เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 1485 หนีไม่พ้น + 1486 ลงมือ

Now you are reading เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า Chapter 1485 หนีไม่พ้น + 1486 ลงมือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1485 หนีไม่พ้น + ตอนที่ 1486 ลงมือ

ตอนที่ 1485 หนีไม่พ้น

เห็นนางก้าวถอยหลัง ซานหยางจื่อลูบหนวดแล้วหัวเราะ “หวั่นหรง เจ้าทำอะไรน่ะ? เจ้ากำลังตัวสั่นหรือ? เจ้ากลัวอาจารย์? กลัวอาจารย์ทำไมกัน?”

เขาย่างกรายลงมาจากข้างบนช้าๆ มองดูเหมือนเท้าเหยียบอยู่บนพื้น แต่ความจริงราวกับยืนอยู่เหนืออากาศ เท้าไม่ติดพื้นดิน

สายตาคมกริบคู่นั้นจับจ้องซั่งกวนหวั่นหรงเขม็ง เขายิ้ม แล้วพูดว่า “ดูท่าทางของเจ้าแล้ว เหมือนรู้อยู่แล้วว่าข้าจะมา?”

“ข้ารู้อยู่แล้ว เจ้าฉลาดกว่าพวกศิษย์พี่ของพวกเจ้า ความจริงข้าก็ชอบเจ้ามาก ศิษย์ที่ฉลาดเช่นเจ้า ข้าชอบมากจริงๆ ไม่เช่นนั้น ข้าก็คงไม่รับเจ้าเป็นศิษย์ปิดสำนักหรอก”

ซั่งกวนหวั่นหรงมองดูเขาพูดพลางเดินเข้ามาใกล้ อดถอยหลังตามไม่ได้ “ท่านคิดจะทำอะไรกันแน่?”

“เจ้าไม่ต้องกลัว ข้าแค่อยากให้เจ้าช่วยอะไรสักอย่าง แค่อยากยืมตัวเจ้า ช่วยอะไรสักหน่อยเท่านั้นเอง” เขาจ้องนาง แล้วบอกว่า “เจ้าเป็นศิษย์ปิดสำนักของข้า ข้าให้เจ้าช่วยอะไรสักหน่อย เจ้าไม่ควรปฏิเสธจึงจะถูก ใช่หรือไม่?”

เห็นอย่างนั้น นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ท่านอาจารย์ลืมไปแล้วหรือเจ้าคะ วันนี้เป็นวันที่ข้าออกมาฝึกฝนนอกสำนัก? ท่านเป็นคนกำหนดเรื่องนี้เองไม่ใช่หรือ? หรือท่านอาจารย์อยากให้ข้ากลับเข้าไปในสำนักเดี๋ยวนี้เลย?”

“หึๆ หวั่นหรง เจ้ารู้ทั้งรู้ความตั้งใจของข้า ไม่เช่นนั้นจะยอมตกลงออกมาได้อย่างไรกัน? ความจริงขอเพียงเจ้าออกมาเท่านั้น เมื่อเจ้าออกมา ถึงเจ้าจะหายตัวไป ไม่กลับมาที่สำนักอีก ก็ไม่มีใครพูดอะไรได้อีกแล้ว”

เขาพูด พลางลูบหนวดเครา หน้าตาน่าเกรงขาม “ข้าเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่มีชื่อเสียงของสำนักโอสถตะวัน และเป็นเจ้าเขาแห่งยอดเขาซานหยาง ฐานะและตำแหน่งของข้าไม่ธรรมดาถึงเพียงนี้ ไม่ว่าไปที่ใดทุกคนล้วนมองด้วยสายตาเลื่อมใส ด้วยเหตุนี้ ข้าไม่อาจมีชื่อเสียงเสื่อมเสียเช่นการสังหารศิษย์ได้

ฉะนั้น ข้าจึงคิดหาวิธีหนึ่งไว้แล้ว ขอเพียงเจ้าออกจากสำนักไป เช่นนั้น เรื่องทุกอย่างก็จะไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าแล้ว อยู่ที่นี่ ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าถูกผู้ใดจับตัวไป ไม่มีใครรู้ว่าจะไปช่วยเจ้าที่ใด ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าอยู่หรือตาย และนี่ ก็คือสิ่งที่ข้าต้องการ ฮ่าๆๆๆๆ!”

เขาแหงนหน้าหัวเราะเสียงดัง เสียงนั้นดังก้องกลางป่า และกึกก้องอยู่ในใจของซั่งกวนหวั่นหรง เย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ ดุจน้ำแข็งที่หนาวเหน็บเสียดแทงกระดูก

นางข่มกลั้นความกลัวในใจ แล้วถามว่า “เหตุใดต้องเป็นข้า? มีคนตั้งมากมาย แต่เหตุใดต้องเป็นข้าด้วย? เพราะข้าเป็นร่างรวมวิญญาณงั้นหรือ? ท่านต้องการวิญญาณต้นของข้าใช่หรือไม่? เพื่อเตรียมรับมือกับอายุขัยที่กำลังจะหมดของท่าน?”

“เจ้ารู้แล้ว?”

ซานหยางจื่อประหลาดใจ คล้ายตกใจและนึกไม่ถึงที่นางรู้ ฉะนั้นจึงยิ้มแล้วพยักหน้า “ถูกต้อง เจ้าเป็นศิษย์ปิดสำนักของข้า แล้วเจ้าก็รู้ว่าข้าเคยได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้อาการบาดเจ็บนั่นกำเริบและส่งผลกระทบต่อร่างกาย ทำลายอายุขัย ไม่มีวิธีอื่นแล้ว เพราะข้ายังไม่อยากตาย ข้าไม่ยอมทิ้งทุกอย่างที่ข้าเพียรพยายามกว่าจะได้มาไปง่ายๆ หรอก

เจ้าวางใจ ขอเพียงข้าทำสำเร็จ ตระกูลของเจ้า ข้าจะไม่ละเลยพวกเขาอย่างแน่นอน” ขณะพูด เงาร่างของเขาโฉบไหวไปทางซั่งกวนหวั่นหรงอย่างรวดเร็ว

เห็นอย่างนั้น ซั่งกวนหวั่นหรงรีบหมุนตัว รวมพลังโฉบไหวไปข้างหน้า นางจะถูกจับไม่ได้ ยิ่งถูกฆ่าไม่ได้ ไม่อย่างนั้น นางไม่อยากคิดเลยว่าหากลูกสาวของนางรู้เรื่องนี้แล้ว จะไปตามหาซานหยางจื่อแล้วสู้สุดชีวิตหรือไม่

“เจ้าหนีไม่พ้นหรอก เจ้าลืมแล้วหรือ ข้าเป็นถึงผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินเชียวนะ!”

………………………………….

ตอนที่ 1486 ลงมือ

สิ้นเสียงของซานหยางจื่อ เงาร่างของเขาพุ่งเข้ามา จับไหล่ของซั่งกวนหวั่นหรงไว้แทบจะทันทีที่นางหมุนตัวคิดจะหนี ความเร็วของเขา ไม่ใช่ระดับที่ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณจะเทียบได้เลย

“ซี๊ด!”

ความเจ็บปวดที่แผ่มาจากหัวไหล่ ทำให้นางต้องส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างกายครึ่งหนึ่งเอียงต่ำลง รู้สึกเพียงมือของเขากำไหล่ของนางไว้แน่น ราวกับจะบดกระดูกให้แหลกละเอียด เจ็บจนไม่มีแรง

“หวั่นหรง ข้าบอกแล้วว่าเจ้าหนีไม่พ้น ตามข้ากลับไปเสียดีๆ เถิด!” เสียงของเขาเข้มขรึม จับนางไว้แล้วบังคับลากไปยังอีกทาง

“ปล่อยข้านะ! ปล่อยข้า!”

ซั่งกวนหวั่นหรงดิ้นรนขัดขืน คิดจะโต้ตอบ เพียงแต่กลิ่นอายของนางที่เพิ่งทะลวงขึ้นเป็นผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณยังไม่มั่นคง อีกทั้งยังถูกบีบไหล่ไว้ และถูกแรงกดดันของผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินข่มไว้ ด้วยพละกำลังของนางไม่มีทางโต้ตอบได้เลย ทำได้เพียงปล่อยให้เขาลากไป

“หุบปาก! เงียบหน่อย!”

ซานหยางจื่อเห็นนางเอาแต่ร้องโวยวายและดิ้นรนขัดขืน จึงเงื้อมือคิดจะตีนางให้สลบ แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆ เขาก็รู้สึกเย็นสันหลังวาบ ฝ่ามือที่เดิมทีตั้งใจจะฟาดลงกลางศีรษะของซั่งกวนหวั่นหรงพลันพลิกหมุน แล้วตวัดไปข้างหลัง

“บึ้ม!”

กระแสอากาศที่ถูกปล่อยออกจากฝ่ามือนั้นฟาดลงบนพื้นดิน เกิดเป็นเสียงดังสนั่น เศษดินกระจาย ขณะเดียวกัน เสียงคำรามของสัตว์ร้ายก็ดังตามมา เลื่อนลั่นสะเทือนแก้วหู ก้องสะท้อนไปทั้งผืนป่า

“กรรซ์!”

อสูรกลืนเมฆาที่กลายร่างเป็นร่างเดิมแยกเขี้ยวคำรามเสียงดัง ดวงตากระหายเลือดจับจ้องไปที่ซานหยางจื่อ กรงเล็บแหลมคมกางออก กลิ่นอายของสัตว์เทวะอันแข็งแกร่งหมุนเวียนทั่วร่าง

“สัตว์เทวะ!”

ตอนที่ซานหยางจื่อเห็นเจ้ากลืนเมฆา ก็อดร้องเสียงหลงด้วยความตกตะลึงไม่ได้ “เหตุใดที่นี่จึงมีสัตว์เทวะด้วย?” เมื่อเพ่งมองดีๆ สัตว์เทวะตัวนี้เคยผ่านการผูกพันธะสัญญากับมนุษย์มาแล้ว จึงพยายามควบคุมสติแล้วตวาดเสียงเข้ม “เจ้านายของเจ้าเป็นใคร? เจ้าคิดจะทำอะไร?”

“ปล่อยนางเสีย ไม่เช่นนั้น ข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆ!”

อสูรกลืนเมฆาบอก น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความกระหายเลือดและเหี้ยมโหด ชวนให้รู้สึกอกสั่นขวัญแขวน โดยเฉพาะแรงกดดันของสัตว์เทวะรอบกายมัน ยิ่งกระจายปกคลุมไปทั่วพื้นที่บริเวณนี้ จนกลายเป็นกระแสอากาศขุมหนึ่ง

ตอนแรก ซั่งกวนหวั่นหรงยังตกใจกับสัตว์เทวะตัวนี้ที่จู่ๆ ก็โผล่ออกมา นึกไม่ถึงกลับได้ยินมันพูดอย่างนั้น ในใจลอบสงสัย หรือว่านี่จะเป็นสัตว์เทวะของลูกสาวนาง? ลูกสาวนางสั่งให้สัตว์เทวะเฝ้าอยู่ข้างนอกด้วยงั้นหรือ?

นึกมาถึงตรงนี้ หัวใจของนางพลันบีบรัด นางคงไม่ได้ทำลายจุดลมปราณแล้วตามมาหรอกนะ?

ขณะเดียวกัน ซานหยางจื่อได้ยินคำพูดของอสูรกลืนเมฆา ดวงตาหรี่เล็กสายตาคมปลาบ “ใครส่งเจ้ามา?” สิ้นเสียง ฝ่ามือลมกลายเป็นดาบลมฟาดฟันไปทางอสูรกลืนเมฆา พร้อมกับจับตัวซั่งกวนหวั่นหรงโฉบถอยหลัง

หากเขาจะพานางกลับไป มีเพียงต้องขึ้นจากหลังเขา ไม่เช่นนั้นจะต้องถูกคนที่อยู่ข้างหน้ามองเห็นแน่

“กรรซ์! อย่าคิดหนีเชียว!” อสูรกลืนเมฆาคำราม ขณะหลบการโจมตีของเขา ก็รีบสาวเท้าวิ่งตามไป

ซานหยางจื่อเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุอยู่แล้ว แม้จะไม่ได้ละเลยการฝึกบำเพ็ญ แต่พลังต่อสู้เทียบไม่ได้กับผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินที่แท้จริง หลังจากหลบหลีกครั้งหนึ่ง ความเร็วของเขาก็ลดลงเรื่อยๆ บนตัวเขาถูกข่วนเป็นรอยแผลหลายรอย

“ซี๊ด!”

เสื้อถูกข่วนจนขาด รอยแผลหลายรอยมีเลือดไหลซึม ฝีเท้าซวนเซสภาพเริ่มดูไม่ได้ เพราะเขาปล่อยซั่งกวนหวั่นหรงไม่ได้ หากปล่อยเมื่อใดนางต้องหนีไปแน่ หากไม่ใช่เพราะต้องพาซั่งกวนหวั่นหรงไปด้วย เขาก็คงไม่ถูกบีบคั้นจนมีสภาพเช่นนี้

“กรรซ์!” อสูรกลืนเมฆาร้องคำราม และพุ่งเข้าใส่อีกครั้ง

………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด