เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 1115 ใครแพ้ใครชนะ + 1116 บทลงโทษแสนอร่อย
ตอนที่ 1115 ใครแพ้ใครชนะ + ตอนที่ 1116 บทลงโทษแสนอร่อย
ตอนที่ 1115 ใครแพ้ใครชนะ
“ทั้งหมดสองร้อยแปดสิบห้าก้อน พวกเราสองคนกลุ่มหนึ่งแบ่งกันไม่ได้หรอก” ลั่วเฟยเอ่ยขึ้นมา ตรงหน้าพวกเขามีผลึกอสูรหลากหลายสีสันกองหนึ่ง
ผลึกอสูรพวกนี้ บางก้อนพวกเขาล่ามา บางก้อนไปปล้นชิงผู้ฝึกวิชามารพวกนั้น อย่างไรเสียก็เป็นผลึกอสูรที่พวกเขาได้กลับมา แน่นอนว่าครั้งนี้พวกเขาไม่ใช่ได้มาเพียงแค่นี้ หลังจากทั้งสองหารือกัน คิดว่าเอามาเยอะเท่านี้ก็มากพอแล้ว พวกเขาไม่เชื่อหรอกว่าในสิบวันสั้นๆ พวกหนิงหลางจะหาผลึกอสูรมาได้มากกว่า
แต่ไม่นานนัก เมื่อเห็นหนิงหลางเชิดหน้าส่งยิ้มให้พวกเขาอย่างภาคภูมิใจ ในใจทั้งสองก็พลันรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร
สองคนนี้คงไม่หามามากกว่าพวกเขาจริงๆ กระมัง?
“พวกเราได้ผลึกอสูรมาสี่ร้อยเก้าสิบแปดก้อน ในนั้นมีผลึกอสูรของสัตว์ร้ายระดับเก้า…” หนิงหลางรายงานจำนวนให้ฟัง ไม่ใช่แค่จำนวน ธาตุรวมถึงระดับของผลึกอสูรก็ล้วนแจ้งออกมา
เฟิ่งจิ่วได้ฟัง รอยยิ้มบนใบหน้ายิ่งกดลึกขึ้น
สมกับเป็นเด็กหาเงินมือดี ละเอียดเสียจนแยกแม้แต่ระดับกับธาตุของผลึกอสูร หนำซ้ำเมื่อได้ยินจำนวนที่เขารายงานก็รู้ว่าพวกเขาสองคนไม่เหลือเก็บไว้เลย ตรงกันข้าม พวกเขาตั้งใจจะเอาชนะให้ได้
สุดท้าย หนิงหลางบอกว่า “แม้บอกว่าต่างคนต่างแบ่งเอาไป แต่คิดๆ ดูแล้ว พวกเราแบ่งเป็นสองกลุ่มเล็ก ดังนั้นจึงจะตัดสินแพ้ชนะกันตามกลุ่มนี้ ไม่แยกเป็นของแต่ละคน”
หมายความว่าไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ในเมื่อพวกเขาเป็นหนึ่งกลุ่ม ก็ยินยอมรับผิดชอบและแบ่งปันร่วมกัน
ครั้นเห็นเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วแอบพยักหน้า หลังจากมองทั้งสองนี้ก็มองลั่วเฟยที่ตะลึงไปเล็กน้อยกับต้วนเยี่ยที่เม้มริมฝีปาก ก่อนจะเผยรอยยิ้มเอ่ยว่า “สองร้อยแปดสิบห้าก้อนของพวกเจ้ามอบมาให้ข้าครึ่งหนึ่ง ส่วนที่เหลือคืนหนิงหลางกับซ่งหมิงไป”
ต้วนเยี่ยไม่พูดอะไร ถึงอย่างไรขอแค่พวกของหนิงหลางได้มาเยอะกว่าพวกเขามากจริง หากหยิบจากในห้วงมิติมายังเทียบเคียงพวกหนิงหลางได้ แต่ตอนนี้แม้อยากจะนำออกมาก็สายไปแล้ว
“ทำไมพวกเจ้าได้มามากเพียงนั้น?” ลั่วเฟยถามอย่างเหลือเชื่อเล็กน้อย ไม่เข้าใจที่มาของผลึกอสูรพวกนี้
“นอกจากบางส่วนที่เป็นผลึกอสูรซึ่งพวกเราล่ามา พวกเราไปจับตามองผู้ฝึกวิชามารกลุ่มหนึ่ง พวกนั้นมียี่สิบกว่าคน พวกเราใช้แผนล่อพวกเขาออกมาฆ่าทีละคนๆ ของของพวกเขาจึงกลายเป็นของพวกเราไปโดยธรรมชาติ”
หนิงหลางเอ่ยอย่างภูมิใจ แค่จับจุดอ่อนความโลภของผู้ฝึกวิชามารพวกนั้น แล้วใช้สมบัติล่อพวกเขามาติดกับ แม้สุดท้ายต้องสู้กัน แต่วิธีนี้ก็สะดวกมาก และลดระดับความอันตรายลงได้
พวกเขาจะไม่ฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ ผู้ฝึกวิชามารทำชั่วก็ฆ่าแต่ผู้ฝึกวิชามาร ส่วนผู้ฝึกตนไร้สำนักไม่มาระรานพวกเขา จึงแค่หาโอกาสขโมยถุงฟ้าดินมาและหนีไปโดยไม่ทำร้ายพวกเขาสักนิด
“เช่นนั้นทำไมพวกเจ้าถึงเอาทั้งหมดออกมา? ดีร้ายอย่างไรพวกเจ้าก็หยิบน้อยๆ หน่อยสิ! ข้านึกว่าพวกเราจะชนะแน่แล้ว” ลั่วเฟยกล่าว ถึงตอนนี้ยังไม่เข้าใจว่าทำไมตนเองถึงแพ้พวกเขา?
เขาคำนวณมาดิบดี วางแผนว่าครั้งนี้เอาชนะพวกเขาได้ ครั้งที่สองก็จะชนะพวกเขาได้เช่นกัน ใครจะรู้ว่า…
ทว่า พวกเขาไม่รู้ว่าเพราะคำนวณไว้ไกลเกินไปนั่นเอง ถึงได้แพ้หนิงหลางกับซ่งหมิงสองคน
เทียบกับลั่วเฟยแล้ว หนิงหลางแค่ใช้วิธีตรงไปตรงมาและเรียบง่ายที่สุด เขาอยากชนะ ก็ต้องเอาให้ชนะแน่ๆ โดยไม่หวังพึ่งโชค ด้วยเหตุนี้จึงนำผลึกอสูรที่ได้มาออกมาทั้งหมด
………………………………………………….
ตอนที่ 1116 บทลงโทษแสนอร่อย
ทั้งสองต่างมอบผลึกอสูรครึ่งหนึ่งให้เฟิ่งจิ่ว หลังจากเฟิ่งจิ่วเก็บไปแล้ว สายตาของเธอมองผ่านร่างซ่งหมิงกับหนิงหลางมาหยุดที่ต้วนเยี่ยกับลั่วเฟย ก่อนเผยรอยยิ้มแปลกๆ เอ่ยเสียงเนิบๆ ว่า “ต่อจากนี้จะเป็นบทลงโทษ”
เมื่อสี่คนได้ยิน หนิงหลางกับซ่งหมิงมองหน้ากัน ในใจคาดหวังเล็กน้อย พวกเขาอยากรู้ว่าเฟิ่งจิ่วจะลงโทษฝ่ายแพ้เช่นไร? จากคนเดียวกลายเป็นกลุ่มเล็ก หมายความว่าเรื่องที่เดิมทีต้องรับเคราะห์แค่คนเดียว ยามนี้ต้องรับผิดชอบด้วยกันสองคน
ฝ่ายชนะอย่างพวกเขาไม่กลัว แต่ฝ่ายแพ้ต้วนเยี่ยกับลั่วเฟยกลับหวาดกลัวเล็กน้อย พวกเขาแพ้จะลงโทษกันอย่างไร ให้พวกเขาทำงานหนักๆ? หรือเป็นอะไรอย่างอื่น?
คนทั้งสองเห็นรอยยิ้มตรงมุมปากของเฟิ่งจิ่ว ในใจก็กระวนกระวาย เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีด้วยความว้าวุ่น
เวลานี้ เฟิ่งจิ่วยกริมฝีปากยิ้ม มือหนึ่งหยิบกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าจากในห้วงมิติออกมาให้พวกเขา เอ่ยว่า “กินของในนี้ให้หมด นี่เป็นบทลงโทษสำหรับพวกเจ้า”
“อะ อะไรนะ? แค่กินอาหารหรือ” ทั้งสองคนอึ้งไปเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ กินอาหารนับเป็นบทลงโทษเสียที่ไหน ทว่าลางสังหรณ์ไม่ดีกลับยิ่งรุนแรงมากขึ้น
ด้วยความสามารถของเฟิ่งจิ่ว พวกเขาพ่ายแพ้จะให้กินอะไรดีๆ ได้อย่างไร?
“เปิดกล่องออกเร็วเข้า ดูซิว่าเป็นของดีอะไร” หนิงหลางปลุกปั่นอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น อันที่จริงในใจคิดว่าไม่น่าเป็นของดีอะไร ในเมื่อไม่ใช่ของดี เช่นนั้นจะเป็นอะไรได้?
“รับไปสิ!”
เฟิ่งจิ่วยื่นไปให้ เผยรอยยิ้มเอ่ยว่า “เมื่อเช้าข้าออกไปหามาให้พวกเจ้าตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเลย”
คนทั้งสองจำใจรับมา เพียงเปิดออกดูก็ตกใจจนแทบจะทิ้งมันลงพื้น
“มะ มะ มะ… แมลง!”
แม้แต่ซ่งหมิงกับหนิงหลางสองคนข้างๆ ยังสะดุ้งโหยง เบิกตาจ้องข้างในกล่อง มีแมลงตัวใหญ่สีขาวขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือกำลังดิ้นขยุกขยิก…
“ขะ ของพรรค์นี้กินได้หรือ น่าขยะแขยงเหลือเกิน”
อีกสองคนมองต้วนเยี่ยกับลั่วเฟยด้วยความเห็นใจทันที คิดว่าหากพวกนั้นกินสิ่งนี้ลงไปได้จริงๆ ความอดทนของจิตใจก็แข็งแกร่งเกินไป แค่เห็นแมลงตัวใหญ่สีขาวกำลังดิ้นอยู่ข้างในก็รู้สึกคลื่นไส้ใกล้จะอาเจียนแล้ว
ต้องรู้ว่าพวกเขาล้วนเกิดจากตระกูลสูงศักดิ์ มื้อไหนบ้างที่ไม่ใช่อาหารชั้นเลิศอันโอชะ? ให้พวกเขากินสิ่งนี้หรือ? จะน่ากลัวเกินไปแล้ว
“กินไปเถอะ! วางใจได้ ไม่มีพิษหรอก ตรงกันข้าม แมลงตัวใหญ่สีขาวนี่มีสารอาหารไม่น้อย” เฟิ่งจิ่วหัวเราะชั่วร้าย “คนแพ้ต้องโดนลงโทษ ข้าบอกไปตั้งแต่แรกแล้ว มาสิ! ไม่ต้องเกรงใจ พวกเราไม่แย่งพวกเจ้าหรอก”
“นะ นี่กินได้หรือ ข้าเติบใหญ่เพียงนี้แล้วยังไม่เคยเห็นอะไรน่าสะอิดสะเอียนเช่นนี้…” ลั่วเฟยหน้าซีดไปหมด ถอยไปก้าวหนึ่งอย่างอดไม่ได้ ใบหน้าเต็มไปด้วยอาการขัดขืน
“วางใจเถอะ กินได้ เพียงแต่หน้าตาไม่น่ามองเท่าไร มาๆ ข้าจะสอนพวกเจ้าว่ากินอย่างไร” เธอก้าวเข้าไปให้สัญญาณ พร้อมหยิบแมลงสีขาวตัวใหญ่ขึ้นมาตัวหนึ่ง “แกะหัวและหางของมันทิ้งไป กินแค่ส่วนเล็กๆ ตรงกลาง มา อ้าปากชิมหน่อย” เธอยื่นแมลงตัวใหญ่สีขาวฉ่ำน้ำไปตรงปากของลั่วเฟยด้วยความปรารถนาดียิ่ง พลางเอ่ยเปรยให้เขาอ้าปาก
ลั่วเฟยทำหน้าร่ำไห้ จ้องมองแมลงขาวตัวใหญ่ที่มีน้ำสีขาวราวน้ำนมไหลเยิ้ม ในใจนึกเสียใจภายหลัง!
หากรู้แต่แรกว่าจะแพ้และต้องกินแมลงตัวใหญ่สีขาวน่าขยะแขยงเช่นนี้ เขาไม่เก็บผลึกอสูรไว้แน่นอน
………………………………………………….
Comments