เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]บทที่ 1513 ส่งตัวนางกลับมาเดี๋ยวนี้

Now you are reading เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] Chapter บทที่ 1513 ส่งตัวนางกลับมาเดี๋ยวนี้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1,513 ส่งตัวนางกลับมาเดี๋ยวนี้

สีหน้าท่าทางของเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงย่อมไม่เหมือนคนปกติ นางดูคล้ายกับหญิงเสียสติ มิหนำซ้ำ ยังดูเหมือนนางโจรอีกด้วย

ด้วยเหตุนี้เอง แม้โอรสสวรรค์จะสัมผัสได้ว่านางมีพลังแข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่ได้วิตกกังวลสักเท่าไหร่

“ตายซะเถอะ”

โอรสสวรรค์ยืนอยู่หน้าแท่นบูชา ก่อนจะโบกสะบัดฝ่ามือกระแทกออกมาข้างหน้า

คลื่นพลังพุ่งออกมา

คลื่นพลังนั้นรวมตัวกันกลายเป็นรูปฝ่ามือสีแดงขนาดใหญ่

“เฮอะ ยังจะคิดขัดขืนอีกหรือ?”

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมส่งมอบของมีค่าออกมาแต่โดยดี เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก ดังนั้นนางจึงรีบควงไม้เท้าในมือปลดปล่อยพลังทำลายล้างออกไปต้านทานฝามือสีแดงขนาดใหญ่นั้น

นี่คือการแสดงฝีมือให้หลินเป่ยเฉินได้รับชมเป็นพิเศษ

คลื่นพลังรูปทรงฝ่ามือสลายตัวหายไป

ไม้เท้าในมือเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงโบกสะบัดอีกครั้ง

แล้วแขนของโอรสสวรรค์ก็หักดังกร๊อบ

กระบวนท่าที่สามของเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงเกือบจะทำให้แท่นบูชาพังถล่มลงมาแล้ว

“อื้อหือ… ยอดเยี่ยมจริง ๆ”

หลินเป่ยเฉินปรบมือให้กำลังใจอย่างอบอุ่นอยู่ด้านข้าง “แข็งแกร่งมาก… แม้แต่ข้าก็ยังเทียบไม่ติด”

การแสดงฝีมือของเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงในครั้งนี้ ทำให้นางสามารถกู้หน้าตนเองคืนมาได้ไม่น้อย

โอรสสวรรค์พิศวงยิ่งนัก

เขาย่อมสัมผัสได้แน่ชัดว่าเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงมีความเก่งกาจ แต่ก็ไม่คิดเลยว่านางจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ โดยเฉพาะไม้เท้าสีดำทมิฬที่อยู่ในมือนั้น มันไม่เหมือนเป็นอาวุธที่จะสามารถทำให้แขนของเขาหักได้เลย

“เจ้าเองก็มาจากภพภูมิอื่นเหมือนกันสินะ…”

ครั้งนี้โอรสสวรรค์ประหลาดใจอย่างแท้จริง

เขานึกว่าตนเองผู้มาจากภพภูมิอันสูงส่ง เมื่ออยู่ในดินแดนรูหนูโสโครกแห่งนี้ ก็จะไม่มีผู้ใดสามารถเป็นคู่ต่อกรของเขาได้อีก แต่แล้วโอรสสวรรค์ก็ได้พบเจอบุคคลปริศนาในม่านหมอกขาว และบัดนี้ เขาก็ยังได้พบเจอหญิงเสียสติ…

เหตุไฉนที่นี่จึงได้มียอดฝีมืออยู่มากมายนัก?

นี่ช่างแตกต่างจากสิ่งที่โอรสสวรรค์คาดการณ์เอาไว้

“เร็วเข้า รีบส่งของมีค่าของเจ้าออกมาซะ”

เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

นานมากแล้วที่นางไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นเช่นนี้

ในอดีต เพียงเพราะไม้เท้าอันเดียวนี้ ไม่ทราบเลยว่ามีผู้คนมากมายเพียงใดต้องเกลียดชังนาง…

ความรู้สึกของการเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตหวนคืนกลับมา

นี่คือความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก

โอรสสวรรค์ใบหน้ากระตุก “ของมีค่าอันใด? ข้าไม่มีให้เจ้าหรอก… นางหญิงเสียสติ เจ้ากำลังรนหาที่ตายเสียแล้ว”

“บัดซบ งั้นข้าจะเลาะฟันของเจ้าออกมา”

เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงใช้ไม้เท้ากระแทกใส่ปากโอรสสวรรค์จนฟันกระเด็นหลุดออกมาหลายซี่

โอรสสวรรค์คลุ้มคลั่ง

จนกระทั่งถึงบัดนี้ เขาก็ยังมองไม่ออกเลยว่าหญิงเสียสติมาจากสายเลือดเผ่าพันธุ์ใด เหตุไฉนตนเองจึงไม่สามารถป้องกันไม้เท้าในมือนางได้เลย โลหิตยังคงไหลทะลักออกมาไม่หยุด และไม่มีทีท่าว่าจะสามารถสมานแผลได้ง่าย ๆ

เพียงวันนี้วันเดียว โอรสสวรรค์ก็ต้องพบเจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งถึงสองคน ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่คาดคิดเลยว่าจะได้พบเจอเมื่อเดินทางมาที่แผ่นดินตงเต้าแห่งนี้

โอรสสวรรค์ได้แต่ล่าถอยต่อเนื่อง

หลินเป่ยเฉินพูดออกมาเสียงดังว่า “มันพยายามถ่วงเวลา… ท่านรีบทำลายแท่นบูชาก่อนเถอะ ไม่งั้นเดี๋ยวหมอนี่หนีไปไม่รู้นะ…”

หลินเป่ยเฉินพยายามเป่าหูเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงให้มากเท่าที่จะทำได้

อันที่จริง เขาตั้งใจแอบเข้ามาทำลายแท่นบูชาเงียบ ๆ แต่ที่ไหนได้ เมื่อพบพิธีบูชายัญนักบวชกว่าสองพันคน สุดท้ายสถานการณ์ก็บานปลายเกินคาดคิด

ครั้งนี้จึงโชคดีที่เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงประพฤติตนสามารถพึ่งพาได้ ในที่สุด นางก็แสดงพลังที่แท้จริงออกมาและสามารถบดขยี้โอรสสวรรค์ได้อย่างต่อเนื่อง

เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!

นับว่าไม่ได้ทำให้หลินเป่ยเฉินผิดหวังแล้ว

ไม้เท้าในมือโบกสะบัด แท่นบูชาเก้าชั้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

รูปปั้นเทพเจ้าพังถล่ม

เช่นเดียวกับแท่นบูชาเก้าชั้น

เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย

หลินเป่ยเฉินยิ้มร่าด้วยความดีใจ

ค่ายอาคมเริ่มเกิดการสั่นไหว

ดูเหมือนเขาคงไม่ต้องทำอะไรอีก… แม้ว่าถึงจะต้องทำ หลินเป่ยเฉินก็ไม่รู้อยู่ดีว่าตนเองสมควรทำอย่างไร

หลินเป่ยเฉินเงยหน้ามองม่านพลังในอากาศ แต่แล้วใบหน้าก็ต้องแข็งค้าง

เป็นแบบนี้ไม่ถูกต้อง!

เพราะสนามพลังและค่ายอาคมไม่ได้สลายลงไปเช่นเดียวกับการพังถล่มของแท่นบูชาและรูปปั้นเทพเจ้า

มันไม่มีผลเลยแม้แต่น้อย

“พอได้แล้ว”

โอรสสวรรค์ลอยตัวอยู่ในอากาศ ด้านหลังของเขาคือสนามพลังแห่งค่ายอาคมดูดกลืนวิญญาณ “เจ้าไม่รู้หรอกว่าตนเองกำลังจะต้องพบเจออะไร”

โอรสสวรรค์ยื่นมือข้างหนึ่งเข้าไปในสนามพลัง

และหลังจากนั้น สนามพลังนั้นก็ส่งคลื่นพลังเป็นลำแสงสีเงินออกมาห่อหุ้มร่างกายของโอรสสวรรค์เอาไว้

เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงรู้สึกได้ถึงอันตรายโดยทันที

โอรสสวรรค์กระแทกหมัดออกมาข้างหน้า

ลำแสงพุ่งทะลวงอากาศเจิดจ้า

เปรี้ยง!

เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงยกไม้เท้าขึ้นปัดป้อง

ตัวคนกระเด็นออกไปไกลหลายร้อยวา กระแทกกับวิหารหินหลังหนึ่งพังถล่มทลาย ร่างของเทพีขี้เมาจมหายลงไปใต้กองเศษหิน

เสียงปรบมือจากหลินเป่ยเฉินหยุดชะงักไป

ให้ตายสิ

เจ้าโอรสสวรรค์นี่แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ

คงต้องหาวิธีอื่นแล้วสิ

หลินเป่ยเฉินแอบล่าถอยออกห่างมาเรื่อย ๆ และหากไม่ใช่เป็นเพราะแอบล่าถอยออกมาก่อน ป่านนี้เขาก็คงถูกแรงระเบิดซัดเข้าไปจมอยู่ใต้กองเศษหินแล้วเช่นกัน

วูบ!

แต่ทันใดนั้น ร่างของเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงก็พุ่งเป็นสายฟ้าทะยานออกมาจากใต้กองเศษหินและโถมตัวเข้าใส่โอรสสวรรค์ด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ

อย่างไรก็ตาม…

เปรี้ยง!

นางก็ถูกต่อยลอยกระเด็นกลับออกมาอีก

ตัวคนกระแทกพื้นหินไม่ต่างจากถุงกระสอบเก่าขาด ร่างกายไถลครูดไปหลายร้อยวา พื้นหินเกิดเป็นรอยลากทางยาวตามหลัง…

เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงสำลัก พยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นและหมุนตัวหลบหนี

ในที่สุด นางก็รู้ตัวแล้วว่าตนเองสู้อีกฝ่ายไม่ได้

เพราะฉะนั้น เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงจึงต้องหลบหนี

“สู้ไม่ไหว รีบเผ่นกันก่อนเถอะ”

ระหว่างที่วิ่งหนีออกมา นางก็ส่งเสียงตะโกนบอกหลินเป่ยเฉิน

แล้วเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงก็ไม่พูดอะไรอีก

ดวงตาของหลินเป่ยเฉินทอแววโกรธเคือง “ไม่สู้ต่อจนจบก่อนเล่า… เดี๋ยวก่อนสิ? หากท่านหนีไปเช่นนี้ ท่านก็ต้องยอมเสียพรหมจรรย์ให้ข้าแล้วนะ”

ก่อนหน้านี้นางเคยสาบานเอาไว้ไม่ใช่หรือ?

เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงหลบหนีด้วยความรวดเร็วยิ่งกว่ากระต่ายยามตื่นกลัว นางโบกไม้โบกมือส่งสัญญาณไม่ให้เขาถามอะไรอีก

“คิดจะหนีงั้นหรือ?”

โอรสสวรรค์ระเบิดเสียงคำรามดังกังวาน “ไม่มีทางเสียหรอก”

เขายกมือโบกสะบัด

พลัน ลำแสงสีเงินก็พุ่งเป็นเส้นเชือกเข้ารัดข้อมือและข้อเท้าของเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงและกระชากร่างนางลอยกลับหัวในอากาศ ก่อนจะดึงกลับมาหาโอรสสวรรค์อย่างรวดเร็ว…

“ข้าเพียงผ่านทางมาเท่านั้นจริง ๆ นะ…”

เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงพยายามดิ้นรนและตะโกนด้วยความตื่นตระหนก “ข้าถูกเจ้าเด็กคนนั้นหลอกลวง… ท่านกับข้าล้วนมาจากภพภูมิอื่นเหมือนกัน เมื่อสักครู่นี้ ข้าแค่ล้อเล่น”

หลินเป่ยเฉินพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว

โอรสสวรรค์หัวเราะเยาะ “ในเมื่อเจ้ามาจากภพภูมิอื่นงั้นก็ยิ่งต้องจัดการเลย เพราะว่าเจ้ารู้มากเกินไป”

เขาหมุนข้อมือ

ทันใดนั้น เชือกสีเงินที่มัดมือมัดเท้าเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงก็โยนนางเข้าไปสู่ด้านในสนามพลังของค่ายอาคมดูดวิญญาณ

ร่างของเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงหายวับไป

อ้า นี่มัน…

สมองของหลินเป่ยเฉินหมุนวนเร็วจี๋

เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงถูกดูดเข้าไปในสนามพลังแล้วหรือ?

บัดนี้ เด็กหนุ่มเริ่มเป็นกังวลขึ้นมาอย่างแท้จริง

อย่าบอกนะว่าเทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงเสียชีวิตแล้ว?

“ส่งตัวนางกลับมาเดี๋ยวนี้…”

หลินเป่ยเฉินรู้สึกหูอื้อตาลาย ก้าวเดินออกมาข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว

“เจ้าก็ตามนางไปเถอะ”

โอรสสวรรค์หัวเราะเยาะ ก่อนจะหยิบยืมพลังจากค่ายอาคมส่งเส้นเชือกสีเงินมารัดพันร่างกายหลินเป่ยเฉิน แล้วตัวของเด็กหนุ่มก็ถูกโยนหายเข้าไปในสนามพลังนั้นเช่นกัน

ด้วยความช่วยเหลือจากสนามพลังศักดิ์สิทธิ์ อาการบาดเจ็บที่แขนและใบหน้าของโอรสสวรรค์ก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แม้แต่ฟันที่หลุดออกไปก่อนหน้านี้ก็งอกคืนกลับมาใหม่

โอรสสวรรค์แหงนหน้ามองท้องฟ้า หน้าตายิ้มแย้ม “บัดนี้ล่ะ… ได้เวลาที่เราจะลองลิ้มชิมรสชาติของโอสถที่เสร็จสมบูรณ์เสียที”

เมื่อคิดได้ดังนี้ เขาก็หมุนตัวเดินเข้าสู่ด้านในสนามพลัง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด