เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]บทที่ 1018 เป็นศัตรูโดยไม่เห็นหน้า
บทที่ 1018 เป็นศัตรูโดยไม่เห็นหน้า
บทที่ 1018 เป็นศัตรูโดยไม่เห็นหน้า
คนขับชราฟันหลอหัวเราะ เผยให้เห็นฟันเหลืองคดเคี้ยวสองแถว “เจ้าไม่ควรขู่ให้ข้ากลัวด้วยเรื่องนี้ ข้าแน่ใจว่าราชสำนักสามารถแยกแยะถูกผิดได้”
ซูอันก็พูดขึ้นเช่นกัน “เฮ้ เจ้าหน้าไหม้ เจ้าสามารถใส่อะไรก็ได้ที่ต้องการเข้าปาก แต่เจ้าไม่สามารถพูดอะไรทั้งหมดที่ต้องการได้ ข้าไปฆ่านายทหารเมื่อไร? คนพวกนี้ถูกแช่แข็งเท่านั้น”
ซูอันดึงพลังงานที่หนาวเย็นกลับมา บุคคลที่ถูกแช่แข็งก่อนหน้านี้ทั้งหมดฟื้นคืนสติแม้ว่าหลายคนจะแขนขาดขาขาดไป
จ้าวจื่อตกตะลึง นี่เป็นทักษะแบบไหน? เป็นไปได้อย่างไร? เขาสะบัดศีรษะไล่ความงุนงงและพูดต่อว่า “แม้ว่าจะยังไม่ตาย แต่พวกเขาสูญเสียแขนขาเพราะเจ้า การโจมตีนายทหารยังคงถือเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรง!”
ซูอันหัวเราะ “มีพยานหลายคนเห็นว่าพวกเจ้าตกใจจนไล่ทุบทำลายก้อนน้ำแข็งซึ่งเป็นแขนและขาของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าเจ้าเองที่เป็นอาชญากร! ผู้เฒ่าที่กางเกงหลุดก้นก่อนหน้านี้ ได้โปรดจับชายคนนี้ด้วย!”
“เจ้า!” จ้าวจื่อตัวสั่นด้วยความโกรธ เขาเคยชินกับการพลิกลิ้นเข้าข้างฝ่ายตัวเองอยู่เสมอ แต่ตอนนี้กลับมาโดนเสียเอง
—
ท่านยั่วยุจ้าวจื่อสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +888… +888… +888…
—
เปลือกตาของหานเฟิงชิวกระตุกเมื่อได้ยินคำว่า ‘กางเกงหลุดก้น’ เด็กนี่เกิดมาเพื่อเชือดเฉือนคนอื่นเหรอ?
—
ท่านยั่วยุหานเฟิงชิวสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +999… +999… +999…
—
เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อระงับสติอารมณ์ มองคนขับชราฟันหลอ “ข้าขอถามนามท่านผู้อาวุโสได้หรือไม่?”
คนขับชราฟันหลอโบกมืออย่างเป็นกันเอง “ข้าลืมชื่อของข้าไปแล้ว ตอนนี้ข้าเป็นแค่คนขับรถม้าธรรมดา”
คนอื่น ๆ พากันงงงัน แต่แววตาของหานเฟิงชิวสั่นไหว “ท่านอาจจะเป็น…”
อย่างไรก็ตาม ทายาทของราชันลมปราณเริ่มรำคาญ “ใครจะไปสนใจว่าเขาเป็นใคร? วันนี้…”
หานเฟิงชิวหยุดจ้าวจื่ออย่างรวดเร็วและกระซิบว่า “นายน้อยของข้า เขาคือ…”
ทายาทของราชันลมปราณเริ่มหายใจแรงทันที เขารีบมองไปที่รถม้าธรรมดา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังและความปรารถนา
ซูอันขมวดคิ้ว เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงต้องตื่นเต้นขนาดนี้?”
คนขับชราฟันหลอยิ้มและพูดกับซูอันว่า “เจ้าหนู นายหญิงของข้าขอเชิญเจ้าสักครู่”
เมื่อได้ยินคนขับชราฟันหลอเชื้อเชิญซูอัน ลมหายใจของจ้าวจื่อถี่กระชั้น
มีไม่กี่คนในโลกนี้จะได้รับคำเชิญจากฮูหยินคนนั้น
เขาไม่มีโอกาสได้พบนางด้วยตนเอง จึงมองว่านางเป็นคนที่อยู่ไกลเกินเอื้อม แม้กระทั่งกับจักรพรรดิ พ่อของเขา หรือทายาทของตระกูลขุนนางต่าง ๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่นางจะไม่สนใจเขาเช่นกัน
แต่ตอนนี้นางได้เชื้อเชิญซูอันผู้ต่ำต้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวเขาเองไม่เคยกล้าแม้แต่จะฝันถึง!
ทั้งสองคนสนิทสนมกัน!
คำนี้ปรากฏขึ้นในใจของเขา แต่เขาตระหนักในทันทีว่าคำนั้นไม่ได้สะท้อนถึงสิ่งที่เขาคิดอย่างชัดเจนเท่าไร
แต่ตอนนี้ซูอันกำลังจะเข้าไปในรถม้าและใช้ห้องโดยสารเดียวกันกับนาง คำว่าสนิทสนม ย่อมมีมูลอยู่ในระดับหนึ่ง
เมื่อมองซูอัน ดวงตาของเขาไม่ได้เต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยามอีกต่อไป แต่เปี่ยมไปความหึงหวงที่หยั่งรู้ไม่ได้
ทำไม ทำไมคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่ที่งดงามถึงเลือกเขา!
ทำไมสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวง อวี้เหยียนลั่ว จึงปฏิบัติต่อเขาเช่นนี้?
—
ท่านยั่วยุจ้าวจื่อสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +555… +555… +555…
—
สิ่งเลวร้ายที่สุด อวี้เหยียนลั่วได้เห็นเขาในสภาพที่น่าอนาถเช่นนี้ ช่างเป็นความอัปยศอดสูอย่างยิ่ง!
ก่อนหน้านี้เขาปลอบตัวเองว่า มีคนไม่มากนักที่ได้เห็นเหตุการณ์เหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสามัญชนทั้งหมดหนีไป ฉู่โหยวเจาและมู่หรงชิงเหอต่างเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายราชันลมปราณ ทั้งสองอาจจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ รถม้าดูเหมือนจะเป็นของตระกูลทั่วไป ทั้งหมดที่เขาต้องทำคือกำจัดพวกมันอย่างลับ ๆ
ด้วยวิธีนี้จะไม่มีข่าวที่เขาพ่ายแพ้ต่อซูอันรั่วไหลออกไป อย่างไรก็ตาม สาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงอวี้เหยียนลั่วกลับอยู่ภายในรถม้าที่แสนธรรมดานั่น!
ไม่มีทางที่เขาจะฆ่านางได้ บิดาอาจจะเป็นคนแรกที่ทุบตีเขาจนตาย
แม้แต่ตัวเขาเองยังทนไม่ได้
เขาเคยเห็นอวี้เหยียนลั่วจากระยะไกลมาก่อนและเก็บภาพนางไปฝัน ใบหน้านั้นงดงามเหนือมนุษย์ ผู้ชายคนไหนจะกล้าทำลายงานศิลปะธรรมชาติเช่นนี้ได้ลงคอ?
ยิ่งเขาครุ่นคิดมากเท่าไร ยิ่งรับไม่ได้ว่าตัวเองเคยถูกซูอันบดขยี้มาก่อน
ทั้งหมดเป็นเพราะซูอัน!
—
ท่านยั่วยุจ้าวจื่อสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +1024… +1024… +1024…
—
ซูอันมองคนขับชราฟันหลออย่างประหลาดใจ “ฮูหยินที่ว่าเป็นใครเหรอ?”
คนขับชราฟันหลอหัวเราะคิกคัก “เจ้าจะรู้เองเมื่อเข้าไปในรถม้า”
ซูอันเหลือบมองทายาทของราชันลมปราณและหานเฟิงชิว รู้สึกงงงวยเล็กน้อย ใครกันที่สามารถทำให้ทั้งสองมีปฏิกิริยาเช่นนี้ได้?
ผู้หญิงในรถม้าพูดขึ้น “ทายาทหนุ่ม นายน้อยคนนี้ช่วยชีวิตข้าไว้ก่อนหน้านี้ ข้าขอให้ท่านพักเรื่องนี้ไว้ก่อน ให้ข้าได้ขอบคุณเขาจะได้ไหม?”
เสียงนั้นนุ่มนวลเพียงพอที่จะทำให้หัวใจของทุกคนที่ได้ยินอ่อนลง
มู่หรงชิงเหอรู้สึกอิจฉาอย่างยิ่ง “ข้าอยากให้เสียงของข้าไพเราะแบบนั้นบ้างจริง ๆ”
“เสียงของเจ้าดีแล้ว มันดีกว่าคนเสแสร้งคนหนึ่งมาก” ฉู่โหยวเจาพูดพร้อมกับพ่นลมหายใจ ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางรู้สึกเป็นศัตรูกับผู้หญิงลึกลับคนนี้โดยธรรมชาติ
“จริงเหรอ?” มู่หรงชิงเหอมีความสุขอย่างยิ่งที่ได้ยินคนที่นางชอบกล่าวชม แก้มอิ่มเปลี่ยนเป็นสีดอกกุหลาบจาง ๆ
เห็นได้ชัดว่าเสียงของข้าไม่ไพเราะ แต่พี่ฉู่ยังคงพูดอย่างนี้ เขาต้องเป็นห่วงความรู้สึกของข้ามากแน่ ๆ อา! เขินยิ่งนัก
Comments