เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆบทที่ 273 อาหารตระกูลติง

Now you are reading เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ Chapter บทที่ 273 อาหารตระกูลติง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 273 อาหารตระกูลติง

“ในรายการอาหารมีอาหารของตระกูลติงหรือไม่?” ถังหลี่ถาม

“ไม่มีขอรับนายหญิง ท่านไม่ต้องกังวล ไม่มีแน่นอนขอรับ” หม่าเฉิงรีบส่ายศีรษะ

หากมีรายการอาหารของตระกูลติงก็จะเป็นช่องที่ทำให้พี่น้องสองคนนำปัญหามาให้นายหญิงได้ บางทีหม่าเฉิงเองก็รู้สึกสับสน ตัวเขาเป็นผู้สืบทอดการทำอาหารของตระกูลติง ตำรับของตระกูลติงย่อมทำให้หน้าที่การงานของเขาเจริญรุ่งเรืองแน่นอน

แต่กลับกลายเป็นว่าเปิดโอกาสให้สองพี่น้องใส่ไฟเขา หม่าเฉิงไม่อยากให้เจ้านายของตัวเองต้องลำบาก แต่ถ้าหากไม่ทำสูตรของตระกูลติงแล้วจะถือว่าเป็นผู้สืบทอดของนายท่านได้อย่างไร บางครั้งหม่าเฉิงก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองควรจะทำอย่างไรดี

แต่ถ้าเขาไม่ยืนหยัดที่จะทำอาชีพพ่อครัวต่อไป เขาคงจะเสียใจและไม่มีหน้าไปเจอนายท่าน อย่างไรก็ตามในตอนนี้ เขารู้สึกว่าตัวเองเดินมาถึงทางตันแล้ว

“เจ้าทำอาหารของตระกูลติงให้ข้าชิมได้หรือไม่?” ถังหลี่ถาม

ดวงตาของหม่าเฉิงเป็นประกาย นายหญิงอยากลองชิมอาหารของตระกูลติงจริงหรือ? หากได้ทำอาหารสูตรของนายท่านแค่สักหนึ่งมื้อ มันคงทำให้เขามีความสุขไปอีกนาน

“ได้ขอรับ นายหญิงโปรดรอข้าสักครู่”

หม่าเฉิงวิ่งเข้าไปในครัวอย่างมีความสุข ประมาณครึ่งชั่วยามเขาก็ออกมาพร้อมกับจานอาหารในมือ หม่าเฉิงวางมันลงต่อหน้าถังหลี่ก่อนจะเปิดฝาขึ้น ถังหลี่ที่ได้กลิ่นหอมฉุยก็ใช้ตะเกียบคีบอาหารขึ้นมาเข้าปาก มันเป็นเห็ดที่หั่นบาง ๆ แต่รสชาติดี

อร่อยมาก…

ถังหลี่กินต่ออีกหลายคำในครั้งเดียว และเมื่อนางวางตะเกียบลงก็ยังรู้สึกขัดใจเล็กน้อย สูตรตระกูลติงมันคุ้มค่ามาก!

อร่อยกว่าอาหารที่นางทำเสียด้วยซ้ำ นางพบขุมทรัพย์เข้าแล้ว!

หากนางเลือกอาหารของตระกูลติงมาขายล่ะก็ ถังหลี่จะต้องกอบโกยเงินได้เป็นกอบเป็นกำแน่! หญิงสาวยกนิ้วให้แก่หม่าเฉิง หม่าเฉิงมีความสุขมากตราบใดที่นายหญิงของเขาชอบ

“เหตุใดพวกเราไม่เพิ่มรายการอาหารของตระกูลติงสักสองสามรายการเล่า?” ถังหลี่คิดอยู่ครู่หนึ่ง “เพิ่มเป็นรายการอาหารจากสูตรตระกูลติงโดยตรงดีหรือไม่?”

หม่าเฉิงตกตะลึง

นายหญิงไม่เพียงขอให้เขาทำอาหารของตระกูลติงเท่านั้น แต่ยังให้เขาทำอาหารในนามของตระกูลติงด้วย! สำหรับเขาแล้วมันคือโอกาสที่หายาก ไม่คิดเลยว่านางจะให้โอกาสเขาเช่นนี้

แต่…

“นายหญิง หากท่านใส่รายการอาหารของตระกูลติง พี่น้องสองคนนั่นจะมีข้ออ้างที่จะบอกว่าข้าขโมยสูตรมาจริง ๆ นะขอรับ และเขาอาจจะไปฟ้องร้องทางการได้ มันเป็นเรื่องใหญ่โตสำหรับร้านอาหาร” หม่าเฉิงกล่าว

จิตใจของนายหญิงนั้นทำให้เขาหวั่นไหว แต่เขาไม่สามารถทำร้ายนางได้ มันจะก่อให้เกิดปัญหาจนยากที่จะรักษาร้านเอาไว้ได้

“แล้วเจ้าขโมยสูตรอาหารมาหรือเปล่าล่ะ?” ถังหลี่ถามด้วยรอยยิ้ม

“ไม่ขอรับ! นายท่านเป็นคนถ่ายทอดให้ข้าเอง!” หม่าเฉิงส่ายศีรษะทันที

“แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว คนที่บริสุทธิ์ย่อมไม่เป็นอะไร” ถังหลี่กล่าว

“เพิ่มรายการอาหารเข้าไปตามที่ข้าบอก ที่เหลือข้าจะจัดการเอง!”

หม่าเฉิงมองถังหลี่ด้วยแววตาดีใจ น้ำตาของเขาเอ่อคลอทำให้ถังหลี่รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยที่ถูกชายวัยกลางคนมองด้วยสายตาของเทิดทูนบูชาแบบนี้

“อันที่จริงข้ากำลังเอาเปรียบเจ้าอยู่นะ” ถังหลี่กล่าว

“นายหญิงอย่าพูดเช่นนั้นขอรับ ความจริงข้าคิดว่าข้าคงไม่ได้ทำอาหารตระกูลติงอีกแล้วในชีวิตของข้า” หม่าเฉิงกล่าว

จากนั้น รายการอาหารของตระกูลติงก็ถูกเพิ่มเข้าไปสองสามอย่าง เมื่อทุกอย่างเข้าที่ถังหลี่เลือกฤกษ์ดีสำหรับเปิดร้านอย่างเป็นทางการ แต่สองวันก่อนร้านจะเปิดก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น

มีข่าวลือแพร่สะพัดใหญ่โตในเมืองเหอตง…

“ร้านอาหารที่กำลังจะเปิดที่ชื่อหนิงเฟิงน่ะ ว่ากันว่าหม่าเฉิงเป็นพ่อครัวด้วย!”

“หม่าเฉิงหรือ ฟังดูคุ้น ๆ นะ”

“คนที่ขโมยสูตรอาหารของตระกูลติงไง!”

“พ่อครัวหัวขโมยคนนั้นหรือ! เหตุใดร้านอาหารแห่งนี้จึงจ้างเขากัน!”

“ข้าได้ยินว่าลูกหลานของตระกูลติงไปเกลี้ยกล่อมเจ้าของร้าน แต่เขาไม่ฟังและยืนยันจะจ้างหัวขโมยผู้นั้น!”

“ดูเหมือนเจ้าของร้านอาหารคนนี้ไม่ใช่คนดีเลยนะ”

“ใช่ ร้านอาหารแบบนี้จะรู้ได้อย่างไรว่าใส่อะไรลงจานให้พวกเรากินบ้าง ดังนั้นอย่าไปทานที่ร้านอาหารหนิงเฟิงเชียว!”

“ใช่ ข้าจะไม่ไปหากเขายังจ้างโจรมาเป็นพ่อครัว!”

ก่อนที่ร้านอาหารจะเปิด เมืองเหอตงก็กำลังร้อนระอุด้วยข่าวลือนี้ เป็นเสียงวิจารณ์ที่ราวกับจะฆ่าให้ตาย ต่อให้ถังหลี่ใช้นิ้วหัวแม่เท้าคิดดูก็รู้ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวลือ ต้องเป็นติงเต๋อเหรินแน่นอน เขาต้องการทำลายร้านอาหาร แต่เมื่อถังหลี่ได้ยินก็อยากจะหัวเราะ นางคิดว่าติงเต๋อเหรินจะต้องใช้เล่ห์กลอุบายที่ซับซ้อนมากกว่านี้

แต่ว่า แค่นี้เองนะหรือ?

“นายหญิงขอรับ”

ถังหลี่เงยหน้าขึ้นและเห็นหม่าเฉิงที่ยืนตรงประตูด้วยท่าทีสำนึกผิด

“นายหญิง…เหตุใดท่านไม่เปลี่ยนพ่อครัวเล่าขอรับ?”

หม่าเฉิงเองก็ได้ยินข่าวลือเช่นกัน

ในตอนแรกนั้นหม่าเฉิงเต็มไปด้วยความคาดหวังและตั้งตารอการเปิดร้านอาหารอย่างเป็นทางการ เขาอยากให้ผู้คนได้ลิ้มรสอาหารของตระกูลติงมากขึ้นและหวังว่าทุกคนจะชื่นชอบอาหารของตระกูลติง

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้ยินข่าวลือเหล่านั้นเขาก็เหมือนถูกน้ำเย็นสาดใส่ หม่าเฉิงคิดเรื่องนี้ตลอดเวลาจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เขาไม่ได้เต็มใจที่จะลาออกจากร้านอาหารหนิงเฟิง เถ้าแก่เนี้ยที่ใจดีและให้โอกาสเขามากเช่นนี้…แต่ทว่า หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ร้านอาหารแห่งนี้คงต้องปิดตัวทันทีในวันที่เปิดร้าน…

เถ้าแก่เนี้ยผู้นี้ปฏิบัติต่อเขาเป็นอย่างดีเขาจะทำร้ายนางได้อย่างไร

เมื่อตัดสินใจได้หม่าเฉิงจึงเดินมาหานางด้วยตัวเองตั้งแต่เช้า

“จะไปไหนล่ะ? ร้านจะเปิดแล้ว ข้าจะหาพ่อครัวใหม่ทันได้อย่างไร?” ถังหลี่ถาม

“แต่ถ้าหากท่านยังเก็บข้าไว้ล่ะก็…ท่านจะขายอาหารได้หรือขอรับ”

“จะขายได้หรือไม่ได้ก็ตามที แต่ข้ารับประกันเลยว่าเมื่อเปิดร้านอาหารจะต้องมีลูกค้ามากมายหลั่งไหลเข้ามาจนเจ้ายุ่งมือเป็นระวิงเชียวละ สองวันนี้เจ้าควรพักผ่อนให้มากขึ้นไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถหาเวลาพักได้อีกแล้ว” ถังหลี่กล่าว

“พ่อครัวหม่าไม่ต้องกังวล ข้ามีวิธีแก้ปัญหาอยู่แล้ว ข้าเองก็เป็นเจ้าของกิจการจะทำให้ร้านขาดทุนได้อย่างไร?”

ถังหลี่ยิ้มและพูดด้วยความมั่นใจอย่างไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ หม่าเฉิงรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ

นายหญิงมีทางแก้จริง ๆ หรือ?

….

สองพี่น้องติงเต๋อเหรินและติงเต๋อโหยวให้ความสนใจกับกิจการของร้านหนิงเฟิงมาก พวกเขาสองคนพี่น้องมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกันคือผอม โหนกแก้มสูง ใบหน้าดูชั่วร้ายเหมือน ๆ กัน เพียงแต่ติงเต๋อเหรินนั้นแก่กว่าและสูงกว่าเล็กน้อย

ทั้งสองยืนมองร้านอาหารหนิงเฟิงอยู่ไม่ไกล

“ร้านหนิงเฟิงยังจ้างหม่าเฉิงอยู่หรือเปล่า?” ติงเต๋อโหยวถาม

“ยังเก็บไว้ ข้าไม่รู้ว่านางสติดีหรือไม่!” ติงเต๋อเหรินเค้นฟันด้วยความเกลียดชัง

หากเจ้าของร้านยังจ้างคนผู้นี้อยู่ ย่อมส่งผลกระทบต่อกิจการของร้านเขาแน่ นี่เป็นเรื่องใหญ่แค่คิดก็ทำให้ไม่สบายใจและอึดอัดมาก

“ท่านพี่อย่ากังวลไปเลย เมื่อร้านอาหารเปิดคงไม่สามารถทำเงินได้แน่นอน ตอนนั้นนางจะรู้เอง”

ติงเต๋อโหยวหรี่ตาอย่างมุ่งร้าย พูดด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร เมื่อได้ยินคำพูดของน้องชายติงเต๋อเหรินก็มีท่าทีที่ผ่อนคลายลง

“เจ้าพูดถูก เมื่อถึงเวลาทุกคนในเมืองจะเห็นชะตาของร้านอาหารแห่งนี้! ไม่ใช่แค่เหอตง แต่ในมณฑลอื่นก็จะไม่มีใครกล้าจ้างหม่าเฉิงอีก!” ติงเต๋อเหรินกล่าว

เมื่อพูดถึงหม่าเฉิงมันเป็นเรื่องที่ทำให้เขาโกรธมาก ตาแก่สติฟั่นเฟือนผู้นั่นควรสอนทักษะการทำอาหารให้แก่คนในตระกูลติงสิไม่ใช่คนนอก!

ตอนนี้เขากำลังรอคอยดูชะตากรรมที่น่าสมเพชของเถ้าแก่เนี้ยผู้นี้ ในวันที่ไม่มีลูกค้าเข้าร้านเลยสักคนเดียว!

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *