เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]บทที่ 267 ข้าไม่ตกหลุมพรางเจ้าอีกแล้ว!

Now you are reading เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] Chapter บทที่ 267 ข้าไม่ตกหลุมพรางเจ้าอีกแล้ว! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“มันเป็นแค่วิชากระบี่ธรรมดาที่สุดจากสถาบันจันทร์กระจ่างแท้ ๆ แต่เจ้ากลับสามารถใช้มันได้ราวกับเป็นคนละวิชาได้ขนาดนี้ มิน่าล่ะ…หยวนเหวินตงถึงพ่ายแพ้ให้กับเจ้า!”

เฉียวเสวี่ยอิงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย้ยหยันเมื่อเห็นเพลงกระบี่ที่ยอดเยี่ยมของซูอัน

หากไม่ใช่เพราะช่องว่างขนาดใหญ่จากระดับการบ่มเพาะของนาง นางคงอาจไม่สามารถรับมือและเผชิญหน้าโดยตรงกับคมกระบี่ของซูอัน ได้ แต่แน่นอนว่าไม่มีทางที่นางจะพูดคำเหล่านั้นออกมาดัง ๆ เพราะเกรงว่าชายผู้น่าชังคนนี้จะได้ใจมากเกินไป…

“ยังไงก็ตาม มันจบแล้วล่ะ!”

ซูอันตระหนักในทันทีว่าสถานการณ์ของเขากำลังเลวร้าย ชายหนุ่มรีบถอยออกไป แต่ก็มีเถาวัลย์จำนวนนับไม่ถ้วนเลื้อยอยู่ทั่วพื้นดินราวกับกองทัพงูพุ่งมาทางเขา!

ซูอันพยายามที่จะหลบเถาวัลย์ด้วยทักษะการเคลื่อนไหวของเขา

นี่คือความสามารถที่แท้จริงของผู้บ่มเพาะระดับ 5 งั้นเหรอ? พลังธาตุเป็นเรื่องยากที่ผู้บ่มเพาะระดับล่างจะรับมือได้

เมื่อนึกย้อนกลับไป…มันดีจริง ๆ ที่เขาได้ใช้แม่เหล็กไฟฟ้าจัดการกับกองทัพกระบี่ของหยวนเหวินตง ไม่อย่างนั้นไม่ว่า ‘เพลงกระบี่ปราบมาร’ จะแข็งแกร่งขนาดไหน ชายหนุ่มก็คงไม่สามารถเอาชนะชายคนนั้นได้

การเคลื่อนไหวของซูอันเร็วขึ้นเรื่อย ๆ แต่เถาวัลย์ที่พื้นกลับทอเข้าหากันกลายเป็นตาข่ายขนาดใหญ่และค่อย ๆ ขวางเส้นทางหลบหนีของเขาอย่างช้า ๆ จนถูกต้อนให้จนมุมในที่สุด…

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เท้าของเขาเหยียบลงพื้น จู่ ๆ กิ่งไม้ที่อยู่ใกล้เท้ากลับขยับได้และขัดขาเขาอย่างฉับพลัน ซึ่งทำให้ชายหนุ่มที่ไม่ทันได้ระวังจึงเสียการทรงตัวไปครู่หนึ่งก่อนที่จะชนเข้ากับต้นไม้ และนั่นเป็นเวลาเดียวกับที่เถาวัลย์จำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าใส่เขาทันทีและตรึงร่างของซูอันเอาไว้อย่างแน่นหนา!

ซูอันพยายามอย่างเต็มที่เพื่อดิ้นรนออกจากเถาวัลย์ แต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นได้

เฉียวเสวี่ยอิงค่อย ๆ เดินขึ้นไปหาเขาพร้อมรอยยิ้มแห่งชัยชนะบนริมฝีปากของนาง “โอ้? ทำไมเจ้าไม่วิ่งต่อล่ะ?”

“เจ้าพยายามที่จะให้ข้าอยู่กับที่ ข้าจะทำให้เจ้าผิดหวังได้ยังไง?” ซูอัน ตอบกลับ

เฉียวเสวี่ยอิงหัวเราะอย่างเย็นชาก่อนที่นางจะหยิบกระบี่ที่ซูอันพลาดทำหล่นลงบนพื้นขึ้นมาแล้วพูดว่า “ฮึ…กระทั่งตอนนี้ที่เจ้าอยู่หน้าประตูนรก ปากของเจ้าก็ยังน่ารังเกียจไม่ลดลงเลย ก็ดี…เรามาดูกันดีกว่าว่าเจ้าจะยังมีปัญญาพ่นอะไรออกจากปากได้อีกหรือเปล่าหลังจากที่ข้าตัดลิ้นของเจ้าทิ้งแล้ว!”

“ตัดไปเถอะถ้าเจ้าต้องการ แต่อย่างน้อยช่วยตรวจสอบความสะอาดของคมกระบี่ด้วย เพื่อที่หลังจากนี้ข้าจะได้ต่อมันกลับไปในปากได้เหมือนเดิม” ซูอันบุ้ยปาก

เฉียวเสวี่ยอิงหัวเราะออกมาเสียงดัง บางทีอาจเป็นเพราะชัยชนะอยู่ในมือนางแล้ว นางจึงยิ่งมีอารมณ์ขันกับคำพูดของซูอัน

“เจ้าต้องการให้ข้าตัดลิ้นของเจ้าอย่างเรียบเนียนหรือไม่? ข้ารับประกันได้เลยว่าข้าสามารถทำมันได้อย่างสมบูรณ์แบบแน่นอน ไม่สิอันที่จริงข้าสามารถหั่นร่างเจ้าทั้งร่างให้เรียบเนียนได้เลยต่างหาก จนหลังจากนี้หากใครมาเจอศพเจ้าและพวกเขาว่างพอ พวกเขาจะสามารถเอาชิ้นส่วนร่างของเจ้ามาประกอบกันได้ใหม่ได้อย่างง่าย ๆ เลยล่ะ”

“ข้าเชื่อเจ้า แต่เจ้าไม่จำเป็นต้องแสดงให้ข้าเห็นก็ได้!” อีกฝ่ายรีบตอบ

เฉียวเสวี่ยอิงคำราม “ตอนนี้เจ้าไม่มีทางเลือกแล้ว!”

ซูอันถอนใจก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นขึ้นว่า “เสวี่ยเอ๋อร์ เจ้าลืมไปแล้วรึเปล่าว่าการคลอดลูกครั้งก่อนรู้สึกยังไง?”

แค่ได้ยินคำว่า ‘คลอดลูก’ ก็มากเกินพอที่จะทำให้เสวี่ยเอ๋อร์สะดุ้งโหยงและก้าวถอยหลังด้วยความสยดสยอง ความเจ็บปวดอันแสนหนักหนาที่ดูเหมือนจะซึมลึกเข้าไปในกระดูกของนางได้กลายเป็นบาดแผลทางใจมาโดยตลอด นางฝันร้ายมากมายเกี่ยวกับมันในช่วงกลางคืนของแต่ละวัน “จ…เจ้าหมายความว่ายังไง? ตอนนั้นเจ้า…เจ้าเป็นคนทำให้ข้า…!”

นี่เป็นคำถามที่นางสงสัยมาระยะหนึ่งแล้ว นางได้ไปพบแพทย์หลายรายเพื่อตรวจสภาพร่างกายของตัวเอง แต่ทุกคนยืนยันว่าร่างกายของนางไม่มีอะไรผิดปกติเลย ไม่มีใครสามารถระบุสาเหตุของอาการปวดอย่างกะทันหันของนางได้

ส่วนใหญ่บอกกับนางว่าอาการของนางเหมือนกับความเจ็บปวดจากการคลอดบุตร ซึ่งในฐานะหญิงสาวที่ยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง นางรู้สึกขุ่นเคืองและโกรธมากเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น

“ข้าบอกเจ้าแล้วว่าข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสว่าการตั้งครรภ์เป็นยังไง แต่เจ้ายังคงไล่ตามข้าอย่างไม่ลดละ ตอนนี้เจ้าเตรียมที่จะคลอดลูกอีกทีหรือยัง?”

ซูอันได้ตัดสินใจที่จะใช้ ‘สายตา เจ็บ-จน-ทรุด’ ที่เหลือการใช้งานเพียงสองครั้ง เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน ดูเหมือนว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่นในตอนนี้

ครั้งสุดท้ายข้าใจดีเกินไป แต่ครั้งนี้ข้าจะไม่ทำผิดแบบเดิมอีกต่อไป!

ในขณะนั้นเองที่ชายหนุ่มเบิกตากว้าง เขาจ้องไปที่บางสิ่งที่อยู่ด้านหลัง เฉียวเสวี่ยอิงด้วยความไม่เชื่อครู่หนึ่งก่อนที่จะอุทานด้วยความประหลาดใจ “ที่รัก…นี่เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

คราวนี้เฉียวเสวี่ยอิงไม่ได้สนใจที่จะหันหลังกลับ นางเยาะเย้ยอย่างเย็นชา “คิดว่าข้าจะตกหลุมพรางแบบเดียวกันสองครั้งเหรอ?”

แต่ในวินาทีต่อมา นางก็พบว่าร่างกายของนางสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ และจากนั้นแค่เพียงชั่วพริบตาตามร่างกายของนางก็เริ่มมีน้ำแข็งปกคลุมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนท้ายที่สุดร่างของนางก็ถูกตรึงจนไม่สามารถขยับได้

ฉู่ชูเหยียนค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้ในขณะที่นางพูดว่า “เจ้าคือเสวี่ยเอ๋อร์ สินะถ้าข้าเดาไม่ผิด”

“คุณหนู…” หัวใจของ เฉียวเสวี่ยอิงสั่นเทา

เป็นนางจริง ๆ! ให้ตายสิ ทั้งหมดเป็นความผิดของไอ้ซูอันคนเดียว! ถ้ามันไม่หลอกข้าเมื่อครู่ ข้าคงไม่ประมาทขนาดนี้!

ท่านยั่วยุเฉียวเสวี่ยอิงสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +530 !

ซูอันถึงกับพูดอะไรไม่ออก มันต้องมีอะไรผิดปกติกับผู้หญิงคนนี้แน่นอน! คนที่แช่เย็นเจ้าคือ ฉู่ชูเหยียน! แต่ตอนนี้เจ้ากลับมาโกรธข้าเนี่ยนะ?

“คุณหนู? ข้าไม่คิดว่าข้าคู่ควรที่จะให้เจ้าเรียกด้วยคำนั้น” ฉู่ชูเหยียน เอ่ยกลับ

ขณะที่นางพูด นางเดินผ่านเสวี่ยเอ๋อร์และไปหยุดอยู่ที่ด้านข้างของซูอัน และด้วยการโบกมือเพียงเบา ๆ ของนาง เถาวัลย์ที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งซึ่งทำให้โครงสร้างของมันอ่อนแอลง ทำให้นางสามารถทำลายมันได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส…

ซูอัน ที่เป็นอิสระตื่นเต้นทันทีเขารีบลุกขึ้นและพยายามจะกอดนาง “วิเศษมากที่รัก! ข้าไม่คิดว่าจะเจอเจ้าที่นี่ ขอข้ากอดหน่อย!”

ฉู่ชูเหยียนหลบอ้อมกอดของเขาโดยไม่สนใจ และหันกลับไปมองเฉียวเสวี่ยอิง…

ใบหน้าของเฉียวเสวี่ยอิงเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกมากมาย และในท้ายที่สุด นางถอนหายใจยาวและกล่าวว่า “ข้ารู้สึกชอบและผูกพันกับคุณหนูอย่างสุดซึ้งตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพียงแต่ว่าข้ามีเจ้านายอยู่แล้ว ดังนั้นข้าจึงได้แต่ขอให้ท่านยกโทษให้ ”

“เจ้านายที่เจ้าพูดถึงคือใคร? ซือคุนงั้นเหรอ?” ฉู่ชูเหยียนถาม

เฉียวเสวี่ยอิงส่ายหัวและพูดว่า “ข้าขอภัยด้วยจริง ๆ แต่ข้าไม่สามารถเปิดเผยเรื่องนี้ได้”

ฉู่ชูเหยียนขมวดคิ้ว นางไม่แน่ใจว่านางควรจัดการกับสถานการณ์ในตอนนี้อย่างไรดี แต่แล้วท่ามกลางความเงียบงันที่เกิดขึ้น ซูอันก็ก้าวออกมาข้างหน้าและเสนอวิธีแก้ปัญหา “เรื่องนี้จัดการได้ง่าย ๆ เจ้าถามคำถามอะไรก็ได้ที่เจ้าต้องการ หากนางปฏิเสธที่จะตอบหรือโกหก ข้าจะถอดเสื้อผ้าของนางออก หรือถ้านางไม่ยอมพูดจนจบ ข้าจะถอดเสื้อผ้าของนางออกแล้วมัดนางไว้กับต้นไม้ตรงทางเข้าป่าเพื่อให้ทุกคนชื่นชมร่างกายของนาง”

ฉู่ชูเหยียนยังคงนิ่งเงียบไม่ตอบอะไร

เฉียวเสวี่ยอิงตัวสั่นด้วยความโกรธ “เจ้ามันเลว!!!”

ท่านยั่วยุเฉียวเสวี่ยอิงสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +1024!

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *