เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 1217 ดึงมือไว้ไม่ปล่อย + 1218 ข้าช่วยได้

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 1217 ดึงมือไว้ไม่ปล่อย + 1218 ข้าช่วยได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1217 ดึงมือไว้ไม่ปล่อย + ตอนที่ 1218 ข้าช่วยได้

ตอนที่ 1217 ดึงมือไว้ไม่ปล่อย

“ขอรับ ข้าได้ยิน” เฟิ่งจิ่วมองผู้นำตระกูลเยี่ย ก่อนเอ่ยว่า “ข้าอยากไปดูเยี่ยจิงเสียหน่อย ไม่ทราบว่าสะดวกหรือไม่ขอรับ?”

“คุณชายเฟิ่งเป็นเพื่อนสนิทของนาง ซ้ำยังมาหาตั้งไกล ได้แน่นอนอยู่แล้ว” เขากล่าวพลางลุกขึ้นมา พร้อมทำท่ามือเชื้อเชิญให้เฟิ่งจิ่ว “เชิญตามข้ามา”

“ขอรับ” เธอขานรับแล้วเดินตามข้างเขาไปยังเรือนด้านหลัง ส่วนเหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาสองคนตามไปด้านหลังพวกเขา

เฟิ่งจิ่วที่ตามผู้นำตระกูลเยี่ยไปเรือนด้านหลังชมทิวทัศน์ภายในจวนตระกูลเยี่ย ส่วนผู้นำตระกูลเยี่ยก็แอบพินิจมองเด็กหนุ่มข้างกาย

ตอนแรกสุดเขาคิดว่าเด็กหนุ่มมาพบลูกสาวของเขาถึงที่นี่ อาจเป็นคนที่ชอบพอลูกสาวเขาเช่นกัน แต่ดูท่าทางแล้วเหมือนไม่ใช่ คล้ายจะเป็นอย่างที่อีกฝ่ายบอกเองว่าเป็นเพื่อนสนิทของลูกสาวเขา

แต่ระหว่างชายหญิงมีมิตรภาพเช่นสหายสนิทด้วยหรือ ถึงมีอยู่ เดาว่าก็คงน้อยนัก

ระหว่างเดินไป เขาเอ่ยถามเปรยๆ ว่า “ไม่ทราบว่าคุณชายเฟิ่งเป็นคนที่ไหนรึ”

“ข้าเป็นคนราชวงศ์เฟิ่งหวงขอรับ” เฟิ่งจิ่วหันมามองเขาพลางยิ้มเอ่ย

“โอ้? ราชวงศ์เฟิ่งหวง? ข้าเคยได้ยินมา เล่ากันว่าราชวงศ์เฟิ่งหวงเลื่อนจากแคว้นระดับเก้ากลายเป็นแคว้นระดับหกในเวลาสั้นๆ เพียงสองสามปี เป็นแคว้นที่มีกำลังไม่ธรรมดาเลย”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม กล่าวว่า “ขอรับ ราชวงศ์เฟิ่งหวงไม่เพียงมีกำลังไม่ธรรมดา ทำเลที่ตั้งก็ดีด้วย สถานที่น่าสนใจก็มากมาย วันหน้าหากผู้นำตระกูลเยี่ยมีโอกาสไปถึงราชวงศ์เฟิ่งหวง ข้าจะรับรองด้วยตนเองแน่นอนขอรับ”

รับรองด้วยตนเอง?

ผู้นำตระกูลเยี่ยได้ยินคำพูดนี้ก็ประหลาดใจเล็กน้อย คำกล่าวนี้ฟังดูแปลกไปหน่อย เขาเป็นผู้นำตระกูลเยี่ย คุณชายเฟิ่งกับลูกสาวของเขาเป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกัน หากเขามีโอกาสไปที่นั่นจริง คนที่มารับรองเขาควรเป็นบิดาของคุณชายเฟิ่งถึงจะถูกต้อง ทำไมเด็กหนุ่มกลับบอกว่าจะรับรองด้วยตนเองเล่า?

แม้จะรู้สึกแปลก เขากลับไม่ถามให้มากความ ทำเพียงยิ้มพยักหน้า “ได้สิ หากวันหน้ามีโอกาส ข้าต้องไปดูราชวงศ์เฟิ่งหวงเสียหน่อยแน่นอน”

สองคนเดินไปพลางพูดคุย ไม่นานนักก็มาถึงเรือนของเยี่ยจิง ทั้งสองก้าวเข้าเขตเรือน ผู้นำตระกูลเยี่ยบอกเฟิ่งจิ่วว่า “คุณชายเฟิ่งรอสักครู่”

กล่าวจบก็เข้าไปเคาะประตูด้วยตัวเอง ด้านในมีสาวใช้คนหนึ่งมาเปิดประตู ครั้นเห็นว่าเป็นผู้นำตระกูลเยี่ยก็รีบร้อนคารวะ “คารวะท่านผู้นำตระกูล”

“ฮูหยินอยู่ในห้องคุณหนูสินะ?” เขาถาม

“เจ้าค่ะ ฮูหยินอยู่ข้างในเป็นเพื่อนคุณหนู” สาวใช้เอ่ยตอบ

“เจ้าเข้าไปบอกที บอกคุณหนูว่าคุณชายเฟิ่งมาพบนาง” เขาให้สัญญาณ รอจนสาวใช้ขานรับและกลับเข้าไป ถึงจะหันไปทำท่ามือเชื้อเชิญแก่เฟิ่งจิ่ว “เชิญคุณชายเฟิ่ง”

เฟิ่งจิ่วพยักหน้าเล็กน้อย แล้วเดินไปข้างในพร้อมกับเขา เพียงเข้าไปก็ได้ยินน้ำเสียงอิดโรยและประหลาดใจของเยี่ยจิงดังมา

“คุณชายเฟิ่ง? เฟิ่งจิ่วหรือ”

“ข้าเอง” เธอตอบรับอยู่ด้านนอก เมื่อสาวก้าวเดินเข้าไป ก็เห็นหญิงงามวัยแต่งงานใบหน้าซูบผอมสีหน้าเศร้าซึมที่นั่งอยู่ข้างเตียงกำลังประคองเยี่ยจิงที่ดิ้นรนอยากลุกให้ลุกขึ้นมานั่ง

เห็นดังนั้นเธอจึงกล่าวเปรย “ไม่ต้องลุกหรอก เจ้าร่างกายอ่อนแอ นอนไปก็ได้”

“คุณชายคือ?” หญิงงามคนนั้นมองเฟิ่งจิ่วพลางถาม

“เฟิ่งจิ่วคารวะเยี่ยฮูหยิน ข้าเป็นเพื่อนของเยี่ยจิงขอรับ” เธอกล่าวพร้อมประสานมือคารวะเล็กน้อย

“ใช่แล้ว เขาเป็นเพื่อนที่สำนักศึกษาของเยี่ยจิง” ผู้นำตระกูลเยี่ยก้าวเข้ามาบอก

เยี่ยจิงเห็นเฟิ่งจิ่วก็ดีใจยิ่งนัก ท่าทางดูมีชีวิตชีวาขึ้นหลายส่วน นางดึงมือของเฟิ่งจิ่วไว้พลางถาม “เฟิ่งจิ่ว เจ้ามาได้อย่างไร ข้าดีใจมากจริงๆ ไม่นึกว่าจะได้เห็นเจ้าอีก”

ท่านพ่อท่านแม่เยี่ยด้านข้างเห็นแล้วตกใจ เห็นลูกสาวดึงมือของหนุ่มน้อยไว้ไม่ปล่อย กิริยาวาจาก็สนิทสนมกันมาก เพียงชั่วครู่ก็เปลี่ยนสีหน้าอย่างอดไม่ได้

………………………………………………….

ตอนที่ 1218 ข้าช่วยได้

“จิงเอ๋อร์ นะ นี่เจ้า…” ท่านแม่เยี่ยเห็นลูกสาวดึงมือของคุณชายเฟิ่งไว้ ทันใดนั้นก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

หรือว่าจิงเอ๋อร์มีคนในใจมาแต่แรก? คือคุณชายชุดแดงคนนี้หรือ มิน่าถึงแม้นางตกลงจะแต่งเป็นชายารองของรัชทายาท แต่ร่างกายล้มป่วยเช่นนี้ ที่แท้เป็นไข้ใจเองหรือ

นางนึกถึงข้อนี้แล้ว เบ้าตาก็ร้อนผ่าวในทันที น้ำตาร่วงผล็อยลงมาอีกครั้ง ลูกสาวผู้น่าสงสารของนาง…

“จิงเอ๋อร์ ไปดึงมือคุณชายเฟิ่งได้อย่างไร? ชะ เช่นนี้จะเสียมารยาท” ท่านพ่อเยี่ยเอ่ยขึ้น ก่อนจะเห็นว่าคุณชายเฟิ่งไม่ดึงมือออก แต่กลับพลิกมือมาจับมือของลูกสาวเขาไว้ จึงอดมองเขม็งมิได้

เด็กหนุ่มคนนี้ก็ใจกล้าเหลือเกิน นึกไม่ถึงว่าจะสะเพร่าลูบคลำลูกสาวต่อหน้าต่อตาพวกเขา เจ้าเด็กคนนี้ไม่เห็นด้วยตาตัวเองก็มองไม่ออกจริงๆ!

“ไม่เป็นไรขอรับ ตอนพวกเราอยู่สำนักศึกษาก็มักจะเป็นเช่นนี้” เฟิ่งจิ่วกล่าวโดยไม่คิดสักนิด สิ้นเสียงก็เห็นท่านพ่อท่านแม่เยี่ยทำท่าทางตกตะลึง อึ้งไปพักหนึ่งถึงจะตอบสนองกลับมา เธอจึงหลุดหัวเราะอย่างอดไม่ได้

ใช่ๆ พวกเขาไม่รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิง นึกว่าเธอเป็นผู้ชายกำลังลวนลามลูกสาวของพวกเขา!

“พะ พวกเจ้า พวกเจ้าสองคน…”

“ผู้นำตระกูลเยี่ย อันที่จริงข้าเป็นผู้หญิง แค่ชอบแต่งตัวเป็นชาย เยี่ยจิงรู้แล้ว ข้ากับนางรักกันเช่นพี่น้อง” เฟิ่งจิ่วหัวเราะเบาๆ และแจ้งตัวตนผู้หญิงอย่างใจกว้าง

“จะ เจ้าเป็นผู้หญิง?” สามีภรรยาตระกูลเยี่ยตะลึงเป็นอย่างยิ่ง มองเด็กหนุ่มจากตระกูลใหญ่ท่าทางงามสง่าเพียบพร้อม ไม่นึกเลยว่าจะเป็นผู้หญิง?

เฟิ่งจิ่วพยักหน้า “เจ้าค่ะ จริงแท้แน่นอน”

“ท่านพ่อท่านแม่ เฟิ่งจิ่วเป็นผู้หญิง พวกท่านไม่ต้องกังวลว่านางจะลวนลามข้า แค่กๆ” เยี่ยจิงยิ้มเล็กน้อย แต่เอ่ยเพียงไม่กี่ประโยคก็ไอขึ้นมา

“ได้ๆๆ แม่จะไม่พูดอะไรแล้ว พักผ่อนเถอะ” เยี่ยฮูหยินมองนางด้วยความเป็นห่วง

“ข้าดูให้หน่อยแล้วกัน!” เฟิ่งจิ่วกล่าว ก่อนจะก้าวไปนั่งลงข้างเตียงแล้วจับชีพจรนาง

เยี่ยฮูหยินที่อยู่ข้างๆ หยุดสายตาบนร่างของเฟิ่งจิ่ว แอบคิดในใจว่านางรู้เรื่องการแพทย์จริงๆ หรือ แต่ไม่ว่าจะรู้หรือไม่นางก็ล้วนปรารถนาดี ปล่อยนางไปแล้วกัน!

“จริงๆ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร แค่กังวลเกินไป ในใจเลยอัดอั้นสะสม” เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ และเก็บมือกลับมา “ข้าจะเขียนใบสั่งยาให้เจ้า สั่งคนต้มให้กินสั่งสองวันก็หาย ส่วนเรื่องที่เจ้าเป็นกังวล ข้าช่วยเจ้าแก้ปัญหาได้”

“เจ้ารู้หรือ?” เยี่ยจิงมองนาง

“อืม มิเช่นนั้นคงไม่มาหรอก”

เธอยิ้มๆ เอ่ยด้วยว่า “ข้าได้ยินท่านอาจารย์บอกแล้ว เดิมทีคิดจะเข้ามาขอดื่มเหล้ามงคล ใครจะรู้ว่าเจ้ากลับล้มป่วย ข้าให้คนไปตรวจสอบต้นสายปลายเหตุของเรื่องก็เข้าใจแจ่มแจ้ง เจ้าก็เหลือเกินจริงๆ ในเมื่อมีปัญหาทำไมไม่มาหาข้า? แม้ข้าไม่อยู่ แต่คนของข้ายังแก้ไขเรื่องนี้ได้”

นางได้ฟังคำพูดนี้ กระแสธารอุ่นก็ไหลผ่านในใจ “ข้าไม่อยากรบกวนเจ้า ถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตระกูลข้า”

“พวกเราไม่ต้องเห็นเป็นคนนอกกันเลย ไม่ใช่หรือ? ไม่ได้รู้จักกันวันแรกเสียหน่อย” เธอหัวเราะเบาๆ

สองคนตรงนั้นโต้ตอบกันคนละประโยค สามีภรรยาตระกูลเยี่ยที่ฟังอยู่ข้างๆ ไม่เข้าใจเท่าไร นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ พวกนางกำลังคุยอะไรกัน?

อะไรคือนางแก้ปัญหาได้ ทำไมพวกเขาฟังไม่เข้าใจเลย?

เวลานี้ เฟิ่งจิ่วหันกลับไปมองผู้นำตระกูลเยี่ยอีกด้าน แล้วยิ้มเอ่ยว่า “ผู้นำตระกูลเยี่ย รบกวนท่านสั่งคนเตรียมกระดาษกับหมึกมา ไว้ข้าเขียนใบสั่งยาให้เยี่ยจิงแล้วค่อยไปรับมาจากร้านยา”

“ในจวนของพวกเรามีคลังยาอยู่ ไม่ต้องไปหาข้างนอกหรอก”

………………………………………………….

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *