เทพสังหาร ยุทธการระห่ำบทที่ 481 จางอีเต๋อปรากฏตัว

Now you are reading เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ Chapter บทที่ 481 จางอีเต๋อปรากฏตัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หมัด​ที่​รวดเร็ว​ประดุจ​สายฟ้า​ซัด​จน​หวัง​เจี๋ย​กระเด็น​ออก​ไปนอก​ห้องนอน​ของ​เย่​เทียน​เฉิน​ กระแทก​หน้าต่าง​กระจก​ห้องนอน​จน​แตก​ การ​โจมตี​นี้​ทำให้​ชางหลา​งและ​อู๋เสวี่ย​คิดไม่ถึง​

ฟุ่บ​!

มีเงาร่าง​อีก​เงาหนึ่ง​กระโดด​ลง​ไป​ทาง​หน้าต่าง​ ไม่เห็น​ระดับความสูง​ประมาณ​ห้า​ถึงหก​เมตร​อยู่​ใน​สายตา​โดยสิ้นเชิง​ คน​คน​นี้​ก็​คือ​เฮย​เมี่ยน​ เฮย​เมี่ยน​ระเบิด​โทสะ​ออกมา​แล้ว​ หลังจาก​ได้ยิน​คำ​ถากถาง​ของ​หวัง​เจี๋ย​ก็​ซัด​มัด​ออก​ไป​ทันที​ ทำให้​หวัง​เจี๋ย​ป้องกัน​ไม่ทัน​ ถูก​ต่อย​ไป​ที่​จมูก​อย่าง​แรง​จน​กระเด็น​ออก​ไป​ทั้ง​ร่าง​

อู๋เสวี่ย​และ​ชางหลา​งสบตา​กัน​ พวกเขา​สอง​คน​ค่อนข้าง​มอง​ภาพรวม​เป็นสำคัญ​ ต่าง​ก็​ไม่ได้​พูด​อะไร​ รีบ​เดิน​ออก​ไปนอก​ห้องนอน​ทันที​ ใน​ตอนที่​อู๋เสวี่ย​ ชางหลา​ง หลิน​ตวน​และ​เปา​เทียน​หลง​เดิน​ออกมา​นอก​คฤหาสน์​ หวัง​เจี๋ย​และ​เฮย​เมี่ยน​ก็​กำลัง​ต่อสู้​กัน​อยู่​ ความสามารถ​ของ​ทั้งสอง​ล้วน​ไม่อ่อนแอ​ ใน​เวลา​เพียง​ชั่วครู่​ไม่สามารถ​แบ่งแยก​แพ้ชนะ​ได้​ นี่​ทำให้​ชางหลา​งอด​ไม่ได้​ที่จะ​ตกตะลึง​ กระทั่ง​เฮย​เมี่ยน​เอง​ก็​รู้สึก​สั่นสะท้าน​อยู่​ใน​ใจ แม้เขา​จะรู้ดี​ว่า​ถ้าตน​ลงมือ​เต็ม​ที่จะ​สามารถ​กดดัน​หวัง​เจี๋ย​ได้​ แต่​นี่​ก็​เป็นการ​แสดงให้เห็น​ว่า​กลุ่ม​สิบ​สามจ้าว​สวรรค์​ของ​เย่​เทียน​เฉิน​แต่ละคน​ล้วน​เป็นยอด​ฝีมือ​จริงๆ​ ไม่ว่า​ใคร​ก็​คิดไม่ถึง​ว่า​ใน​ระยะเวลา​เพียง​สั้น​ๆ เย่​เทียน​เฉิน​จะก่อตั้ง​กลุ่ม​ที่​แข็งแกร่ง​เช่นนี้​ขึ้น​มาได้​

ตู้​ม!

ตู้​ม!

หมัด​ของ​หวัง​เจี๋ย​และ​เฮย​เมี่ยน​ปะทะ​กัน​ หวัง​เจี๋ย​ถูก​ต่อย​จน​กระเด็น​ออก​ไป​ ความสามารถ​ของ​เขา​ยังคง​ด้อย​กว่า​เฮย​เมี่ยน​เล็กน้อย​ จะอย่างไร​เฮย​เมี่ยน​ก็​มีฐานะ​เป็น​ขุนพล​ระดับ​ทัพ​ฟ้า เคล็ด​วิชา​ที่​ฝึกฝน​ค่อนข้าง​ดั้งเดิม​ ไม่เหมือนกับ​เส้นทาง​ป่าเถื่อน​ของ​พวก​อู๋​เสวี่ย​ อย่างไรก็ตาม​ หวัง​เจี๋ย​ไม่ได้รับบาดเจ็บ​อะไร​มาก​ มอง​ไป​ยัง​เฮย​เมี่ยน​อย่าง​ดุดัน​แล้ว​พุ่ง​เข้าไป​อีกครั้ง​

ตอนนี้​ใน​ใจของ​หวัง​เจี๋ย​ก็​รู้สึก​โกรธ​ขึ้น​มาแล้ว​ นี่​ไม่ได้​เป็นปัญหา​ของ​ตัว​เขา​เอง​เท่านั้น​ แต่​เกี่ยวพัน​ไป​ถึงชื่อเสียง​ของ​กลุ่ม​สิบ​สามจ้าว​สวรรค์​ด้วย​ เฮย​เมี่ยน​ดูถูก​เขา​หวัง​เจี๋ย​ก็​เท่ากับ​ดูถูก​กลุ่ม​สิบ​สามจ้าว​สวรรค์​ ไม่ว่า​จะอย่างไร​เขา​ก็​ไม่สามารถ​พ่ายแพ้​ได้​ ถ้าแพ้​ ภายภาคหน้า​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​พวก​เฮย​เมี่ยนคง​ไม่อาจ​เงยหน้า​ได้​อีก​

เฮย​เมี่ยน​เอง​ก็​ชะงัก​ไป​ ไหน​เลย​เขา​จะคิด​ว่า​หวัง​เจี๋ย​จะมีความสามารถ​สูงส่งขนาด​นี้​ เดิมที​คิด​ว่า​กลุ่ม​สิบ​สามจ้าว​สวรรค์​ที่​เย่​เทียน​เฉิน​ก่อ​ตั้งขึ้น​ ต่อให้​จะร้ายกาจ​ขนาด​ไหน​ก็​เป็น​แค่​ยอด​สีมือ​ธรรมดา​กับ​พวก​บอดี้การ์ด​ชั้นยอด​ทั่วไป​เท่านั้น​ ไหน​เลย​จะรู้​ว่า​จะมีความสามารถ​แข็งแกร่ง​ขนาด​นี้​ มาก​เพียง​พอที่จะ​สู้กับ​คน​ของ​ขุนพล​ระดับ​ทัพ​ฟ้าอย่าง​เขา​ได้​ ทั้ง​ยัง​ไม่ตก​เป็นรอง​มาก​เท่าไหร่​นัก​ เมื่อ​คิดถึง​ตรงนี้​ เฮย​เมี่ยน​ก็​รู้สึก​อยาก​จะทดสอบ​หวัง​เจี๋ย​ดู​เสียหน่อย​ว่า​จะแข็งแกร่ง​มาก​ขนาด​ไหน​ พริบตา​นั้น​จึงกำหมัด​แน่น​ พุ่ง​เข้า​ไปหา​หวัง​เจี๋ย​เช่นเดียวกัน​

ตอนนี้​เอง​ อู๋เสวี่ย​และ​ชางหลา​งสบตา​กัน​ ลงมือ​คิด​จะหยุด​หวัง​เจี๋ย​และ​เฮย​เมี่ยน​แทบจะ​พร้อมกัน​ นี่​ไม่ใช่เรื่อง​ที่ว่า​ใคร​จะแพ้​ใคร​จะชนะ​ ตอนนี้​ไม่ใช่เวลา​มาแข่งขัน​กัน​โดยสิ้นเชิง​ อย่างไร​เสีย​เย่​เทียน​เฉิน​ก็​ยัง​สลบไสล​ไม่ได้สติ​ พวกเขา​มาต่อสู้​กัน​ที่นี่​ก็​ไม่มีความหมาย​อะไร​แม้แต่น้อย​

ไหน​เลย​จะรู้​ว่า​ใน​ตอนที่​อู๋เสวี่ย​และ​ชางหลา​งเพิ่งจะ​เตรียมตัว​ลงมือ​ก็​มีเงาคน​เงาหนึ่ง​พุ่ง​ออก​มาจาก​ด้าน​ข้าง​ รวดเร็ว​เป็นอย่างมาก​ มือซ้าย​ซัด​ฝ่ามือ​ไป​ยัง​หวัง​เจี๋ย​ มือขวา​กำหมัด​ต่อย​ไป​ยัง​เฮย​เมี่ยนจน​ทั้งสอง​กระเด็น​ถอยหลัง​ไป​ ส่วนตัว​เขา​ยืน​อยู่​ที่​เดิม​ไม่ขยับเขยื้อน​ มอง​ไป​ยัง​หวัง​เจี๋ย​และ​เฮย​เมี่ยน​ด้วย​ท่าที​เย็นชา​

“เซียน​แพทย์​เท​วะ​…”

“จางอี​เต๋​อ.​..”

หวัง​เจี๋ย​และ​เฮย​เมี่ยน​ส่งเสียง​เรียก​ออกมา​แทบจะ​พร้อมกัน​ พวกเขา​คิดไม่ถึง​ว่า​คน​ที่​ทะยาน​ออกมา​หยุด​พวกเขา​สอง​คน​จะเป็น​เซียน​แพทย์​เท​วะ​อย่าง​จางอี​เต๋อ​ ชาย​ชรา​ลึกลับ​คน​นี้​เรียก​ได้​ว่า​ตามหา​ไป​ทั่ว​ทั้ง​แผ่นดิน​จีน​แล้วก็​ยัง​หา​เขา​ไม่พบ​ แต่​ตอนนี้​กลับ​โผล่​ออกมา​เอง​ ชาย​ชรา​คน​นี้​แปลกประหลาด​จริงๆ​

“พวกคุณ​หยุด​มือ​ได้​แล้ว​ สู้กัน​ไป​แบบนี้​มีแต่​จะสูญเสีย​ทั้งสองฝ่าย​!” จางอี​เต๋อ​มอง​ไป​ยัง​หวัง​เจี๋ย​และ​เฮย​เมี่ยน​แล้วจึง​กล่าว​ขึ้น​

เฮย​เมี่ยน​รู้จัก​จางอี​เต๋อ​ดี​ ชื่อ​เซียน​แพทย์​เท​วะ​นี้​มีอิทธิพล​เป็นอย่างมาก​ เกรง​ว่า​ใน​โลก​นี้​ คน​ที่​มีวิชาแพทย์​สูงส่งที่สุด​ก็​คือ​จางอี​เต๋อคน​นี้​แล้ว​ อีก​ทั้ง​เดิมที​ตัว​จางอี​เต๋อ​เอง​ก็​เป็น​ผู้​มีพลัง​พิเศษ​ที่​แข็งแกร่ง​คน​หนึ่ง​ ความสามารถ​สูงส่งลึกล้ำ​เป็นอย่างมาก​ มิฉะนั้น​คง​ไม่อาจ​หยุด​การต่อสู้​ของ​ตน​กับ​หวัง​เจี๋ย​ได้​ด้วย​ความสามารถ​ของ​เขา​เพียง​คนเดียว​

“หวัง​เจี๋ย​ หยุด​มือ​ อย่า​ได้​ทำร้าย​ผู้อาวุโส​จาง!” เฮย​เมี่ย​นรี​บ​เดิน​เข้าไป​พลาง​กล่าว​

การ​ปรากฏตัว​ของ​จางอี​เต๋อ​ทำให้​หวัง​เจี๋ย​และ​เฮย​เมี่ยน​ไม่สามารถ​สู้กัน​ต่อไป​ได้​อีก​ อู๋เสวี่ย​และ​ชางหลา​งรีบ​เข้ามา​หยุด​พวกเขา​ ขณะเดียวกัน​ใน​ใจก็​รู้สึก​ยินดี​เป็นอย่างมาก​ จางอี​เต๋อ​มาแล้ว​ นี่​เป็น​สัญญาณว่า​มีทาง​ช่วยเหลือ​เย่​เทียน​เฉิน​ที่​หมดสติ​ไป​เจ็ด​วัน​เจ็ด​คืน​แล้ว​

“หมอ​เทวดา​จาง คุณ​รีบ​ไปดู​พี่ใหญ่​ของ​ผม​หน่อย​เถอะ​ เขา​ไม่กิน​ไม่ดื่ม​มาเจ็ด​วัน​เจ็ด​คืน​แล้ว​!” หลิน​ตวนอด​ไม่ได้​ที่จะ​เอ่ยปาก​

เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​หลิน​ตวน​ จางอี​เต๋อ​ก็​ไม่ได้​แปลกใจ​นัก​ ก็​เหมือนกับ​ที่​เคย​พูด​ไว้​ ต่อให้​ไม่มีพวก​อู๋เสวี่ย​ไป​ตามหา​จางอี​เต๋อ​ หาก​เขา​รู้​ว่า​เย่​เทียน​เฉิน​บาดเจ็บสาหัส​จน​ใกล้​ตาย​ เขา​จะออกมา​รักษา​ด้วยตัวเอง​ เขา​กับ​เย่​เทียน​เฉิน​ต่าง​ก็​เป็น​ผู้​มีพลัง​พิเศษ​อีก​ทั้ง​ยัง​พูดคุย​กัน​ถูกคอ​ คุย​กัน​เรื่อง​เส้นทาง​การบ่ม​เพาะ​มากมาย​ อาจ​เรียก​ได้​ว่า​สนิท​กัน​จน​ลืม​เรื่อง​ของ​อายุ​ไป​แล้ว​ หาก​ไม่ใช่เพราะ​จางรั่ว​ถงผู้​เป็น​หลาน​ บางที​ความสัมพันธ์​ของ​เย่​เทียน​เฉิน​และ​จางอี​เต๋อคง​ดีกว่า​นี้​ อย่างไรก็ตาม​ จางรั่ว​ถงมอบ​ร่างกาย​อัน​บริสุทธิ์​ให้​เย่​เทียน​เฉิน​ไป​แล้ว​ นี่​อาจ​ทำให้​เย่​เทียน​เฉิน​กลายเป็น​หลาน​เขย​ของ​จางอี​เต๋อ​ เพียงแต่​เวลา​ผ่าน​ไป​นาน​ขนาด​นี้​แล้ว​ จางอี​เต๋อ​ออก​ตามหา​ไป​หลาย​แห่ง​ก็​ยัง​หา​จางรั่ว​ถงผู้​เป็น​หลานสาว​ของ​ตน​ไม่เจอ​ นี่​ทำให้​เขา​รู้สึก​ไม่พอใจ​เย่​เทียน​เฉิน​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ หาก​ไม่ใช่เพราะ​เย่​เทียน​เฉิน​ พวกเขา​สอง​ปู่​หลาน​คง​มีชีวิต​ที่​ดีกว่า​นี้​ ครอบครัว​ของ​พวกเขา​จะแยก​จากกัน​ได้​อย่างไร​ ใน​ใจจึงไม่พอใจ​เย่​เทียน​เฉิน​อยู่​บ้าง​ ซึ่งนับว่า​มีสาเหตุ​

จางอี​เต๋อ​มอง​ไป​รอบด้าน​ เดิน​ไป​ยัง​เก้าอี้​เอน​ที่อยู่​ไม่ไกล​แล้วจึง​นอนลง​หลับตา​อย่าง​สบายอารมณ์​ ราวกับ​ต่อให้​เขา​ไม่รู้​ว่า​เย่​เทียน​เฉิน​บาดเจ็บ​ขนาด​นี้​ได้​อย่างไร​ก็​ยัง​ไม่เก็บ​ไป​ใส่ใจและ​ไม่คิด​จะรักษา​ให้​เย่​เทียน​เฉิน​อย่างไร​อย่างนั้น​ ราวกับ​เขา​แค่​ผ่าน​ทาง​มาเท่านั้น​

ใคร​ก็​คิดไม่ถึง​ว่า​จางอี​เต๋อ​จะมีท่าที​เช่นนี้​ ทำให้​อู๋​เสวี่ย​ หวัง​เจี๋ย​ หลิน​ตวน​ เปา​เทียน​หลง​ ชางหลา​งและ​เฮย​เมี่ยน​รวม​ทั้งสิ้น​หก​คน​ต่าง​รู้สึก​หา​สมอง​ของ​ตน​ไม่เจอ​ ใน​ใจคิด​ว่า​เซียน​แพทย์​เท​วะ​หมายความว่า​อย่างไร​กัน​แน่​? หากว่า​กัน​ตามเหตุผล​ ต่อให้​พวกเขา​ไม่พูด​อะไร​จางอี​เต๋อ​ก็​ควรจะ​รักษา​ให้​เย่​เทียน​เฉิน​ แต่​นี่​ไม่เพียงแต่​ไม่พูดว่า​จะรักษา​หรือไม่​ กระทั่ง​ไปดู​ก็​ยัง​ไม่ไป​ นี่​หมายความว่า​อย่างไร​กัน​?

อู๋เสวี่ย​มอง​ไป​ยัง​จางอี​เต๋อ​ก่อน​จะเดิน​ไป​เบื้องหน้า​เขา​ พูด​อย่าง​นอบน้อม​ว่า​ “หมอ​เทวดา​จางครับ​ ตอนนี้​พี่ใหญ่​ของ​ผม​…”

“ไม่ต้อง​พูดมาก​ ผม​มีสิทธิ์​ตัดสินใจ​เอง​ รอ​ไป​ก่อน​เถอะ​!” จางอี​เต๋อ​ส่ายหน้า​ กล่าว​ขัด​คำพูด​ของ​อู๋เสวี่ย​

เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ พวก​อู๋เสวี่ย​ก็​ไม่รู้​จริงๆ​ ว่า​ควรจะ​พูด​อะไร​ดี​ จางอี​เต๋อ​ไม่เพียงแต่​จะเป็น​เซียน​แพทย์​เท​วะ​ เขา​ยัง​เป็น​ผู้อาวุโส​ของ​พวกเขา​อีกด้วย​ ใน​เมื่อ​เขา​พูด​แบบนี้​แล้วก็​ทำได้​เพียง​รอ​ เพียงแต่​ไม่รู้​ว่า​จางอี​เต๋อ​ให้​รอ​อะไร​

หนึ่ง​วันหนึ่ง​คืน​ผ่าน​ไป​ เย่​เทียน​เฉิน​ยังคง​นั่งขัดสมาธิ​อยู่​ใน​ห้องนอน​โดย​ไม่ขยับเขยื้อน​ ใน​ช่วงนี้​พวก​อู๋เสวี่ย​ทั้ง​หก​คน​ยัง​ไม่ได้​ไป​ไหน​ หลัว​เยี่ยน​ก็​ทำอาหาร​อร่อย​ๆ ให้​จางอี​เต๋อ​ จางอี​เต๋อ​ก็​ไม่ได้​เกรงใจ​ กิน​ลง​ไป​ทั้งหมด​ กิน​หมด​แล้ว​ยัง​นอนหลับ​บน​เก้าอี้​เอน​ต่อ​ นี่​ทำให้​พวก​อู๋เสวี่ย​ต่าง​ต้อง​ตกตะลึง​ ชาย​ชรา​คน​นี้​กำลัง​เล่น​อะไร​อยู่​กัน​แน่​ ผ่าน​ไป​หนึ่ง​วันหนึ่ง​คืน​แล้ว​แต่กลับ​ไม่ไป​ตรวจดู​เย่​เทียน​เฉิน​สักครั้ง​ ลมหายใจ​ของ​เย่​เทียน​เฉิน​ก็​อ่อนแอ​ลง​เรื่อยๆ​ หาก​เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​เกรง​ว่า​สถานการณ์​คง​ไม่ดี​

เวลา​ผ่าน​ไป​อีก​หนึ่ง​วันหนึ่ง​คืน​ นอกจาก​จางอี​เต๋อ​จะลุก​มาเข้า​ห้องน้ำ​ก็​ไม่ได้​ลุก​ออกจาก​เก้าอี้​เอน​อีก​เลย​ อู๋​เสวี่ย​ หวัง​เจี๋ย​ หลิน​ตวน​ เปา​เทียน​หลง​ เฮย​เมี่ยน​และ​ชางหลา​ง ทั้ง​หก​ยังคง​รอ​อยู่​ที่นั่น​ พวกเขา​อยาก​จะเห็น​ว่า​จางอี​เต๋อ​จะรักษา​เย่​เทียน​เฉิน​อย่างไร​ เย่​เทียน​เฉิน​จะดีขึ้น​หรือไม่​ แต่​ผ่าน​ไป​สอง​วัน​แล้ว​ ชาย​ชรา​คน​นี้​ก็​ยัง​ไม่มีการเคลื่อนไหว​แม้แต่น้อย​ นี่​ทำให้​ทุกคน​รู้สึก​ร้อนใจ​

หวัง​เจี๋ย​รู้สึก​โกรธ​มาก​ เห็น​ว่า​เวลา​ผ่าน​ไป​สอง​วัน​สอง​คืน​แล้ว​จางอี​เต๋อ​ก็​ไม่มีทีท่า​ว่า​จะไป​รักษา​พี่ใหญ่​เย่​เทียน​เฉิน​เลย​แม้แต่น้อย​จึงเดิน​ไป​เบื้องหน้า​จางอี​เต๋อ​ เอ่ย​ถามอย่าง​ไม่เกรงใจ​ว่า​ “ตาแก่​จาง ตกลง​คุณ​จะรักษา​พี่ใหญ่​ของ​ผม​หรือเปล่า​? นี่​ผ่าน​ไป​สอง​วัน​สอง​คืน​แล้ว​ ทำไม​คุณ​ยัง​ไม่เริ่ม​รักษา​อีก​?”

จางอี​เต๋อ​มอง​หวัง​เจี๋ย​ครู่หนึ่ง​ ไม่ได้​ตอบ​เรื่อง​เกี่ยวกับ​เย่​เทียน​เฉิน​ แต่กลับ​เอ่ยปาก​กล่าวว่า​ “คุณ​มีอาการ​บาดเจ็บ​เรื้อรัง​แต่เก่า​ก่อน​ ถ้าหาก​ไม่รักษา​จะเป็น​อัมพาต​ก่อน​อายุ​ 40 ปี​หรือ​อาจจะ​เสียชีวิต​กระทันหัน​ได้​ ไม่รู้​ว่า​โรงพยาบาล​ไหน​รักษา​ให้​คุณ​ถึงได้​ทิ้ง​อาการ​เรื้อรัง​ไว้​แบบนี้​ นี่​เป็น​การทำร้าย​คุณ​ให้​ตาย​ได้​!”

“อาการป่วย​เก่า​? ผม​จะไป​มีอาการป่วย​เก่า​ก่อน​อะไร​ ตอนนี้​ไม่ใช่เวลา​มาพูด​เรื่อง​นี้​ คุณ​ไป​รักษา​อาการ​บาดเจ็บ​ให้​พี่ใหญ่​ผม​ก่อน​เถอะ​!” หวัง​เจี๋ย​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​แล้วจึง​โบกมือ​พูด​

“ทุกวัน​ตอน​เที่ยงคืน​ กระดูกสันหลัง​ข้อ​ที่สาม​นับ​จาก​ล่าง​ขึ้น​บน​จะเกิด​อาการ​ปวด​ นี่​เป็น​อาการ​บาดเจ็บ​ที่​หลงเหลือ​จาก​การต่อสู้​กับ​คนอื่น​ใน​สมัยก่อน​และ​ไม่เคย​ได้รับ​การรักษา​ที่​ต้นกำเนิด​ของ​อาการ​ ตอนนี้​อาการ​คุณ​ยัง​ไม่กำเริบ​ ประการ​แรก​เป็น​เพราะ​ความสามารถ​ของ​คุณ​แข็งแกร่ง​ ประการ​ที่สอง​เป็น​เพราะ​คุณ​ยัง​อายุ​น้อย​ ร่างกาย​แต่ละ​ส่วน​ยังอยู่​ใน​สภาพ​ดี​ แต่​ถ้าเป็น​แบบนี้​ต่อไป​ อยาก​น้อย​ก็​เป็น​อัมพาต​ อย่าง​มาก​ก็​เสียชีวิต​ฉับพลัน​!” จางอี​เต๋อ​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​

หวัง​เจี๋ย​พลัน​ตื่น​ตะลึง​ เป็น​เช่นนั้น​จริงๆ​ เมื่อ​ปี​นั้น​เขา​ต่อสู้​รุนแรง​ แม้สุดท้าย​จะสังหาร​คน​คน​นั้น​ได้​แต่​กระดูกสันหลัง​ของ​เขา​ก็​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​ จากนั้น​ก็​ไป​รักษา​ที่​โรงพยาบาล​ที่​ดี​ที่สุด​ใน​ต่างประเทศ​ ถึงแม้จะรักษา​หาย​ดีแล้ว​ ทว่า​ตั้งแต่​นั้น​เป็นต้นมา​ ทุกวัน​ตอน​เที่ยงคืน​หวัง​เจี๋ย​จะรู้สึก​ปวด​เล็กน้อย​ที่​กระดูกสันหลัง​ข้อ​ที่สาม​ แต่​ก็​ยัง​ทน​ไหว​ ดังนั้น​เขา​จึงไม่ได้​สนใจ​มัน​อีก​ ตอนนี้​จางอี​เต๋อ​ซึ่งเป็น​เซียน​แพทย์​เท​วะ​พูด​ให้​เขา​รับรู้​ถึงความร้ายแรง​ของ​ปัญหา​ แต่​เขา​ก็​ไม่ยอม​เชื่อ​จางอี​เต๋อ​ หวัง​เจี๋ย​เป็น​คน​หัวแข็ง​คน​หนึ่ง​ ตอนนี้​ใน​ใจของ​เขา​มีเพียง​อาการ​บาดเจ็บ​ของ​พี่ใหญ่​เย่​เทียน​เฉิน​เท่านั้น​

“หึ​ ไม่มีเรื่อง​อะไร​แบบ​นั้น​หรอก​ หมอ​เทวดา​จาง คุณ​พูด​ผิด​แล้ว​ ผม​ว่า​คุณ​ไปดู​อาการ​บาดเจ็บ​ของ​พี่ใหญ่​ผม​ก่อน​ดีกว่า​ ถ้าคุณ​ไม่มีความสามารถ​รักษา​ให้​เขา​หาย​ดี​ก็​ไป​ซะ อย่า​มาทำ​พวกเรา​เสียเวลา​ที่นี่​ ส่วน​ชื่อ​เซียน​แพทย์​เท​วะ​ของ​คุณ​ก็​เอา​กลับ​ไป​ด้วย​!” หวัง​เจี๋ย​แค่น​เสียง​เย็น​ พูด​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​

“หวัง​เจี๋ย​ อย่า​ได้​เสียมารยาท​ หมอ​เทวดา​จางหวังดี​กับ​แก​!” อู๋เสวี่ย​รีบ​เอ่ยปาก​

ครั้ง​ที่แล้ว​เย่​เทียน​เฉิน​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​ อู๋เสวี่ย​เป็น​คน​พา​เย่​เทียน​เฉิน​ไป​ส่งให้​จางอี​เต๋อ​ จาก​สภาพ​บาดเจ็บสาหัส​จน​ใกล้​ตาย​แบบ​นั้น​ยัง​ถูก​จางอี​เต๋อ​รักษา​จน​หาย​ดี​และ​มีชีวิต​อยู่​ต่อไป​ได้​ พูด​ได้​ว่า​อู๋เสวี่ย​เชื่อ​ใน​วิชาแพทย์​ของ​จางอี​เต๋อ​โดย​ไม่มีข้อสงสัย​ เพียงแต่​สิ่งที่​ทำให้​อู๋เสวี่ย​ไม่เข้าใจ​ก็​คือ​ ทำไม​ครั้งนี้​จางอี​เต๋อ​ถึงมีท่าที​ไม่ทุกข์ร้อน​กับ​อาการ​บาดเจ็บ​ของ​เย่​เทียน​เฉิน​ ตกลง​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด