เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]บทที่ 1540 เป็นเจ้าบังคับข้าเอง
ตอนที่ 1,540 เป็นเจ้าบังคับข้าเอง
ในที่สุด เวลาที่เขารอคอยก็มาถึงเสียที
หลินเป่ยเฉินยิ้มด้วยความดีใจและใช้พลังจิตเรียกโทรศัพท์มือถือออกมา
เมื่อได้รับการอัปเกรดอุปกรณ์ โทรศัพท์มือถือของเขาก็มีหน้าตาเปลี่ยนไป มันกลายเป็นโทรศัพท์มือถือสีกุหลาบเหลื่อมทองที่มีตัวเครื่องบางขึ้น หน้าจอใหญ่ขึ้น ตอบสนองต่อสัมผัสมือได้ดีขึ้น แต่น้ำหนักของตัวเครื่องก็มากขึ้นเช่นกัน…
หากเขวี้ยงโทรศัพท์ออกไปอีกครั้ง รับรองได้ว่าศีรษะของเว่ยหมิงเฉินต้องระเบิดกระจายอย่างแน่นอน!
โชคดีที่ตลอดครึ่งเดือนที่ผ่านมา หลินเป่ยเฉินฝึกฝนวิชาห้าธาตุหลอมวิญญาณด้วยตนเอง และเขายังหลอมรวมพลังจากโอสถวิเศษรวมถึงพลังจากผลเซียนเหนือฟ้าในร่างกายอย่างต่อเนื่อง บัดนี้ ร่างกายของเขาจึงรับน้ำหนักมหาศาลจากโทรศัพท์มือถือได้อย่างไม่มีปัญหา…
เด็กหนุ่มเปิดโทรศัพท์
หน้าจอสว่างวูบและมีภาพเคลื่อนไหวต้อนรับอย่างงดงาม
เมื่อโทรศัพท์ได้รับการอัปเกรดอุปกรณ์ แอปพลิเคชันภายในเครื่องก็ได้รับการอัปเดตเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นแอปจิงตงมอลล์ แอปเถาเป่า แอป Keep หรือแอปไป่ตู้ แมป ทั้งหมดต่างก็ได้รับการอัปเดตอย่างครบถ้วน
ส่วนแอปสำหรับการฝึกวิทยายุทธ์ก่อนหน้านี้ก็ยังคงใช้งานได้ดี
แต่ดูเหมือนจะมีการจำกัดประสิทธิภาพการทำงานบางส่วน
หน้าจอเด้งขึ้นมาให้หลินเป่ยเฉินเลือกเสียงผู้ช่วยส่วนตัว เด็กหนุ่มยังคงเลือกเสียงของ ‘เสี่ยวจี้’ เช่นเดิม
และเป็นไปตามคาด เมื่อแอปสำหรับการซื้อของอย่างแอปจิงตงมอลล์และแอปเถาเป่าได้รับการอัปเดตเรียบร้อย สกุลเงินสำหรับการจับจ่ายก็ถูกเปลี่ยนไปกลายเป็นสกุลเงินตำลึงเงินของแดนมหาแผ่นดิน
ศิลาบูชาและศิลาเทวะไม่สามารถนำมาใช้ได้อีกแล้ว
แต่โชคดีที่ตอนอยู่ในแผ่นดินตงเต้า หลินเป่ยเฉินใช้เงินเก็บทั้งหมดที่ตนเองมีอยู่ซื้อหาอาวุธไปหมดแล้ว
ภายในแอปเถาเป่ามีสินค้าเพิ่มขึ้นมาอีกหลายชนิดทีเดียว
แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นของสำหรับการฝึกวิชา ซึ่งหลินเป่ยเฉินไม่สามารถซื้อหาได้ในขณะนี้
ทั้งเนื้อทั้งตัวเขามีเพียงเงินร้อยตำลึงเงินเท่านั้น
และเงินร้อยตำลึงเงินนี้ก็เป็นหลินเป่ยเฉินขโมยออกมาจากห้องเก็บสมบัติของท่านมหาเทพนั่นเอง
“คิดไม่ถึงเลยนะว่าพอมาถึงแดนมหาแผ่นดินแล้ว เป้าหมายแรกของเราก็คือต้องหาเงินให้ได้”
หลินเป่ยเฉินรู้สึกว่าเงินคือรากฐานแห่งความชั่วร้าย เงินคือต้นกำเนิดของสิ่งชั่วร้ายทั้งหมดในโลกทุกใบ
สิ่งที่เขาจำเป็นต้องซื้อหามากที่สุดในขณะนี้คือปืนทุกชนิด
หลินเป่ยเฉินแน่ใจมากว่าเมื่อโทรศัพท์มือถือได้รับการอัปเกรดอุปกรณ์ อาวุธปืนที่วางขายอยู่ในแอปพลิเคชันด้านในก็จะต้องเพิ่มอานุภาพการทำลายล้างตามความแข็งแกร่งของแดนมหาแผ่นดินอย่างแน่นอน
หลินเป่ยเฉินกดเข้าไปในแอปเถาเป่าและพบว่าปืนพกสั้นอินทรีหิมะมีราคาอยู่ที่แปดสิบตำลึงเงิน… ซึ่งถือว่าแพงมากสำหรับเขาในขณะนี้
“แต่ช่างเถอะ เอามาไว้ป้องกันตัวเองก่อนดีกว่า”
หลินเป่ยเฉินกดคำสั่งซื้ออย่างไม่ลังเล
เมื่อบวกค่าขนส่งเพิ่มเข้าไป ปืนกระบอกนี้ก็มีราคาอยู่ที่แปดสิบห้าตำลึงเงิน
หลินเป่ยเฉินพบว่าตนเองแทบจะหมดตัวในไม่กี่ลมหายใจ
เงินอีกสิบห้าตำลึงเงินที่เหลืออยู่นั้น หลินเป่ยเฉินไม่สามารถนำมาซื้อหาอะไรได้อีก เพราะเขาต้องเก็บเอาไว้ใช้ชาร์จโทรศัพท์มือถือ
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย หลินเป่ยเฉินก็กดเข้าไปในแอปสโตร์
เมื่อโทรศัพท์ได้รับการอัปเกรดอุปกรณ์ ระบบปฏิบัติการก็ได้รับการอัปเดตเช่นกัน และมีรายชื่อแอปพลิเคชั่นใหม่ปรากฏขึ้นมารอให้เขาดาวน์โหลดอีกด้วย
“แอป Zhuanzhuan? เกม Happy Farm?”
หลินเป่ยเฉินมองรายชื่อแอปพลิเคชั่นใหม่และอดสงสัยขึ้นมาไม่ได้
แอป Zhuanzhuan เป็นแพลตฟอร์มเอาไว้ใช้ขายของมือสองและสิ่งของเหลือใช้ ตอนที่ยังอยู่โลกมนุษย์ใบเก่า หลินเป่ยเฉินก็เคยใช้งานอยู่หลายครั้ง
ส่วนเกม Happy Farm เป็นเกมที่เปิดตัวมานานแล้วและเคยได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ภารกิจหลักของผู้เล่นก็คือปลูกผักและขโมยผักในสวนของคนอื่น…
เอ่อ…
เมื่อมาปรากฏอยู่ในโทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ แอป Zhuanzhuan กับเกม Happy Farm จะมีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงไปบ้าง?
เด็กหนุ่มใช้เวลาคิดเพียงเล็กน้อย ก็ตัดสินใจกดดาวน์โหลด
ปรากฏว่าแอป Zhuanzhuan มีขนาดเพียง 50 MB เท่านั้นและเกม Happy Farm ก็มีขนาดเพียง 15 MB ซึ่งถือว่าเป็นขนาดไฟล์ที่เล็กมาก ดังนั้น พลังที่หลินเป่ยเฉินมีอยู่ในร่างกายขณะนี้จึงเพียงพอสำหรับการดาวน์โหลด
การดาวน์โหลดเริ่มต้นขึ้น
ความรู้สึกเสียวซ่านกลับคืนมาอีกครั้ง
หลินเป่ยเฉินเอนกายบนเก้าอี้และร้องครางออกมา
ทันใดนั้น เจ้าจักจั่นทองคำที่นิ่งเงียบมาตลอดหลายสิบวันก็ไม่ทราบเลยว่าเก็บกดมาจากที่ใด จึงได้ส่งเสียงร้องออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
และหยดน้ำสีเงินก็กระเด็นตกจากต้นไม้หยดใส่ใบหน้าของหลินเป่ยเฉิน
เด็กหนุ่มยกมือขึ้นปาดหยดน้ำเหล่านั้นด้วยความเดือดดาล “พี่สาว สติของท่านเลอะเลือนแล้วหรือไม่? เหตุไฉนจึงได้ปัสสาวะใส่ผู้คนเช่นนี้?”
เสียงของจักจั่นทองคำตอบกลับมาว่า “ข้ากำลังเตือนเจ้าต่างหาก ว่ามีผู้คนที่ไม่ชอบมาพากลได้ปรากฏตัวขึ้นที่นี่แล้ว”
“ว่าไงนะ?”
หลินเป่ยเฉินรีบลุกขึ้นนั่งหลังตรงทันที
ไม่ทราบเลยว่าบุรุษผู้สวมใส่หน้ากากและสวมชุดเสื้อคลุมสีดำมายืนอยู่หน้าประตูรั้วกระท่อมของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่
มือสังหาร?
หลินเป่ยเฉินหัวใจกระตุกวูบ
เด็กหนุ่มยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ เสแสร้งแกล้งยิ้มอย่างใจเย็น ส่งเสียงทักทายออกไปว่า “ที่แท้ก็มีแขกมาเยือนนี่เอง ไม่ทราบว่าอาคันตุกะท่านนี้มีธุระใดกับข้าหรือไม่?”
น่าขนลุกเหลือเกิน
เล่นใส่หน้ากากสวมชุดดำมาถึงขนาดนี้ คงไม่ได้มาขอรับประทานข้าวเย็นด้วยแน่ ๆ
ชายฉกรรจ์ชุดดำผู้สวมหน้ากากเดินสืบเท้าเข้ามาโดยไม่พูดคำใด แต่ละเท้าที่ก้าวเข้ามานั้นจะปรากฏหมอกควันฟุ้งตลบขึ้นตามหลัง
เพียงพริบตาเดียว ลานโล่งหน้ากระท่อมไม้ก็ปกคลุมด้วยหมอกสีเทา ตัดขาดกระท่อมน้อยหลังนี้จากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง
นี่คือวิชาเฉพาะตัวของผู้ที่มีสายเลือดผู้แปรธาตุ
หัวใจของหลินเป่ยเฉินกระตุกวูบอีกครั้ง
มนุษย์ในเมืองชิงอวี้ส่วนมากเป็นผู้ที่มีสายเลือดผู้แปรธาตุ และหมอกสีเทาเช่นนี้ก็เกิดขึ้นจากการแปรธาตุน้ำนั่นเอง
กระท่อมไม้ของหลินเป่ยเฉินถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
หลินเป่ยเฉินเชื่อว่าต่อให้ตนเองตะโกนขอความช่วยเหลือจนคอแตก ก็คงไม่มีผู้ใดได้ยินอีกแล้ว
“เจ้ายังมีผลเซียนเหนือฟ้าเหลืออยู่อีกหรือไม่?”
ชายฉกรรจ์ชุดดำผู้สวมหน้ากากพูดด้วยเสียงแหบแห้ง เห็นได้ชัดว่าเจตนาปกปิดเสียงที่แท้จริง ดวงตาเป็นประกายอำมหิตยิ่งกว่าสัตว์ร้าย จ้องมองหลินเป่ยเฉินอย่างข่มขู่คุกคาม “ส่งออกมาซะดี ๆ แล้วข้าจะทำให้เจ้าไม่ต้องตายอย่างทรมาน”
ที่แท้ก็มาเพราะผลเซียนเหนือฟ้านี่เอง
“เจ้าเป็นใคร?”
หลินเป่ยเฉินรู้ว่าเสแสร้งแกล้งเยือกเย็นไปก็ไม่เกิดประโยชน์ จึงเปลี่ยนอากัปกิริยามาพูดด้วยความตื่นกลัว “ผลเซียนเหนือฟ้าทั้งหมดนั้น พวกข้ารับประทานไปแล้ว หากเจ้าไม่เชื่อ ลองไปถามคนอื่น ๆ ดูก็ได้”
“ฮ่า ๆๆ ข้าถามมาแล้ว มีคนบอกว่าเจ้ายังเก็บผลเซียนเหนือฟ้าบางส่วนเอาไว้”
ชายฉกรรจ์ชุดดำตอบด้วยเสียงที่ประหลาดหูเช่นเดิม
“เป็นไปไม่ได้ ข้ารับประทานไปหมดแล้ว…”
หลินเป่ยเฉินลุกขึ้นยืนและก้าวถอยหลังอย่างช้า ๆ “เจ้าโดนหลอก… อย่าเข้ามาใกล้ข้านะ ข้าเป็นแขกในการดูแลของสำนักกระบี่เหินฟ้า หากเจ้าทำอะไรข้า สำนักกระบี่เหินฟ้าไม่ปล่อยเจ้าเอาไว้แน่”
“แขกอย่างนั้นหรือ? ฮ่า ๆๆ ช่างน่าขันเสียจริง…”
บุรุษชุดดำหัวเราะเหยียดหยาม “นี่เรียกว่าหมูไม่กลัวน้ำร้อน… ดูเหมือนเจ้าคงอยากตายอย่างทุกข์ทรมานสินะ ในเมื่อถามดี ๆ ไม่ยอมบอก ข้าก็จะตัดแขนขาของเจ้าก่อนแล้วกัน หลังจากนั้น เจ้าอาจจะอยากพูดความจริงก็เป็นได้”
บุรุษชุดดำยกมือขึ้น
วูบ! วูบ! วูบ! วูบ!
หอกยาวสี่เล่มพุ่งออกมาจากหลังม่านหมอกสีเทาตรงเข้ามาหาหลินเป่ยเฉิน
“กำแพงวายุ”
หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้นวาดฟันแทนกระบี่
สวบ! สวบ!
หอกยาวทั้งสี่เล่มนั้นทะลุกำแพงวายุเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
“กระบวนท่าจากวิชากระบี่สิบเจ็ดคาบสมุทรใช้งานที่นี่ไม่ได้? หรือเป็นเพราะว่าระดับพลังของเรายังต่ำต้อยมากเกินไปกันนะ?”
หลินเป่ยเฉินกระโดดหลบการโจมตี
หอกวารีเฉียดผ่านหัวไหล่ของหลินเป่ยเฉินไปปักเข้ากับผนังกระท่อมไม้ทางด้านหลัง
“หืม? คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่ใช้การไม่ได้อย่างเจ้า กลับมีพลังยุทธ์อยู่ในขั้นจอมเทพระดับสองเชียวหรือ?”
ชายฉกรรจ์ชุดดำอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ
คำอุทานของเขาเปิดเผยข้อมูลบางอย่าง
แต่หลังจากนั้นไม่กี่ลมหายใจ
หอกวารีนับสิบเล่มก็พุ่งเข้าหาหลินเป่ยเฉินจากสามทิศทาง ไม่เปิดช่องว่างให้เด็กหนุ่มสามารถกระโดดหลบหนีได้อีก
หลินเป่ยเฉินรีบใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว
ตอนที่อยู่ในแผ่นดินตงเต้า ผู้ที่แข็งแกร่งอยู่ในขั้นจอมเทพระดับ 4 อย่างโอรสสวรรค์และเว่ยหมิงเฉิน หลินเป่ยเฉินก็สามารถสังหารได้สำเร็จมาแล้ว แต่ในเมืองชิงอวี้ เขากลับมีพลังอยู่ในขั้นจอมเทพระดับสองเท่านั้นเองหรือ?
“ก่อนเจ้าจะลงมือต่อไป ข้าอยากให้เจ้าลองคิดทบทวนดูให้ดี ข้าไม่ใช่ผู้ที่ใช้การไม่ได้อย่างที่เจ้าเข้าใจหรอกนะ” หลินเป่ยเฉินมองหน้าบุรุษชุดดำที่สวมใส่หน้ากากด้วยดวงตาดุร้าย “หากเจ้ายอมคุกเข่าและร้องเพลงหนูมาลีมีลูกแมวเหมียวให้ข้าฟัง ข้าก็จะไว้ชีวิตเจ้า แต่หากเจ้าไม่ยอมแพ้และข้าใช้กระบวนท่าสังหารออกมาเมื่อไหร่ เจ้าก็จะไม่มีเวลาได้เสียใจอีกแล้ว”
ชายฉกรรจ์ชุดดำระเบิดเสียงหัวเราะ “เด็กน้อย เจ้ายโสโอหังมากเกินไปแล้ว”
หลินเป่ยเฉินกล่าวเสียงแข็ง “ข้าพูดจริงไม่ได้ล้อเล่น กระบวนท่าสังหารของข้าสามารถฆ่าได้แม้แต่ผู้ที่มีพลังอยู่ในขั้นจอมเทพระดับ 4”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็แสดงให้ข้าดูหน่อยเถอะ”
ชายฉกรรจ์ชุดดำเย้ยหยัน
เขาคิดว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ช่างโง่เขลาสิ้นดี
“ข้าไม่อยากฆ่าคนเลยจริง ๆ”
หลินเป่ยเฉินทำสีหน้าเบื่อหน่าย “ข้าเคยสังหารผู้คนมามากมายนับไม่ถ้วน ข้าไม่อยากจะทำให้ตนเองต้องมือเปื้อนเลือดอีกแล้ว ข้าเบื่อที่จะต้องเดินผ่านทะเลเลือดและภูเขาแห่งซากศพ ข้าไม่อยากจะทำให้สถานที่ทุกแห่งที่ข้าย่างเท้าก้าวไปจะต้องกลายเป็นดินแดนมรณะ…”
“พูดมากน่ารำคาญ เห็นแก่เจ้าที่มีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ หากเจ้าสามารถโจมตีได้น่าประทับใจ ข้าก็จะทำให้เจ้าได้ตายสบายมากขึ้น”
ชายฉกรรจ์ชุดดำยังคงไม่ยอมเชื่อ
“เฮ้อ เป็นเจ้าบังคับข้าเอง”
หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้น
มวลอากาศเหนือหัวเขากลายเป็นหลุมดำขนาดเล็ก ซึ่งมีแต่หลินเป่ยเฉินผู้เดียวเท่านั้นที่มองเห็น ทันใดนั้น วัตถุสีเงินที่เป็นประกายแวววาวก็ร่วงหล่นลงมา
ในที่สุดก็มาถึงแล้ว
หลินเป่ยเฉินรับปืนอินทรีหิมะได้อย่างแม่นยำ ลูกกระสุนถูกบรรจุเต็มกระบอกจากพลังปราณในร่างกาย ทันใดนั้น เด็กหนุ่มก็กล่าวว่า “จัดให้ตามที่ขอ”
นิ้วเหนี่ยวไกยิง
เปรี้ยง!
กระสุนลำแสงพุ่งทะยานออกจากปากกระบอกปืน
Comments