เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน 495 นามข้าหยวนชู องค์เทพที่แท้จริง!

Now you are reading เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน Chapter 495 นามข้าหยวนชู องค์เทพที่แท้จริง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 495 นามข้าหยวนชู องค์เทพที่แท้จริง!

“แย่แล้ว!” ซีหวังหมู่โพล่งขึ้น “เสี่ยวอิงรับมือกับบัญชาเทียนตี้ไม่ไหว! มารดามันเถอะ เทียนอ๋องบ้านี่มีบัญชาเทียนตี้ได้อย่างไร ตายแน่แล้ว!”

ซีหวังหมู่รู้จักบัญชาเทียนตี้ดีว่าเป็นพลังที่แม้แต่ตนเองก็ต้านทานไม่ไหว ขณะที่สบถขึ้นอย่างร้อนใจนั้นก็เตรียมจะพุ่งแหวกอากาศออกไป ในเมื่อมันรู้ดีว่าด้านในประตูหยวนกวงมีคนอยู่ก็ย่อมไม่ยอมนิ่งเฉยปล่อยให้คนตายไปต่อหน้า ทว่าซีหวังหมู่ยังไม่ทันยื่นมือเข้าช่วย เยี่ยนอวี๋ก็ชิงลงมือก่อนแล้ว นางเหยียดมือขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนจะร่ายบางอย่างออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “บัญชาผู้สร้าง กฎหวนคืน”

เมื่อเสียงของนางดังขึ้น…สีหน้าของเหล่ามหาเทพสวรรค์ก็แปรเปลี่ยนไปในทันใด

ซีเหอรีบตะโกนลั่น “จ้านเทียนอ๋อง ขวางนางไว้! อย่าให้นางทำอะไรทัวถ่าเทียนอ๋องได้”

“น้อมรับบัญชา!” จ้านเทียนอ๋องขานตอบอย่างหนักแน่น เขาแทงหอกออกไประหว่างเยี่ยนอวี๋และตำหนักเทียนตี้! พยายามขัดขวางพลังของเยี่ยนอวี๋ ทว่า…ปาฏิหาริย์พลันบังเกิด

หอกเล่มยาวที่จ้านเทียนอ๋องแทงออกไป หลังจากที่แทงเข้าไปในบริเวณที่เขาต้องการแล้ว นอกจากจะไม่ได้นำพามาซึ่งพลังทำลายล้างกลับยังแตกสลายกลายเป็นเม็ดแสงไปทั่วท้องฟ้า ในขณะที่ปะทะกับพลังศักดิ์สิทธิ์สีม่วงเข้มที่เยี่ยนอวี๋ปล่อยออกมา

ซู่!

พลังผู้สร้างที่เยี่ยนอวี๋ก่อขึ้นจึงจะเป็นพลังที่ทะลวงกองทัพนับพันให้พินาศได้อย่างง่ายดาย มันพุ่งตรงเข้าไปในประตูหยวนกวงที่ซ่อนอยู่ในตำหนักเทียนตี้และผสานเข้าไปในนั้น

ทั้งกระบวนการนี้ดำเนินไปประหนึ่งเมฆที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า สายน้ำที่ไหลริน เหมือนกับสายฟ้าที่ผ่าลงมาเป็นเส้นตรง ไม่ถูกขัดขวาง ไม่อ่อนกำลัง ไม่ได้รับอิทธิพลใดๆ เหมือนกับเยี่ยนอวี๋ในบัดนี้ที่สงบนิ่งและสง่างาม

แต่ก็เพราะเยี่ยนอวี๋ที่เป็นเช่นนี้เองทำให้ซีเหอโมโหและยิ่งทำให้จ้านเทียนอ๋อง เจ้าเมืองต่างๆ เหลือบมอง ถึงอย่างไรการโจมตีอย่างง่ายดายเช่นนี้ของนางก็ได้พิสูจน์ความสามารถ…ไม่สิ! สถานะของนางให้เห็นเพียงชั่วจังหวะนั้นแล้ว

เพราะว่าพลังแสงสีม่วงเข้มที่เป็นตัวแทนของเยี่ยนอวี๋เพิ่งจะเหินเข้าไปในประตูหยวนกวง เหล่าเทพยังไม่ทันมองให้ชัดดี เครื่องหมายราชโองการชิ้นหนึ่งก็ถูก ‘มัน’ ม้วนพัดออกมาพร้อมตกลงในมือเยี่ยนอวี๋แล้ว

นี่มัน…

!!!

เทพมากมายเบิกตาโต

ในขณะเดียวกัน…​

วิ้ง!

ทัวถ่าเทียนอ๋องที่แต่เดิมคิดจะใช้บัญชาเทียนตี้กับเจดีย์สวรรค์เก้าชั้นฟ้ากักขังอิงหลงโบราณ ขณะที่เขากำลังจะเก็บมันเข้าไปในเจดีย์นั่นเอง เขาก็ต้องชะงักเพราะว่าบัญชาเทียนตี้ถูกเยี่ยนอวี๋ม้วนเก็บไปแล้ว… และเขาก็เพิ่งรู้ตัวเมื่อครู่นี้เอง!

ทัวถ่าเทียนอ๋องตะลึงงัน “บัดซบ! บัญชาเทียนตี้ของข้าล่ะ”

“ไสหัวไปซะ” อิงหลงโบราณพลิกเจดีย์สวรรค์เก้าชั้นฟ้าจนคว่ำ มันย่อมรู้ว่าเมื่อครู่นี้นายท่านของพวกมันลงมือแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีบัญชาเทียนตี้แล้ว

อิงหลงโบราณที่ปลดปล่อยพลังอย่างเต็มที่ได้อีกครั้งคำรามก้องออกมาไม่หยุด ก่อนจะโถมเข้าไปกัดกระชากทัวถ่าเทียนอ๋องอย่างดุเดือด สถานการณ์ปะทุขึ้นราวกับฟ้าดินจะแตกสลาย

“ให้ตายเถอะ!” ทัวถ่าเทียนอ๋องถอยกรูด คิดจะหนีกลับเข้าไปในตำหนักสวรรค์ เขารู้ดีว่าหากไม่มีบัญชาเทียนตี้ เขาไม่มีทางเอาชนะขุนเขาและท้องทะเลตนนี้ได้แน่นอน

ทว่าซีเหอที่อยู่ทางนี้ก็รีบออกคำสั่ง “ซานเซิง รีบไปช่วยทัวถ่าเทียนอ๋อง จับโจรกบฏนั่นเสีย!” นางรู้ดีว่าหากจับอิงหลงโบราณได้ เยี่ยนอวี๋ต้องยอมจำนน เพราะมันคือลูกน้องเก่าผู้ภักดีของนาง

ซานเซิงที่ได้รับบัญชาก็ก้าวเท้ายาวๆ ออกไป มุ่งไปยังตำหนักเทียนตี้ ด้วยความสามารถของซานเซิง บวกกับทัวถ่าเทียนอ๋อง มีความเป็นไปได้สูงว่าจะจับอิงหลงโบราณตนนี้ได้ ถึงอย่างไรสิ่งที่ถูกปลุกขึ้นในร่างกายของซานเซิงคือสายเลือดของเทพโบราณ ร่างกายเขายังมีพลังของเทียนตี้ที่สามารถกดข่มเหล่าทวยเทพได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งนี่คือพรสวรรค์ของสายเลือดเทียนตี้

ทว่าเยี่ยนอวี๋กลับไม่ปล่อยให้ซานเซิงไป “ซานเซิง กลับมา กลับมาข้างกายข้า”

“หึ!” ซีเหอแค่นเสียงหัวเราะ “ฝันไปเถอะ!” ซานเซิงที่ถูกนางควบคุมจะฟังคำพูดของหยวนชูได้อย่างไร น่าขันสิ้นดี หยวนชูเจ้าคิดว่าเจ้าคือ…

ทว่าซีเหอที่เพิ่งเย้ยหยันเสร็จก็หยุดชะงักในทันทีเพราะว่าซานเซิงหยุดเดินจริงๆ แม้จะยังไม่ได้กลับไปข้างกายเยี่ยนอวี๋ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าซีเหอแข็งค้างไป “ซานเซิง! เจ้าไม่ฟังเสด็จแม่แล้วหรือ!”

“ซานเซิง มาที่ข้างกายข้า” เยี่ยนอวี๋ที่ดูสงบนิ่งและซีเหอที่ร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจน มิหนำซ้ำซานเซิงก็ยังหันกลับมาแล้ว เขามองไปทางเยี่ยนอวี๋

“ซานเซิง!” ซีเหอตวาด

ใบหน้าขนาดใหญ่ไร้ซึ่งอารมณ์ราวกับท่อนไม้ของซานเซิงปรากฏสีหน้าเจ็บปวดขึ้นเล็กน้อย เยี่ยนอวี๋ขมวดคิ้ว น้ำเสียงของนางพลันอ่อนโยนลง…

“ซานเซิง หากเจ้าไม่อยากฟังก็จงหลับใหลเสีย ไม่มีพลังใดๆ สามารถทำให้เจ้ากลายเป็นหุ่นเชิดได้ เพราะว่าเจ้าคือโอรสของตี้จวิ้นและเอ๋อหวง! ซานเซิง”

โอรสของตี้จวิ้นและเอ๋อหวง! ซานเซิง

ประโยคนี้กระทบใจซานเซิงอย่างรุนแรง ดวงตาของเขากระจ่างชัดขึ้นในทันใด

“ซานเซิง!” ซีเหอตะโกนเสียงแหลม ในขณะเดียวกันก็ปล่อยพลังควบคุมที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม “อย่าไปฟังคำหลอกลวงของนังโจรนั่น นางต้องการยุแหย่ให้เราสองแม่ลูกแตกกัน”

น่าเสียดายที่ซานเซิงล้มลงบนพื้นเสียแล้ว ชั่วจังหวะที่สติเขากระจ่างชัด เขาก็เข้าสู่การหลับใหลอย่างที่เยี่ยนอวี๋แนะนำ นี่คือวิชาฟื้นฟูตนเองที่เขาสืบทอดมาจากตระกูลมารดาของเขา เมื่อเขาเริ่มใช้พลังนี้ การโจมตีและการครอบงำใดๆ ก็จะไร้ประโยชน์

ซานเซิงที่เป็นเช่นนี้…เพียงพอที่จะทำให้กองทัพเทียนตี้เกิดความโกลาหล แม่ทัพหนึ่งในหลายคนยิ่งมั่นใจในข้อสงสัยของตนเองจึงออกคำสั่งทันที “กองทัพเทียนตี้ฟังบัญชา ปกป้องผู้บัญชาการกลับตำหนักเทียนตี้!”

ซีเหอสีหน้าเปลี่ยน แต่นางก็ฉลาดอยู่บ้างจึงรู้ว่าเมื่อซานเซิง ‘ล้มลง’ นางก็ไม่สามารถควบคุมกองทัพเทียนตี้ได้อีก ได้แต่มองและด่าทอเยี่ยนอวี๋อย่างคับแค้นใจ “โจรกบฏ ฝีมือดีไม่เบา! สมแล้วที่เป็นผู้ขโมยพลังของปฐมราชินี!”

“ก็ไม่รู้ว่าใครฝีมือดีกันแน่ แม้แต่ทายาทของเทียนตี้ยังกล้าลงมือ!” ซีหวังหมู่ทนไม่ไหวแล้ว มันเป็นห่วงรุ่นน้องอิงหลงที่อยู่ในประตูหยวนกวงนั่นมากด้วย

ถึงอย่างไรประตูหยวนกวงในบัดนี้ก็กลับมาสงบเป็นปกติแล้ว ไม่รู้ว่าทางนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เยี่ยนอวี๋รู้ว่า เสี่ยวอิงของนางจัดการทัวถ่าเทียนอ๋องได้แล้ว

ทว่า…

“อนิจจา” เสียงอุทานยาวดังขึ้นจากรอบทิศของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าอย่างเชื่องช้า ทำให้สายตาของทวยเทพทั้งหมดจ้องมองไปรอบๆ

ซีเหอ จ้านเทียนอ๋องและมหาเทพรับรู้ได้ในทันที “บรรพบุรุษหงเหมิง?!”

สวรรค์เก้าชั้นฟ้าโกลาหลอีกครั้ง “บรรพบุรุษหงเหมิง! อาจารย์ของหยวนสื่อเทียนจุน ไท่ซ่างเหล่าจวินและทงเทียนเจี้ยวจู่! ผู้อาวุโสเช่นเขาถึงกับออกมาแล้ว! นี่มัน…”

“ไม่อยากจะเชื่อ! นี่คือเทพรุ่นแรกที่ปรากฏตัวขึ้นเป็นคนแรกเลยไม่ใช่หรือ! ไม่คิดเลยว่าจะเชื้อเชิญบรรพบุรุษหงเหมิงออกมาได้ โอ้ สวรรค์ ไม่คิดเลยว่าในชีวิตนี้จะได้เห็นภาพเช่นนี้อีก บรรพบุรุษหงเหมิงเชียวนะ โอ้!”

“สงสัยว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้วจริงๆ มิเช่นนั้นบรรพบุรุษหงเหมิงจะออกมาได้อย่างไร! หยวนสื่อเทียนจุนและตี้จวินก็คงใกล้ออกมาแล้วใช่หรือไม่ โอ…”

ในฐานะที่บรรพบุรุษหงเหมิงคือสิ่งมีชีวิตระดับตำนานที่มาจากยุคก่อนการสร้างโลกหงเหมิง ทั้งยังมีลูกศิษย์สามท่านที่เก่งกาจเช่นนี้ เขาย่อมมีจำนวนผู้เลื่อมใสบูชาจำนวนมากในโลกของเทพผู้ฝึกฌาน ดังนั้นเมื่อบรรพบุรุษหงเหมิงถือไม้เท้าปรากฏกายขึ้นกลางท้องฟ้าของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าอย่างกะทันหัน ไม่ใช่ออกมาจากประตูค่ายกลย้ายมิติ ทั่วทั้งสวรรค์เก้าชั้นฟ้าก็เดือดพล่าน “บรรพบุรุษหงเหมิง! บรรพบุรุษหงเหมิง!…”

ภาพเช่นนั้นทำเอาเยี่ยนเสี่ยวเป่ามือเท้าคาง “เป่าไม่รู้จัก” ท่านปู่อาวุโสที่ผู้คนรู้จักมากมาย แต่เป่าไม่รู้จัก

“แม่รู้จัก” เยี่ยนอวี๋รู้จักบรรพบุรุษหงเหมิงจริงๆ ถึงอย่างไรแม้นางไม่เคยสอนสั่งบรรพบุรุษหงเหมิง แต่ก็เป็นผู้ประจักษ์ว่าเขาเกิดจากยุคสร้างโลกหงเหมิงอย่างไร

ส่วนบรรพบุรุษหงเหมิง เขาย่อมรู้จักเยี่ยนอวี๋ ดังนั้นเมื่อเขาปรากฏตัว สายตาของเขาก็หยุดอยู่ตรงที่เยี่ยนอวี๋ และคารวะนางอย่างนอบน้อม

และเพราะการแสดงความเคารพเช่นนี้ทำให้บรรยากาศของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าถูกทำลายลงในทันที

“สวรรค์!”

“โอ้ สวรรค์!”

“ข้าเห็นอะไร!”

“บรรพบุรุษหงเหมิงคารวะใครนะ!”

ด้วยลำดับอาวุโสของบรรพบุรุษหงเหมิง แม้เขาจะเจอเทียนตี้ก็ไม่ต้องคารวะ แต่เมื่อเจอเยี่ยนอวี๋ เขาจำเป็นต้องคารวะ เพราะเยี่ยนอวี๋คือผู้อาวุโสสูงสุดในจักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้า

ซีเหอสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก หัวใจแตกละเอียด เพราะการคารวะของบรรพบุรุษหงเหมิง นางคิดไม่ถึงเลยว่า ตาแก่คนนี้จะออกมาทำลายเรื่องดีของนางในเวลานี้

คำสั่งหมายจับก่อนหน้านี้ที่นางออก ไม่เห็นเหล่าทวยเทพรุ่นแรกออกมาเลยสักคน นางคิดว่าพวกเขาคง ‘ยอมรับ’ เป็นนัยแล้ว แต่แล้วบรรพบุรุษหงเหมิงกลับมาหักหน้ากันในเวลานี้เสียอย่างนั้น

ในความเป็นจริงเมื่อบรรพบุรุษหงเหมิงคารวะเสร็จแล้ว เขากลับมองต้าซือมิ่งที่อยู่ข้างกายเยี่ยนอวี๋ด้วยสีหน้าเศร้าโศก “ปฐมราชินี ข้าไม่คิดเลยว่าท่านจะกลายเป็นพวกเดียวกับเผ่ามารและยังสังหารไท่ซ่างด้วย”

เมื่อสิ้นเสียง…ทุกคนพลันตะลึงจนถึงขีดสุด

ไม่มีใครคิดถึงเลยว่าบรรพบุรุษหงเหมิงจะพูดเช่นนี้ออกมา ซีเหอเองก็คิดไม่ถึง แต่หัวใจที่แต่เดิมแตกสลายและสิ้นหวังกลับเปล่งประกายด้วยความหวังใหม่ขึ้นอีกครา

บรรพบุรุษหงเหมิงไม่ได้ยืนฝั่งเดียวกับหยวนชู เขาไม่ได้มาหักหน้านาง การรับรู้เช่นนี้ทำให้ซีเหออยากจะหัวเราะออกมาดังๆ ทว่า…

“เช่นนั้น เจ้ามาที่นี่เพื่อโจมตีข้าหรือ” เยี่ยนอวี๋สงบนิ่ง ไม่แยแสและเยือกเย็นเฉกเช่นอดีต ราวกับไม่สนใจข้อกล่าวหาและการตำหนิของบรรพบุรุษหงเหมิงแม้แต่น้อย

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *