เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]บทที่ 919 ช่วยหลบหนี
บทที่ 919 ช่วยหลบหนี
บทที่ 919 ช่วยหลบหนี
ซูอันตื่นตระหนกและดึงนางไปด้านข้าง “ตอนนี้ทหารราชองครักษ์ได้ตอบสนองต่อสถานการณ์แล้ว และการป้องกันของวังก็หนาแน่น ถ้าเจ้ากลับไปตอนนี้ก็เหมือนเอาชีวิตไปทิ้ง!”
“แต่อาจารย์เฒ่าดูแลข้าเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ข้าจะไม่ทำอะไรเลยได้อย่างไร!?” ชิวฮัวเล่ยตอบอย่างกังวล
“อาจารย์เฒ่า?” ซูอันมีสีหน้าแปลก ๆ หญิงสาวเมื่อครู่ดูไม่แก่ขนาดนั้น!
นรก! นี่ข้าไม่สามารถไว้วางใจสิ่งที่ข้าเห็นในโลกแห่งการบ่มเพาะนี้ได้เลยงั้นเหรอ?? ผู้หญิงบางคนดูภายนอกเหมือนหญิงสาว แต่แท้จริงแล้วพวกนางอาจจะแก่กว่ายายของข้าก็ได้!
แต่สตรีอมตะในหนังสือที่เขาอ่านล้วนมีอายุนับพันปี เช่น ฉางเอ๋อเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ ผู้ชายคนไหนจะสนใจเรื่องอายุของนางบ้าง?
จริง ๆ แล้วหญิงวัยกลางคนที่มีฐานะร่ำรวยและรักษารูปร่างหน้าตาตัวเองอย่างดียังคงดึงดูดความสนใจของเหล่าชายหนุ่มได้อย่างไม่ด้อยไปกว่าหญิงสาวรุ่นเยาว์
ชายหนุ่มกระแอมเบา ๆ และทิ้งความคิดฟุ้งซ่านเหล่านี้ จากนั้นจึงตอบชิวฮัวเล่ยอย่างรวดเร็ว “เจ้าไม่สามารถทิ้งชีวิตของตัวเองเพื่อช่วยคนอื่นได้! ข้าเห็นมีดสั้นที่เจ้าดึงออกมา ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังจะจบชีวิตของตัวเอง! เจ้าควรรู้ดีอยู่แก่ใจว่าการถูกจับตัวได้ในวังมันจะเป็นอย่างไรไม่ใช่หรือไง?”
ชิวฮัวเล่ยเม้มริมฝีปาก “ข้าจะสู้จนตัวตายถ้าจำเป็น! อาจารย์ต้องการความช่วยเหลือในตอนนี้ ถ้าข้าทิ้งนางตอนนี้ ข้าจะเสียใจไปตลอดชีวิต เส้นทางเต๋าของข้าจะถูกรบกวนและข้าจะไม่มีวันคืบหน้าอีกต่อไป”
ซูอันรู้ว่านางไม่ได้โกหก ผู้บ่มเพาะหลายคนในโลกนี้ให้ความสำคัญต่อสภาพจิตใจของตนเอง หากมีอะไรเกิดขึ้นกับความเชื่อมั่นของพวกเขา ไม่เพียงแต่พวกเขาจะสูญเสียความสามารถในการก้าวหน้า พวกเขาอาจต้องดิ้นรนเพื่อรักษาระดับการบ่มเพาะในปัจจุบันอีกด้วย…
ซูอันไม่มีทางเลือกอื่น “ให้ข้าพาเจ้าออกจากวังก่อน ข้าจะไปช่วยอาจารย์ของเจ้าเอง”
“จริง ๆ นะ?” ชิวฮัวเล่ยมีความสุขมาก นางกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของเขาและหอมแก้มเขา
ชิวฮัวเล่ยหน้าแดงเมื่อเห็นท่าทางประหลาดใจของเขา “เจ้าจ้องอะไร? ไม่ใช่ว่าข้าไม่เคยจูบเจ้ามาก่อนสักหน่อย ก่อนหน้านี้ข้าไม่ได้ดูดพิษออกจากหลังของเจ้าเหรอ?”
ซูอันหัวเราะ “เจ้าคิดว่านั่นคือจูบเหรอ?”
“แน่นอน!” ชิวฮัวเล่ยกล่าวอย่างฉุน ๆ นางเริ่มกังวลอีกครั้ง “ข้าจะไปกับเจ้าด้วย!”
ซูอันส่ายหัว “ไม่ ตอนนี้ข้าเป็นทูตยุทธ์เสื้อแพรคนนึง มันจะไม่สะดวกถ้าเจ้าจะติดตามไปด้วย”
ชิวฮัวเล่ยพยักหน้า นางเป็นผู้หญิงที่เข้าใจอะไรได้ง่าย “เช่นนั้นข้าจะปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้า โปรดช่วยอาจารย์ของข้าด้วย”
“ข้าจะทำให้ดีที่สุด เจ้าก็อย่าได้กังวลเกินไปอาจารย์ของเจ้าเป็นผู้บ่มเพาะระดับปราชญ์ มันไม่ง่ายเลยที่จะกำจัดนาง” ซูอันปลอบขณะที่จับมือชิวฮัวเล่ยไว้
ชิวฮัวเล่ยยังคงกังวล “ข้าจะไม่กลัวเลยถ้าคู่ต่อสู้ของนางเป็นคนอื่น แต่นี่เป็นถึงจักรพรรดิ!”
“อย่าห่วงไปเลย แม้ว่าจะเป็นเพียงเพื่อประโยชน์ของเจ้า แต่ข้าจะทำทุกทางเพื่อช่วยนาง” ซูอันกล่าว
ชิวฮัวเล่ยมองเขาด้วยดวงตาที่อ่อนโยนและเต็มไปด้วยน้ำตา “อาซู เจ้าใจดีที่สุด”
นางให้อภัยเขาเรื่องที่ปกป้องและต่อสู้เคียงข้างองค์หญิงรัชทายาทแล้ว
ซูอันยิ้มอย่างร่าเริง “ถ้าอย่างนั้น จูบข้าอีกสักครั้งได้ไหม?”
ชิวฮัวเล่ยหน้าแดง นางเขย่งปลายเท้าเพื่อหอมแก้มเขาอีกครั้ง แต่ทันใดนั้นซูอันหันศีรษะมาจูบริมฝีปากของนาง
เมื่อริมฝีปากของทั้งสองสัมผัสกัน ชิวฮัวเล่ยถอยหลังทันทีด้วยความเขินอาย ใบหน้าของนางแดงไปหมด “เจ้า…เจ้ามันไร้ยางอาย!”
ซูอันหัวเราะ “ตอนนี้ข้าได้รับจุมพิตจากฮัวเล่ยแล้ว ข้ารู้สึกมีกำลังใจมากขึ้นที่จะช่วยเหลืออาจารย์ของเรา”
ชิวฮัวเล่ยกลอกตาเมื่อได้ยินเขาเรียกอาจารย์ของนางว่า ‘อาจารย์ของเรา’ ชายผู้นี้ช่างไร้ยางอายไม่เปลี่ยนจริง ๆ แต่…ข้าไม่ได้ไม่ชอบหรอกนะ…
นางรู้สึกว่าผิวแก้มร้อนขึ้นและพูดอย่างรวดเร็วว่า “อาจารย์สวมหน้ากากปิดบังใบหน้า เจ้าจะจำนางได้อย่างไร?”
ซูอันมองดูนางอย่างแปลก ๆ เขานึกภาพของนักฆ่าหญิงในวังตะวันออก “อาจารย์ของเจ้าผมยาวขนาดนั้นข้าจะจำไม่ได้ได้อย่างไร?”
“ที่เจ้าพูดมันก็จริง” ชิวฮัวเล่ยตอบพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ นางเคยอิจฉาผมยาวเงางามของอาจารย์นางมาโดยตลอด
“ข้าจะพาเจ้าออกจากวังก่อน” ซูอันมองไปที่ประตูพระราชวังที่อยู่ใกล้เคียง “ข้าจะดึงความสนใจของทหารรักษาประตู ส่วนเจ้าก็จงข้ามกำแพงไป”
เขาเลือกที่นี่เพราะกำแพงวังที่นี่เตี้ยกว่าที่อื่นเล็กน้อย…
“ได้!” ชิวฮัวเล่ยมองขึ้นไปที่กำแพง ตราบใดที่ไม่มีใครคอยเฝ้าดูอยู่ การบ่มเพาะของนางก็สูงพอที่นางจะข้ามกำแพงได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ
ซูอันเดินไปที่ประตูวัง
ทหารเฝ้าประตูสังเกตเห็นเขาทันที “หยุดอยู่ตรงนั้น! บอกชื่อมา!”
ซูอันไม่ตอบแต่เดินต่อไป เครื่องแบบของทูตยุทธ์เสื้อแพรทำให้ตาของพวกเขาหรี่ลง
“ผู้น้อยขอเรียนถาม ท่านมาทำอะไรที่นี่?” ดวงตาของทหารมองมาที่เข็มกลัดสีทองของซูอัน เขาตกใจอย่างไม่น่าเชื่อ ชายผู้นี้เป็นทูตยุทธ์เสื้อแพรทอง!
“ข้าอยากออกจากวัง” ซูอันพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้
ทหารรักษาประตูวังดูกังวลใจ “นายท่าน ตอนนี้เกิดเหตุร้ายแรงประตูวังจึงปิดห้ามใครเข้าออก”
ซูอันหยิบตราคำสั่งของเขาขึ้นมา เขาคำรามอย่างจงใจ “ข้ากำลังปฏิบัติภารกิจขององค์จักรพรรดิ เจ้ากล้าดีอย่างไรมาหยุดข้า เจ้ายินดีที่จะรับผลที่ตามมาหากข้าปฏิบัติภารกิจล่าช้าหรือไม่?”
ทหารรักษาประตูวังมองหน้ากันด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่กล้าปล่อยให้ใครออกจากวังในขณะที่มีนักฆ่ามากมายที่อาจจะหลบหนีมาได้ทุกเมื่อ
บรรยากาศเริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ และทหารราชองค์รักษ์ที่ประจำอยู่บนกำแพงก็ถูกดึงดูดความสนใจจนเข้ามาร่วมด้วยเช่นกัน
ชิวฮัวเล่ยยิ้มเมื่อนางเห็นซูอันข่มเหล่าทหารรักษาประตูวังราวกับเป็นหลานชายของตัวเอง ชายผู้นี้ช่างเป็นคนพาลจริง ๆ
นางไม่ยอมเสียโอกาสที่เขาสร้างให้และกระโดดข้ามกำแพงไป
ซูอันถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นชิวฮัวเล่ยหนีไปได้สำเร็จ เขาเห็นทหารหลายนายเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าที่หนักใจ เขากระแอมเบา ๆ และพูดว่า “พวกเจ้าทุกคนยอดเยี่ยมมากที่ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ข้ามาที่นี่เพียงเพื่อทดสอบพวกเจ้าเท่านั้น ดีมาก! อย่าลืมว่าพวกเจ้าไม่สามารถปล่อยให้ใครออกไปได้เว้นแต่จะมาพร้อมกับพระราชโองการ เข้าใจไหม!?”
“พวกเราเข้าใจ!”
ซูอันขึ้นเสียงของเขาในตอนท้ายทำให้ทหารกลัวและตอบกลับโดยไม่รู้ตัว
“ดีมาก ข้าจะไปตรวจประตูอื่นต่อไป!” ซูอันดูไม่สะทกสะท้าน แต่หัวใจของเขาเต้นแรง เขารีบหันหลังเดินจากไป
ทหารทั้งหมดจ้องมองไปที่ร่างที่จากไปของเขาด้วยความงุนงง
เขาบ้าหรือเปล่า?!
พวกเราอยู่ในสถานการณ์ที่น่าวิตกเช่นนี้แล้ว แต่เขากลับมาทดสอบเรา!
เจ้าแกล้งเราเพื่อความบันเทิงของเจ้าเองหรือ?
แน่นอน เนื่องจากเขาเป็นทูตยุทธ์เสื้อแพรทอง ทหารทุกนายจึงไม่สามารถแสดงความโกรธอย่างเปิดเผยได้
—
ท่านยั่วยุทหารรักษาประตูวังสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +666…666…666…
—
—
ท่านยั่วยุทหารราชองครักษ์สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +666…666…666…
—
Comments