เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน 84 ให้อาหารสุนัข แต่ไม่ให้โอกาสพวกมัน

Now you are reading เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน Chapter 84 ให้อาหารสุนัข แต่ไม่ให้โอกาสพวกมัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แสงจ้าพลันสว่างพลันมืดไม่แน่นอนกลุ่มหนึ่ง ในชั่วขณะจิตนั้นเอง! มันทะลุทะลวงหัวใจของชือหมิ่นซิง ทำให้เขาที่ยังมีชีวิตอยู่ได้เสียชีวิตลงในทันที ไม่หลงเหลือผู้ใดแม้คนเดียว

“บัดซบ!”

“แม่จ๋า…”

อินหลิวเฟิงเกือบจะร้องเรียกหาแม่แล้วจริงๆ! ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นกลไกที่น่ากลัว แต่เขาไม่เคยเห็น ‘กลไก’ ที่เข่นฆ่าหมดจดเช่นนี้มาก่อน

แม้ว่าในช่วงวิกฤติ ชือหมิ่นซิงจะระเบิดถุงวิเศษออกมาด้วยความเร็ว แต่ก็ไม่ช่วยอะไร เพราะแสงของถุงวิเศษเพิ่งรวมตัวกัน ทั้งสองขาของชือหมิ่นซิงก็เหยียดตรงแน่นิ่ง เขาได้เสียชีวิตลงแล้ว

แม้กระทั่งเงาร่างที่ประกอบกันเป็นรูปร่างมนุษย์ตัวใหญ่ โดยชือหมิ่นซิงที่ถูกระเบิดนำออกมาจากถุงวิเศษ มาทันแค่ได้เห็นชือหมิ่นซิงที่ตายไปแล้ว ไม่มีโอกาสได้เห็นด้วยซ้ำว่าใครเป็นผู้ลงมือ

“ใคร! เป็นใครกัน…” เงาร่างที่ประกอบขึ้นเหมือนมนุษย์คำรามอย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่อินหลิวเฟิงสองคนและเชื่อว่าพวกเขาสองคนเป็นฆาตกรอย่างแน่นอน

“ไม่ใช่นะ…” อินหลิวเฟิงรีบอธิบาย แม้ว่าผู้มาเยือนผู้นี้จะเป็นเพียงเงาร่าง เขาจึงไม่สามารถมองเห็นรูปร่างของอีกฝ่ายได้ชัดเจน แต่บุคคลที่สามารถปรากฏผ่านถุงวิเศษได้นั้นไม่ใช่บุคคลธรรมดาสามัญแน่นอน!

ดังนั้นอินหลิวเฟิงจึงไม่ลังเล! รีบทำให้ตัวเองพ้นจากข้อสงสัย แต่ทว่า…

ซู่!

แสงจ้ากลุ่มหนึ่งไม่เลือกปฏิบัติ มันได้ทะลุเข้าไปในหัวใจของเงาร่างตนนี้ทำให้มันกลายเป็นกลุ่มควัน โดยไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามมีโอกาสพูดอะไร

“เอ่อ…”

อินหลิวเฟิงสำลัก เขาไม่กลัวสิ่งอื่นใด กลัวแต่ว่าอีกฝ่ายจะคิดว่าเขามีส่วนร่วมในการสังหารชือหมิ่นซิงด้วย! แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเลย!

“แข็งแกร่งมาก!” กู้หยวนหมิงไม่สนใจความคิดเห็นของเงาร่างนั้น สิ่งที่เขาสนใจมากกว่าคือพลังบีบคอที่เล็ดลอดออกมาจากประตู เขามองออก…

ระดับความเข้มของแสงจ้าทั้งสองไม่เท่ากัน มันมีเป้าหมาย! ตอนที่มันฆ่าชือหมิ่นซิง แม้ว่าจะแข็งแกร่งมากเช่นกัน แต่ก็ยังเป็นความแข็งแกร่งที่เขาสัมผัสถึงได้ ทว่าตอนที่ทำลายเงาร่างนี้กลับเหมือนกับแสงธรรมดา เขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงอันตรายของอีกฝ่ายได้เลย

นี่คือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด…

หากเขาเผชิญหน้ากับการโจมตีแบบนี้ เขาคงตายไปโดยไม่รู้ตัวอย่างแน่นอน!

และแสงเช่นนี้!

มันมาจากประตูนั่น!

กู้หยวนหมิงจ้องมองประตูโบราณที่กลับคืนสู่ความสงบและธรรมดานิ่งๆ เขานึกไม่ออกเลย! ตกลงว่าขุมพลังใดที่ควบคุมการโจมตีเหล่านี้กัน

และอีกฝั่งของประตู กระบี่ไท่ชางที่กำจัดปลาเล็กปลาน้อยได้อย่างสบายได้ลดแสงสีม่วงเหลือบดำลงอีกครั้ง และทลายอนุสติที่เยี่ยนอวี๋เพิ่งสร้างใหม่อีกครา

ปัง อนุสติระเบิดอีกครั้ง คงทำให้เยี่ยนอวี๋เจ็บปวดจนใบหน้าไร้สีเลือด แต่นางก็ยังไม่ส่งเสียงแม้แต่น้อย กระทั่งเหงื่อกาฬอันเย็นเยียบไม่ได้หลั่งออกมาแม้แต่หยดเดียว

“อ๋า?” เจ้าตัวเล็กดูไม่ออกว่าท่านแม่คนงามของตนต้องทนทุกข์ทรมานเพียงใด แต่เขาก็เกาะขอบเตียงเล็กๆ อย่างเป็นห่วง ดวงตาคู่โตจ้องมารดาไม่กะพริบ

สำหรับเยี่ยนอวี๋ นางถูกลิขิตให้ต้องทนต่อการฝึกฝนแบบนี้หลายครั้ง เพราะมีเพียงแค่ทำให้อนุสติของนางแข็งกล้าจนกระทั่งแสงกลุ่มหนึ่งของกระบี่ไท่ชางไม่สามารถทำลายลงได้ เมื่อนั้นจึงถือได้ว่านางประสบความสำเร็จ

แต่คราวนี้ที่เยี่ยนอวี๋เริ่มร่ายคาถา “แรกเริ่มไร้สรรพสิ่ง ไร้สรรพสิ่งไร้นาม ต้นกำเนิดของความเป็นหนึ่ง ต้นกำเนิดของแหล่งกำเนิด ต้นกำเนิดของลมปราณและต้นกำเนิดของความคิด”

มีแสงสีม่วงเหลือบดำอ่อนเรืองแสงจางๆ ขณะที่เยี่ยนอวี๋กำลังร่ายมนต์ รวมตัวกันต่อหน้านางราวกับว่าได้สัมผัสตามเสียงของนางมา และแทรกซึมไปตามช่องที่แตกระแหงในตำแหน่งหนีหวานกงของนาง แล้วก่อตัวเป็นเส้นตาข่าย ทำให้พลังจิตที่พังทลายรวบรวมกลับมาทีละปอย

ในระหว่างกระบวนการนี้ พลังจิตใจที่อ่อนแอ อ่อนด้อย และไม่บริสุทธิ์ล้วนถูกละทิ้งไปทั้งหมด เหลือเพียงพลังจิตใจที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นและแรกเริ่มเท่านั้น จิตใจที่สามารถรวบรวมกลับมาได้ จึงจะถูกหลอมรวมกลับไปยังตำแหน่งหนีหวานกงของเยี่ยนอวี๋

เหมือนคลื่นลูกใหญ่ซัดหาดทราย

ดังนั้น…

ภายใต้วัฏจักรของการแบ่งบรรเทาและการหลอมรวมตนเองขึ้นอีกครั้ง

อนุสติของเยี่ยนอวี๋ค่อยๆ เปล่งแสงควบแน่นสีม่วงเหลือบดำ ขุมพลังที่กระบี่ไท่ชางจู่โจมก็ไม่ทำลายอนุสติของนางโดยตรงเหมือนที่เคยทำในตอนแรก

“อ้ะเนะเนะ!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าดีใจที่พบว่ากลิ่นอายของมารดาเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเขาจึงเอนตัวนอนบนเตียงเล็กๆ นั้นโดยไม่กังวล ฟังท่านแม่ร่ายคาถาไปพลาง ทำตาปรือเคลิบเคลิ้มไปพลาง

อย่างไรก็ตาม เมื่อการฝึกฝนของเยี่ยนอวี๋เริ่มเข้าขั้นดีขึ้น ทางตอนใต้สุดของอาณาเขตต้าซย่า! ในเมืองชั้นในของเมืองโบราณก็มีเสียงคำรามด้วยความโกรธที่ระเบิดขึ้นทันที “สารเลว! สารเลวเอ้ย…”

“ไอ้สารเลวคนไหนกล้าดีมาฆ่าซิงเอ๋อร์! ข้าจะฆ่ามัน!” คนที่คำรามเป็นชายรูปร่างกำยำมีกล้ามแขนเป็นมัดๆ เหมือนคนทั่วไป

ทว่าความสูงของชายฉกรรจ์คนนี้ก็สูงกว่าคนธรรมดาถึงสองเกือบสามเท่า ดวงตาใหญ่โตพอๆ กับตาวัว! รูจมูกใหญ่เช่นกัน ซ้ำยังตกแต่งด้วยวงแหวนขนาดใหญ่ที่ร้อยเข้ากับจมูก ซึ่งส่งเสียงดังเมื่อเขาคำรามเกิดเป็นเสียงเกรียวกราวระคายหู

แต่ถึงแม้ว่าเขาจะโกรธมาก แต่ลูกน้องของเขายังคงกอดเขาไว้แน่น ไม่ปล่อยให้เขาออกจากประตูวิหาร “ท่านหัวหน้าลัทธิ! ใจเย็นเสียก่อน! ตามสัญญาความพ่ายแพ้ ท่านไม่สามารถออกจากเขตจิ่วหลีได้นะขอรับ”

“ข้าไม่สน! พวกมันกล้าฆ่าซิงเอ๋อร์ของข้า ข้าจะฉีกสัญญาทิ้งซะ อย่างมากก็ก่อสงครามกันอีกครั้ง!”

ปัง!

คนที่ช่วยกันรั้งหัวหน้าลัทธิเซิ่งเหลียนถูกสะบัดจนกระเด็นอย่างรวดเร็ว! ตัวเขาเองได้กระโจนขึ้นไปลอยตัวบนอากาศ แล้วเดินทางออกจากลัทธิเซิ่งเหลียน ไปทางทิศตะวันออกของต้าฮวง สถานที่ที่ซึ่งเยี่ยนอวี๋และคนอื่นๆ อยู่! เขาเหาะแล้ว

อย่างไรก็ตาม…

“ไปซะ”

น้ำเสียงเยือกเย็นสง่างามราวกับเสียงพิณสวรรค์ ดังกังวานออกไปอย่างช้าๆ

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *