เขาท่องตำรา เพราะตั้งแต่อดีตเซียวเหยาอ๋องคนใดบ้างที่ไม่ใช่คนที่มีความรู้โดดเด่น เชี่ยวชาญการกิน ดื่ม เที่ยวเล่นสนุกสนาน และชอบเขียนอักษรพู่กัน เก่งเรื่องการชงชา เชี่ยวชาญชู่จวี* ชำนาญการท่องและแต่งบทกวี
นี่ไม่เรียกว่าเซียวเหยา**แล้ว นี่ต้องเรียกว่าเก่งรอบด้านต่างหาก
* ชู่จวี (蹴鞠) หมายถึง กีฬาที่คล้ายกับฟุตบอล
** เซียวเหยา (逍遥) หมายถึง อิสระ
เรื่องนี้ทำให้เซี่ยห่วงหดหู่อย่างมาก ดังนั้นเขาจึงรอมาปลุกห้องเจ้าสาวเพื่อหาเรื่องสนุกทำ
ทะลุมิติไปเป็นแม่ลูกสามผู้มั่งคั่ง By ไหหม่า
แต่ละคนจึงโผล่หัวเล็ก ๆ ออกมาเรียงกันเป็นแถว แต่เมื่อพวกเขาเห็นองครักษ์ที่ยืนอยู่มากมายทั้งด้านในและด้านนอก ต่างก็กลอกตามองบน
EnjoyBook
“พี่ใหญ่เจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว ข้าแค่อยากจะเห็นหน้าพี่สะใภ้ก็เท่านั้น”
“ก็ใช่น่ะสิ ข้าแค่อยากลูบมงกุฎหงส์ดูบ้างก็เท่านั้น”
“ใช่ ข้าก็แค่อยากจะหอมพี่สะใภ้เท่านั้นเอง”
ทุกคนต่างก็มองไปยังคนสุดท้ายที่กล้าพูดเช่นนั้นออกมา
อ้อ เป็นเสี่ยวเกอเอ๋อร์นี่เอง เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร
ตอนนั้นเองพวกเขาก็เห็นอาฉือเดินกลับมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินเข้าไปยังมีท่าทางลังเลเล็กน้อย
เมื่อเห็นประตูปิดลง ในหัวของทุกคนก็เริ่มจินตนาการขึ้นมา พวกเขาต่างก็มองไปที่คนรักของตัวเอง จากนั้นก็ก้มหัวลงอย่างเงียบ ๆ
ฮั่วจิ่วเซียวปิดตานายน้อยของตัวเองอย่างเงียบ ๆ แล้วอุ้มนางจากไปทันที
…
อีกด้านหนึ่ง อาชิงก็ถูมือไปมาแล้วจูงหย่งหนิงไปทางอุทยานอย่างรวดเร็ว
แต่หย่งหนิงสวมชุดในวัง เครื่องประดับบนศีรษะก็เยอะมาก เขาเห็นนางเดินช้าจึงหมุนตัวกลับไปแล้วอุ้มนางขึ้นมาแทน หย่งหนิงใบหน้าแดงเรื่อและกอดคอเขาเอาไว้ “เจ้า…เจ้าทำเช่นนี้ไม่รู้จักกาลเทศะเอาเสียเลย”
อาชิงเลิกคิ้ว “ข้าก็คือกาลเทศะ มีข้าอยู่ยังจะต้องการกาลเทศะอะไรอีก แค่มีข้าก็พอแล้ว”
หย่งหนิงกำลังจะต่อว่าเขาว่าเพ้อเจ้อ อาชิงกลับแตะปลายเท้าพานางกระโดดขึ้นเรือลำน้อยไปเรียบร้อยแล้ว
สระน้ำในอุทยานเมื่อก่อนจะมีนางสนมพายเรือลำเล็กเพื่อพาชมทิวทัศน์รอบ ๆ ทะเลสาบ แต่หลังจากที่อาฉือขึ้นครองบัลลังก์ นางสนมเหล่านั้นก็กลายเป็นไท่เฟย*** หลังจากเซี่ยเจินหิวตายอยู่ในตำหนักเย็น ทั้งหมดก็ตามไปใช้ชีวิตยามแก่ที่สุสานหลวงแล้ว
*** ไท่เฟย (太妃) หมายถึง สนมของอดีตราชา
ตอนนี้เรือเหล่านี้จึงมีแต่ขันทีที่มาใช้เก็บจอกแหนในสระ
อย่างไรเสียก็ไม่มีผู้ใดอยู่แล้ว ดังนั้นการเอามาใช้ให้เขาได้อยู่ใกล้ว่าที่ภรรยามากขึ้น จึงเป็นการดีที่สุด
หย่งหนิงรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เบิกตากว้างมองซ้ายทีขวาที
อาชิงพายเรือพานางไปที่ใจกลางทะเลสาบ
วันนี้พระจันทร์เต็มดวง คนก็พร้อมหน้าพร้อมตา ดอกไม้ไฟจำนวนมากต่างก็ถูกจุดเพื่อเฉลิมฉลองในงานราชาภิเษกของฮ่องเต้และฮองเฮา ดอกไม้ไฟที่งดงามบนท้องฟ้าเกิดเป็นภาพที่ทำให้คนดูต่างก็ประทับใจ
สายตาของหย่งหนิงเวลานี้จึงเต็มไปด้วยความสุข
อาชิงรวบรวมความกล้า ขยับนิ้วเข้าหานางเล็กน้อย จากนั้นก็เกี่ยวมือของนางเอาไว้
หย่งหนิงก็รู้สึกเช่นเดียวกัน นางก้มหน้าลงแล้วยิ้มพร้อมใบหน้าแดงก่ำ ไม่กล้ามองอีกฝ่าย
“หย่งหนิง”
“อืม”
หย่งหนิงกัดริมฝีปาก อยากจะชักมือออกแต่กลับสู้แรงเขาไม่ได้ นางจึงพูดอย่างตำหนิออกมา “ปล่อยมือข้านะ”
“ไม่”
ตกอยู่ในมือเขาแล้ว เหตุใดต้องปล่อยด้วยเล่า
“ใครเขาสู่ขอกันง่าย ๆ เช่นเจ้าเล่า” นางพึมพำออกมา
“ใครบอกว่าง่ายกัน ข้าได้เตรียมของแทนใจเอาไว้แล้ว”
อาชิงล้วงเข้าไปในอกเสื้อ จากนั้นก็หยิบงูที่เป็นสีขาวและอมชมพูเล็กน้อย บนลำตัวของมันยังมีลวดลายรูปหัวใจดวงเล็กน่ารักประดับอยู่
บนหัวยังผูกเชือกสีแดงเป็นหูกระต่ายอันใหญ่เอาไว้อีกด้วย
“นี่คืองูที่สวยที่สุดในบรรดางูหลายหมื่นตัวที่ข้าเลี้ยงมา ชื่อของมันก็คือ เสี่ยวหนิง”
หลายปีมานี้หย่งหนิงก็เริ่มชินกับงูของเขาแล้ว และงูเหล่านี้ก็ไม่มีทางทำร้ายนางอย่างแน่นอน
แต่เมื่อเห็นงูตัวนี้ผูกหูกระต่ายเอาไว้ด้วย ก็รู้สึกขบขันขึ้นมา
ทันทีที่อาชิงดีดนิ้ว กล่องยาน้อยที่เขาเอามาด้วยก็เปิดออก กลีบดอกไม้จำนวนมากก็ถูกโปรยลงมาจากท้องฟ้าโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย~
อาชิงค่อย ๆ โน้มตัวเข้ามาใกล้ เสียงหัวใจเต้นดังขึ้น
หย่งหนิงก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน อดไม่ได้ที่จะคว้าสาบเสื้อของอาชิงเอาไว้ แล้วหลับตาลงช้า ๆ
จากนั้นกล่องยาน้อยก็ร้องเพลงขึ้นมาเบา ๆ “วันนี้เป็นวันดี~ ทุกสิ่งที่คิดจะเป็นจริงได้!”
หย่งหนิง “!?”
สาวน้อยเพิ่งจะลืมตาขึ้นเตรียมที่จะต่อว่ากล่องยาน้อย ว่าอย่าทำลายบรรยากาศ
ทว่าใบหน้าของนางพลันถูกอาชิงประคองเอาไว้แล้ว
อาชิงจูบลงไป ไม่ว่าวันนี้จะเป็นวันดีหรือไม่ ภรรยาย่อมสำคัญกว่า
บนทะเลสาบ เงาคนทั้งคู่สะท้อนอยู่บนผิวน้ำ แม้ว่าเพลงประกอบจะทำลายบรรยากาศไปบ้างก็ตาม
และทางเดินที่ไม่ไกลนัก
ขายาว ๆ ของอาอินก็เหยียดออกไปกักขังคนผู้หนึ่งเข้ากับผนัง
นางเอามือทั้งสองข้างกอดอก จ้องมองเซียวเซวียนจิ่นด้วยสายตาดุดัน
ชายหนุ่มมองดูรองเท้าของนางที่อยู่ระดับเดียวกับใบหน้า จากนั้นก็มองหญิงสาวที่จ้องมองมาที่เขา ก่อนจะยอมรับความผิดแต่โดยดี “วันนี้ข้ามาช้า พรุ่งนี้ต้องเร็วกว่าวันนี้แน่นอน”
อาอินแค่นเสียงเย็น “มาเร็วทำไมกัน”
เซียวเซวียนจิ่นโน้มตัวเข้ามาใกล้ “เพื่อเอาขนมมาส่งให้คุณหนูของพวกเรา”
“ใคร…ใครเป็นคุณหนูของท่านกัน” สายตาของอาอินกวาดมองไปรอบ ๆ
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็โยนป้ายคำสั่งในมือให้เขา “เอานี่ไป รอข้าไปรบจนสร้างชื่อเสียงและได้รับตำแหน่งแล้ว ข้าจะไปสู่ขอท่านกับครอบครัว”
เซียวเซวียนจิ่นมองท่าทางหยิ่งทะนงของนาง ก็เก็บป้ายคำสั่งอย่างดี “อ่อ ได้ เช่นนั้นข้าจะรอนะ”
อาอินใบหน้าแดงก่ำ “รับรู้ไว้ก็พอ ไม่ต้องพูดออกมา!”
…
บนท้องฟ้าพระจันทร์เต็มดวง จี้จือฮวนยืนพิงอยู่ในอ้อมแขนของเผยยวน มองดูท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวและดอกไม้ไฟที่ส่องสว่างไม่ขาดสาย
“เวลาผ่านไปเร็วยิ่งนัก เพียงพริบตาเด็ก ๆ ก็จะแต่งงานกันหมดแล้ว”
“โชคดีที่ข้ามีเจ้าอยู่ข้างกายมาตลอด”
เผยยวนกับนางสบตากันพร้อมรอยยิ้ม
ขอบคุณที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า มอบความรักที่ยิ่งใหญ่ให้ข้า จนข้าไม่ต้องอิจฉาใครอีกแล้ว
.
.
จบบริบูรณ์
…………….
Comments