เซียนหมากข้ามมิติ 511 ฝืนปะทะไม่ได้

Now you are reading เซียนหมากข้ามมิติ Chapter 511 ฝืนปะทะไม่ได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 511 ฝืนปะทะไม่ได้

……………………………………………………………………..

ถูซือเยียนถูกกำราบในภูเขา ภายใต้สถานการณ์ส่วนใหญ่การครองสติยังต้องกระตุ้นจิตวิญญาณต้านทาน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการรับรู้สถานการณ์ภายนอก ได้ยินแค่เสียงคำรามกับเสียงกัมปนาท ทราบว่าข้างนอกต่อสู้กันแล้ว

แม้ว่าไม่รู้สถานการณ์แน่ชัดว่าเป็นอย่างไร แต่อาศัยความเข้าใจของตนที่มีต่อชายเกราะทอง ถูซือเยียนรู้ดีว่าความคืบหน้าของพวกพ้องไม่มีทางราบรื่นแน่

ถ้าใช้คำพูดจี้หยวนเมื่อชาติก่อน ช่วงนี้ถูซือเยียน ‘ท้าประลอง’ กับจอมพลังเกราะทองหลายครั้ง แทบไม่อาจทำให้อีกฝ่ายพูดออกมาสักประโยค แค่ใช้สายตาดูถูกมองนางเท่านั้น

นี่คือมือสังหารเย็นชาแข็งกร้าวคนหนึ่ง เชื่อฟังคำสั่งจี้หยวนมาก มั่นใจในความสามารถของตนนัก ยิ่งอยู่ร่วมกับขุนพลเทพเกราะทองคนนี้นานเข้า ถูซือเยียนยิ่งหวาดกลัวเขามากขึ้นเรื่อยๆ

เกรงว่าชายเกราะทองคนนี้คงไม่ใช่เผ่ามนุษย์ หรืออาจไม่ใช่เผ่ามนุษย์ทั่วไป เรื่องนี้ใช่ว่าเพียงมองออกจากสีผิวแดงก่ำนั่น แต่สังเกตเห็นจากแววตาเรียบเฉยดูหมิ่นด้วย บางครั้งเหมือนนัยน์ตาเขามีอสนีบาตเจิดจรัส แค่แววตาก็ทำให้ถูซือเยียนตกใจได้

ความรู้สึกเช่นนี้เด่นชัดมาก กระทั่งถูซือเยียนทราบจากปากพวกพ้องว่ามีการจัดงานชุมนุมเซียนพเนจร ตอนนี้อย่างน้อยยังมีเวลาสองวันเพื่อช่วยนาง แต่ยังไม่อาจทำให้ในใจมีความหวังมากนัก

ความรู้สึกเช่นนี้แปลกประหลาดโดยไม่ต้องสงสัย แปลกจนฝืนตรรกะ แม้ว่าถูซือเยียนรังเกียจหญิงคนนั้น แต่ยังรู้วิธีการของอีกฝ่าย ทั้งรู้ดีว่ามารปีศาจที่มาด้วยกันมีจำนวนไม่น้อย ภายในนั้นยังมีพวกไม่ธรรมดาหลายตน ถึงอย่างไรก็กล้ามาที่นี่ยามจัดงานชุมนุมเซียนพเนจร

เหตุการณ์ต่อจากนั้นพิสูจน์ความกังวลของถูซือเยียน จริงอยู่ว่านางมองไม่เห็นสถานการณ์ภายนอก แต่ยังได้ยินเสียงบ้าง

ชายหน้าแดงเกราะทองคนนั้นแค่กล่าวตอนแรกสั้นๆ ตั้งแต่ต้นจนจบกล่าวเพียงประโยคเดียว ส่วนอื่นล้วนเป็นคำพูดของมารปีศาจซึ่งมาช่วยเหลือ จากนั้นคือเสียงต่อสู้กับเสียงร้องโหยหวน

“ทุกท่าน! ชายเกราะทองคนนี้รับมือยากเกินไป จำเป็นต้องจัดการเขาก่อน!”

เสียงข้างนอกดังเข้ามาอีกครั้ง จากนั้นคือเสียงคำรามราวสัตว์ป่า เห็นชัดว่ามีปีศาจเผยร่างเดิมมากขึ้น ภายในภูเขาถูซือเยียนร้อนใจดุจไฟเผา ช้าลงชั่วครู่อาจมีตัวแปรมากขึ้น

นางพยายามเงยหน้ามองข้างนอก แต่แสงลอดซอกเขาคับแคบเข้ามามีจำกัด เห็นแค่ข้างนอกมีแสงปีศาจแปรเปลี่ยนรางๆ

บนสันเขาแห่งหนึ่ง จอมพลังเกราะทองหยัดร่างช้าๆ ในมือซ้ายเขายังกุมกรงเล็บเปี่ยมขนสั้นข้างหนึ่ง เป็นของปีศาจซึ่งถูกดึงแขนก่อนหน้านี้ เขาก้มมองกรงเล็บข้างนี้ สุดท้ายค่อยบดขยี้ท่ามกลางเสียงดังกรอบแกรบ

ตอนนี้เงาร่างสามจั้งของจอมพลังเกราะทองเหมือนตำหนักเหลืองทองตั้งตระหง่านบนสันเขา เขายืนปล่อยแขนบนสันเขามองมารปีศาจโดยรอบ ท้องฟ้ามืดสลัวแล้ว เขาลาดชันอยู่กลางพายุฝนทั้งแถบ

ซ่า…

น้ำฝนไม่เพียงส่งผลต่อการมองเห็น แต่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวด้วย ท่ามกลางสภาพแวดล้อมมืดสลัว คนทั่วไปต้องรอสายฟ้าแลบผ่านถึงเห็นสิ่งโดยรอบชัดเจน

เปรี้ยง… ครืน…

ฟ้าดินส่องสว่างอีกครั้ง อสนีบาตฟาดผ่าจอมพลังเกราะทองโดยตรง แต่เขากลับไม่หลบแม้แต่น้อย

เปรี๊ยะๆๆ… เปรี้ยงๆ…

อสนีบาตฟาดผ่ารัศมีสายฟ้าแล่นปราด แต่กลับไม่ส่งผลต่อจอมพลังเกราะทองแม้แต่น้อย สายตาเขามองไปเบื้องหน้า แม้แต่ศีรษะยังไม่ขยับ ทว่ามารปีศาจทุกตนกลับรู้สึกแปลกเหมือนอีกฝ่ายกำลังมองตน

ความจริงความรู้สึกพวกเขาไม่ผิด พูดให้ถูกคือดวงตาจอมพลังเกราะทองสำคัญยิ่ง แต่วิธีการมองโลกภายนอกของเขาต่างจากการมองโดยปกติ หรือกล่าวว่าการเพ่งสายตามีเอกลักษณ์ ไม่ถึงขั้น ‘จับจ้อง’ แค่เหลือบมองเล็กน้อย ผลลัพธ์ด้านความรู้สึกล้วนเหมือนกัน ไม่มีทางมองข้ามอะไร นี่คือสาเหตุที่หลายครั้งเขาไม่เคยเปลืองแรงกลอกตามองคนอื่น

“เจ้าหมอนี่ไม่เห็นใครในสายตาเกินไปแล้ว!”

ก่อนหน้านี้ถูกหมัดของจอมพลังเกราะทองซัดกระเด็น ตอนนี้ชายรูปงามซึ่งลอยกลับมาเผยสีหน้าเดือดดาลยากปกปิด ยามเหวี่ยงสองแขนฝนห่าใหญ่รวมตัวกันเป็นคลื่นน้ำ แปรเปลี่ยนกลางอากาศไม่หยุด คล้ายกระแสธารกลางอากาศสายหนึ่ง พุ่งใส่จอมพลังเกราะทองบนสันเขาเต็มแรง

ขณะเดียวกันอสนีบาตบนฟ้าฟาดผ่าอย่างต่อเนื่อง จอมพลังเกราะทองร่างกำยำบนเขาราวจมก้นแม่น้ำ ยามอสนีบาตวาบผ่านยังส่องเกราะสีทองในน้ำไม่หยุด ทำให้มารปีศาจโดยรอบเห็นสถานการณ์ภายในน้ำชัดเจน

ภายใต้การโจมตีเช่นนี้สองขาของชายเกราะทองราวหยั่งรากลงพื้นดิน ร่างแน่นิ่งไม่ขยับ ถึงขั้นว่าแม้แต่ศีรษะยังไม่เขยื้อน ความรู้สึกจากสายตาสบประมาทไม่เคยหายไป บ่งบอกว่าอีกฝ่ายยังมองพวกเขา

ทันใดนั้นจอมพลังเกราะทองบนสันเขาขยับตัวเล็กน้อย

ซ่า…

ม่านวารีแหลกละเอียดโปรยปรายลงมา ลำธารเล็กซึ่งเกิดจากพายุฝนล่างสันเขาเปลี่ยนเป็นกระแสธารราวน้ำป่าสายหนึ่ง ไหลตามสภาพภูมิประเทศของเขาลาดชันห่างออกไปดังครืน

“ทุกท่านระวังด้วย ชุดเกราะบนตัวชายเกราะทองคนนี้ต้องเป็นสมบัติป้องกันร้ายกาจแน่ วิชาทั่วไปคงไม่ส่งผลกับเขานัก จำเป็นต้องใช้พลังจัดการ!”

“อืม แต่ต้องระวังตัวเพิ่มหน่อย แรงกำลังของชายคนนี้ไม่น้อย!”

เดิมลิงยักษ์ตัวนั้นคิดว่าตนมีพลังไร้ขอบเขต แต่การปะทะเมื่อครู่กลับไม่อาจเป็นฝ่ายได้เปรียบ มีภาพจำฝังลึกต่อแรงกำลังของจอมพลังเกราะทอง

ยามพวกเขาพูดคุยกัน สันเขาตรงหน้าทรุดตัวเล็กน้อย แสงทองรวดเร็วสายหนึ่งพุ่งมาทางนี้

“เขามาแล้ว!”

“ลิงยักษ์ขวางเขาไว้! จากนั้นค่อยโจมตีเขาพร้อมกัน!”

“ได้ ครั้งนี้ข้าไม่มีทางแพ้เขาแน่!”

ลิงยักษ์ย่ำเท้ากระแทกพื้น บนตัวปกคลุมด้วยแสงเหลืองชั้นหนึ่ง วิญญาณปฐพีเบื้องล่างรวมตัวกัน ร่างกำยำกว่ากายพรตสามจั้งของจอมพลังเกราะทอง สองแขนซัดเข้าหน้าอกเต็มแรง แผดเสียงคำรามใส่แสงทองตรงหน้า

ปึงๆๆๆ…

“โฮก! ถ้ากล้ามาปะทะกันอีกครั้งสิ!”

คล้ายตอบรับการยั่วยุของลิงยักษ์ จอมพลังเกราะทองมุ่งตรงไปหาลิงยักษ์เช่นเดียวกัน ส่วนปีศาจตนอื่นพากันหลีกหลบ เห็นเจ้าตัวใหญ่สองคนปะทะกันเต็มแรงชั่วพริบตา

แตกต่างกันตรงตอนนี้ลิงยักษ์เหวี่ยงไหล่เตรียมปะทะซึ่งหน้า แต่จอมพลังเกราะทองกลับอาศัยช่วงก่อนปะทะกับลิงยักษ์ ยามอีกฝ่ายดวงตาพร่ามัว เขาเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อย โค้งตัวชันเขาซ้ายไปข้างหน้า

ครึ่ก…

ท่ามกลางเสียงดังชวนประหวั่น เท้าขวาของจอมพลังเหยียบสันเขาราวหยั่งรากดังตึง ไขว้แขนจับบ่าสองข้างของลิงยักษ์ ครู่ต่อมาเท้าซ้ายกระแทกข้างเข่าลิงยักษ์ ขณะเดียวกันยังหมุนตัวโดยเท้าขวาเป็นแกน สองมือตะปบบ่าสองข้างของลิงยักษ์

ลิงยักษ์ซึ่งร่างกายกำยำกว่าจอมพลังเกราะทองถึงกับถูกเหวี่ยงห่างจากพื้นขึ้นมาในชั่วพริบตา ทุกอย่างเกิดขึ้นเพียงรวดเร็วมาก ถึงขั้นทำให้ลิงยักษ์ตอบสนองไม่ทัน

ยามสองบ่าของตนถูกตะครุบ ลิงยักษ์พบว่าชาวาบทั้งตัว ร่างกายไม่ฟังคำสั่งอยู่บ้าง ทั้งเสี้ยวแสงสองสายบนตัวชายเกราะทองคนนี้ยังพันรอบกายปีศาจแน่น ทำให้ลิงยักษ์ขยับไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการสลัดตัว

กรอบ…

ยามกระดูกกล้ามเนื้อกระทบกัน ลิงยักษ์ถูกจอมพลังเกราะทองยกพาดบ่า หมุนตัวตามแรงเหวี่ยงของเขา

“กลายเป็นสะพานซะ…!”

ประโยคที่สองในวันนี้ของจอมพลังเกราะทองดังกังวานเล็กน้อย ยามกล้ามเนื้อบนหน้าลิงยักษ์เปลี่ยนรูปเพราะแรงเฉื่อย ครึ่งท่อนบนพุ่งหาตัวภูเขา ขณะเดียวกันแสงอบอวลตรงภูเขาเบื้องล่างสื่อว่าวิญญาณปฐพีรวมตัว ทำให้หินผาซึ่งเดิมแข็งแกร่งแข็งกระด้างยิ่งกว่าเดิม

ตูม…

รอยแยกมากมายแผ่ขยายทั่วทิศ ท่อนบนของลิงยักษ์ถูกเหวี่ยงติดหินผา

“แย่แล้ว! รีบช่วยเขาเร็ว!”

“ลงมือพร้อมกัน!”

แสงปีศาจสี่ห้าสายซึ่งตอบสนองรวดเร็วโดยรอบดิ่งลงมาพร้อมกัน ใช้กรงเล็บคมกริบ หาง วิชาโจมตีจอมพลังเกราะทอง

ตึง…

ปึง…

ตูม…

การฉีกทึ้งจากกรงเล็บคมกริบและการโจมตีด้วยวิชาปีศาจพวกนี้ เสียดสีเกราะทองบนตัวจอมพลังจนเกิดประกายไฟและแสงสว่างบาดตาเป็นระลอก ทั้งมีเกราะบางส่วนถูกกระชากออกไป ถึงขั้นโจมตีจนสองขาของจอมพลังเกราะทองมีเลือดกระฉูด

แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้นตัวจอมพลังเกราะทองยังแน่นิ่งไม่ขยับ คงการเคลื่อนไหวของตนตามเดิม ไม่สนใจการโจมตีโดยรอบ

ครู่ต่อมาเขาเหวี่ยงแขนเจือรัศมีสายฟ้า ฟันดาบฝ่ามือลงตรงช่วงสะโพกลิงยักษ์…

พรวด…

แสงโลหิตสาดกระเซ็น!

ลิงยักษ์สูงราวสี่ห้าจั้งถูกฟันเป็นสองท่อน เลือดสกปรกกับอวัยวะภายในกระจายทั่วทิศ ทั้งถูกฝนกระหน่ำชะลงถึงเชิงเขา

มารปีศาจโดยรอบล้วนเปื้อนคราบเลือดของลิงยักษ์ ถอยหลังรวดเร็วยามรู้สึกว่าท่อนล่างเย็นวาบ ด้วยพวกเขารับรู้ว่าช่วยลิงยักษ์ตัวนี้ไม่ได้แล้ว

จอมพลังเกราะทองหยัดร่างเนิบช้าอีกครั้ง คล้ายเมินบาดแผลช่วงล่างตน ตอนนี้ผ้าคาดสีเหลืองบนตัวลิงยักษ์เพิ่งคลายลง กลับสู่สภาพทิ้งตัวอีกครั้ง

ท่ามกลางม่านฝนมีวิญญาณปฐพีซ่อนเร้นแทรกเข้าตัวจอมพลังเกราะทองช้าๆ เศษเกราะทองมากมายบนพื้นดินโดยรอบเหมือนลอยกลับมาสู่สภาพเดิม เติมเต็มชุดเกราะแหลกละเอียดใหม่อีกครั้ง

‘ห้ามโดนผ้าคาดเด็ดขาด!’

นี่คือความคิดร่วมกันของมารปีศาจทุกตน ลิงยักษ์นั่นไม่ทันแม้แต่จะใช้วิชาหลบหลีก นั่นคือข้อพิสูจน์ซึ่งดีที่สุด

จอมพลังเกราะทองตนนี้เคยถูกอสนีเคราะห์มรรคสวรรค์ฟาดผ่า ตอนนี้กลางการต่อสู้ดุเดือด นัยน์ตาฉายแววอสนีรางๆ กอปรกับผลจากภาพเหี้ยมโหดตรงหน้า ยิ่งทำให้ปีศาจร้ายโดยรอบหวั่นหวาด

“อย่าฝืนปะทะกับขุนพลเทพนั่น นั่นคือผู้คุ้มกันของเซียนแท้ พวกเจ้าสู้ไม่ได้หรอก รีบตามหาเทพภูเขา ตามหาเทพภูเขา…! เขาชอบหลบอยู่ใต้อารามใหม่ซึ่งยังสร้างไม่เสร็จราวพันฉื่อ สกัดวิญญาณปฐพีโดยรอบก่อนจะจับเขาได้ ไปจับตัวเทพภูเขา!”

เสียงแหลมสูงของถูซือเยียนดังออกมาจากซอกเขา ตำแหน่งที่ลิงยักษ์ตายอยู่ใกล้ตรงนี้เกินไป กระทั่งว่านางยังรับรู้ชัดเจน ภายใต้การล้อมโจมตีของเหล่าปีศาจ ภาพจอมพลังเกราะทองยืนเด่นไม่ขยับแต่กลับสังหารลิงยักษ์ทำให้นางจำฝังลึก

เห็นชัดว่าสำหรับจอมพลังเกราะทองลิงยักษ์คือมารปีศาจซึ่งเป็นภัยคุกคามมากที่สุด เมื่อลิงยักษ์ตาย เรื่องราวย่อมตึงมือ วิธีการดีที่สุดคือการบีบมะพลับนิ่ม พื้นฐานของเทพภูเขาถูกถูซือเยียนเค้นข้อมูลได้นานแล้ว

มารปีศาจโดยรอบได้ยินแล้วแทบแตกฮือทันที

“พวกเราจะถ่วงเวลาเขา พวกเจ้าไปจับตัวเทพภูเขา!”

ชายรูปงามแปลงกายเป็นงูยักษ์ตัวหนึ่ง ม้วนตัวจนเกิดคลื่นน้ำทั่วฟ้า พุ่งเข้าหาภูเขาซึ่งจอมพลังเกราะทองอยู่

ครืน…

เขาลาดชันเปลี่ยนจากทิวเขาเป็นเกาะกลางทะเล กระแสน้ำหลากฝังกลบจอมพลังเกราะทอง ร่างไร้วิญญาณของลิงยักษ์ถูกซัดจนห่างออกไปไกล

ขณะเดียวกันมีมารปีศาจอย่างน้อยห้าตนพุ่งตัวออกจากเขาลาดชัน ขอเพียงจับตัวเทพภูเขาได้ การบีบบังคับเขาให้สั่นคลอนภูเขาย่อมดีที่สุด ถ้าไม่ได้ค่อยสังหารเทพภูเขา ถือว่ามีผลมากเช่นกัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด