เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน 747 อาลัยรัก

Now you are reading เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน Chapter 747 อาลัยรัก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 747 อาลัยรัก

คำว่า ‘อืม’ ที่หนักแน่นมั่นใจนี้ทำให้หรงอี้หยุดหายใจไปชั่วขณะ

ทว่าปฐมราชินีเยี่ยนยังจูบลำคอระหงของเขา “สามี เจ้าควรจะให้ข้ารู้จักเจ้าตั้งแต่แรก ข้าอยากชอบเจ้าเร็วกว่านี้ จะได้มีลูกหลายคน”

เยี่ยนอวี๋อดไม่ได้ที่ตาจะร้อนระอุทุกครั้งที่คิดถึงร่างโดดเดี่ยวในความฝัน หากพวกเขารู้จักกันเร็วกว่านี้ เขาคงไม่ต้องเผชิญหน้ากับทุกอย่างอย่างโดดเดี่ยวทุกชาติ

หรงอี้ที่ได้ยินภรรยาพูดเช่นนี้ เขาก็… จับคออ่อนนุ่มของภรรยาไว้ “รู้แล้วหรือ”

“อืม” เยี่ยนอวี๋ประชิดเข้าไปในซอกคอของสามีด้วยสัญชาติญาณและยังจูบไม่หยุด “สามี…”

เห็นได้ชัดว่าปฐมราชินีเยี่ยนเช่นนี้ไม่รู้ว่าจะ ‘ระบาย’ ความรักที่มีต่อต้าซือมิ่งในใจของนางออกมาอย่างไร นางจึงได้แต่คลอเคลียเขา รบเร้าเขา เหมือนกับ… เจ้าตัวน้อยที่ออดอ้อนเก่งมาก

แต่แน่นอนว่าภรรยาไม่เหมือนกับลูก ดังนั้นแผ่นหลังของต้าซือมิ่งค่อยๆ แข็งเกร็ง เด็กน้อยที่ ‘อยู่เฉยๆ ก็ผิด’ ท้องน้อยๆ ของเขาเปล่งเสียงประท้วงเสียงดังออกมา จ๊อก…

เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่อยู่นิ่งๆ มานานทนไม่ไหวแล้ว เขามุดศีรษะน้อยๆ ออกมาจากอ้อมอกของพ่อแม่ “พ่อ หิว เป่าหิววว…”

“เมี๊ยว” เจ้าเหมียวสีขาวที่มุดออกมาเช่นกัน มันก็มองต้าซือมิ่งอย่างงงงวยและยังใช้มือของมันเกาใบหน้า ราวกับรู้สึกสงสัยมาก

จิ่วอิงในครานี้จึงเดินเข้ามาใกล้ ถึงอย่างไรมันก็เป็นราชาจิ่วอิงที่มีตา บรรยากาศเมื่อครู่นี้ แม้มันจะตาบอดอย่างไรก็ไม่เข้ามาเป็นก้างขวางคอแน่นอน

แต่ครานี้ จิ่วอิงถือโอกาสถามว่า “จะว่าไปแล้วอี้เอ๋อร์ เจ้าดูเสี่ยวไป๋สิ มันเป็นอะไรไปหรือ”

“เหมียว?” เจ้าเหมียวสีขาวมองจิ่วอิง จับใบหน้าของมันต่อไปด้วยท่าทางดูสับสน

ส่วนเยี่ยนอวี๋ นางกลับผละออกจากสามีนางและมองไปที่เจ้าเหมียวสีขาว “ปู่จิ่วบอกว่า เสี่ยวไป๋มาจุติเพื่อผ่านด่านเคราะห์กับสามี ข้าจึงชิงตัวมันมา”

“ไม่ แลกเปลี่ยน เป่าแลก เสี่ยวไป๋ เป่าเก่ง พ่อ ข้าวๆ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าคิดว่าเรื่องพวกนี้ไม่สำคัญ เดี๋ยวค่อยคุยกันก็ได้ ให้ข้าวเป่าเป็นรางวัลก่อน

เยี่ยนอวี๋คิดถึงตอนที่สามีนอนอยู่แล้วยื่นถุงงามวิจิตรใบหนึ่งออกมา ก่อนหน้านี้หยิบขนมให้เด็กน้อยกินรองท้องไป อาหารที่เหลือยังไม่ได้กิน

จากนั้นเด็กน้อยก็ตาเป็นประกายเมื่อเห็นว่าท่านแม่ของเขาเสกอาหารถ้วยหนึ่งออกมา เขาดีใจจนยื่นมือไปคว้าไว้ “ฮ่า…”

ต้าซือมิ่งดึงเด็กน้อยออกมาทันที “บอกกี่ครั้งแล้วว่าห้ามใช้มือ สกปรก”

“หิว…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าพูด เป่าหิวจะตายแล้ว ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น หง่ำๆๆ

เยี่ยนอวี๋เห็นเด็กน้อยที่หิวโหยก็ปลีกตัวออกมาจากอ้อมอกของสามีนางเพื่อป้อนข้าวให้เด็กน้อย

แม้ต้าซือมิ่งไม่อยากปล่อยมือ แต่เขาที่รู้สึกแข็งเกร็งไปหมดก็ไม่ค่อยอยากให้ภรรยาที่ตามติดแจคนนี้อยู่ในอ้อมอก คงเข้าเรือนหอกับภรรยาระหว่างทางไม่ได้หรอกนะ…

การร่วมรักที่ทั้งสองฝ่ายสมยอมกันเช่นนี้ย่อมต้องมีพิธีบ้าง

ต้าซือมิ่งที่ยิ่งคิดยิ่งไปไกลทำให้จิ่วอิง ‘เรียกวิญญาณ’ อย่างสงสัย “อี้เอ๋อร์ อี้เอ๋อร์?”

หรงอี้เพิ่งจะ ‘ตั้งสติ’ ได้ เขาเห็นภรรยามองตนเองอย่างเป็นห่วงจึงอธิบายอย่างจริงจังว่า “ข้ากำลังคิดเรื่องเสี่ยวไป๋น่ะ”

“อ๋อ แล้วคิดได้หรือยัง เหตุใดเสี่ยวไป๋จึงกลายเป็นคนโง่” จิ่วอิงถาม

“เมี๊ยว” เจ้าเหมียวสีขาวที่กระโดดออกไปข่วนจิ่วอิงบอกว่า เจ้าต่างหากคนโง่

แม้จิ่วอิงจะหนังหนา แต่มันยังคงป้องศีรษะของตนเองไว้ด้วยสัญชาติญาณ ต้องรู้ว่ากรงเล็บของเจ้าแมวตัวนี้ไม่ใช่กรงเล็บธรรมดา มันไม่เคยเห็นศีรษะของใครที่แมวตัวนี้แหวกไม่ได้

หรงอี้ที่ยื่นมือไปจับเจ้าเหมียวสีขาวขึ้นมากำลังจะพูดบางอย่าง เจ้าเหมียวสีขาวที่ถูกจับขึ้นมาบิดตัวกอดมือของเขาไว้อย่างคล่องแคล่วและแข็งแรง ก่อนจะพลิกตัวขึ้นไปบนหลังมือของเขา “เหมียว…”

“ท่าเดียวกันเลย เสี่ยวไป๋จอมเจ้าเล่ห์แน่ๆ” จิ่วอิงมั่นใจมาก

หรงอี้ก็ไม่ปฏิเสธ “เสี่ยวไป๋จริงๆ”

หรงอี้ที่กำลังพูด เขาก็รวมรวมแสงสีม่วงอร่ามปกคลุมเจ้าเหมียวสีขาวไว้ คลายผนึกที่ผนึกตัวเจ้าเหมียวไว้ทันที

จิ่วอิงกลับชะงักเล็กน้อย “ไม่ใช่หรอกนะ ไม่ใช่มีแค่ข้าที่ต้องผนึกไว้ เจ้าเหมียวเจ้าเล่ห์ตัวนี้ไม่ต้องผนึกไว้ก็ติดตามเจ้าได้ไม่ใช่หรือ”

“คงจะเป็นมันเองที่ผนึกตนเอง” หรงอี้ที่เก็บแสงกลับมาสัมผัสได้ว่ามีบางสิ่งที่เหมือนผนึกในศีรษะของเจ้าเหมียวน้อยมีกลิ่นอายเหมือนกับตัวของเจ้าเหมียวสีขาวเอง

สิ่งนี้จึงบอกได้เพียงว่า เจ้าเหมียวสีขาว ‘ผนึก’ ตนเองไว้

แม้ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด… แต่เกรงว่าความจริงคงเป็นเช่นนี้

หรงอี้มองเจ้าเหมียวสีขาวอย่างไม่รู้จะพูดอย่างไร ส่วนฝ่ายหลัง มันก็กำลังมองกรงเล็บของมันอย่างงงงวย “เหมียว?”

เห็นได้ชัดว่าเจ้าเหมียวสีขาวที่กำลังย่อยความทรงจำของตนเองตกอยู่ในความสับสน ตกตะลึง และอยู่ในสภาพโง่เขลา

สีหน้าอารมณ์หลากหลายของมันเพียงพอที่จะทำให้ต้าซือมิ่งสรุปได้ว่า “เจ้าเหมียวโง่ เกรงว่าตนเองก็ไม่รู้ว่าเหตุใดต้องผนึกตนเองไว้…”

“ไม่ใช่หรอกนะ” จิ่วอิงตะลึงตาค้างทั้งสิบแปดดวง “ความจริงกลับเป็นเช่นนี้หรือ”

จิ่วอิงกลอกตาทั้งสิบแปดดวง

สุดท้าย มันก็อดยอมแพ้ไม่ได้พูดว่า “นี่มันวิถีของเจ้าเหมียวจริงๆ แม้แต่ตนเองก็หลอก”

“เหมียว?” เจ้าเหมียวสีขาวที่ยังเรียบเรียงความทรงจำของตนไม่ได้ มันก็มองจิ่วอิงจากนั้นก็มองต้าซือมิ่ง และมองเจ้าตัวน้อย ราวกับถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง

“หง่ำๆ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ไม่มีเวลาสนใจเจ้าเหมียวสีขาว เขายังคงทานข้าวอย่างตั้งใจ เรื่องใหญ่อะไรก็ไม่สู้เรื่องกิน เพียงแต่ว่าขณะที่เขากำลังทานอยู่นั้น…

“เหมียว”

เจ้าเหมียวสีขาวกระโดดขึ้นไปบนช้อนของเขา

“อ้ะเนะ”

เยี่ยนเสี่ยวเป่าตบเจ้าเหมียวสีขาวทันที เจ้าเหมียวตัวลอยกระเด็น เสี่ยวเป่าทนได้ทุกอย่างยกเว้นเรื่องแย่งอาหาร

“เหมียว”

“เหมียว”

เจ้าเหมียวสีขาวที่รีบบินกลับมุดเข้าไปในซอกคอของเด็กน้อย ร้องเหมียวๆ ไม่หยุด

เยี่ยนเสี่ยวเป่าไม่ได้สนใจมัน เขาอ้าปากน้อยๆ ของเขา รอท่านแม่ป้อนข้าว

ส่วนเยี่ยนอวี๋ นางก็เปลี่ยนช้อนให้เงียบๆ ป้อนเด็กน้อยต่อไป…

เจ้าเหมียวตัวนี้ว่องไวมากจริงๆ มันพุ่งตัวขึ้นไปบนช้อนของเด็กน้อยได้ในชั่วขณะที่นางไม่ระวังตัว…

จิ่วอิงที่เห็นฉากนี้ก็ดีใจ “เห็นทีคงจะจำได้แล้ว”

ใช่แล้ว เจ้าเหมียวสีขาวจำได้แล้ว แต่มันไม่ใช่คนที่ผนึกตัวมันเองนะ เหมียว

**************************************

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด