เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗] 372 : ประกายเพลิง

Now you are reading เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗] Chapter 372 : ประกายเพลิง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 372 : ประกายเพลิง

ก่อนที่วินสตันจะทันไหวตัว เขาพลันยื่นมือออกไปคว้าความว่างเปล่าไว้ ปลายนิ้วของเขายังมีสัมผัสของเส้นผมสีแดงนุ่ม ๆ ของเด็กสาวหลงเหลืออยู่เลย

“เมลิสซ่า!”

วินสตันวิ่งตามไปแล้วร้องตะโกน แต่วินาทีต่อมา เส้นหนวดเหล่านั้นก็โผล่มาหยุดเขาไว้อีกครั้ง

เขาต้องหยุดลงเพื่อจัดการกับพวกมัน และสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือร่างที่ดูคล้ายมนุษย์ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนพื้นที่เหมือนปลักโคลน มันกลายเป็นสาวกนิกายกลืนศพที่สละชีวิตสังเวยตัวเองไปแล้วพุ่งเข้าใส่ผู้ที่ยังมีชีวิตเหลือรอดอย่างแค้นเคือง และในตอนนี้เมื่อไวลด์ได้เลื่อนขั้นเป็นระดับเหนือนภา เขาก็ควบแน่นร่างใหม่ขึ้นมาได้แล้ว

“บ้าเอ๊ย!”

วินสตันสังหารวิญญาณแค้นเหล่านั้น แต่ก็พบว่าเส้นทางที่เมลิสซ่าพุ่งออกไปได้ถูกเส้นหนวดกีดขวางไว้หมดแล้ว และเขตแดนก็ขยายเข้ามาใกล้เขามากขึ้นทุกที เขาจึงอดสบถออกมาไม่ได้

เขาทำได้เพียงมองเปลวเพลิงที่เหลือเพียงจุดเล็ก ๆ ไกล ๆ และถูกศัตรูที่โจมตีจากรอบด้านบังคับให้ต้องถอย

วินสตันสูดหายใจลึก ๆ แล้วรู้สึกว่าโลกนี้ช่างไร้สาระ สิ้นเหตุผลใด ๆ “พ่อลูกคู่นี้นี่มัน…เหมือนกันเปี๊ยบเลย! ช่างมันแล้ว! อยากช่วยก็ช่วยไป! อยากตายก็เชิญ…”

เขาปรามาสแล้วหันหน้าหนี แต่หลังจากก้าวไปได้สองก้าว เขาก็อดมองย้อนกลับมาไม่ได้

ต้องรอดกลับมาให้ได้นะ…!

เมลิสซ่ากำดาบยาวในมือของตัวเอง แล้วภาพรอบ ๆ ก็แล่นผ่านคลองจักษุอย่างรวดเร็ว

ดวงตาของเธอจ้องกองเพลิงสีขาวท่ามกลางความมืดอย่างแน่วแน่ พุ่งตรงไปข้างหน้า ทำลายทุกอุปสรรค ประกายเพลิงจากการเคลื่อนไหวลากยาวเป็นเส้น เห็นได้ชัดเจนท่ามกลางความมืด

ต่างจากสีขาวบริสุทธิ์ของโจเซฟ เปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำบนร่างของเมลิสซ่านั้นเป็นราวลำแสงสีแดงสด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสีแดงบนผมของเธอ อีเธอร์ หรือชีวิตที่กำลังจะดับมอดของเธอกันแน่…

กร๊อบ…!

เมลิสซ่าได้ยินเสียงผิวหนังปริและเสียงกระดูกร้าวจากทั่วร่างของเธอ มันเป็นความเจ็บปวดแบบที่เจตจำนงของคนทั่วไปไม่มีวันรับได้ เธอทำได้เพียงตัวสั่นเทา กัดฟันเต็มแรง!

ที่จริงแล้วเธอเองก็ทนไม่ไหว และบอกไม่ได้ด้วยว่าเธอกัดฟันจริงหรือเปล่า? เพราะร่างทั้งร่างของเธอถูกหลอมแทบไม่เหลือในเปลวเพลิงแล้ว

แต่ในขณะเดียวกัน พลังแห่งกฎเกณฑ์ที่เธอได้รับจาก ‘กุญแจสู่ประตู’ ก็ชัดเจนขึ้น

การถือกำเนิดของเขตแดนใหม่ต้องใช้ความเข้าใจและการสร้าง ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ยาวนานสำหรับระดับเหนือนภา…

แต่ในศึกนี้ ไวลด์ได้รับความเข้าใจที่เพียงพอใน ‘จุดจบ’ จากตวามตายและการสละชีวิตของสาวกมากมายจากนิกายกลืนศพ เขาจึงนำหน้าไปก้าวหนึ่ง

โจเซฟยังขาดตัวต่อชิ้นสุดท้ายอยู่

และตอนนี้ เมลิสซ่าผู้เชี่ยวชาญรากฐานแห่งทุกความรู้และมีความสามารถเรียนรู้เกินความเร็วสมองของเธอได้รับตัวต่อชิ้นสุดท้ายมาจากพ่อของเธอ ชายผู้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของแนวความคิดแห่งอัศวินแล้ว

ต่อจากนี้ เราก็แค่เอาความเข้าใจนี้ไปบอกพ่อซะ…

เมลิสซ่าคิด

เขตแดนใหม่ที่ไวลด์เปิดขึ้นแทบจะปกคลุมทั่วสนามรบแล้ว และกระทั่งใกล้แตะแนววางเครื่องจำลองนิมิตชั้นสองอยู่รอมร่อ

ขอเพียงมันแตะแนววางเกราะจำลองฝัน เครื่องจำลองนิมิตก็จะถูกทำลายทันที และจากกฎเกณฑ์ หอพิธีกรรมต้องห้ามเองก็อาจได้รับผลกระทบ อย่าว่าแต่เรื่องที่นอร์ซินจะได้รับหางเลข

เห็นได้ชัดว่าในหมู่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับเหนือนภาด้วยกัน พลังของไวลด์ยังสูงกว่ามาตรฐานอยู่

“โจเซฟ ยอมแพ้เถอะ”

ไวลด์พูดเชิงกรุณา และใบหน้าที่ผุดขึ้นบนร่างใหญ่โตก็เผยรอยยิ้มเย้ยหยันออกมาบาง ๆ ซึ่งดูน่าเกลียดน่ากลัวมากเพราะเส้นหนวดสีม่วงดำที่ยุกยิกอยู่บนผิว

เสียงของเขากังวานไปทั่วสนามรบดั่งระฆังผุเปื่อย “นายรู้ดีมากว่าทั้งฉันและนายต่างถูกเจ้าของร้านหลินเลือก…นี่คือชะตากรรมของเรา เหมือนกับการที่ฝาแฝดแย่งสารอาหารกันอยู่ในครรภ์ของแม่นั่นแหละ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะรอดออกไปจากสนามรบนี้ได้”

“ส่วนเงื่อนไขของการมีชีวิต จุดประสงค์ที่เจ้าของร้านหลินส่งเรามาเจอกันที่นี่ ก็คือการจุติของระดับเหนือนภาหนึ่งคน”

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

เปลวเพลิงสีขาวสั่นระริก ระเบิดออกอย่างต่อเนื่อง โอบล้อมร่างใหญ่ยักษ์ของไวลด์เอาไว้ มองจากไกล ๆ มันดูราวกับดวงดาวที่กะพริบไปมา

มันคือการระเบิดของเพลิงอีเธอร์ของโจเซฟ และอำนาจกฎเกณฑ์แห่งจุดจบของไวลด์ที่ปะทะกัน

“ย้ากกกก!!”

เส้นเลือดและกล้ามเนื้อของโจเซฟปูดโปนถึงขีดสุด และในขณะที่เขากำลังเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง เขาก็คำรามพลางหั่นส่วนต่าง ๆ ของไวลด์อย่างต่อเนื่อง ร่างยักษ์ของเขายืนหยัด ทว่าก็พร้อมจะล้มลงได้ทุกเมื่อดั่งเปลวเทียนในสายลม

หลังจากได้ยินชื่อเจ้าของร้านหลิน โจเซฟก็เงยหน้าขึ้น สายตาโกรธเคืองของเขาทิ่มแทงหน้าของไวลด์ที่อยู่บนร่างกายใหญ่โตราวดาบที่แหลมคม

“แค่ว่า…มันมีความต่างอย่างหนึ่งระหว่างเรา…”

ไวลด์หัวเราะ ‘ชิ ๆ’ แล้วพูดต่อ “เจ้าของร้านหลินเลือกฉัน ให้ฉันเผยแพร่คำสอนของเขา และเขาก็เลือกนายแค่เพื่อให้นายเป็นบททดสอบของฉัน”

“นี่คือ ‘บททดสอบ’ ให้ฉันก้าวข้ามอดีต และหลังจากก้าวข้ามความกลัวและอดีตอันเหยาะแหยะ ฉันถึงจะเติบโตได้…นายไม่คิดแบบนั้นบ้างเหรอโจเซฟ?”

เปรี้ยง!

โจเซฟถูกเส้นหนวดที่ใหญ่โตเหมือนภูเขาฟาดจนกระเด็นออกไป เขากลิ้งหลุน ๆ กับพื้นอยู่หลายตลบ ขุดพื้นเป็นร่องลึกก่อนจะหยุดลงได้ด้วยแรงรั้งของดาบในมือ

อัศวินแห่งแสงผู้เกรียงไกรชักดาบขึ้นแล้วเงยหน้ามองไวลด์อย่างสงบนิ่ง จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่อีกครั้ง

“ดูดีนะ…”

ไวลด์พูดยิ้ม ๆ “ถ้านายอยากฆ่าฉันก็เข้ามาเลย ฉันจะไม่ฆ่านาย แต่ฉันจะกลืนกินนายซะ ใช้นายเป็นสารอาหารของฉัน… กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือทรชนที่นายรังเกียจ…”

ไวลด์รู้จักโจเซฟดี และจุดจบเช่นนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ็บปวดยิ่งกว่าตาย และยังทำให้เขาได้ใช้อำนาจอย่างเต็มที่ที่สุดอีกด้วย

พฤติกรรมนี้ต่างจากรูปแบบดั้งเดิมของไวลด์ที่ระมัดระวังและเจ้าเล่ห์

ไวลด์มองไปรอบ ๆ สนามรบอีกครั้ง และทุกที่ที่ถูกเขตแดน ‘จุดจบ’ ของเขาปกคลุมก็ไปถึงจุดสิ้นสุดแล้ว

จุดจบของทุกสิ่งก็คือการสูญสลาย

สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงพอจะเรียกได้ว่าจีรังตลอดกาล หนีเขตแดนของเขาไม่พ้น แล้วสิ่งใดเล่าจะยืนหยัดสู้เขาได้?

ฉันมีทุกสิ่งแล้ว!

ไวลด์คิดเช่นนั้น แล้วจู่ ๆ ก็ขมวดคิ้ว…

เส้นแสงสีแดงปรากฏขึ้นในความมืดมิดของจุดจบ

เส้นแสงที่เล็กบางมาก แต่ไม่ดับลงเสียที

มันเป็นเพียงประกายเพลิงเล็ก ๆ เหมือนดอกไม้ไฟที่เผาไหม้อย่างรวดเร็ว

“นั่นมัน…”

ไวลด์ที่อยู่ในเขตแดนของเขาเองแทบจะเอื้อมถึงระดับไร้คู่ต่อกร เขาสัมผัสสถานการณ์จากทุกสารทิศและควบคุมทุกอย่างได้

แต่เขาพบว่าเขาไม่สามารถยุ่งกับประกายเพลิงนั้นได้

ไวลด์เบิกตากว้างแล้วมองไปใกล้ ๆ แล้วก็เห็นร่างที่เผาไหม้แตกสลายของเด็กสาวทะลวงการกีดขวางเข้ามาใกล้เขาอีกครั้ง

ลูกสาว…ของโจเซฟ? เมลิสซ่า?

ม่านตาของไวลด์หดตัว ความคิดของเขาแล่นเร็วจี๋แล้วบีบร่างของเด็กสาวที่เข้ามาใกล้เขาไว้ แต่ก็พบว่าเขตแดนของตัวเองใช้ไม่ได้ผล!

“เป็นไปไม่ได้! นั่นมันอะไร?! นั่นมัน…ออร่ากฎเกณฑ์ของโจเซฟเหรอ?!”

แม้ว่าไวลด์จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็เข้าใจทันทีว่าต้องไม่ให้เธอแตะต้องโจเซฟได้!

สสารทำลายล้างสีดำถาโถมเข้าใส่เมลิสซ่าราวเกลียวคลื่นในทันที สสารนี้เป็นตัวแทนเขตแดนแห่งจุดจบเหมือนเงื้อมมือของปีศาจที่อยู่ทุกหนแห่งเหมือนสายลมโอบล้อมประกายเพลิงไว้เสียจนแสงทั้งหมดถูกบดบัง

แต่ทว่า!

คลื่นทมิฬโอบล้อมเมลิสซ่าไว้ราวกับเป็นกองกรวด แล้ววินาทีต่อมาก็แตกร้าวระเบิดออกราวกับภูเขาไฟที่เปิดทางให้ลาวาไหลทะลัก ส่งเพลิงสีแดงร้อนระอุออกมาภายนอก

ตู้ม!

จุดจบของไวลด์ที่ทำลายล้างได้ทุกสิ่งแตกสลายราวเปลือกไข่…

เปลวเพลิงถือกำเนิดขึ้นจากมัน

เส้นผมสีแดงนุ่มสลวยของเมลิสซ่าโบกไสวน้อย ๆ ในเปลวเพลิง สีของมันกลมกลืนไปกับเปลวไฟราวกับดอกบัวสีแดงที่เบ่งบานในขุมนรก

ผิวหนังของเธอถูกเผาไหม้ไปหมดแล้ว ร่างของเธอแตกสลายง่อนแง่น เกือบจะเปลี่ยนเป็นเปลวไฟไปทั้งตัว…

มีเพียงใบหน้าของเด็กสาวที่ยังคงเดิม และดวงตาสีฟ้าของเธอก็กระจ่างใสราวอัญมณี

“เมลิสซ่า?!”

โจเซฟที่ถูกดีดกระเด็นและเตรียมปักดาบลุกขึ้นอีกครั้งพลันสังเกตเห็นเปลวเพลิงที่ทะลวงการกีดขวางชั้นสุดท้ายรอบตัวเขาเข้ามา แล้วจากนั้นก็ตระหนักว่านั่นคือลูกสาวที่ควรอยู่นอกสนามรบของตัวเอง

สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวสุด ๆ แล้วคำรามอย่างโกรธเคือง “ลูกมาทำอะไรตรงนี้?! กลับไป! กลับไปซะ!!!”

โจเซฟก้าวไปข้างหน้า แต่ก็เซไปสองก้าวเพราะอาการบาดเจ็บบนตัว เขากระอักเลือดคำโต แล้วดาบยาวก็ร่วงลงที่พื้น

เขาตัวสั่นอย่างรุนแรง

เขาเป็นนายแห่งกฎเกณฑ์ จะไม่สัมผัสได้ได้อย่างไร เขาจะไม่รู้ได้อย่างไร…

ว่าเปลวเพลิงบนตัวเมลิสซ่านั้นเกิดขึ้นจากการเผาไหม้อีเธอร์ และชีวิตของเธอเอง

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ไวลด์ควบคุมหนวดของตัวเองและสสารแห่งจุดสิ้นสุดสีดำให้พุ่งเข้าไปหาเมลิสซ่าราวกระแสน้ำเชี่ยว แต่เปลวเพลิงบนร่างเมลิสซ่าก็เผาผลาญมันไปหมด

เห็นได้อย่างคลุมเครือว่าทุกครั้งที่เขตแดนแห่งจุดสิ้นสุดโจมตีเธอ ร่างของเด็กสาวในเปลวเพลิงก็ระเบิดสลายไปครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่ไม่ว่าจะใช้แรงแค่ไหน มันก็หยุดการเดินไปข้างหน้าของเมลิสซ่าไม่ได้

เธอทำเพียงมองพ่อของเธอ ลากเปลวเพลิงอันหนักหนาไปข้างหน้า เดินหน้าเข้ามาเรื่อย ๆ

โจเซฟลืมตากว้าง ความมั่นคงของอัศวินผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตหายไปสิ้น เหลือเพียงแค่คนเป็นพ่อธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่โซเซและกรีดร้องอย่างไร้เสียง

เสียงของเขาถูกกระแสแห่งจุดสิ้นสุดกลบทิ้ง หายไปสู่ความว่างเปล่า

“เมลิสซ่า!!!”

โจเซฟฉีกกระชากทุกอย่างที่ขวางทางเขาอย่างเดือดดาล และสุดท้ายก็ค่อย ๆ หยุดลงที่หน้าเปลวเพลิง

เพลิงอีเธอร์รอบ ๆ ที่สลายไป เหลือเพียงร่างของเด็กสาวที่ยังคงงดงามและยังฝืนยื่นมือออกไปหา

โจเซฟตัวสั่นเล็กน้อย ก่อนจะอ้าแขนออกโอบกอดลูกสาวของเขาไว้

เพลิงสลายไปทันทีที่สัมผัส…

ในขณะเดียวกัน กฎเกณฑ์ที่ไม่สมบูรณ์ก็ปะติดปะต่อกัน และเด็กสาวที่เสียพลังชีวิตไปนานแล้ว…ก็สลายเป็นเถ้าลอยว่อนไปโดยสมบูรณ์

แขนที่อ้าออกของโจเซฟคว้าสิ่งใดไม่ได้นอกจากเถ้าธุลี

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗] 372 : ประกายเพลิง

Now you are reading เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗] Chapter 372 : ประกายเพลิง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 372 : ประกายเพลิง

ก่อนที่วินสตันจะทันไหวตัว เขาพลันยื่นมือออกไปคว้าความว่างเปล่าไว้ ปลายนิ้วของเขายังมีสัมผัสของเส้นผมสีแดงนุ่ม ๆ ของเด็กสาวหลงเหลืออยู่เลย

“เมลิสซ่า!”

วินสตันวิ่งตามไปแล้วร้องตะโกน แต่วินาทีต่อมา เส้นหนวดเหล่านั้นก็โผล่มาหยุดเขาไว้อีกครั้ง

เขาต้องหยุดลงเพื่อจัดการกับพวกมัน และสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือร่างที่ดูคล้ายมนุษย์ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนพื้นที่เหมือนปลักโคลน มันกลายเป็นสาวกนิกายกลืนศพที่สละชีวิตสังเวยตัวเองไปแล้วพุ่งเข้าใส่ผู้ที่ยังมีชีวิตเหลือรอดอย่างแค้นเคือง และในตอนนี้เมื่อไวลด์ได้เลื่อนขั้นเป็นระดับเหนือนภา เขาก็ควบแน่นร่างใหม่ขึ้นมาได้แล้ว

“บ้าเอ๊ย!”

วินสตันสังหารวิญญาณแค้นเหล่านั้น แต่ก็พบว่าเส้นทางที่เมลิสซ่าพุ่งออกไปได้ถูกเส้นหนวดกีดขวางไว้หมดแล้ว และเขตแดนก็ขยายเข้ามาใกล้เขามากขึ้นทุกที เขาจึงอดสบถออกมาไม่ได้

เขาทำได้เพียงมองเปลวเพลิงที่เหลือเพียงจุดเล็ก ๆ ไกล ๆ และถูกศัตรูที่โจมตีจากรอบด้านบังคับให้ต้องถอย

วินสตันสูดหายใจลึก ๆ แล้วรู้สึกว่าโลกนี้ช่างไร้สาระ สิ้นเหตุผลใด ๆ “พ่อลูกคู่นี้นี่มัน…เหมือนกันเปี๊ยบเลย! ช่างมันแล้ว! อยากช่วยก็ช่วยไป! อยากตายก็เชิญ…”

เขาปรามาสแล้วหันหน้าหนี แต่หลังจากก้าวไปได้สองก้าว เขาก็อดมองย้อนกลับมาไม่ได้

ต้องรอดกลับมาให้ได้นะ…!

เมลิสซ่ากำดาบยาวในมือของตัวเอง แล้วภาพรอบ ๆ ก็แล่นผ่านคลองจักษุอย่างรวดเร็ว

ดวงตาของเธอจ้องกองเพลิงสีขาวท่ามกลางความมืดอย่างแน่วแน่ พุ่งตรงไปข้างหน้า ทำลายทุกอุปสรรค ประกายเพลิงจากการเคลื่อนไหวลากยาวเป็นเส้น เห็นได้ชัดเจนท่ามกลางความมืด

ต่างจากสีขาวบริสุทธิ์ของโจเซฟ เปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำบนร่างของเมลิสซ่านั้นเป็นราวลำแสงสีแดงสด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสีแดงบนผมของเธอ อีเธอร์ หรือชีวิตที่กำลังจะดับมอดของเธอกันแน่…

กร๊อบ…!

เมลิสซ่าได้ยินเสียงผิวหนังปริและเสียงกระดูกร้าวจากทั่วร่างของเธอ มันเป็นความเจ็บปวดแบบที่เจตจำนงของคนทั่วไปไม่มีวันรับได้ เธอทำได้เพียงตัวสั่นเทา กัดฟันเต็มแรง!

ที่จริงแล้วเธอเองก็ทนไม่ไหว และบอกไม่ได้ด้วยว่าเธอกัดฟันจริงหรือเปล่า? เพราะร่างทั้งร่างของเธอถูกหลอมแทบไม่เหลือในเปลวเพลิงแล้ว

แต่ในขณะเดียวกัน พลังแห่งกฎเกณฑ์ที่เธอได้รับจาก ‘กุญแจสู่ประตู’ ก็ชัดเจนขึ้น

การถือกำเนิดของเขตแดนใหม่ต้องใช้ความเข้าใจและการสร้าง ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ยาวนานสำหรับระดับเหนือนภา…

แต่ในศึกนี้ ไวลด์ได้รับความเข้าใจที่เพียงพอใน ‘จุดจบ’ จากตวามตายและการสละชีวิตของสาวกมากมายจากนิกายกลืนศพ เขาจึงนำหน้าไปก้าวหนึ่ง

โจเซฟยังขาดตัวต่อชิ้นสุดท้ายอยู่

และตอนนี้ เมลิสซ่าผู้เชี่ยวชาญรากฐานแห่งทุกความรู้และมีความสามารถเรียนรู้เกินความเร็วสมองของเธอได้รับตัวต่อชิ้นสุดท้ายมาจากพ่อของเธอ ชายผู้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของแนวความคิดแห่งอัศวินแล้ว

ต่อจากนี้ เราก็แค่เอาความเข้าใจนี้ไปบอกพ่อซะ…

เมลิสซ่าคิด

เขตแดนใหม่ที่ไวลด์เปิดขึ้นแทบจะปกคลุมทั่วสนามรบแล้ว และกระทั่งใกล้แตะแนววางเครื่องจำลองนิมิตชั้นสองอยู่รอมร่อ

ขอเพียงมันแตะแนววางเกราะจำลองฝัน เครื่องจำลองนิมิตก็จะถูกทำลายทันที และจากกฎเกณฑ์ หอพิธีกรรมต้องห้ามเองก็อาจได้รับผลกระทบ อย่าว่าแต่เรื่องที่นอร์ซินจะได้รับหางเลข

เห็นได้ชัดว่าในหมู่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับเหนือนภาด้วยกัน พลังของไวลด์ยังสูงกว่ามาตรฐานอยู่

“โจเซฟ ยอมแพ้เถอะ”

ไวลด์พูดเชิงกรุณา และใบหน้าที่ผุดขึ้นบนร่างใหญ่โตก็เผยรอยยิ้มเย้ยหยันออกมาบาง ๆ ซึ่งดูน่าเกลียดน่ากลัวมากเพราะเส้นหนวดสีม่วงดำที่ยุกยิกอยู่บนผิว

เสียงของเขากังวานไปทั่วสนามรบดั่งระฆังผุเปื่อย “นายรู้ดีมากว่าทั้งฉันและนายต่างถูกเจ้าของร้านหลินเลือก…นี่คือชะตากรรมของเรา เหมือนกับการที่ฝาแฝดแย่งสารอาหารกันอยู่ในครรภ์ของแม่นั่นแหละ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะรอดออกไปจากสนามรบนี้ได้”

“ส่วนเงื่อนไขของการมีชีวิต จุดประสงค์ที่เจ้าของร้านหลินส่งเรามาเจอกันที่นี่ ก็คือการจุติของระดับเหนือนภาหนึ่งคน”

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

เปลวเพลิงสีขาวสั่นระริก ระเบิดออกอย่างต่อเนื่อง โอบล้อมร่างใหญ่ยักษ์ของไวลด์เอาไว้ มองจากไกล ๆ มันดูราวกับดวงดาวที่กะพริบไปมา

มันคือการระเบิดของเพลิงอีเธอร์ของโจเซฟ และอำนาจกฎเกณฑ์แห่งจุดจบของไวลด์ที่ปะทะกัน

“ย้ากกกก!!”

เส้นเลือดและกล้ามเนื้อของโจเซฟปูดโปนถึงขีดสุด และในขณะที่เขากำลังเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง เขาก็คำรามพลางหั่นส่วนต่าง ๆ ของไวลด์อย่างต่อเนื่อง ร่างยักษ์ของเขายืนหยัด ทว่าก็พร้อมจะล้มลงได้ทุกเมื่อดั่งเปลวเทียนในสายลม

หลังจากได้ยินชื่อเจ้าของร้านหลิน โจเซฟก็เงยหน้าขึ้น สายตาโกรธเคืองของเขาทิ่มแทงหน้าของไวลด์ที่อยู่บนร่างกายใหญ่โตราวดาบที่แหลมคม

“แค่ว่า…มันมีความต่างอย่างหนึ่งระหว่างเรา…”

ไวลด์หัวเราะ ‘ชิ ๆ’ แล้วพูดต่อ “เจ้าของร้านหลินเลือกฉัน ให้ฉันเผยแพร่คำสอนของเขา และเขาก็เลือกนายแค่เพื่อให้นายเป็นบททดสอบของฉัน”

“นี่คือ ‘บททดสอบ’ ให้ฉันก้าวข้ามอดีต และหลังจากก้าวข้ามความกลัวและอดีตอันเหยาะแหยะ ฉันถึงจะเติบโตได้…นายไม่คิดแบบนั้นบ้างเหรอโจเซฟ?”

เปรี้ยง!

โจเซฟถูกเส้นหนวดที่ใหญ่โตเหมือนภูเขาฟาดจนกระเด็นออกไป เขากลิ้งหลุน ๆ กับพื้นอยู่หลายตลบ ขุดพื้นเป็นร่องลึกก่อนจะหยุดลงได้ด้วยแรงรั้งของดาบในมือ

อัศวินแห่งแสงผู้เกรียงไกรชักดาบขึ้นแล้วเงยหน้ามองไวลด์อย่างสงบนิ่ง จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่อีกครั้ง

“ดูดีนะ…”

ไวลด์พูดยิ้ม ๆ “ถ้านายอยากฆ่าฉันก็เข้ามาเลย ฉันจะไม่ฆ่านาย แต่ฉันจะกลืนกินนายซะ ใช้นายเป็นสารอาหารของฉัน… กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือทรชนที่นายรังเกียจ…”

ไวลด์รู้จักโจเซฟดี และจุดจบเช่นนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ็บปวดยิ่งกว่าตาย และยังทำให้เขาได้ใช้อำนาจอย่างเต็มที่ที่สุดอีกด้วย

พฤติกรรมนี้ต่างจากรูปแบบดั้งเดิมของไวลด์ที่ระมัดระวังและเจ้าเล่ห์

ไวลด์มองไปรอบ ๆ สนามรบอีกครั้ง และทุกที่ที่ถูกเขตแดน ‘จุดจบ’ ของเขาปกคลุมก็ไปถึงจุดสิ้นสุดแล้ว

จุดจบของทุกสิ่งก็คือการสูญสลาย

สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงพอจะเรียกได้ว่าจีรังตลอดกาล หนีเขตแดนของเขาไม่พ้น แล้วสิ่งใดเล่าจะยืนหยัดสู้เขาได้?

ฉันมีทุกสิ่งแล้ว!

ไวลด์คิดเช่นนั้น แล้วจู่ ๆ ก็ขมวดคิ้ว…

เส้นแสงสีแดงปรากฏขึ้นในความมืดมิดของจุดจบ

เส้นแสงที่เล็กบางมาก แต่ไม่ดับลงเสียที

มันเป็นเพียงประกายเพลิงเล็ก ๆ เหมือนดอกไม้ไฟที่เผาไหม้อย่างรวดเร็ว

“นั่นมัน…”

ไวลด์ที่อยู่ในเขตแดนของเขาเองแทบจะเอื้อมถึงระดับไร้คู่ต่อกร เขาสัมผัสสถานการณ์จากทุกสารทิศและควบคุมทุกอย่างได้

แต่เขาพบว่าเขาไม่สามารถยุ่งกับประกายเพลิงนั้นได้

ไวลด์เบิกตากว้างแล้วมองไปใกล้ ๆ แล้วก็เห็นร่างที่เผาไหม้แตกสลายของเด็กสาวทะลวงการกีดขวางเข้ามาใกล้เขาอีกครั้ง

ลูกสาว…ของโจเซฟ? เมลิสซ่า?

ม่านตาของไวลด์หดตัว ความคิดของเขาแล่นเร็วจี๋แล้วบีบร่างของเด็กสาวที่เข้ามาใกล้เขาไว้ แต่ก็พบว่าเขตแดนของตัวเองใช้ไม่ได้ผล!

“เป็นไปไม่ได้! นั่นมันอะไร?! นั่นมัน…ออร่ากฎเกณฑ์ของโจเซฟเหรอ?!”

แม้ว่าไวลด์จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็เข้าใจทันทีว่าต้องไม่ให้เธอแตะต้องโจเซฟได้!

สสารทำลายล้างสีดำถาโถมเข้าใส่เมลิสซ่าราวเกลียวคลื่นในทันที สสารนี้เป็นตัวแทนเขตแดนแห่งจุดจบเหมือนเงื้อมมือของปีศาจที่อยู่ทุกหนแห่งเหมือนสายลมโอบล้อมประกายเพลิงไว้เสียจนแสงทั้งหมดถูกบดบัง

แต่ทว่า!

คลื่นทมิฬโอบล้อมเมลิสซ่าไว้ราวกับเป็นกองกรวด แล้ววินาทีต่อมาก็แตกร้าวระเบิดออกราวกับภูเขาไฟที่เปิดทางให้ลาวาไหลทะลัก ส่งเพลิงสีแดงร้อนระอุออกมาภายนอก

ตู้ม!

จุดจบของไวลด์ที่ทำลายล้างได้ทุกสิ่งแตกสลายราวเปลือกไข่…

เปลวเพลิงถือกำเนิดขึ้นจากมัน

เส้นผมสีแดงนุ่มสลวยของเมลิสซ่าโบกไสวน้อย ๆ ในเปลวเพลิง สีของมันกลมกลืนไปกับเปลวไฟราวกับดอกบัวสีแดงที่เบ่งบานในขุมนรก

ผิวหนังของเธอถูกเผาไหม้ไปหมดแล้ว ร่างของเธอแตกสลายง่อนแง่น เกือบจะเปลี่ยนเป็นเปลวไฟไปทั้งตัว…

มีเพียงใบหน้าของเด็กสาวที่ยังคงเดิม และดวงตาสีฟ้าของเธอก็กระจ่างใสราวอัญมณี

“เมลิสซ่า?!”

โจเซฟที่ถูกดีดกระเด็นและเตรียมปักดาบลุกขึ้นอีกครั้งพลันสังเกตเห็นเปลวเพลิงที่ทะลวงการกีดขวางชั้นสุดท้ายรอบตัวเขาเข้ามา แล้วจากนั้นก็ตระหนักว่านั่นคือลูกสาวที่ควรอยู่นอกสนามรบของตัวเอง

สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวสุด ๆ แล้วคำรามอย่างโกรธเคือง “ลูกมาทำอะไรตรงนี้?! กลับไป! กลับไปซะ!!!”

โจเซฟก้าวไปข้างหน้า แต่ก็เซไปสองก้าวเพราะอาการบาดเจ็บบนตัว เขากระอักเลือดคำโต แล้วดาบยาวก็ร่วงลงที่พื้น

เขาตัวสั่นอย่างรุนแรง

เขาเป็นนายแห่งกฎเกณฑ์ จะไม่สัมผัสได้ได้อย่างไร เขาจะไม่รู้ได้อย่างไร…

ว่าเปลวเพลิงบนตัวเมลิสซ่านั้นเกิดขึ้นจากการเผาไหม้อีเธอร์ และชีวิตของเธอเอง

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ไวลด์ควบคุมหนวดของตัวเองและสสารแห่งจุดสิ้นสุดสีดำให้พุ่งเข้าไปหาเมลิสซ่าราวกระแสน้ำเชี่ยว แต่เปลวเพลิงบนร่างเมลิสซ่าก็เผาผลาญมันไปหมด

เห็นได้อย่างคลุมเครือว่าทุกครั้งที่เขตแดนแห่งจุดสิ้นสุดโจมตีเธอ ร่างของเด็กสาวในเปลวเพลิงก็ระเบิดสลายไปครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่ไม่ว่าจะใช้แรงแค่ไหน มันก็หยุดการเดินไปข้างหน้าของเมลิสซ่าไม่ได้

เธอทำเพียงมองพ่อของเธอ ลากเปลวเพลิงอันหนักหนาไปข้างหน้า เดินหน้าเข้ามาเรื่อย ๆ

โจเซฟลืมตากว้าง ความมั่นคงของอัศวินผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตหายไปสิ้น เหลือเพียงแค่คนเป็นพ่อธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่โซเซและกรีดร้องอย่างไร้เสียง

เสียงของเขาถูกกระแสแห่งจุดสิ้นสุดกลบทิ้ง หายไปสู่ความว่างเปล่า

“เมลิสซ่า!!!”

โจเซฟฉีกกระชากทุกอย่างที่ขวางทางเขาอย่างเดือดดาล และสุดท้ายก็ค่อย ๆ หยุดลงที่หน้าเปลวเพลิง

เพลิงอีเธอร์รอบ ๆ ที่สลายไป เหลือเพียงร่างของเด็กสาวที่ยังคงงดงามและยังฝืนยื่นมือออกไปหา

โจเซฟตัวสั่นเล็กน้อย ก่อนจะอ้าแขนออกโอบกอดลูกสาวของเขาไว้

เพลิงสลายไปทันทีที่สัมผัส…

ในขณะเดียวกัน กฎเกณฑ์ที่ไม่สมบูรณ์ก็ปะติดปะต่อกัน และเด็กสาวที่เสียพลังชีวิตไปนานแล้ว…ก็สลายเป็นเถ้าลอยว่อนไปโดยสมบูรณ์

แขนที่อ้าออกของโจเซฟคว้าสิ่งใดไม่ได้นอกจากเถ้าธุลี

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗] 372 : ประกายเพลิง

Now you are reading เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗] Chapter 372 : ประกายเพลิง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 372 : ประกายเพลิง

ก่อนที่วินสตันจะทันไหวตัว เขาพลันยื่นมือออกไปคว้าความว่างเปล่าไว้ ปลายนิ้วของเขายังมีสัมผัสของเส้นผมสีแดงนุ่ม ๆ ของเด็กสาวหลงเหลืออยู่เลย

“เมลิสซ่า!”

วินสตันวิ่งตามไปแล้วร้องตะโกน แต่วินาทีต่อมา เส้นหนวดเหล่านั้นก็โผล่มาหยุดเขาไว้อีกครั้ง

เขาต้องหยุดลงเพื่อจัดการกับพวกมัน และสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือร่างที่ดูคล้ายมนุษย์ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนพื้นที่เหมือนปลักโคลน มันกลายเป็นสาวกนิกายกลืนศพที่สละชีวิตสังเวยตัวเองไปแล้วพุ่งเข้าใส่ผู้ที่ยังมีชีวิตเหลือรอดอย่างแค้นเคือง และในตอนนี้เมื่อไวลด์ได้เลื่อนขั้นเป็นระดับเหนือนภา เขาก็ควบแน่นร่างใหม่ขึ้นมาได้แล้ว

“บ้าเอ๊ย!”

วินสตันสังหารวิญญาณแค้นเหล่านั้น แต่ก็พบว่าเส้นทางที่เมลิสซ่าพุ่งออกไปได้ถูกเส้นหนวดกีดขวางไว้หมดแล้ว และเขตแดนก็ขยายเข้ามาใกล้เขามากขึ้นทุกที เขาจึงอดสบถออกมาไม่ได้

เขาทำได้เพียงมองเปลวเพลิงที่เหลือเพียงจุดเล็ก ๆ ไกล ๆ และถูกศัตรูที่โจมตีจากรอบด้านบังคับให้ต้องถอย

วินสตันสูดหายใจลึก ๆ แล้วรู้สึกว่าโลกนี้ช่างไร้สาระ สิ้นเหตุผลใด ๆ “พ่อลูกคู่นี้นี่มัน…เหมือนกันเปี๊ยบเลย! ช่างมันแล้ว! อยากช่วยก็ช่วยไป! อยากตายก็เชิญ…”

เขาปรามาสแล้วหันหน้าหนี แต่หลังจากก้าวไปได้สองก้าว เขาก็อดมองย้อนกลับมาไม่ได้

ต้องรอดกลับมาให้ได้นะ…!

เมลิสซ่ากำดาบยาวในมือของตัวเอง แล้วภาพรอบ ๆ ก็แล่นผ่านคลองจักษุอย่างรวดเร็ว

ดวงตาของเธอจ้องกองเพลิงสีขาวท่ามกลางความมืดอย่างแน่วแน่ พุ่งตรงไปข้างหน้า ทำลายทุกอุปสรรค ประกายเพลิงจากการเคลื่อนไหวลากยาวเป็นเส้น เห็นได้ชัดเจนท่ามกลางความมืด

ต่างจากสีขาวบริสุทธิ์ของโจเซฟ เปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำบนร่างของเมลิสซ่านั้นเป็นราวลำแสงสีแดงสด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสีแดงบนผมของเธอ อีเธอร์ หรือชีวิตที่กำลังจะดับมอดของเธอกันแน่…

กร๊อบ…!

เมลิสซ่าได้ยินเสียงผิวหนังปริและเสียงกระดูกร้าวจากทั่วร่างของเธอ มันเป็นความเจ็บปวดแบบที่เจตจำนงของคนทั่วไปไม่มีวันรับได้ เธอทำได้เพียงตัวสั่นเทา กัดฟันเต็มแรง!

ที่จริงแล้วเธอเองก็ทนไม่ไหว และบอกไม่ได้ด้วยว่าเธอกัดฟันจริงหรือเปล่า? เพราะร่างทั้งร่างของเธอถูกหลอมแทบไม่เหลือในเปลวเพลิงแล้ว

แต่ในขณะเดียวกัน พลังแห่งกฎเกณฑ์ที่เธอได้รับจาก ‘กุญแจสู่ประตู’ ก็ชัดเจนขึ้น

การถือกำเนิดของเขตแดนใหม่ต้องใช้ความเข้าใจและการสร้าง ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ยาวนานสำหรับระดับเหนือนภา…

แต่ในศึกนี้ ไวลด์ได้รับความเข้าใจที่เพียงพอใน ‘จุดจบ’ จากตวามตายและการสละชีวิตของสาวกมากมายจากนิกายกลืนศพ เขาจึงนำหน้าไปก้าวหนึ่ง

โจเซฟยังขาดตัวต่อชิ้นสุดท้ายอยู่

และตอนนี้ เมลิสซ่าผู้เชี่ยวชาญรากฐานแห่งทุกความรู้และมีความสามารถเรียนรู้เกินความเร็วสมองของเธอได้รับตัวต่อชิ้นสุดท้ายมาจากพ่อของเธอ ชายผู้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของแนวความคิดแห่งอัศวินแล้ว

ต่อจากนี้ เราก็แค่เอาความเข้าใจนี้ไปบอกพ่อซะ…

เมลิสซ่าคิด

เขตแดนใหม่ที่ไวลด์เปิดขึ้นแทบจะปกคลุมทั่วสนามรบแล้ว และกระทั่งใกล้แตะแนววางเครื่องจำลองนิมิตชั้นสองอยู่รอมร่อ

ขอเพียงมันแตะแนววางเกราะจำลองฝัน เครื่องจำลองนิมิตก็จะถูกทำลายทันที และจากกฎเกณฑ์ หอพิธีกรรมต้องห้ามเองก็อาจได้รับผลกระทบ อย่าว่าแต่เรื่องที่นอร์ซินจะได้รับหางเลข

เห็นได้ชัดว่าในหมู่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับเหนือนภาด้วยกัน พลังของไวลด์ยังสูงกว่ามาตรฐานอยู่

“โจเซฟ ยอมแพ้เถอะ”

ไวลด์พูดเชิงกรุณา และใบหน้าที่ผุดขึ้นบนร่างใหญ่โตก็เผยรอยยิ้มเย้ยหยันออกมาบาง ๆ ซึ่งดูน่าเกลียดน่ากลัวมากเพราะเส้นหนวดสีม่วงดำที่ยุกยิกอยู่บนผิว

เสียงของเขากังวานไปทั่วสนามรบดั่งระฆังผุเปื่อย “นายรู้ดีมากว่าทั้งฉันและนายต่างถูกเจ้าของร้านหลินเลือก…นี่คือชะตากรรมของเรา เหมือนกับการที่ฝาแฝดแย่งสารอาหารกันอยู่ในครรภ์ของแม่นั่นแหละ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะรอดออกไปจากสนามรบนี้ได้”

“ส่วนเงื่อนไขของการมีชีวิต จุดประสงค์ที่เจ้าของร้านหลินส่งเรามาเจอกันที่นี่ ก็คือการจุติของระดับเหนือนภาหนึ่งคน”

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

เปลวเพลิงสีขาวสั่นระริก ระเบิดออกอย่างต่อเนื่อง โอบล้อมร่างใหญ่ยักษ์ของไวลด์เอาไว้ มองจากไกล ๆ มันดูราวกับดวงดาวที่กะพริบไปมา

มันคือการระเบิดของเพลิงอีเธอร์ของโจเซฟ และอำนาจกฎเกณฑ์แห่งจุดจบของไวลด์ที่ปะทะกัน

“ย้ากกกก!!”

เส้นเลือดและกล้ามเนื้อของโจเซฟปูดโปนถึงขีดสุด และในขณะที่เขากำลังเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง เขาก็คำรามพลางหั่นส่วนต่าง ๆ ของไวลด์อย่างต่อเนื่อง ร่างยักษ์ของเขายืนหยัด ทว่าก็พร้อมจะล้มลงได้ทุกเมื่อดั่งเปลวเทียนในสายลม

หลังจากได้ยินชื่อเจ้าของร้านหลิน โจเซฟก็เงยหน้าขึ้น สายตาโกรธเคืองของเขาทิ่มแทงหน้าของไวลด์ที่อยู่บนร่างกายใหญ่โตราวดาบที่แหลมคม

“แค่ว่า…มันมีความต่างอย่างหนึ่งระหว่างเรา…”

ไวลด์หัวเราะ ‘ชิ ๆ’ แล้วพูดต่อ “เจ้าของร้านหลินเลือกฉัน ให้ฉันเผยแพร่คำสอนของเขา และเขาก็เลือกนายแค่เพื่อให้นายเป็นบททดสอบของฉัน”

“นี่คือ ‘บททดสอบ’ ให้ฉันก้าวข้ามอดีต และหลังจากก้าวข้ามความกลัวและอดีตอันเหยาะแหยะ ฉันถึงจะเติบโตได้…นายไม่คิดแบบนั้นบ้างเหรอโจเซฟ?”

เปรี้ยง!

โจเซฟถูกเส้นหนวดที่ใหญ่โตเหมือนภูเขาฟาดจนกระเด็นออกไป เขากลิ้งหลุน ๆ กับพื้นอยู่หลายตลบ ขุดพื้นเป็นร่องลึกก่อนจะหยุดลงได้ด้วยแรงรั้งของดาบในมือ

อัศวินแห่งแสงผู้เกรียงไกรชักดาบขึ้นแล้วเงยหน้ามองไวลด์อย่างสงบนิ่ง จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่อีกครั้ง

“ดูดีนะ…”

ไวลด์พูดยิ้ม ๆ “ถ้านายอยากฆ่าฉันก็เข้ามาเลย ฉันจะไม่ฆ่านาย แต่ฉันจะกลืนกินนายซะ ใช้นายเป็นสารอาหารของฉัน… กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือทรชนที่นายรังเกียจ…”

ไวลด์รู้จักโจเซฟดี และจุดจบเช่นนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ็บปวดยิ่งกว่าตาย และยังทำให้เขาได้ใช้อำนาจอย่างเต็มที่ที่สุดอีกด้วย

พฤติกรรมนี้ต่างจากรูปแบบดั้งเดิมของไวลด์ที่ระมัดระวังและเจ้าเล่ห์

ไวลด์มองไปรอบ ๆ สนามรบอีกครั้ง และทุกที่ที่ถูกเขตแดน ‘จุดจบ’ ของเขาปกคลุมก็ไปถึงจุดสิ้นสุดแล้ว

จุดจบของทุกสิ่งก็คือการสูญสลาย

สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงพอจะเรียกได้ว่าจีรังตลอดกาล หนีเขตแดนของเขาไม่พ้น แล้วสิ่งใดเล่าจะยืนหยัดสู้เขาได้?

ฉันมีทุกสิ่งแล้ว!

ไวลด์คิดเช่นนั้น แล้วจู่ ๆ ก็ขมวดคิ้ว…

เส้นแสงสีแดงปรากฏขึ้นในความมืดมิดของจุดจบ

เส้นแสงที่เล็กบางมาก แต่ไม่ดับลงเสียที

มันเป็นเพียงประกายเพลิงเล็ก ๆ เหมือนดอกไม้ไฟที่เผาไหม้อย่างรวดเร็ว

“นั่นมัน…”

ไวลด์ที่อยู่ในเขตแดนของเขาเองแทบจะเอื้อมถึงระดับไร้คู่ต่อกร เขาสัมผัสสถานการณ์จากทุกสารทิศและควบคุมทุกอย่างได้

แต่เขาพบว่าเขาไม่สามารถยุ่งกับประกายเพลิงนั้นได้

ไวลด์เบิกตากว้างแล้วมองไปใกล้ ๆ แล้วก็เห็นร่างที่เผาไหม้แตกสลายของเด็กสาวทะลวงการกีดขวางเข้ามาใกล้เขาอีกครั้ง

ลูกสาว…ของโจเซฟ? เมลิสซ่า?

ม่านตาของไวลด์หดตัว ความคิดของเขาแล่นเร็วจี๋แล้วบีบร่างของเด็กสาวที่เข้ามาใกล้เขาไว้ แต่ก็พบว่าเขตแดนของตัวเองใช้ไม่ได้ผล!

“เป็นไปไม่ได้! นั่นมันอะไร?! นั่นมัน…ออร่ากฎเกณฑ์ของโจเซฟเหรอ?!”

แม้ว่าไวลด์จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็เข้าใจทันทีว่าต้องไม่ให้เธอแตะต้องโจเซฟได้!

สสารทำลายล้างสีดำถาโถมเข้าใส่เมลิสซ่าราวเกลียวคลื่นในทันที สสารนี้เป็นตัวแทนเขตแดนแห่งจุดจบเหมือนเงื้อมมือของปีศาจที่อยู่ทุกหนแห่งเหมือนสายลมโอบล้อมประกายเพลิงไว้เสียจนแสงทั้งหมดถูกบดบัง

แต่ทว่า!

คลื่นทมิฬโอบล้อมเมลิสซ่าไว้ราวกับเป็นกองกรวด แล้ววินาทีต่อมาก็แตกร้าวระเบิดออกราวกับภูเขาไฟที่เปิดทางให้ลาวาไหลทะลัก ส่งเพลิงสีแดงร้อนระอุออกมาภายนอก

ตู้ม!

จุดจบของไวลด์ที่ทำลายล้างได้ทุกสิ่งแตกสลายราวเปลือกไข่…

เปลวเพลิงถือกำเนิดขึ้นจากมัน

เส้นผมสีแดงนุ่มสลวยของเมลิสซ่าโบกไสวน้อย ๆ ในเปลวเพลิง สีของมันกลมกลืนไปกับเปลวไฟราวกับดอกบัวสีแดงที่เบ่งบานในขุมนรก

ผิวหนังของเธอถูกเผาไหม้ไปหมดแล้ว ร่างของเธอแตกสลายง่อนแง่น เกือบจะเปลี่ยนเป็นเปลวไฟไปทั้งตัว…

มีเพียงใบหน้าของเด็กสาวที่ยังคงเดิม และดวงตาสีฟ้าของเธอก็กระจ่างใสราวอัญมณี

“เมลิสซ่า?!”

โจเซฟที่ถูกดีดกระเด็นและเตรียมปักดาบลุกขึ้นอีกครั้งพลันสังเกตเห็นเปลวเพลิงที่ทะลวงการกีดขวางชั้นสุดท้ายรอบตัวเขาเข้ามา แล้วจากนั้นก็ตระหนักว่านั่นคือลูกสาวที่ควรอยู่นอกสนามรบของตัวเอง

สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวสุด ๆ แล้วคำรามอย่างโกรธเคือง “ลูกมาทำอะไรตรงนี้?! กลับไป! กลับไปซะ!!!”

โจเซฟก้าวไปข้างหน้า แต่ก็เซไปสองก้าวเพราะอาการบาดเจ็บบนตัว เขากระอักเลือดคำโต แล้วดาบยาวก็ร่วงลงที่พื้น

เขาตัวสั่นอย่างรุนแรง

เขาเป็นนายแห่งกฎเกณฑ์ จะไม่สัมผัสได้ได้อย่างไร เขาจะไม่รู้ได้อย่างไร…

ว่าเปลวเพลิงบนตัวเมลิสซ่านั้นเกิดขึ้นจากการเผาไหม้อีเธอร์ และชีวิตของเธอเอง

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ไวลด์ควบคุมหนวดของตัวเองและสสารแห่งจุดสิ้นสุดสีดำให้พุ่งเข้าไปหาเมลิสซ่าราวกระแสน้ำเชี่ยว แต่เปลวเพลิงบนร่างเมลิสซ่าก็เผาผลาญมันไปหมด

เห็นได้อย่างคลุมเครือว่าทุกครั้งที่เขตแดนแห่งจุดสิ้นสุดโจมตีเธอ ร่างของเด็กสาวในเปลวเพลิงก็ระเบิดสลายไปครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่ไม่ว่าจะใช้แรงแค่ไหน มันก็หยุดการเดินไปข้างหน้าของเมลิสซ่าไม่ได้

เธอทำเพียงมองพ่อของเธอ ลากเปลวเพลิงอันหนักหนาไปข้างหน้า เดินหน้าเข้ามาเรื่อย ๆ

โจเซฟลืมตากว้าง ความมั่นคงของอัศวินผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตหายไปสิ้น เหลือเพียงแค่คนเป็นพ่อธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่โซเซและกรีดร้องอย่างไร้เสียง

เสียงของเขาถูกกระแสแห่งจุดสิ้นสุดกลบทิ้ง หายไปสู่ความว่างเปล่า

“เมลิสซ่า!!!”

โจเซฟฉีกกระชากทุกอย่างที่ขวางทางเขาอย่างเดือดดาล และสุดท้ายก็ค่อย ๆ หยุดลงที่หน้าเปลวเพลิง

เพลิงอีเธอร์รอบ ๆ ที่สลายไป เหลือเพียงร่างของเด็กสาวที่ยังคงงดงามและยังฝืนยื่นมือออกไปหา

โจเซฟตัวสั่นเล็กน้อย ก่อนจะอ้าแขนออกโอบกอดลูกสาวของเขาไว้

เพลิงสลายไปทันทีที่สัมผัส…

ในขณะเดียวกัน กฎเกณฑ์ที่ไม่สมบูรณ์ก็ปะติดปะต่อกัน และเด็กสาวที่เสียพลังชีวิตไปนานแล้ว…ก็สลายเป็นเถ้าลอยว่อนไปโดยสมบูรณ์

แขนที่อ้าออกของโจเซฟคว้าสิ่งใดไม่ได้นอกจากเถ้าธุลี

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+