เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน 637 ต้าซือมิ่งอำลูก ปลุกพลังวิเศษอีกครั้ง! ชดเชยเรือนหอ!

Now you are reading เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน Chapter 637 ต้าซือมิ่งอำลูก ปลุกพลังวิเศษอีกครั้ง! ชดเชยเรือนหอ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 637 ต้าซือมิ่งอำลูก ปลุกพลังวิเศษอีกครั้ง! ชดเชยเรือนหอ!

เยี่ยนอวี๋เองก็รับรู้แล้ว นางจึงลุกขึ้น ขมวดคิ้วเดินออกจากตำหนัก

“เนะ?”

เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ยังไม่รู้เรื่องมองท่านพ่อและท่านแม่อย่างงุนงงและถูกท่านพ่อของเขาอุ้มออกไป

หยวนสื่อเทียนจุนในครานี้ เขากำลังตรวจสอบร่างของเหยาจีที่เพิ่งหมดลมหายใจไปด้วยหน้านิ่วคิ้วขมวด กลับไม่พบความผิดปกติใดๆ เหมือนกับว่านางแค่ตกใจตาย

เยี่ยนอวี๋เห็นดังนั้นก็กำลังจะลงมือเอง “ข้าเอง”

แต่ต้าซือมิ่งยัดเด็กน้อยให้ภรรยา ส่วนเขาก็เดินไปข้างหน้าเหยาจี ในขณะเดียวกันเขาก็สร้างอักษรรูนด้วยมุทรา เมื่ออักษรรูนปรากฎขึ้น เหล่าทวยเทพก็สัมผัสได้อย่างแจ่มชัดว่าเหมือนกับมีพลังบางอย่างที่มองไม่เห็นกำลังถูกอักษรรูนนี้ควบแน่นอย่างรวดเร็ว เหล่าทวยเทพสัมผัสอย่างละเอียดด้วยสัญชาติญาณทันที

ทว่าเหล่าทวยเทพก็พบในทันทีว่าพวกเขาไม่สามารถรับรู้ถึงสิ่งใดได้เลย รู้สึกได้เพียงว่าเหมือนจะมีพลังงานบางอย่างถูกหรงจวินโฮ่วควบแน่นเข้าไปในอักษรรูนตัวนั้น

“มหัศจรรย์จริงๆ…”

เหล่าทวยเทพที่กำลังคิดเช่นนี้ ต้าซือมิ่งก็ขับเคลื่อนอักษรรูนเข้าไปในร่างของเหยาจี จากนั้น…

วิ้ง!

ลำแสงจางๆ ไหลออกมาจากระหว่างคิ้วของเหยาจีทันที อีกเพียงพริบตาก็จะสลายไปแล้ว

“อ้ะเนะ!”

เด็กน้อยยิงลำแสงสีขาวเป็นหมอกจางๆ ไปทางลำแสงนั่นด้วยสัญชาติญาณทันที ทำเอาเหล่าทวยเทพงงงัน เพราะเด็กน้อยยิงออกไปด้วยความรวดเร็ว อีกทั้งลำแสงสีจางนั่นยังถูกลำแสงสีขาวของเจ้าหมอนี่รวบไว้ ไม่สามารถสลายไปได้

จุ๊บ! เยี่ยนอวี๋จูบศีรษะของเด็กน้อยทันที “เสี่ยวเป่าเก่งจังเลย”

เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ถูกชมก็ยิ้ม ฮี่ๆ และยังรวบแสงจางๆ นั่นเข้ามาให้ท่านแม่ของเขา “ให้… แม่”

ทว่า ต้าซือมิ่งยื่นมือมาทางเขา “ให้พ่อ”

“ไม่…” เด็กน้อยปฏิเสธทันควัน เห็นได้ชัดว่าเขายังไม่ลืมสิ่งที่ท่านพ่อพูดเมื่อครู่นี้ว่าจะตีเขา

น่าเสียดายที่เขาเพิ่งปฏิเสธ ท่านพ่อเขาก็ขโมยลำแสงจางๆ ที่ถูกเขารวบไว้ไปแล้ว

“เนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าตะลึง ยังมองหมอกสีขาวที่อยู่ในมือของตน ไม่เข้าใจว่าเหตุใดลำแสงจางๆ ที่ถูกเขาขังไว้จึงถูกท่านพ่อแย่งไปได้

ในขณะที่เด็กน้อยเหม่ออยู่นั่นเอง ต้าซือมิ่งก็บีบลำแสงจางๆ นั่นจนแตกละเอียด

เพียงแค่ชั่วพริบตา…

บรู๊ว!

กรั๊กๆๆ!…

เสียงผีสางและหมาป่าที่ร้องโหยหวนดังขึ้นจากลำแสงจางๆ นั่น

สีหน้าเหล่าทวยเทพแปรเปลี่ยนเล็กน้อย หยวนสื่อเทียนจุนพูดขึ้นว่า “วิชาค้นวิญญาณของยมโลก!”

“ทหาร! ไปเชิญยมราชมาตำหนักสวรรค์” เทียนตี้บัญชาทันที

แต่ต้าซือมิ่งยังไม่ทันเก็บมือ ลำแสงทั้งเก้าที่ไหลออกมาจากระหว่างคิ้วของเขาก็ห่อหุ้มแสงที่กระจัดกระจายเหล่านั้นไว้

ไม่เพียงเท่านี้…

“จงขัง”

หรงอี้ที่สร้างค่ายกลขังอนุสติที่เพิ่งถูกปลุกตื่นในตัวเขา เห็นได้ชัดว่าจุดประสงค์ของเขาคือต้องการกักคนในยมโลกไว้ด้วยลำแสงจางๆ นี้ เพราะเขาสงสัยแล้วว่า ผู้ที่ลงมือกับเหยาจีก็คือผู้ที่ขโมยสองมหาพลังบางส่วนของของเขาไป หากเขาเดาไม่ผิด ฝ่ายตรงข้ามต้องการกวนน้ำให้ขุ่นและถือโอกาสจับปลาในน้ำขุ่น เพียงแต่ไม่รู้ว่า นางขโมยพลังของเขาไปเพื่ออะไร

หรงอี้เดาไว้เช่นนี้ แต่ยังไม่มั่นใจ เขาจึงอยากจะยืนยันก่อนว่าฝ่ายตรงข้ามคือใครกันแน่

ในขณะเดียวกัน… ปฐมราชินีเยี่ยนก็พบบางสิ่ง “เด็กคนนี้นอกจากจะต้องมนต์ค้นวิญญาณแล้ว นางยังต้องมนต์สะกดด้วยและมนต์สะกดนี้ มีร่องรอยพลังแสงสว่างของแอตแลน เห็นทีการหลบหนีของโลกีจะเกี่ยวข้องกับเด็กคนนี้จริงๆ”

“นางฟ้าในวังกว่านเหอถูกควบคุมตัวไว้หมดแล้ว เชื่อว่าจะมีข่าวคราวเร็วๆ นี้” เทียนตี้ตอบ คิ้วขมวดเป็นปม “เจ้าโลกีนี่! ไม่อยู่เฉยแม้แต่ในคุกสวรรค์ เห็นทีต้องให้เขาไปท่องนรกขุมที่สิบแปดดูเสียแล้ว!”

“ไม่แน่ว่าตอนนี้เขาอาจจะอยู่ในนรกขุมที่สิบแปดแล้วก็ได้” หยวนสื่อเทียนจุนกล่าว

เทียนตี้ “…”

ก็จริง ถึงอย่างไรยมโลกก็ผสมปนเปเข้ามาหมดแล้ว

แต่เยี่ยนอวี๋กลับส่ายศีรษะอย่างมั่นใจ พูดว่า “ยังหรอก แม้ข้าไม่สามารถรับรู้ได้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน แต่เขายังไม่ฝ่าออกจากสามโลก บัดนี้คงจะท่องในเขตสวรรค์”

หยวนสื่อเทียนจุนที่ได้ยินดังนั้นก็อดถามด้วยความประหลาดใจไม่ได้ว่า “หมายความว่า ตราบใดที่เขาคิดจะหลบหนีไป ท่านจะรับรู้ได้หรือ”

“ใช่แล้ว ข้าสร้างม่านตรวจจับอนุสติของโลกีไว้ในสามโลกและมหาจักรวาลทั้งสาม เมื่อใดที่เขาสัมผัสโดน ข้าก็จะรับรู้ได้” เยี่ยนอวี๋ตอบ ดังนั้นนางจึงได้พูดว่านางพอจะรู้ว่าโลกีอยู่ที่ไหน และมั่นใจว่าเขาก่อปัญหาใหญ่อะไรไม่ได้ เพราะว่านางรู้จักโลกีและกลิ่นอายของเขาด้วย ด้วยความสามารถในบัดนี้ของนางสามารถสร้างแหฟ้าตาข่ายดินได้ในสามโลกรวมถึงแอตแลนและจักรวาลทางเหนือได้อย่างสมบูรณ์ เป็นแหฟ้าตาข่ายดินที่แท้จริง

ซีหวังหมู่ที่ได้ยินถึงตรงนี้ก็หัวเราะลั่นขึ้นมา “ฮ่าๆๆๆ! ดูซิว่าเขาจะหนีไปไหนได้!”

เหล่าทวยเทพก็รู้สึกผ่อนคลายลงไปมาก

เทียนอ๋องเบิกฟ้าพูดขึ้นว่า “ใต้เท้าแก่กล้า จวินโฮ่วไม่ธรรมดา เห็นทีพวกข้าคงจะกลายเป็นถุงสุราห่อข้าว! ไม่ต้องใช้ความสามารถทำอะไรแล้ว!”

“ดูท่าจะเป็นเรื่องจริง” หลันเย่ว์เทียนอ๋องอดหัวเราะไม่ได้ ในใจกลัวมากว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นอีก โชคดีที่ปฐมราชินีแก่กล้าสามารถ จวินโฮ่วก็ไม่ธรรมดาจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นแผนชั่วร้ายอะไรล้วนถูกท่านทั้งสองจัดการได้อย่างหมดจด

ความรู้สึกเช่นนี้สาสมใจยิ่งนัก! ไม่ว่าจะซ่อนไว้ลึกแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ ต่อหน้าความสามารถที่แท้จริงแล้ว ทุกอย่างล้วนไร้ประโยชน์

“เช่นนั้นจะรออะไรอีกเล่า ไปๆๆ กลับไปจักรวาลดั้งเดิมเป็นถุงสุราห่อข้าวกัน!” ซีหวังหมู่ตะโกนขึ้น นางพาเหล่าพี่น้องกลับจักรวาลดั้งเดิมแล้ว

ในเหตุการณ์เหลือเพียงเทียนตี้ หยวนสื่อเทียนจุน จิ่วอิงและต้าซือมิ่งทั้งครอบครัวอย่างรวดเร็ว

เดิมทีจิ่วอิงก็คิดจะหนีไปด้วย แต่เขาถูกหรงอี้จับไว้ “ปู่จิ่วเฝ้าที่นี่ก่อน”

“ทำไมเล่า?” ลูกพี่จิ่วอิงไม่ค่อยเต็มใจนัก “ข้าอยากกลับไปเล่น!”

ต้าซือมิ่งไม่สนใจเขา แต่เด็กน้อยกลับพูดขึ้นว่า “เป่าอยู่เป็นเพื่อน อิงอิง!”

จิ่วอิงเกือบจะหัวเราะออกมา… ทว่าเจ้าตัวน้อยยังพูดต่อไปว่า “รอเป่า กินข้าวเสร็จ จะมา!”

พรวด! หยวนสื่อเทียนจุนโพล่งหัวเราะทันที

จิ่วอิงหยิกเด็กน้อย “เจ้าตัวร้าย! หยอกปู่จิ่วเจ้าเล่นหรือ”

“ฮี่…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่มุดเข้าไปในอ้อมอกของท่านแม่ก็ทิ้งไว้แค่แผ่นหลังแสนใจดำให้กับจิ่วอิง

จิ่วอิงทำอะไรไม่ได้ ได้แต่จิ้มก้นน้อยๆ ของเขา

ต้าซือมิ่งในครานี้ เขาก็ดึงเทียนตี้ไปซุบซิบกันข้างๆ แล้ว ใบหน้าเยี่ยนอวี๋ปรากฏแววอยากรู้อยากเห็น นางรู้สึกพิลึกอย่างไรไม่รู้

นางเห็นมาตลอดว่าสองคนนี้ไม่ถูกกันตั้งแต่ไหนแต่ไรมา โดยเฉพาะเทียนตี้ที่มักจะไม่ยอมสามีของนาง และยังชอบจับผิด นางรู้ดี ทว่าตอนนี้เทียนตี้ที่ถูกสามีของนางดึงไปข้างๆ และกำลังฟังสามีนางพูดพลางหยักหน้าอย่างตั้งใจราวกับเลื่อมใสศรัทธาอย่างสุดซึ้ง ท่าทางเชื่อฟังขนาดนี้ คนที่ไม่รู้คงคิดว่าสามีของนางเป็นพ่อของเทียนตี้…

เยี่ยนอวี๋จึงอยากจะแอบฟังว่าทั้งสองกำลัง ‘ซุบซิบ’ อะไรกัน น่าเสียดายที่นางเพิ่งจะ ‘ชันหูขึ้น’ สามีที่มีไหวพริบของนางก็หันมาอมยิ้มและหรี่ตามองนาง

“…”

เยี่ยนอวี๋ที่หันหลังทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น นางก็ลูบศีรษะและจูบเด็กน้อย

ต้าซือมิ่งกลับสนทนาเสร็จแล้ว เขาเดินไปโอบนางจากด้านข้าง “อยากฟังอะไรหรือ”

“อะไรหรือ” เยี่ยนอวี๋ทำเป็นไม่เข้าใจ อันที่จริงนั้นในใจอยากรู้มากแต่นางไม่พูด

ต้าซือมิ่งชอบนางที่ปากไม่ตรงกับใจท่าทางอ่อนโยนเช่นนี้จริงๆ เขายิ้มและจูบใบหูของนาง “อยากรู้เช่นนั้นเลยหรือ”

เยี่ยนอวี๋เม้มปาก พิงอ้อมอกของสามีนางอย่างเป็นธรรมชาติและเงยหน้ามองสามีของนาง “แล้วเจ้าทำอะไรไป จู่ๆ เทียนตี้ถึงยอมเจ้า”

“เป่าก็อยาก อยากรู้” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ไม่รู้ว่าเงยหน้าขึ้นมาเมื่อใด สีหน้าของเขาแสดงความใคร่รู้เหมือนกับท่านแม่ของเขา สายตายังนุ่มนวลเป็นพิเศษ

ต้าซือมิ่งกอดภรรยาพร้อมลูกเข้ามาก่อนจะหายตัวไปทันที เหลือเพียงหยวนสื่อเทียนจุน จิ่วอิง และเทียนตี้ยังยืนนิ่งอยู่ในเหตุการณ์

ชั่วขณะที่ต้าซือมิ่งหายตัวไป เขายังกระซิบข้างหูภรรยาว่า “คืนนี้ชดเชยเรือนหอให้แล้ว ข้าจะบอกเจ้า”

เยี่ยนอวี๋ “…”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชายคนนี้พูดเช่นนี้แล้ว!

ทว่า…

เยี่ยนอวี๋อดบ่นไม่ได้ว่า “หากครั้งที่แล้วเจ้าไม่ชักช้าคงสำเร็จไปแล้ว”

คำพูดนี้ทำให้ดวงตาสีม่วงอร่ามของต้าซือมิ่งกลายเป็นสีดำเข้มได้สำเร็จ มือที่กอดเอวของภรรยาไว้ยิ่งรัดเอวอันบอบบางไว้แน่น แน่นมาก

ไม่เพียงเท่านี้… เขายังพูดข้างหูภรรยาช้าๆ ชัดๆ คำพูดนั้น… ทำให้เยี่ยนอวี๋กอดเด็กน้อยในอ้อมอกไว้แน่น ใบหูแดงก่ำ

ครานี้เด็กน้อยไม่พอใจ “ทำไม พูด เสียงเบา! ไม่ได้ยิน! ไม่รักเป่า! เป่าจะ โกรธแล้วนะ!”

แต่แล้ว… เด็กน้อยเพิ่งพูดจบ

วิ้ง!

ในกระเป๋าเสื้อผ้าของเขาก็มีลำแสงสีดำมุดออกมา!

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *