เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน 531 ปฐมราชินีบุกแอตแลน เอเลน่าเสียโฉม

Now you are reading เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน Chapter 531 ปฐมราชินีบุกแอตแลน เอเลน่าเสียโฉม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 531 ปฐมราชินีบุกแอตแลน เอเลน่าเสียโฉม

“อยู่นั่น”

ทันทีที่ดวงตาสีทองของต้าซือมิ่งลืมขึ้น เขาก็ระบุตำแหน่งที่ซ่อนอยู่ในจุดลึกลับแห่งหนึ่ง

‘ต้าซือมิ่ง’ ผมสีทองที่ตั้งแต่เข้ามาในรอยแตกแยกก็คอยสัมผัสที่ที่ตนเองเคยอยู่ เห็นได้ชัดว่าเขาเชื่อมต่อกับพื้นที่แห่งนั้นได้แล้ว

“เจ้ามั่นใจว่าพวกเขาตกลงไปที่นั่นหรือ” เยี่ยนอวี๋สงสัย “ที่นี่ใหญ่ขนาดนี้”

‘ต้าซือมิ่ง’ ผมสีทองชายตามองสตรีข้างกาย ถามเพียงว่า “จะตามหรือไม่ตาม”

“ตามๆ” เยี่ยนอวี๋พยักหน้า รู้ว่าสามีพิกลคนนี้ยังไม่ได้กลับมาเป็นคนเดิมจึงได้แต่ตามใจเขา

‘ต้าซือมิ่ง’ ผมสีทองที่พอใจแล้วก็พ่นลมหายใจเย็นชาออกมาก่อนจะอุ้มเด็กน้อยเดินไปข้างหน้าต่อไป ในขณะเดียวกันก็กำชับว่า “ตามมาใกล้ๆ ผลกระทบจากความปั่นป่วนของสองจักรวาลสร้างอิทธิพลต่อพวกเจ้าเป็นอย่างมาก”

“ได้เลย” ซีหวังหมู่เดินตามนายท่านและจวินโฮ่วไปติดๆ

นอกจากเซ่าเฮ่าที่ยังเป็นมนุษย์ปกติแล้ว ซีหวังหมู่ เทพอัสนี อิงหลงและจิ่วอิงก็หดตัวเล็กลง

จิ่วอิงเกาะขาของเด็กน้อยเหมือนกับหมึกสาย ทำเอาเด็กน้อยสนุกสนาน ยิ่งไปกว่านั้น เทพอัสนียังพันแขนของเซ่าเฮ่า ส่วนอิงหลงบินอยู่ข้างกายเยี่ยนอวี๋ “นายท่าน ที่นี่คล้ายกับแดนปิดผนึกในครานั้นเลย”

“ใช่แล้ว จูจูเป็นอย่างไรบ้าง” เยี่ยนอวี๋ถือโอกาสถามถึงจูจู

“สบายดี แค่คิดถึงนายท่านมาก” ตอนที่อิงหลงอยู่ในโลกมนุษย์มักจะสื่อสารกับจูจูเป็นประจำ

เยี่ยนอวี๋พูดได้เพียงว่า “รอให้ปลดผนึกแดนมืดวิญญาณอสูรในอนาคตแล้ว มันก็จะขึ้นสวรรค์เก้าชั้นฟ้าได้แล้ว”

“ปลดผนึกแดนมืดวิญญาณอสูร?” ซีหวังหมู่สงสัย

ทว่าเซ่าเฮ่าไม่ประหลาดใจ “ในเมื่อจวินโฮ่วควบคุมแดนมืดวิญญาณอสูรได้แล้ว แม้จะปลดผนึกก็คงไม่เป็นอะไร”

“ใช่แล้ว” ซีหวังหมู่ก็ไม่พูดอะไรต่อแล้ว

ในขณะที่พวกเขาสนทนากัน เยี่ยนเสี่ยวเป่าก็ส่งเสียง ‘อ้ะเนะเนะ’ ไม่หยุด เหมือนกับกำลังร้องเพลงอย่างสนุกสนานคนเดียว แต่ก็เหมือนกับเป็นเพียงคำอุทาน ประเดี๋ยวโบกมือและเท้าอย่างตื่นเต้นดีใจ ประเดี๋ยวมองไปรอบๆ เงียบๆ ต้าซือมิ่งมีแรงเหลือเฟือและยังว่องไวมาก มิเช่นนั้นเจ้าตัวน้อยคงจะตกลงไปได้ทุกเมื่อ…

เยี่ยนอวี๋เข้าใจแล้วว่าเหตุใดเด็กน้อยจึงชอบให้พ่ออุ้ม หากไม่ใช่ท่านพ่อเขา เด็กน้อยของนางคนนี้คงกระโดดโลดเต้นตามใจปรารถนาในที่แบบนี้ไม่ได้แน่

แต่เยี่ยนอวี๋ชอบเด็กน้อยที่ร่าเริงเช่นนี้มาก ทำให้นางอดใจจูบเด็กน้อยไม่ได้ เด็กน้อยยิ้มหวานและอ่อนโยน “แม่…”

“จ้า” เยี่ยนอวี๋ลูบศีรษะของเด็กน้อย ปล่อยให้เขาเล่นต่อไป

ซีหวังหมู่เห็นดังนั้นก็ตาร้อน มันอยากจะเล่นกับนายน้อยบ้าง แต่ช่วงนี้จวินโฮ่วดูน่ากลัว รอหน่อยแล้วกัน รอให้เขาหายดีก่อนค่อยว่ากัน

ในขณะที่เยี่ยนอวี๋และพรรคพวกเข้าไปในพื้นที่เป้าหมายในรอยแยกอย่างรวดเร็วและราบรื่น เม่ยเอ๋อร์ก็กลับมาอยู่ข้างหน้าอินหลิวเฟิงพวกเขาทั้งสามมือเปล่า ครานี้เอ้อร์เหมาก็มัดเอลล่าไว้เรียบร้อยแล้ว

“เม่ยเอ๋อร์ นี่มันเรื่องอะไรกันอีกแล้ว” อินหลิวเฟิงรีบถาม

เม่ยเอ๋อร์ขมวดคิ้ว “ท่านเขยเสียสติน่ะ ทำให้ข้าจับสองแม่ลูกไม่ได้”

“ไม่เป็นไร ข้าว่าพวกเขาคงมุ่งไปทางต้าซือมิ่ง รนหาที่ตายชัดๆ” อินหลิวเฟิงไม่กังวลแม้แต่น้อย เขาเหยียบเอลล่าที่กำลังจะตาย “น่าจะสืบเรื่องได้จากเชลยคนนี้ไม่มากก็น้อย” อย่างเช่นว่าที่นี่คือแดนลับแลที่ไหนกันแน่

เม่ยเอ๋อร์คิดถึงความแข็งแกร่งของท่านเขยผมสีทองก็พยักหน้าตามสัญชาติญาณ “นำตัวกลับไปก่อน”

“ได้เลยขอรับ” เอ้อร์เหมาลากเอลล่าขึ้นมาอย่างตื่นเต้นดีใจ ยืดอกเชิดหน้าเดินไปข้างหน้า

อินหลิวเฟิงหมดคำจะพูด “เม่ยเอ๋อร์ คุณหนูใหญ่เจ้าบอกหรือไม่ว่าจะมาเมื่อไหร่”

“ไม่ได้บอก”

“เช่นนั้นเรารอเช่นนี้ต่อไปหรือ”

“รอ”

“หนีไปก่อนไม่ได้หรือ”

“รอ”

“ก็ได้ รอก็รอ” อินหลิวเฟิงยอมแพ้เม่ยเอ๋อร์แต่โดยดี เอาเวลามาคิดหาทางให้เทพแปลกประหลาดคนนี้พูดความจริงดีกว่า ทว่าไม่ว่าจะเป็นอินหลิวเฟิงหรือเม่ยเอ๋อร์ พวกเขาไม่รู้เลยว่าโลงศพในบัดนี้ ผู้ที่นอนอยู่ในนั้นไม่ใช่ ‘ต้าซือมิ่ง’ ผมสีทอง แต่คือต้าซือมิ่งผมสีดำแล้ว

เอื้อก

พระชายาลาซิน่าที่กระอักเลือดล้มลงบนพื้น นางรีบกลืนยาน้ำขวดหนึ่งลงไป แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้นจึงทำได้เพียงรักษาตัวเองก่อน

ผ่านไปครู่หนึ่ง เอเลน่าที่ค่อยๆ ฟื้นขึ้นก็รู้สึกว่าใบหน้าและศีรษะของตนเจ็บปวดแสบร้อน เป็นความรู้สึกเจ็บชาเข้ากระดูกและวิญญาณ ทำให้นางลูบใบหน้าตามสัญชาติญาณ และนางก็จับเจอเพียงเลือดเนื้อที่เปื่อยเละ

“หน้า…”

เอเลน่าชะงัก จากนั้นนางก็วิตก

เมื่อนางหยิบกระจกมาได้และส่องใบหน้าของตนอย่างลนลานนั่นเอง

“ไม่!”

เสียงร้องเวทนาทำเอาลาซิน่าสะดุ้งตกใจ

“ไม่! ไม่!…”

เอเลน่าที่ตกใจกับใบหน้าที่เน่าเฟะของตนเอง นางหยุดร้องไม่ได้เลย

“เอเลน่า!”

ลาซิน่ารีบกอดบุตรสาวไว้ นางเองก็เพิ่งสังเกตเห็นใบหน้าที่ถูกฉีกเละของบุตรสาวอย่างชัดเจน พูดตามตรงนางเองก็ตกใจมาก ด้วยความสามารถของซีหวังหมู่ ย่อมฉีกจนใบหน้าข้างหนึ่งของเอเลน่าเละจนแหลกเละได้สบาย ผิวหนังแหลกเละจนเห็นกระดูก กะโหลกและหนังศีรษะก็ถูกฉีกทึ้ง ดังนั้น… สภาพของเอเลน่าในยามนี้ไม่ต่างอะไรจากผีสางที่มีใบหน้าบิดเบี้ยว

“ไม่ ไม่!…”

เอเลน่าตกใจจนเสียสติไปแล้ว นางโยนกระจกทิ้ง ลูบใบหน้าของตนเองไม่หยุด แม้จะเจ็บปวดเจียนตาย เลือดเนื้อถูกนางถูจนเละกว่าเดิม จนเหมือนกับว่านางไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว

“เอเลน่า!” พระชายาลาซิน่ารีบจับมือของบุตรสาวไว้ ตะโกนปลอบว่า “ไม่เป็นไร มีแม่อยู่ ไม่เป็นไรนะ เจ้าจะหายดี”

“ไม่ ไม่!…” เอเลน่าส่ายศีรษะไม่หยุด “ไม่ใช่เรื่องจริง ท่านแม่! ไม่ใช่เรื่องจริง” นี่ไม่ใช่นาง ไม่ใช่ใบหน้าของนาง ไม่ใช่

พระชายาลาซิน่าทำได้เพียงกอดบุตรสาวไว้แน่น คิดแค้นเยี่ยนอวี๋ที่ทำให้บุตรสาวกลายเป็นเช่นนี้ ในขณะเดียวกันก็ปลอบโยนไม่หยุดว่า “ใช่ นี่ไม่ใช่เรื่องจริง แม่จะรักษาให้เจ้าก่อน เจ้าต้องหายดีแน่ ไม่ใช่เรื่องจริง”

“เพคะ เร็วเข้า ท่านแม่ ช่วยลูกเร็วเข้า!” เอเลน่าใกล้จะพังทลายแล้ว ขอเพียงเป็นมนุษย์คนหนึ่งย่อมรับไม่ได้หากถูกทำให้เสียโฉม นับประสาอะไรกับองค์หญิงที่อ้างตนว่าสมบูรณ์แบบและยอดเยี่ยมเช่นนางเล่า

พระชายาลาซิน่าหยิบยาน้ำออกมาเริ่มทำความสะอาดบาดแผลให้เอเลน่า แต่นางก็รับรู้ได้ในทันทีว่า บาดแผลของบุตรสาวฟื้นตัวได้ยาก บาดแผลยังคงเปิดอย่างต่อเนื่อง เพราะว่าในบาดแผลมีกลิ่นอายอำมหิตอันน่าสะพรึงอยู่ในนั้น

ให้ตายเถอะ พระชายาลาซิน่าเคียดแค้นซีหวังหมู่ยิ่งนัก

บัดนี้ทำได้เพียงปิดแผลให้เอเลน่าและอธิบายว่า “เอเลน่า อาการของเจ้าหนักไปหน่อย แม่ปิดแผลเจ้าไว้ก่อน เรากลับราชวังให้หมอประจำราชวังดูให้นะ”

เอเลน่าร้อนรน “รักษาไม่หายแล้วใช่หรือไม่! ใช่หรือไม่เพคะ…”

“ไม่ใช่!” พระชายาลาซิน่าปฏิเสธอย่างเด็ดขาด “ต้องหายดีแน่นอน การโจมตีของจักรวาลที่เหมือนมดแมลงจะรักษาไม่หายได้อย่างไร วางใจเถอะ กลับไปต้องหายแน่นอน”

“ได้ ได้! เช่นนั้นยังจะรออะไร ไป เรากลับกันเดี๋ยวนี้เลย!” เอเลน่าที่คุ้มคลั่งไปแล้วอย่างเห็นได้ชัดผลักพระชายาลาซิน่าออก ตนเองก็เริ่มคลานเหมือนกับแมลงวันไร้ศีรษะที่หมุนไปทั่ว

พระชายาลาซิน่ารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ตะโกนเรียก “เอเลน่า!”

เอเลน่าพูดซ้ำไปมาราวกับไม่ได้ยินว่า “ต้องหายแน่! ต้องหายแน่! กลับไป กลับไป…”

“เอเลน่า!” พระชายาลาซิน่าใจกระตุก กลัวว่าบุตรสาวจะเสียสติไปจริงๆ

เอเลน่ายังคงไม่สนใจ คลานวนไปมาอยู่เช่นนั้น ดูเหมือนเสียสติไปแล้วจริงๆ ถึงขั้นจะชนสิ่งกีดขวางก็ไม่รู้จักหลบ นางชนเข้าอย่างจังจนเกิดเสียงดังทำเอาบาดแผลที่เพิ่งปิดไปมีเลือดซึมออกมา

“เอเลน่า!” พระชายาลาซิน่ารีบประคองบุตรสาว

เอเลน่ายังคงเสียสติ “ไป ไป กลับไป”

“ช้าก่อน! เอเลน่าช้าก่อน” สายตาเฉียบคมของพระชายาลาซิน่าพบบางอย่างเข้า สิ่งที่ถูกบุตรสาวชนนั้นเหมือนจะเป็นโลงศพสีดำโลงหนึ่ง บนนั้นยังมีลวดลายประหลาด…

พระชายาลาซิน่าที่จู่ๆ นึกอะไรขึ้นได้ก็ปลอบบุตรสาว “เอเลน่า เจ้ารอแม่ก่อน แม่ขอดูว่าคืออะไร แล้วจะพาเจ้ากลับไป เพียงครู่เดียวเท่านั้น ดีหรือไม่”

“ไม่! ไม่! กลับไป กลับไป” เอเลน่าปฏิเสธอย่างตื่นตระหนก รูม่านตาของนางขยายออก

สภาพดูไม่ได้เช่นนี้ของนางทำเอาลาซิน่าวิตก แต่นางยังคงเปิดโลงศพโลงนั้นออกอย่างรวดเร็ว นางจำได้ว่าในตำนานลี้ลับของตระกูลเหมือนกับว่าจะบันทึกลวดลายของโลงศพโลงนี้ไว้ เพียงแต่ว่า… เมื่อโลงศพถูกเปิดออก เมื่อเอเลน่าเห็นต้าซือมิ่งที่หลับไหลอยู่ในโลงศพ นางก็เงียบลงทันที

พระชายาลาซิน่าชะงัก “หรง?”

สองแม่ลูกคิดไม่ถึงเลยว่าหรงท่านนี้ที่เมื่อครู่อยู่ในจักรวาลสวรรค์เก้าชั้นฟ้า บัดนี้จะนอนอยู่ในโลงศพ และยังถูกพวกเขาเจอตัวด้วย

ครานี้เอง… พระชายาลาซิน่าทั้งตะลึงและสับสัน เอเลน่ากลับประหลาดใจและดีใจจนบ้าไปแล้ว “ท่านแม่ นี่คือพรหมลิขิตของข้าและหรง พาเขากลับไป ข้าจะแต่งงานกับเขา ข้าจะแต่งงานกับเขา”

ครานี้เอง…

“ได้”

พระชายาลาซิน่าพยักหน้า ขณะเดียวกันก็กลายเป็นแสงสีขาวอีกครั้ง นำตัวบุรุษในโลงศพและบุตรสาวกลับไป หากนางจำไม่ผิด หรงคนนี้ ตัวตนของเขาไม่ธรรมดา เขา…

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *