เซียนหมากข้ามมิติ 29 เสี่ยวอิ๋นชิง

Now you are reading เซียนหมากข้ามมิติ Chapter 29 เสี่ยวอิ๋นชิง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 29 เสี่ยวอิ๋นชิง

ร่างกายเหนื่อยล้า จิตใจอ่อนเพลียมากเช่นกัน จี้หยวนไม่คิดมากอีก เลือกกลับห้องนอนหลับ

ก่อนหน้านี้นอนไม่หลับดึกดื่นไม่ได้พักมาตลอด ทั้งยังตกใจอย่างมาก เวลานี้เมื่อเอนกายลงบนเตียง เพียงครู่หนึ่งก็หลับสนิทไปทั้งอย่างนั้น

การนอนครั้งนี้หลับถึงตอนฟ้าสว่าง นอนถึงยามตะวันโด่ง

“หาว…”

จี้หยวนหาวพลางยืดเอวบิดขี้เกียจ ลุกจากเตียงมองไปทางประตูหน้าต่าง ต่อให้มีกระดาษหน้าต่างกั้นก็เห็นว่าข้างนอกสว่างแล้ว

หลังสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย เขาขยับตัวเปิดประตูห้อง แสงแดดสาดส่องกาย ทำให้จี้หยวนอบอุ่น

กระปรี้กระเปร่าเต็มเปี่ยม บนตัวไม่มีตรงไหนเจ็บปวดอีก ดูท่าว่าเมื่อคืนคงไม่เหลืออาการภายหลังอะไร จี้หยวนคิดว่าอีกสักพักค่อยดูว่าความสามารถพิเศษแสนสำคัญของตนมีผลกระทบหรือไม่

ภายในลานกิ่งก้านต้นพุทราส่ายสั่นเล็กน้อย แสงอาทิตย์ลอดผ่านใบไม้ลงมาถึงพื้นเป็นลายพร้อย ความมืดดำของเรือนสันติหายไป

ในฐานะชายหนุ่มผู้มีจิตวิญญาณแห่งศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด เพิ่งตื่นนอนต้องทำอะไร แน่นอนว่าบ้วนปากล้างหน้าแปรงฟัน!

เมื่อก่อนยามอยู่โรงเตี๊ยมเมฆา ทุกวันมีเด็กรับใช้ของโรงเตี๊ยมส่งกิ่งหลิวสดใหม่และน้ำสะอาดมาให้ ตอนนี้จี้หยวนต้องลงมือเองแล้ว

มองบ่อน้ำภายในลาน นึกถึงท่าทางของผีตัวนั้นยามโผล่หัวออกมาเมื่อคืน ใช้เวลาศูนย์จุดหนึ่งวินาทีจี้หยวนก็ปฏิเสธความคิดว่าจะตักน้ำจากบ่อนี้มาใช้

‘ต่อจากนี้ใช้น้ำจากข้างนอกแล้วกัน…’

จี้หยวนรู้สึกว่าแม้ไม่ใช่คนรักสะอาด ถ้าเพื่อนเมื่อชาติก่อนสักคนของตนมา คงไม่มีทางใช้บ่อน้ำนี้แน่

เขาออกมาถึงลานบ้าน หยิบแผ่นไม้ขึ้นมาปิดบ่อทันที จากนั้นค่อยวางหินทับสองสามก้อน

มองโอ่งใบใหญ่กับถังน้ำสองใบนอกประตูห้องครัว เยี่ยม เราคงต้องไปหาบน้ำแล้ว

ไม่เคยเห็นเนื้อหมูก็เคยเห็นหมูวิ่ง แม้ว่าตนไม่เคยหาบน้ำ แต่เรื่องนี้จะยากเกินกว่าข้าคนแซ่จี้ผู้ใช้ปากกำราบภูตเสือลุกขึ้นต้อนผีร้ายหรือ

หลังจากนั้นสิบกว่านาที บ่อน้ำคู่ตรอกเทียนหนิว ที่นี่มีบ่อใหญ่พร้อมรอกสองบ่อ โดยรอบปูด้วยแผ่นหินสีเขียวและคูระบายน้ำมากมาย เป็นสถานที่สาธารณะซึ่งชาวบ้านตรอกเทียนหนิวตักน้ำมาซักเสื้อผ้าทุกวัน ทั้งเป็นสถานที่เหมาะแก่การซุบซิบนินทาด้วย

ตลอดทางจี้หยวนได้ยินคนไม่น้อยพูดถึงเสียงหวีดร้องน่ากลัวที่ได้ยินเมื่อคืน ทั้งมีคนพูดว่าเมื่อวานทางเรือนสันติมีการเคลื่อนไหวไม่น้อย สงสัยมีคนเข้ามาอยู่อีกแล้ว

‘สันนิษฐานจากข้อมูลพวกนี้ เมื่อคืนช่วงครึ่งหลังเรื่องใหญ่พวกนั้นน่าจะถูกค่ายกลอะไรนั่นป้องกันแล้ว ไม่อย่างนั้นชาวบ้านมีหรือจะนิ่งเฉยเช่นนี้ แต่เมื่อคืนตนอยู่นอกค่ายกลกลับได้ยิน ดูท่าว่าทักษะการฟังของตนคงไม่จำกัดอยู่แค่ระดับธรรมดา!’

จี้หยวนสวมชุดยาวแขนกว้าง เป็นคนแปลกหน้าท่าทางโดดเด่นมาตักน้ำที่นี่ แน่นอนว่าดึงดูดสายตาชาวบ้านตรอกเทียนหนิว โดยเฉพาะพวกแม่นางฮูหยินบางคนที่กำลังซักเสื้อผ้า

ฟังเสียงกระซิบกระซาบพวกนั้น รู้สึกถึงสายตาพวกนั้น จี้หยวนไม่เขินอายอะไร กลับเป็นว่าดีใจมาก ชาติก่อนตนยังไม่มีแรงดึงดูดมากขนาดนี้

คนหน้าหนามีความสุขง่ายกว่า!

“เอ๋ ใครน่ะ…”

“ไม่เคยเห็นมาก่อน รูปร่างหน้าตาดีจริง!”

“มาตักน้ำที่นี่ น่าจะอยู่ตรอกเทียนหนิวหรือบริเวณใกล้เคียงกระมัง”

“ไม่รู้สิ!”

เสียงพูดคุยสลับเสียงซักผ้าและเสียงฟาดแผ่นไม้ ทั้งมีคนอื่นคุยเรื่องเบ็ดเตล็ด คนผ่านทางเดินขวักไขว่

จี้หยวนม้วนแขนเสื้อขึ้นถึงข้อศอกแล้วขมวดปลายเสื้ออย่างดี รู้สึกแปลกใหม่กับการใช้รอกตักน้ำมาก ถังตักน้ำภายในบ่อค่อนข้างเล็ก ตักสองครั้งถึงบรรจุถังน้ำใบหนึ่งของจี้หยวนจนเต็ม หลังจากเทียวทำสี่รอบ ถังน้ำสองใบที่นำมาจึงถูกเติมจนเต็ม

ระหว่างนี้จี้หยวนคอยสังเกตชาวบ้านแห่งตรอกเทียนหนิวอย่างอดทน ฟังเรื่องเบ็ดเตล็ดของพวกเขา กลิ่นอายการใช้ชีวิตในยุคโบราณเช่นนี้เข้มข้นกว่าในหมู่บ้านเมื่อชาติก่อนมาก

อืม คนก็ขี้อายมาก จี้หยวนแค่หันหน้าไปตามเสียง แม่นางรุ่นเยาว์พวกนั้นล้วนหันกลับไม่กล้าสบตา

ถังน้ำจี้หยวนเต็มแล้ว เมื่อวางไม้คานเรียบร้อย เขาตั้งท่าหาบคานเดินไปข้างหน้า

ซ่า…

น้ำในถังด้านหลังสาดใส่ชุดคลุมยาว จี้หยวนคิดหลบตามจิตใต้สำนึก ผลคือถังน้ำสองใบยิ่งส่ายรุนแรง ส้นเท้าหลังยังกระแทกถังน้ำ น้ำบ่อสาดกระเซ็นทันที

เวลานี้การมองเห็นซึ่งเดิมย่ำแย่นักส่งผลกระทบอย่างมาก ทั้งตัวซวนเซหน้าหลังเหมือนรำเพลงดำนา

“เฮ้ยๆๆ…”

ทรงตัวๆ!

โครม…

ตึง!

ถังน้ำสองใบหล่นหมดแล้ว เสื้อผ้าครึ่งตัวจี้หยวนยังถูกน้ำสาดใส่ด้วย

“ฮ่าๆๆๆๆ…”

“คิกๆๆๆๆ…”

“ฮ่าๆๆๆๆๆ….”

พวกหญิงแต่งงานแล้วกับคนผ่านทางโดยรอบที่เห็นเหตุการณ์นี้พากันส่งเสียงหัวเราะลั่น

“สมเป็นปัญญาชนจริงๆ!”

“ฮ่าๆๆ ท่านแม่ เขาหาบน้ำยังไม่เป็นแลย!”

“โอ๊ย ตลกจริงๆ หาบน้ำแค่นี้ยังซวนเซแทบแย่ ฮ่าๆๆๆๆ…”

เชี่ยๆๆ! ขายหน้ามาก!

ความจริงพิสูจน์ว่าการหาบน้ำก็เป็นทักษะการใช้ชีวิตอย่างหนึ่ง!

ต่อให้ใช้ความหน้าหนาซึ่งจี้หยวนฝึกมาสองชาติ คราวนี้ยังหน้าร้อนผ่าว ภายใต้การจับจ้องของผู้คน การปล่อยไก่เกิดขึ้นง่ายจริงๆ!

ยังดีว่าตอนนี้ไม่มีคนคุ้นเคย!

แต่วิธีสลัดความอักอ่วนเช่นนี้ง่ายมากจริงๆ ขอแค่ตนไม่เก้กังก็พอแล้ว เดิมดวงตาตนก็ใช้การไม่ได้นัก ยังรักษาหน้าอะไรเล่า!

จี้หยวนจึงส่ายหัวพลางหัวเราะขึ้นมาอย่างสบายๆ

“ฮ่าๆๆๆๆ… หาบน้ำไม่ง่ายเลย!”

เมื่อหัวเราะกล่าวประโยคนี้จบ จี้หยวนก้มตัวยื่นมือควานหาถังน้ำที่กลิ้งอยู่ด้านข้างกับไม้คานบนพื้น การกระทำนี้ต่างจากคนทั่วไปมาก ในที่สุดคนอื่นก็สังเกตเห็นดวงตาของจี้หยวน

“เอ๊ะ ดูเหมือนว่าดวงตาของคนผู้นั้นไม่ดีนัก!”

“ใช่แล้ว เมื่อครู่ข้าก็แปลกใจว่าทำไมเขาเหมือนลืมตาไม่ขึ้นอยู่ตลอด…”

“นี่… เขายังมาหาบน้ำเองหรือ”

เสียงหัวเราะหายไปแล้ว ดูท่าว่าคนหนิงอันส่วนใหญ่ยังซื่อสัตย์ ไม่มีทางหัวเราะเยาะคนตาบอดจริงๆ อืม เจ้านายหน้าบัดซบนั่นเป็นข้อยกเว้น

“คุณชายท่านนี้ ข้าช่วยท่านตักน้ำแล้วกัน!”

เสียงกระจ่างสายหนึ่งดังขึ้นข้างๆ ความจริงจี้หยวนได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้เช่นกัน ยามนี้หลังจากควานเจอไม้คานจึงมองไปตามเสียง เป็นเด็กชายอายุราวสิบเอ็ดสิบสองปี ท่าทางหล่อเหลาสุภาพคนหนึ่ง

หืม? ท่าทางหล่อเหลาสุภาพ? ไม่นึกเลยว่าจะเห็นเขาชัดเจน!

ครานี้จี้หยวนอดสบตาเด็กชายตัวน้อยที่เอ่ยปากช่วยเหลือคนนี้ไม่ได้ พูดตามประสบการณ์สองวันนี้ คนที่ตนมองเห็นชัดเจนเหมือนว่าไม่ธรรมดานัก

“เจ้าหนูเจ้าชื่ออะไร เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว”

เด็กชายตัวน้อยมองดวงตาสีเทาของจี้หยวนแล้วตะลึงอยู่บ้าง ครู่หนึ่งจึงได้สติกลับมา

“ข้าชื่ออิ๋นชิง อายุสิบสองแล้ว ช่วยทางบ้านหาบน้ำบ่อยครั้ง แรงกำลังมากนัก!”

จี้หยวนยิ้มพลางพยักหน้า จากนั้นจึงเงี่ยหูฟังเสียงโดยรอบ ไม่พบว่าครอบครัวของเด็กคนนี้อยู่ใกล้ๆ กลับได้ยินเสียงหยอกล้อของเด็กกลุ่มหนึ่งอยู่ห่างไปไม่ไกล ดูท่าว่าอิ๋นชิงคงออกมาเล่นเอง

“เช่นนั้นก็ขอบคุณแล้ว!”

ปล่อยให้เด็กหาบน้ำน่าอายจริงๆ แต่จี้หยวนอยากฉวยโอกาสนี้สังเกตอิ๋นชิงหน่อยเช่นกัน

“ไม่เป็นไรๆ!”

จี้หยวนเพิ่งพูดจบ อิ๋นชิงหิ้วถังสองใบกับไม้คานวิ่งเหยาะกลับไปข้างบ่อแล้ว ดูท่าคงเป็นเด็กธรรมดาคนหนึ่งที่ร่าเริงสดใสชอบช่วยคน

“คุณชาย บ้านท่านอยู่ไหน ยังไม่ถึงหรือ ต้องไปข้างหน้าอีกหรือไม่”

เดินเข้ามุมตะวันออกของตรอกเทียนหนิวไปพร้อมจี้หยวนลึกขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนโดยรอบเริ่มน้อยลงเช่นกัน

“ใกล้ถึงแล้ว อยู่ข้างหน้า!”

จี้หยวนมองเด็กคนนี้เป็นพักๆ คิดว่าทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความเปี่ยมจิตวิญญาณ

ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง อิ๋นชิงหยุดเท้านอกเรือนสันติ ทำหน้าหมดหวังมองจี้หยวนที่ยืนอยู่ตรงนี้เช่นกัน

“คุณชาย… ท่านอยู่ที่นี่หรือ…”

การแสดงออกนี้จี้หยวนเห็นแล้วรู้สึกว่าทั้งน่ารักและขบขัน

“ใช่แล้ว ข้าอยู่ที่นี่ เมื่อวานเพิ่งย้ายมา ทำไม เสี่ยวอิ๋นไม่ช่วยข้าคนแซ่จี้หาบน้ำเข้าไปหรือ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด