เจี้ยนกู่ เซียนกระบี่สยบหล้า 294 ปีศาจน้อย (3)(1)

Now you are reading เจี้ยนกู่ เซียนกระบี่สยบหล้า Chapter 294 ปีศาจน้อย (3)(1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 294 ปีศาจน้อย (3)(1)

‘หากเจ้าจะออกจากต้าสุย ข้าช่วยได้ ส่งเจ้าไปใต้ฟ้าเผ่าปีศาจได้’

นี่คือคำรับปากของคุณชายหยวนฉุน

คุณชายหยวนฉุนเป็นคนใหญ่คนโตที่มีฐานะสูงสุดในแดนอุดร

คำพูดเชื่อถือได้ พูดคำไหนคำนั้น

ข้ามองไปทางเหนือตามนิ้วของคุณชายหยวนฉุน

สุดทางแดนอุดรเผ่ามนุษย์เป็นมหาสมุทรลอยอยู่ ดวงดาราเปล่งแสงลงมาจากฟ้า ไม่ดับหายไป

นั่นคือใต้ฟ้าเผ่าปีศาจ

เจียหลัวเคยบอกข้าว่าสักวันข้าจะออกจากต้าสุย จะไปในที่ที่ดีกว่า ปีศาจอายุยืนมาก ข้าออกจากประตูหยกได้ ไปมหาสมุทรสุดทางเหนือได้

ข้าใช้เวลาไปร้อยปี ในที่สุดก็มาถึงที่นี่

ข้าเห็นกำแพงเมืองใหญ่ที่จักรพรรดิสร้างไว้ในแดนอุดรกับตา ขวางไว้กลางเส้นขอบฟ้า ด้วยพลังบำเพ็ญและตบะของข้า ชีวิตนี้คงไม่มีหวังข้ามกำแพงสูงนั่น

คำพูดนี้ของคุณชายหยวนฉุนทำให้ข้าเกิดความไม่แน่ใจไปพริบตาหนึ่ง

เจียหลัวบอกข้าให้ลืมความแค้นและความเศร้า

หากข้าลืมความแค้น ข้าก็จะไม่ตามหาต้นตอของความเจ็บปวดทุกอย่าง…ประตูหยก พายุทราย และยังมีจิ้งจอกสวรรค์ที่ให้เลือดปีศาจกับข้าเพื่อเปิดจิตวิญญาณให้ข้า แต่ตอนนี้ยังถูกกรมปราบปีศาจขังไว้ใต้ดิน…อีกไม่นานข้าจะลืมทุกอย่าง มันจะลอยไปกับสายลม

หากข้าลืมความเศร้า เช่นนั้นขอแค่ข้าพยักหน้ากับคุณชายชราท่านนี้

ข้าก็จะกลับบ้านเกิดของปีศาจได้…

เพียงแต่ที่นั่นคือบ้านเกิดของข้าจริงๆ หรือ

ข้าเป็นเพียงปีศาจน้อย เกิดที่ประตูหยก เจียหลัวให้เลือดข้า เปิดจิตวิญญาณข้า ข้าจะพาเขาออกไป

กาลเวลาร้อยปีมานี้ผ่านไปเหมือนฝัน แม้จะฝึกบำเพ็ญแต่ก็ยังต่ำเตี้ย อยู่ตรงหน้าคุณชายชราคนนี้ ข้าพลันนึกถึงเรื่องหนึ่ง

ปีศาจมีอายุขัยยืนยาวมาก นี่ไม่ใช่เรื่องดี

ข้าลืมหน้าตาของเจียหลัวแล้ว

ข้าเคยท่องภูลำธารมหาสมุทร เคยผ่านกลางภูเขาขวักไขว่ ข้าจำใบหน้าทุกคนที่เดินผ่านได้ แต่ตอนนี้ข้ากลับลืมใบหน้ามีรอยยิ้มตอนที่กำเนิดลืมตาตื่นขึ้นเสียแล้ว

คนมีเจ็ดอารมณ์หกความปรารถนา ปีศาจก็มีเช่นกัน

หากเจียหลัวบอกข้าว่าต้องลืมอะไรพวกนี้ เช่นนั้นเขาทำได้อย่างไร

ข้าอ่านตำราโบราณในโลก ได้รู้จักคำว่าชอบ คำว่ามีใจ คำว่าคิดถึง ที่ข้าสังหารนักพรตเต๋าน้อยที่เทือกเขาประจิมได้…ก็เพราะเขามีใจ

คนที่มีใจมักจะทำเรื่องโง่เขลา

อย่างเช่นข้าจะพาราชันปีศาจออกจากทะเลทรายประตูหยก

คุณชายหยวนฉุนไม่ได้หัวเราะข้า เขาให้กระดาษภาพค่ายกลประตูหยกของกรมปราบปีศาจกับข้า และชี้เส้นทางกลับไปให้ข้า

คุณชายชราบอกว่าของขวัญที่เจียหลัวให้ข้าไม่ใช่สติปัญญา

หากรู้บทสรุป ข้าจะเสียใจรึ

ความจริงในใจข้าก็เคยคิดถึงบทสรุปที่เลวร้ายที่สุดแล้ว…รักคนคนหนึ่ง แต่ไม่ได้ความรักตอบ บทสรุปนี้น่าเศร้ามากหรือไม่ ตอนนักพรตเต๋านั่นตายก็ไม่เสียใจ เขากรีดอกควักหัวใจออกมา ตอนที่ตบะสลายหายไป ใบหน้ายังเต็มไปด้วยรอยยิ้มอยู่เลย

ไม่ว่าบทสรุปจะเป็นอย่างไร ข้าก็จะไม่เสียใจ

……

โลกนี้มีอะไรหลายอย่างที่ไม่ต้องการเหตุผล ไม่ต้องการอิสระ

ก็เหมือนคืนนั้น ข้ายืนบนยอดเขารกร้าง ในความคิดสับสนไปหมด สุดท้ายก็ละสายตาจากทะเลพลิกผัน

ข้าส่ายหน้าให้คุณชายชรา

นี่คือการปฏิเสธ

คุณชายหยวนฉุนพูดอีกครั้ง ‘ผ่านคืนนี้ไป ถ้าเจ้าจะออกจากต้าสุยก็มีความเป็นไปได้เดียว…คือฝ่ากำแพงเมืองแดนอุดรที่เผยหมินรักษาการณ์อยู่ออกไป’

นั่นไม่มีทางออกไปได้เลยไม่ใช่รึ

ข้ายิ้ม และก็ยังส่ายหน้า

คุณชายชรานิ่งเงียบไปชั่วครู่ ‘ต่อให้ราชันปีศาจเจียหลัวจะฝึกจนมีเก้าหางเก้าเพลิง ก็ไม่มีทางสู้เผยหมินได้…ต่อให้เจ้าช่วยเขาออกมา ก็ไม่มีทางออกจากต้าสุยได้’

ข้าพูดเสียงเบา ‘คุณชาย ข้ารู้’

ครั้งนี้คุณชายชราเงียบไปนานมาก เขาเป็นราชครูต้าสุย ชำนาญทุกอย่างในโลกนี้ เข้าใจทุกอย่าง แต่ครั้งนี้…เขาเหมือนจะเจอเรื่องที่ทำความเข้าใจไม่ได้

ข้าปฏิเสธเขา นี่เป็นเรื่องที่เข้าใจไม่ได้จริงๆ

แม้แต่ข้าในตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจตัวข้าก่อนหน้านี้เลย

แต่ปฏิเสธคนคนหนึ่ง…

เป็นเรื่องที่ไม่ต้องการเหตุผลจริงๆ

คุณชายหยวนฉุนมองข้าพลางถามอย่างจริงจัง ‘เจ้าเป็นเพียงปีศาจน้อย…ด้วยพลังบำเพ็ญของเจ้า จะแก้ค่ายกลประตูหยกได้รึ’

ข้าตอบนิ่งๆ ‘ปีศาจมีอายุขัยยืนยาวมาก’

ข้าลองมาร้อยปีแล้ว

ข้ายังมีเวลาอีกนานมาก

ตอนออกจากเขารกร้างเล็ก คุณชายหยวนฉุนพูดกับข้าประโยคหนึ่ง

‘สี่สิบลี้ทางตะวันออกนอกเมืองอาทิตย์อุทัย น้ำตกเล็ก วันที่สิบห้าเดือนสามของทุกปี หน่วยอักษรรองกรมปราบปีศาจจะคุ้มกันเลือดจิ้งจอกสวรรค์ผ่านไปที่นั่น’

ข้าปฏิเสธเจตนาดีของคุณชายหยวนฉุนที่จะส่งข้ากลับบ้านเกิด

แต่ข้าไม่อาจปฏิเสธคำพูดนี้ได้

ใบไม้ผลิ ร้อน ใบไม้ร่วง หนาว สี่ฤดูนั้นใบไม้ผลิยาวนาน ดอกบัวม่วงลอยลิ่วบนเขารกร้างเล็ก ตอนออกจากแดนอุดร ข้าก็ไม่เจอคุณชายชราคนนั้นอีก

เวลา สถานที่ ผู้คน

รวมถึงเลือดจิ้งจอกสวรรค์ที่ข้าต้องการ

ถูกต้องทุกอย่าง

…..

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง

วันนี้ฝนตกหนักมาก

เมืองอาทิตย์อุทัยมีน้ำตกภูเขาแห่งหนึ่ง รอบๆ เป็นทิวทัศน์สวยงามที่เกิดจากแหล่งน้ำของอาทิตย์อุทัย ข้าเคยมาที่นี่หลายครั้งแล้ว

น้ำตกเล็ก ข้ารอหน่วยกรมปราบปีศาจที่คุ้มกันเลือดจิ้งจอกสวรรค์มาถึง

คุณชายหยวนฉุนบอกจุดที่หน่วยกรมปราบปีศาจจะเดินทางผ่านไปตะวันตกกับข้า

ข้ารู้ว่าปรมาจารย์ปราบปีศาจทุกคนของกรมปราบปีศาจจะพกยันต์ด้ายทองที่ไว้ตามรอยปีศาจกับตัว ไม่ใช่แค่นั้น ยังมีสมบัติวิเศษและกลอุบายมากมาย หน่วยเล็กหนึ่งมีหกคน

ผู้ถือคำสั่งสองคนของหน่วยนี้ฝึกถึงขอบเขตหลัง ใช้แค่สองหมัดสี่มือก็สังหารปีศาจน้อยพวกข้าสี่คนได้

นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้น

ข้าสืบหาระยะการทำงานของยันต์ด้ายทองทีละนิด เข้าไปใกล้ช้าๆ

พวกเขารวดเร็วมาก ส่วนพลังบำเพ็ญข้าต่ำมาก

แต่ข้ามีเวลา

ปีแรก ข้ารู้ระยะการทำงานของยันต์ด้ายทองชัดเจน

ปีที่สอง ข้ารู้แล้วว่าจะกดไอปีศาจไม่ให้ถูกผู้บำเพ็ญกรมปราบปีศาจพบได้อย่างไร

ปีที่สาม ข้ารู้ว่าหน่วยของกรมปราบปีศาจ ที่แท้ก็หมุนเวียนกัน…ผู้ถือคำสั่งสองคนก่อนหน้านี้เปลี่ยนเป็นผู้บำเพ็ญใหม่สองคน พลังบำเพ็ญยังคงเป็นขอบเขตหลัง แต่ดูไม่ได้แกร่งเท่าสองคนก่อนหน้า

ปีที่สี่ ดวงชะตาของต้าสุยเหมือนจะเปลี่ยนไป ในหน่วยกรมปราบปีศาจหกคน ผู้บำเพ็ญที่คุ้มกันเลือดจิ้งจอกสวรรค์อ่อนแอลง ปรมาจารย์ปราบปีศาจสองคนพามือใหม่ที่เพิ่งฝึกบำเพ็ญมา…สำหรับข้า นี่เป็นเรื่องดี หน่วยที่เดินทางไปประตูหยกยิ่งอ่อนแอเท่าไรก็ยิ่งดี

เป็นเพราะต้าสุยขังปีศาจไว้ใต้ด่านเยอะเกินไปหรือ เลือดจิ้งจอกสวรรค์ถึงมีแค่ผู้บำเพ็ญขอบเขตหลังสองคนคุ้มกัน?

และในปีนั้น เผยหมินแห่งกำแพงเมืองแดนอุดรยืนอยู่จุดสูงสุดของใต้ฟ้า ใช้กำลังตัวคนเดียวเอาชนะบรรพจารย์ใต้ฟ้าเผ่าปีศาจสามตน สร้างตำนานขึ้น

ข้าไม่เคยเห็นความสง่างามของขุนพลใหญ่แซ่เผยนั้นกับตา แต่แค่ชื่อเผยหมิน แค่ได้ยินนามก็ทำให้คนรู้สึกถูกคลื่นลมถาโถมใส่

ข้าไปที่ใดก็จะได้ยินปุถุชนสรรเสริญเขา น้ำตกอาทิตย์อุทัย ทะเลทรายประตูหยกต่างบอกว่าฝ่าบาทจะให้รางวัลเขาอย่างงาม

ข้าวางแผนแก้ค่ายกลประตูหยกอย่างสมบูรณ์แบบเงียบๆ เป็นปีศาจน้อยซ่อนตัวในต้าสุย ติดตามและรออย่างอดทนทุกๆ ปี ข้าเข้าใจโครงสร้างของกรมปราบปีศาจ การเปลี่ยนสมาชิก และได้เห็นความรุ่งโรจน์ของราชวงศ์กับตา…และยังมีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ครั้งก่อนที่ข้าได้ยินนามเผยหมิน ยังจำได้รางๆ ว่าได้ยินในโรงเตี๊ยม ทุกคนในต้าสุยรู้ว่าฝ่าบาทจะมอบรางวัลให้ขุนพลใหญ่อย่างงาม

ครั้งนี้ตอนที่ได้ยินนามเผยหมิน กลับเป็นตระกูลเผยจบสิ้นลงแล้ว ขุนพลใหญ่แดนอุดรยังเปลี่ยนเป็นคนใหม่

ทรยศอาณาจักร ประทุษร้ายต่อจักรพรรดิ เนรคุณ…คำพูดคล้ายๆ กันนี้ฟังแล้วยังทำให้ปีศาจคนนอกอย่างข้ารู้สึกไร้สาระ ขุนพลใหญ่ที่ประจำการแดนอุดรมาหลายสิบปี กลับตกต่ำถึงเพียงนี้ เหมือนกับนักกระบี่แดนกลางที่ทำลายกายปีศาจข้าคนนั้นเลย บทสรุปของชีวิตเหมือนกับเรื่องตลก แต่ก็เหมือนละครตลกมากกว่า

ใครก็เดาไม่ได้ว่าบทสรุปชีวิตตัวเองเป็นอย่างไร

ข้าไม่ได้สนใจเรื่องราวจากนั้น เรื่องสงครามครั้งนี้ส่งผลกับข้าเพียงอย่างเดียวคือน้ำตกเมืองอาทิตย์อุทัยถูกปิดอย่างไม่ทราบสาเหตุ ข้าไปนั่งบนน้ำตกอาทิตย์อุทัย แกว่งสองขามองพระจันทร์ขึ้นเหมือนก่อนไม่ได้แล้ว

กรมปราบปีศาจเข้าประจำการอาทิตย์อุทัย แต่ไม่นาน…สงครามที่แดนอุดรก็ตึงเครียดขึ้น ใต้ฟ้าเผ่าปีศาจทำการจู่โจม ทำให้แผ่นดินต้าสุยเดือดขึ้นมา ผู้บำเพ็ญกรมปราบปีศาจที่ทำให้ข้าต้องใช้ชีวิตอย่างอกสั่นขวัญแขวนมีจำนวนน้อยลงมากในเวลาอันสั้น ผู้บำเพ็ญแข็งแกร่งพวกนั้นถูกย้ายออกไปแดนอุดร มุ่งหน้าไปสนามรบเพื่อปราบปีศาจ

เป็นเรื่องดี

สำหรับข้า นี่เป็นเรื่องดี

ข้ากำลังรอโอกาสอันดี

เวลาสิบกว่าปี ยาวนานแต่ก็เร็วเช่นกัน ข้างนอกเกิดเรื่องมากมาย หลังขุนพลใหญ่เผยหมินตาย ศิษย์คนเดียวของเขารับภาระอย่างหนัก ก็เหมือนสี่แดนต้าสุยที่เอ่ยนามของเผยหมินไปทั่วในตอนนั้น ข้าเคยออกเดินทาง และก็ได้ยินแต่นามของ ‘สวีจั้ง’

เหมือนการสืบทอดมรดกที่พวกมนุษย์พูดถึง

ตอนนั้นที่เอ่ยถึงเผยหมิน ในใจทุกคนมีแต่ความเคารพยำเกรง

คนส่วนน้อยมากที่จะหวาดกลัว

แต่ตอนนี้เผยหมินตายแล้ว…ข้าไม่คิดว่าศิษย์ของเขา บุรุษชื่อสวีจั้งจะมีจุดจบที่ดีอะไร

เพราะคนพวกนั้นที่เอ่ยถึงสวีจั้ง มีแต่ความโกรธแค้นและรังเกียจ

แต่สิ่งที่ทำให้ข้าแปลกใจคือ คนพวกนั้นเหมือนจะกลัวสวีจั้งมากกว่าเผยหมินอีก

………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด