เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ 358 ผู้หญิงสองคนนี้แม่งโคตรแข็งแกร่ง

Now you are reading เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ Chapter 358 ผู้หญิงสองคนนี้แม่งโคตรแข็งแกร่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทันใดนั้น มีผู้หญิงคนหนึ่งร่วงลงมาจากฟ้า แต่งตัวไม่ต่างอะไรจากผู้หญิงในยุคโบราณ เข็มขัดหยกเอวบางอาภรณ์พริ้วไหว ไม่ได้ปิดบังใบหน้าอันงดงามเหมือนตงฟางเมิ่ง แต่ภายใต้การสะท้อนของแสงจันทร์เหมือนกับนางเซียนอย่างไรอย่างนั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกบรรยายไม่ถูก ให้ความรู้สึกเหมือนดอกกล้วยไม้ ผิวขาวงดงาม เพียงเป่าก็สามารถแตกสลายได้ ผอมบางราวเส้นไหม คล้ายกับหน่ออ่อนของต้นกก ทำให้สงสัยว่าดวงหน้าประดุจหยกเป็นอย่างไร เกร็ดหิมะยามฤดูใบไม้ผลิแช่แข็งดอกเหมย ริมตลิ่งดินดำคนคล้ายจันทร์ ข้อมือขาวกลั่นเกล็ดหมอกหิมะ หญิงสาวสวยและดอกพีชกำลังเบ่งบาน แย้มยิ้มคราแรกล่มเมือง แย้มยิ้มอีกคราล่มชาติ

ความงดงามแบบนี้ ผู้หญิงแบบนี้ มาถึงในเวลานี้ ทำให้เย่เทียนเฉินสั่นสะท้านในใจ ผู้หญิงคนนี้สวยมาก สวยจนกระทั่งเขาซึ่งเป็นผู้ชายที่พบเห็นผู้หญิงสวยๆ มาจนคุ้นชินก็ยังอดไม่ได้ที่จะตื่นตะลึง หากเป็นผู้ชายธรรมดาได้เห็น บางทีคงวิ่งเข้าไปอย่างบ้าคลั่งนานแล้ว แต่มีสัญชาตญาณบางอย่างกำลังบอกเย่เทียนเฉินว่า ผู้หญิงคนนี้อันตรายมาก เป็นผู้หญิงสวยที่อันตราย ใครกล้าเข้าไปใกล้คงสิ้นชีพ

ในตอนที่ตงฟางเมิ่งเห็นผู้หญิงที่ลงมาจากฟ้าคนนี้ก็ลงจากหินก้อนใหญ่ที่เธอนั่งขัดสมาธิอยู่ด้านบน ในดวงตามีสีสันอันแปลกประหลาดแวบผ่าน กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ร้อนไม่หนาว “ชิงเฉิงเยว่ ในที่สุดเธอก็มาแล้ว…”

“ฉันมาสายหรือเปล่า? ดูเหมือนพวกเธอจะมานานแล้วนะ? เวลาพวกที่พวกเรานัดกันคือวันนี้ตอนกลางคืนที่ภูเขาหลังมหาวิทยาลัยหลงเถิง ส่วนจะเป็นเวลาไหนนั้นก็ไม่ได้พูด ไม่นับว่าฉันผิดนัดล่ะมั้ง?” ชิงเฉิงเยว่หัวเราะเบาๆ ให้ความรู้สึกหวั่นไหว ผู้หญิงคนนี้เกิดมาฆ่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดจริงๆ

ตอนนี้เอง เซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์ต่างลุกขึ้นยืนจากบนพื้น เช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปาก พวกเธอสองคนทนไม่ไหวจึงเริ่มต่อสู้ไปก่อนแล้ว และสูญเสียพลังการต่อสู้ไปมาก ตอนนี้ การมาถึงของชิงเฉิงเยว่นับเป็นการคุกคามชีวิตของพวกเธอโดยไม่ต้องสงสัย เดิมทีมีตงฟางเมิ่งอยู่ที่นี่คนเดียว การจะเอาชีวิตพวกเธอสองคนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ตอนนี้มีชิงเฉิงเยว่ด้วย ผู้หญิงที่อาจจะแข็งแกร่งกว่าตงฟางเมิ่งมาถึงแล้ว พวกเธอมีความรู้สึกว่ายากจะมีชีวิตรอดไปจากคืนนี้ได้

สำหรับตงฟางเมิ่ง พรรคสุสานโบราณต้องการก่อตั้งพันธมิตรวรยุทธมาโดยตลอด เพื่อลดทอนการต่อสู้และการล้มตายในยุทธภพ ดังนั้นตงฟางเมิ่งจึงไม่ลงมือสังหารเซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์ แต่ชิงเฉิงเยว่ไม่เหมือนกัน การประลองสี่สุดยอดสาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณในครั้งนี้เดิมทีก็เป็นพัรรคสระหยกของเธอที่เป็นผู้ริเริ่ม ยิ่งไปกว่านั้นยังบีบบังคับให้แต่ละพรรคเข้าร่วมด้วย ไม่อาจไม่เข้าร่วม เจ้าสำนักของพรรคสระหยกซึ่งมีฉายาว่า “ซือไท่สังหารเหี้ยน” เป็นคนที่ประดุจมารร้าย เป็นผู้หญิงชอบฆ่าคน เคยก่อกวนอยู่ในยุทธภพอยู่หลายครั้ง ทำให้เกิดการนองเลือดมากมาย อย่างไรก็ตาม ฝ่ามือสะท้านฟ้าของพรรคสระหยกแข็งแกร่งมาก ตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้ยังไม่มีพรรคใดกล้าล่วงเกิน รวมกับที่พัรรคสระหยกมีชิงเฉิงเยว่ออกมา ซึ่งเป็นอัจฉริยะบุคคลในด้านการฝึกวรยุทธแห่งพรรควรยุทธโบราณที่หาได้ยากที่สุดในรอบ 100 ปี ทำให้พรรคสระหยกยิ่งใหญ่ขึ้นได้อีก ไม่มีใครคิดจะหาเรื่องพรรคเข้มแข็งแบบนี้

เย่เทียนเฉินคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าผู้หญิงที่ร่วงลงมาจากฟ้าคนนี้จะเป็นชิงเฉิงเยว่ บนร่างไม่มีไอสังหารอันเข้มข้น ไม่มีการผันผวนของพลังภายในอันแข็งแกร่ง ดูไม่แตกต่างอะไรจากสาวงามธรรมดาคนหนึ่ง เดิมทีคิดว่าชิงเฉิงเยว่จะเป็นคนที่เย็นชาเหมือนน้ำแข็ง หากรวมเข้ากับตงฟางเมิ่งนับเป็นหญิงงามที่เหมือนกับภูเขาน้ำแข็งสองลูก แต่กลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง ดูเหมือนชิงเฉิงเยว่จะพูดเก่ง ไม่เหมือนผู้หญิงที่มีความสามารถลึกล้ำไม่อาจคาดเดาจนทำให้ผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้เหมือนที่ใครหลายคนคิด

ตงฟางเมิ่งมองชิงเฉิงเยว่ สายตาของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย แปรเปลี่ยนไปเป็นจริงจังมากขึ้น สำหรับสี่สุดยอดสาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณ การมาของชิงเฉิงเยว่เป็นการพิสูจน์แล้วว่า สาวงามเย็นชาประดุจน้ำแข็งอย่างแท้จริงไม่ใช่ชิงเฉิงเยว่ที่เป็นผู้มีความพรสวรรค์ในรอบ 100 ปีของพรรควรยุทธโบราณ แต่เป็นตงฟางเมิ่งต่างหาก จนกระทั่งตอนนี้เธอก็ยังปิดบังใบหน้า พูดจาไม่มาก เสียงไพเราะแต่เย็นชา เธอถึงจะเป็นคนที่เย็นชาที่สุดอย่างแท้จริง

“ไม่รู้ว่าพรรคสระหยกมีข้อเสนอแนะอะไรกับข้อเสนอของพรรคสุสานโบราณของพวกเราหรือเปล่า?” ตงฟางเมิ่งมองชิงเฉิงเยว่แล้วถามขึ้น

“ไม่มี การรวมตัวเป็นพันธมิตรเป็นเรื่องที่ดี แต่มีเงื่อนไขอยู่อย่างหนึ่ง…” ชิงเฉิงเยว่พูดด้วยรอยยิ้ม

“เงื่อนไขอะไร…” ตงฟางเมิ่งเห็นรอยยิ้มของชิงเฉิงเยว่จึงขมวดคิ้วถาม

“เงื่อนไขก็คือเธอต้องชนะฉันให้ได้ก่อน…” ชิงเฉิงเยว่พูดอย่างมั่นใจ

คำพูดของชิงเฉิงเยว่เพิ่งจะถูกกล่าวออกมา ผู้หญิงที่งดงามขั้นสุดคนนี้ก็เก็บรอยยิ้มกลับไป มองไปยังตงฟางเมิ่งด้วยความเคร่งขรึมจริงจัง ส่วนตงฟางเมิ่งก็จ้องชิงเฉิงเยว่เขม็ง การต่อสู้ระหว่างผู้หญิงสองคนนี้ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ต่อให้ไม่มีการประลองสี่สุดยอดสาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณ ตงฟางเมิ่งและชิงเฉิงเยว่ก็จำเป็นต้องสู้กัน เนื่องจากหลายปีก่อนหน้านี้ ในยุทธภพของพรรควรยุทธโบราณมักมีคนนำชิงเฉิงเยว่และตงฟางเมิ่งมาเปลี่ยนเปรียบเทียบกัน ทั้งสองต่างเป็นผู้หญิงที่มีใบหน้างดงามและมีความสามารถ ซึ่งส่วนที่คนในพรรควรยุทธโบราณนำมาเปรียบเทียบกันมากที่สุดก็คือ ใครเป็นคนที่สวยที่สุดในพรรควรยุทธโบราณกันแน่? ใครเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถแข็งแกร่งที่สุดในพรรควรยุทธโบราณกันแน่? นี่ไม่เพียงจะเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของพวกเธอทั้งสองคน แต่ยังเกี่ยวข้องไปถึงอำนาจของแต่ละพรรคอีกด้วย

พรรคสระหยกนั้นมีอำนาจแข็งแกร่งมาโดยตลอด เคยทำให้ยุทธภพสั่นสะท้านและเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดมานับครั้งไม่ถ้วน พลังอำนาจของฝ่ามือสะท้านฟ้าแข็งแกร่งหาใดเปรียบ ซัดออกไปฝ่ามือเดียวก็มีอำนาจสะเทือนฟ้าแล้ว ชิงเฉิงเยว่ถูกเรียกขานว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์แห่งพรรควรยุทธโบราณที่หาได้ยากในรอบ 100 ปี อาจารย์ของเธอยังมีฉายาว่าซือไท่สังหารเหี้ยน เป็นคนที่ฆ่าไม่เลี้ยง โกรธเกรี้ยวเป็นเรื่องธรรมดา ล้างแค้นประดุจนางมาร ส่วนพรรคสุสานโบราณเป็นพรรคปิดซ่อนตัวตนพรรคหนึ่ง แต่เป็นพรรคที่พรรคอื่นๆ ไม่กล้าดูถูก กระทั่งพรรคเส้าหลินก็ไม่กล้าดูเบา เนื่องจากอาจารย์บรรพบุรุษของพรรคสุสานโบราณสร้างคัมภีร์ดรุณีหยกออกมา วิชาพลังภายในนี้ไม่ด้อยไปกว่าคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นของพรรคเส้าหลินเลย ตกลงแล้วคัมภีร์ดรุณีหยกแข็งแกร่งกว่าหรือคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นแข็งแกร่งกว่ากันแน่ นี่ยังเป็นเรื่องที่ไม่อาจทราบ เพียงแต่เคยมียอดฝีมือที่ใช้วิชาคัมภีร์ดรุณีหยกได้อย่างร้ายกาจสร้างตำนานเล่าขานเอาไว้ ดังนั้นจากการเปรียบเทียบและคาดเดาของยอดฝีมือจำนวนหนึ่งจึงสรุปว่า คัมภีร์ดรุณีหยกไม่อ่อนแอกว่าคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น

หลายพันปีที่ผ่านมา คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นของเส้าหลินเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นเคล็ดวิชาพลังภายในที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งพรรควรยุทธโบราณ มีผู้ฝึกฝนวรยุทธโบราณจำนวนไม่น้อยต้องการได้มา ดังนั้นจึงเกิดการขโมยคัมภีร์ของพรรคเส้าหลินหลายครั้ง ทำให้เกิดเรื่องนองเลือดในยุทธภพจำนวนมาก เนื่องจากวิธีการฝึกฝนพลังภายในอันแข็งแกร่งอย่างคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นนี้ร้ายกาจมากจริงๆ ดูเหมือนว่าผู้ฝึกฝนทั้งหมดต่างอยากได้ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจนกระทั่งตอนนี้คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นของพรรคเส้าหลินจะสูญหายไปแล้วหลายพันปี ไม่รู้ว่าหายไปจริงๆ หรือเป็นข่าวปลอมที่พรรคเส้าหลินสร้างมาปิดบังคนอื่น

คัมภีร์ดรุณีหยกก็ไม่ด้อยไปกว่าคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นของเส้าหลิน เพียงแค่คำว่าดรุณีหยกก็ทำให้ตั้งแต่ยุคของอาจารย์บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งวิชานั้นเป็นต้นมามีกฎของพรรคว่าจะรับแต่ลูกศิษย์หญิง หากต้องการฝึกฝนคัมภีร์ดรุณีหยก ไม่เพียงแต่จะต้องเป็นลูกศิษย์ของพรรคสุสานโบราณเท่านั้น ยังต้องดูคุณสมบัติโดยกำเนิดของคนคนนั้นอีกด้วย ต้องมีเงื่อนไขและความเข้าใจโดยกำเนิด อย่างไรก็ตาม เจ้าสำนักทุกท่านของพรรคสุสานโบราณต่างรับลูกศิษย์ได้เพียงคนเดียวในชั่วชีวิต สั่งสอนถ่ายทอดวิชาของตนทั้งหมดไปให้ และยังต้องส่งต่อคัมภีร์ดรุณีหยกแห้งพรรคสุสานโบราณให้เธออีกด้วย โดยพื้นฐานแล้วลูกศิษย์ของพรรคนี้จะกลายเป็นเจ้าสำนักคนต่อไป ในตอนที่เจ้าสำนักตายไปแล้วก็จะขึ้นรับตำแหน่ง ดังนั้นเมื่ออาจารย์ของตงฟางเมิ่งตาย เธอก็จะกลายเป็นเจ้าสำนักพรรคสุสานโบราณคนใหม่ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทั่วทั้งพรรคสุสานโบราณมีเพียงตงฟางเมิ่งคนเดียวเท่านั้น เธอก็คือเจ้าสำนักของตัวเอง

พรรคสุสานโบราณเป็นพรรคที่ลึกลับเป็นอย่างมาก แต่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิด คนของพวกเธอล้วนใช้ชีวิตอยู่ในพรรคสุสานโบราณ ดังนั้นที่มาของชื่อพรรคสุสานโบราณนี้สืบเนื่องจากผู้ก่อตั้งพรรคสุสานโบราณตกลงไปในสุสานโบราณแห่งหนึ่งโดยบังเอิญ และได้รับสืบทอดวรยุทธมา จึงก่อตั้งพรรคสุสานโบราณขึ้นโดยใช้คำว่าสุสานโบราณเป็นชื่อพรรค ต่อมาจึงคิดค้นคัมภีร์ดรุณีหยกซึ่งเป็นวิธีฝึกฝนพลังภายในที่ร้ายกาจเทียบเท่าคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นของเส้าหลิน ชื่อเสียงของพรรคสุสานโบราณจึงยิ่งใหญ่สะท้านฟ้า ส่วนพรรคสุสานโบราณตั้งอยู่ที่ไหนนั้น นี่ก็ยังไม่มีผู้ใดรู้ กระทั่งพรรคเทียนซู่ฉีที่เทียนซวงเอ๋อร์สังกัดอยู่ก็ไม่รู้ที่ตั้งของพรรคสุสานโบราณ และสืบหามาเนิ่นนานแล้ว

“การประลองของพวกเราทั้งสี่คนในวันนี้ เป็นตายแล้วแต่โชคชะตา ดูซิว่าใครจะเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด!” เทียนซวงเอ๋อร์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสยังคงหน้าไม่เปลี่ยนสี ฝืนโคจรพลังภายในเตรียมต่อสู้

“เมื่อเป็นการต่อสู้ของพวกเราทั้งสี่คนแล้วจะขาดฉันไปได้ยังไง?” เซี่ยอวี่เหอกล่าว ในมือทั้งสองปรากฏมีดบินขึ้น

ชิงเฉิงเยว่มองเซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์ พูดอย่างเย็นชาว่า “พวกเธอสองคนมีชีวิตอยู่ให้นานอีกหน่อยเถอะ บาดเจ็บจนถึงขั้นนี้แล้ว หากฉันต้องการฆ่าพวกเธอก็ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ ไม่ต้องรีบร้อนไป ตอนฉันมาท่านอาจารย์บอกแล้วว่าต้องฆ่าพวกเธอทั้งสามคนให้หมด ใช้ชีวิตของพวกเธอทำให้ชื่อเสียงของพรรคสระหยกของพวกเราสั่นสะเทือนยุทธภพอีกครั้ง!”

เมื่อได้ยินคำพูดของชิงเฉิงเยว่ เทียนซวงเอ๋อร์และตงฟางเมิ่งต่างขมวดคิ้ว นี่มันไม่เห็นพวกเธออยู่ในสายตาโดยสิ้นเชิง ดังนั้นในใจของพวกเธอจะไม่โกรธได้อย่างไร พวกเธอเป็นลูกศิษย์ของพรรควรยุทธโบราณทั้งนั้น เห็นชื่อเสียงของพรรคสำคัญกว่าชีวิตของตน ต่อให้คนตายก็ไม่อาจทำให้ชื่อเสียงของพรรคถูกทำลายได้ ตอนนี้ชิงเฉิงเยว่ไม่เห็นพวกเธออยู่ในสายตาก็เหมือนกับไม่เห็นพรรคมีดบินและพรรคเทียนซู่ฉีอยู่ในสายตาเช่นกัน พวกเธอจะไม่โกรธได้อย่างไร

“พวกเธอสองคนได้รับบาดเจ็บไปแล้ว ฉันคิดว่าเธอคงไม่ใช้โอกาสนี้ฆ่าพวกเธอหรอนะ ต่อไปเป็นการต่อสู้ระหว่างฉันกับเธอ!” ตงฟางเมิ่งมองชิงเฉิงเยว่แล้วพูดขึ้นอย่างเย็นชา

“พรรคสุสานโบราณเหลือเธอแค่คนเดียว ฉันไม่อยากฆ่าเธอ ไม่อยากทำลานล้างผรรคสุสานโบราณแบบนี้!” ชิงเฉิงเยว่เองก็มองตงฟางเมิ่งอย่างเย็นชาแล้วพูดขึ้น

ชั่วขณะนั้น ตงฟางเมิ่งไม่ได้พูดอะไรอีก ชิงเฉิงเยว่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเช่นกัน ผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสองคนยืนเผชิญหน้ากันเช่นนั้น บรรยากาศอันไร้รูปลักษณ์ปะทุอยู่ระหว่างคนทั้งสอง ทำให้เซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์ตกตะลึงจนหยุดฝีเท้าลง ส่วนเย่เทียนเฉินที่แอบมองทุกสิ่งทุกอย่างอยู่บนต้นไม้ก็ขมวดคิ้ว สี่สุดยอดสาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณ ถ้าไม่สู้กันก็ไม่รู้ว่าใครแข็งแกร่งกว่าใคร แต่ตอนนี้ อย่างน้อยผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสองคนก็คือชิงเฉิงเยว่และตงฟางเมิ่ง ผู้หญิงสองคนนี้เอาจริงเอาจังขึ้นมาแล้วจริงๆ พวกเธอยังไม่ได้ลงมือ แต่บนร่างมีลมปราณที่แข็งแกร่งปะทุออกมาแล้ว ทำให้ผู้คนตื่นตะลึงยิ่งนัก กระทั่งเย่เทียนเฉินก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ ผู้หญิงสองคนนี้แข็งแกร่งจนยากจะเชื่อจริงๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ 358 ผู้หญิงสองคนนี้แม่งโคตรแข็งแกร่ง

Now you are reading เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ Chapter 358 ผู้หญิงสองคนนี้แม่งโคตรแข็งแกร่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทันใดนั้น มีผู้หญิงคนหนึ่งร่วงลงมาจากฟ้า แต่งตัวไม่ต่างอะไรจากผู้หญิงในยุคโบราณ เข็มขัดหยกเอวบางอาภรณ์พริ้วไหว ไม่ได้ปิดบังใบหน้าอันงดงามเหมือนตงฟางเมิ่ง แต่ภายใต้การสะท้อนของแสงจันทร์เหมือนกับนางเซียนอย่างไรอย่างนั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกบรรยายไม่ถูก ให้ความรู้สึกเหมือนดอกกล้วยไม้ ผิวขาวงดงาม เพียงเป่าก็สามารถแตกสลายได้ ผอมบางราวเส้นไหม คล้ายกับหน่ออ่อนของต้นกก ทำให้สงสัยว่าดวงหน้าประดุจหยกเป็นอย่างไร เกร็ดหิมะยามฤดูใบไม้ผลิแช่แข็งดอกเหมย ริมตลิ่งดินดำคนคล้ายจันทร์ ข้อมือขาวกลั่นเกล็ดหมอกหิมะ หญิงสาวสวยและดอกพีชกำลังเบ่งบาน แย้มยิ้มคราแรกล่มเมือง แย้มยิ้มอีกคราล่มชาติ

ความงดงามแบบนี้ ผู้หญิงแบบนี้ มาถึงในเวลานี้ ทำให้เย่เทียนเฉินสั่นสะท้านในใจ ผู้หญิงคนนี้สวยมาก สวยจนกระทั่งเขาซึ่งเป็นผู้ชายที่พบเห็นผู้หญิงสวยๆ มาจนคุ้นชินก็ยังอดไม่ได้ที่จะตื่นตะลึง หากเป็นผู้ชายธรรมดาได้เห็น บางทีคงวิ่งเข้าไปอย่างบ้าคลั่งนานแล้ว แต่มีสัญชาตญาณบางอย่างกำลังบอกเย่เทียนเฉินว่า ผู้หญิงคนนี้อันตรายมาก เป็นผู้หญิงสวยที่อันตราย ใครกล้าเข้าไปใกล้คงสิ้นชีพ

ในตอนที่ตงฟางเมิ่งเห็นผู้หญิงที่ลงมาจากฟ้าคนนี้ก็ลงจากหินก้อนใหญ่ที่เธอนั่งขัดสมาธิอยู่ด้านบน ในดวงตามีสีสันอันแปลกประหลาดแวบผ่าน กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ร้อนไม่หนาว “ชิงเฉิงเยว่ ในที่สุดเธอก็มาแล้ว…”

“ฉันมาสายหรือเปล่า? ดูเหมือนพวกเธอจะมานานแล้วนะ? เวลาพวกที่พวกเรานัดกันคือวันนี้ตอนกลางคืนที่ภูเขาหลังมหาวิทยาลัยหลงเถิง ส่วนจะเป็นเวลาไหนนั้นก็ไม่ได้พูด ไม่นับว่าฉันผิดนัดล่ะมั้ง?” ชิงเฉิงเยว่หัวเราะเบาๆ ให้ความรู้สึกหวั่นไหว ผู้หญิงคนนี้เกิดมาฆ่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดจริงๆ

ตอนนี้เอง เซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์ต่างลุกขึ้นยืนจากบนพื้น เช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปาก พวกเธอสองคนทนไม่ไหวจึงเริ่มต่อสู้ไปก่อนแล้ว และสูญเสียพลังการต่อสู้ไปมาก ตอนนี้ การมาถึงของชิงเฉิงเยว่นับเป็นการคุกคามชีวิตของพวกเธอโดยไม่ต้องสงสัย เดิมทีมีตงฟางเมิ่งอยู่ที่นี่คนเดียว การจะเอาชีวิตพวกเธอสองคนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ตอนนี้มีชิงเฉิงเยว่ด้วย ผู้หญิงที่อาจจะแข็งแกร่งกว่าตงฟางเมิ่งมาถึงแล้ว พวกเธอมีความรู้สึกว่ายากจะมีชีวิตรอดไปจากคืนนี้ได้

สำหรับตงฟางเมิ่ง พรรคสุสานโบราณต้องการก่อตั้งพันธมิตรวรยุทธมาโดยตลอด เพื่อลดทอนการต่อสู้และการล้มตายในยุทธภพ ดังนั้นตงฟางเมิ่งจึงไม่ลงมือสังหารเซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์ แต่ชิงเฉิงเยว่ไม่เหมือนกัน การประลองสี่สุดยอดสาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณในครั้งนี้เดิมทีก็เป็นพัรรคสระหยกของเธอที่เป็นผู้ริเริ่ม ยิ่งไปกว่านั้นยังบีบบังคับให้แต่ละพรรคเข้าร่วมด้วย ไม่อาจไม่เข้าร่วม เจ้าสำนักของพรรคสระหยกซึ่งมีฉายาว่า “ซือไท่สังหารเหี้ยน” เป็นคนที่ประดุจมารร้าย เป็นผู้หญิงชอบฆ่าคน เคยก่อกวนอยู่ในยุทธภพอยู่หลายครั้ง ทำให้เกิดการนองเลือดมากมาย อย่างไรก็ตาม ฝ่ามือสะท้านฟ้าของพรรคสระหยกแข็งแกร่งมาก ตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้ยังไม่มีพรรคใดกล้าล่วงเกิน รวมกับที่พัรรคสระหยกมีชิงเฉิงเยว่ออกมา ซึ่งเป็นอัจฉริยะบุคคลในด้านการฝึกวรยุทธแห่งพรรควรยุทธโบราณที่หาได้ยากที่สุดในรอบ 100 ปี ทำให้พรรคสระหยกยิ่งใหญ่ขึ้นได้อีก ไม่มีใครคิดจะหาเรื่องพรรคเข้มแข็งแบบนี้

เย่เทียนเฉินคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าผู้หญิงที่ร่วงลงมาจากฟ้าคนนี้จะเป็นชิงเฉิงเยว่ บนร่างไม่มีไอสังหารอันเข้มข้น ไม่มีการผันผวนของพลังภายในอันแข็งแกร่ง ดูไม่แตกต่างอะไรจากสาวงามธรรมดาคนหนึ่ง เดิมทีคิดว่าชิงเฉิงเยว่จะเป็นคนที่เย็นชาเหมือนน้ำแข็ง หากรวมเข้ากับตงฟางเมิ่งนับเป็นหญิงงามที่เหมือนกับภูเขาน้ำแข็งสองลูก แต่กลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง ดูเหมือนชิงเฉิงเยว่จะพูดเก่ง ไม่เหมือนผู้หญิงที่มีความสามารถลึกล้ำไม่อาจคาดเดาจนทำให้ผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้เหมือนที่ใครหลายคนคิด

ตงฟางเมิ่งมองชิงเฉิงเยว่ สายตาของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย แปรเปลี่ยนไปเป็นจริงจังมากขึ้น สำหรับสี่สุดยอดสาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณ การมาของชิงเฉิงเยว่เป็นการพิสูจน์แล้วว่า สาวงามเย็นชาประดุจน้ำแข็งอย่างแท้จริงไม่ใช่ชิงเฉิงเยว่ที่เป็นผู้มีความพรสวรรค์ในรอบ 100 ปีของพรรควรยุทธโบราณ แต่เป็นตงฟางเมิ่งต่างหาก จนกระทั่งตอนนี้เธอก็ยังปิดบังใบหน้า พูดจาไม่มาก เสียงไพเราะแต่เย็นชา เธอถึงจะเป็นคนที่เย็นชาที่สุดอย่างแท้จริง

“ไม่รู้ว่าพรรคสระหยกมีข้อเสนอแนะอะไรกับข้อเสนอของพรรคสุสานโบราณของพวกเราหรือเปล่า?” ตงฟางเมิ่งมองชิงเฉิงเยว่แล้วถามขึ้น

“ไม่มี การรวมตัวเป็นพันธมิตรเป็นเรื่องที่ดี แต่มีเงื่อนไขอยู่อย่างหนึ่ง…” ชิงเฉิงเยว่พูดด้วยรอยยิ้ม

“เงื่อนไขอะไร…” ตงฟางเมิ่งเห็นรอยยิ้มของชิงเฉิงเยว่จึงขมวดคิ้วถาม

“เงื่อนไขก็คือเธอต้องชนะฉันให้ได้ก่อน…” ชิงเฉิงเยว่พูดอย่างมั่นใจ

คำพูดของชิงเฉิงเยว่เพิ่งจะถูกกล่าวออกมา ผู้หญิงที่งดงามขั้นสุดคนนี้ก็เก็บรอยยิ้มกลับไป มองไปยังตงฟางเมิ่งด้วยความเคร่งขรึมจริงจัง ส่วนตงฟางเมิ่งก็จ้องชิงเฉิงเยว่เขม็ง การต่อสู้ระหว่างผู้หญิงสองคนนี้ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ต่อให้ไม่มีการประลองสี่สุดยอดสาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณ ตงฟางเมิ่งและชิงเฉิงเยว่ก็จำเป็นต้องสู้กัน เนื่องจากหลายปีก่อนหน้านี้ ในยุทธภพของพรรควรยุทธโบราณมักมีคนนำชิงเฉิงเยว่และตงฟางเมิ่งมาเปลี่ยนเปรียบเทียบกัน ทั้งสองต่างเป็นผู้หญิงที่มีใบหน้างดงามและมีความสามารถ ซึ่งส่วนที่คนในพรรควรยุทธโบราณนำมาเปรียบเทียบกันมากที่สุดก็คือ ใครเป็นคนที่สวยที่สุดในพรรควรยุทธโบราณกันแน่? ใครเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถแข็งแกร่งที่สุดในพรรควรยุทธโบราณกันแน่? นี่ไม่เพียงจะเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของพวกเธอทั้งสองคน แต่ยังเกี่ยวข้องไปถึงอำนาจของแต่ละพรรคอีกด้วย

พรรคสระหยกนั้นมีอำนาจแข็งแกร่งมาโดยตลอด เคยทำให้ยุทธภพสั่นสะท้านและเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดมานับครั้งไม่ถ้วน พลังอำนาจของฝ่ามือสะท้านฟ้าแข็งแกร่งหาใดเปรียบ ซัดออกไปฝ่ามือเดียวก็มีอำนาจสะเทือนฟ้าแล้ว ชิงเฉิงเยว่ถูกเรียกขานว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์แห่งพรรควรยุทธโบราณที่หาได้ยากในรอบ 100 ปี อาจารย์ของเธอยังมีฉายาว่าซือไท่สังหารเหี้ยน เป็นคนที่ฆ่าไม่เลี้ยง โกรธเกรี้ยวเป็นเรื่องธรรมดา ล้างแค้นประดุจนางมาร ส่วนพรรคสุสานโบราณเป็นพรรคปิดซ่อนตัวตนพรรคหนึ่ง แต่เป็นพรรคที่พรรคอื่นๆ ไม่กล้าดูถูก กระทั่งพรรคเส้าหลินก็ไม่กล้าดูเบา เนื่องจากอาจารย์บรรพบุรุษของพรรคสุสานโบราณสร้างคัมภีร์ดรุณีหยกออกมา วิชาพลังภายในนี้ไม่ด้อยไปกว่าคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นของพรรคเส้าหลินเลย ตกลงแล้วคัมภีร์ดรุณีหยกแข็งแกร่งกว่าหรือคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นแข็งแกร่งกว่ากันแน่ นี่ยังเป็นเรื่องที่ไม่อาจทราบ เพียงแต่เคยมียอดฝีมือที่ใช้วิชาคัมภีร์ดรุณีหยกได้อย่างร้ายกาจสร้างตำนานเล่าขานเอาไว้ ดังนั้นจากการเปรียบเทียบและคาดเดาของยอดฝีมือจำนวนหนึ่งจึงสรุปว่า คัมภีร์ดรุณีหยกไม่อ่อนแอกว่าคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น

หลายพันปีที่ผ่านมา คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นของเส้าหลินเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นเคล็ดวิชาพลังภายในที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งพรรควรยุทธโบราณ มีผู้ฝึกฝนวรยุทธโบราณจำนวนไม่น้อยต้องการได้มา ดังนั้นจึงเกิดการขโมยคัมภีร์ของพรรคเส้าหลินหลายครั้ง ทำให้เกิดเรื่องนองเลือดในยุทธภพจำนวนมาก เนื่องจากวิธีการฝึกฝนพลังภายในอันแข็งแกร่งอย่างคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นนี้ร้ายกาจมากจริงๆ ดูเหมือนว่าผู้ฝึกฝนทั้งหมดต่างอยากได้ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจนกระทั่งตอนนี้คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นของพรรคเส้าหลินจะสูญหายไปแล้วหลายพันปี ไม่รู้ว่าหายไปจริงๆ หรือเป็นข่าวปลอมที่พรรคเส้าหลินสร้างมาปิดบังคนอื่น

คัมภีร์ดรุณีหยกก็ไม่ด้อยไปกว่าคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นของเส้าหลิน เพียงแค่คำว่าดรุณีหยกก็ทำให้ตั้งแต่ยุคของอาจารย์บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งวิชานั้นเป็นต้นมามีกฎของพรรคว่าจะรับแต่ลูกศิษย์หญิง หากต้องการฝึกฝนคัมภีร์ดรุณีหยก ไม่เพียงแต่จะต้องเป็นลูกศิษย์ของพรรคสุสานโบราณเท่านั้น ยังต้องดูคุณสมบัติโดยกำเนิดของคนคนนั้นอีกด้วย ต้องมีเงื่อนไขและความเข้าใจโดยกำเนิด อย่างไรก็ตาม เจ้าสำนักทุกท่านของพรรคสุสานโบราณต่างรับลูกศิษย์ได้เพียงคนเดียวในชั่วชีวิต สั่งสอนถ่ายทอดวิชาของตนทั้งหมดไปให้ และยังต้องส่งต่อคัมภีร์ดรุณีหยกแห้งพรรคสุสานโบราณให้เธออีกด้วย โดยพื้นฐานแล้วลูกศิษย์ของพรรคนี้จะกลายเป็นเจ้าสำนักคนต่อไป ในตอนที่เจ้าสำนักตายไปแล้วก็จะขึ้นรับตำแหน่ง ดังนั้นเมื่ออาจารย์ของตงฟางเมิ่งตาย เธอก็จะกลายเป็นเจ้าสำนักพรรคสุสานโบราณคนใหม่ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทั่วทั้งพรรคสุสานโบราณมีเพียงตงฟางเมิ่งคนเดียวเท่านั้น เธอก็คือเจ้าสำนักของตัวเอง

พรรคสุสานโบราณเป็นพรรคที่ลึกลับเป็นอย่างมาก แต่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิด คนของพวกเธอล้วนใช้ชีวิตอยู่ในพรรคสุสานโบราณ ดังนั้นที่มาของชื่อพรรคสุสานโบราณนี้สืบเนื่องจากผู้ก่อตั้งพรรคสุสานโบราณตกลงไปในสุสานโบราณแห่งหนึ่งโดยบังเอิญ และได้รับสืบทอดวรยุทธมา จึงก่อตั้งพรรคสุสานโบราณขึ้นโดยใช้คำว่าสุสานโบราณเป็นชื่อพรรค ต่อมาจึงคิดค้นคัมภีร์ดรุณีหยกซึ่งเป็นวิธีฝึกฝนพลังภายในที่ร้ายกาจเทียบเท่าคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นของเส้าหลิน ชื่อเสียงของพรรคสุสานโบราณจึงยิ่งใหญ่สะท้านฟ้า ส่วนพรรคสุสานโบราณตั้งอยู่ที่ไหนนั้น นี่ก็ยังไม่มีผู้ใดรู้ กระทั่งพรรคเทียนซู่ฉีที่เทียนซวงเอ๋อร์สังกัดอยู่ก็ไม่รู้ที่ตั้งของพรรคสุสานโบราณ และสืบหามาเนิ่นนานแล้ว

“การประลองของพวกเราทั้งสี่คนในวันนี้ เป็นตายแล้วแต่โชคชะตา ดูซิว่าใครจะเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด!” เทียนซวงเอ๋อร์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสยังคงหน้าไม่เปลี่ยนสี ฝืนโคจรพลังภายในเตรียมต่อสู้

“เมื่อเป็นการต่อสู้ของพวกเราทั้งสี่คนแล้วจะขาดฉันไปได้ยังไง?” เซี่ยอวี่เหอกล่าว ในมือทั้งสองปรากฏมีดบินขึ้น

ชิงเฉิงเยว่มองเซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์ พูดอย่างเย็นชาว่า “พวกเธอสองคนมีชีวิตอยู่ให้นานอีกหน่อยเถอะ บาดเจ็บจนถึงขั้นนี้แล้ว หากฉันต้องการฆ่าพวกเธอก็ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ ไม่ต้องรีบร้อนไป ตอนฉันมาท่านอาจารย์บอกแล้วว่าต้องฆ่าพวกเธอทั้งสามคนให้หมด ใช้ชีวิตของพวกเธอทำให้ชื่อเสียงของพรรคสระหยกของพวกเราสั่นสะเทือนยุทธภพอีกครั้ง!”

เมื่อได้ยินคำพูดของชิงเฉิงเยว่ เทียนซวงเอ๋อร์และตงฟางเมิ่งต่างขมวดคิ้ว นี่มันไม่เห็นพวกเธออยู่ในสายตาโดยสิ้นเชิง ดังนั้นในใจของพวกเธอจะไม่โกรธได้อย่างไร พวกเธอเป็นลูกศิษย์ของพรรควรยุทธโบราณทั้งนั้น เห็นชื่อเสียงของพรรคสำคัญกว่าชีวิตของตน ต่อให้คนตายก็ไม่อาจทำให้ชื่อเสียงของพรรคถูกทำลายได้ ตอนนี้ชิงเฉิงเยว่ไม่เห็นพวกเธออยู่ในสายตาก็เหมือนกับไม่เห็นพรรคมีดบินและพรรคเทียนซู่ฉีอยู่ในสายตาเช่นกัน พวกเธอจะไม่โกรธได้อย่างไร

“พวกเธอสองคนได้รับบาดเจ็บไปแล้ว ฉันคิดว่าเธอคงไม่ใช้โอกาสนี้ฆ่าพวกเธอหรอนะ ต่อไปเป็นการต่อสู้ระหว่างฉันกับเธอ!” ตงฟางเมิ่งมองชิงเฉิงเยว่แล้วพูดขึ้นอย่างเย็นชา

“พรรคสุสานโบราณเหลือเธอแค่คนเดียว ฉันไม่อยากฆ่าเธอ ไม่อยากทำลานล้างผรรคสุสานโบราณแบบนี้!” ชิงเฉิงเยว่เองก็มองตงฟางเมิ่งอย่างเย็นชาแล้วพูดขึ้น

ชั่วขณะนั้น ตงฟางเมิ่งไม่ได้พูดอะไรอีก ชิงเฉิงเยว่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเช่นกัน ผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสองคนยืนเผชิญหน้ากันเช่นนั้น บรรยากาศอันไร้รูปลักษณ์ปะทุอยู่ระหว่างคนทั้งสอง ทำให้เซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์ตกตะลึงจนหยุดฝีเท้าลง ส่วนเย่เทียนเฉินที่แอบมองทุกสิ่งทุกอย่างอยู่บนต้นไม้ก็ขมวดคิ้ว สี่สุดยอดสาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณ ถ้าไม่สู้กันก็ไม่รู้ว่าใครแข็งแกร่งกว่าใคร แต่ตอนนี้ อย่างน้อยผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสองคนก็คือชิงเฉิงเยว่และตงฟางเมิ่ง ผู้หญิงสองคนนี้เอาจริงเอาจังขึ้นมาแล้วจริงๆ พวกเธอยังไม่ได้ลงมือ แต่บนร่างมีลมปราณที่แข็งแกร่งปะทุออกมาแล้ว ทำให้ผู้คนตื่นตะลึงยิ่งนัก กระทั่งเย่เทียนเฉินก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ ผู้หญิงสองคนนี้แข็งแกร่งจนยากจะเชื่อจริงๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ 358 ผู้หญิงสองคนนี้แม่งโคตรแข็งแกร่ง

Now you are reading เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ Chapter 358 ผู้หญิงสองคนนี้แม่งโคตรแข็งแกร่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทันใดนั้น มีผู้หญิงคนหนึ่งร่วงลงมาจากฟ้า แต่งตัวไม่ต่างอะไรจากผู้หญิงในยุคโบราณ เข็มขัดหยกเอวบางอาภรณ์พริ้วไหว ไม่ได้ปิดบังใบหน้าอันงดงามเหมือนตงฟางเมิ่ง แต่ภายใต้การสะท้อนของแสงจันทร์เหมือนกับนางเซียนอย่างไรอย่างนั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกบรรยายไม่ถูก ให้ความรู้สึกเหมือนดอกกล้วยไม้ ผิวขาวงดงาม เพียงเป่าก็สามารถแตกสลายได้ ผอมบางราวเส้นไหม คล้ายกับหน่ออ่อนของต้นกก ทำให้สงสัยว่าดวงหน้าประดุจหยกเป็นอย่างไร เกร็ดหิมะยามฤดูใบไม้ผลิแช่แข็งดอกเหมย ริมตลิ่งดินดำคนคล้ายจันทร์ ข้อมือขาวกลั่นเกล็ดหมอกหิมะ หญิงสาวสวยและดอกพีชกำลังเบ่งบาน แย้มยิ้มคราแรกล่มเมือง แย้มยิ้มอีกคราล่มชาติ

ความงดงามแบบนี้ ผู้หญิงแบบนี้ มาถึงในเวลานี้ ทำให้เย่เทียนเฉินสั่นสะท้านในใจ ผู้หญิงคนนี้สวยมาก สวยจนกระทั่งเขาซึ่งเป็นผู้ชายที่พบเห็นผู้หญิงสวยๆ มาจนคุ้นชินก็ยังอดไม่ได้ที่จะตื่นตะลึง หากเป็นผู้ชายธรรมดาได้เห็น บางทีคงวิ่งเข้าไปอย่างบ้าคลั่งนานแล้ว แต่มีสัญชาตญาณบางอย่างกำลังบอกเย่เทียนเฉินว่า ผู้หญิงคนนี้อันตรายมาก เป็นผู้หญิงสวยที่อันตราย ใครกล้าเข้าไปใกล้คงสิ้นชีพ

ในตอนที่ตงฟางเมิ่งเห็นผู้หญิงที่ลงมาจากฟ้าคนนี้ก็ลงจากหินก้อนใหญ่ที่เธอนั่งขัดสมาธิอยู่ด้านบน ในดวงตามีสีสันอันแปลกประหลาดแวบผ่าน กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ร้อนไม่หนาว “ชิงเฉิงเยว่ ในที่สุดเธอก็มาแล้ว…”

“ฉันมาสายหรือเปล่า? ดูเหมือนพวกเธอจะมานานแล้วนะ? เวลาพวกที่พวกเรานัดกันคือวันนี้ตอนกลางคืนที่ภูเขาหลังมหาวิทยาลัยหลงเถิง ส่วนจะเป็นเวลาไหนนั้นก็ไม่ได้พูด ไม่นับว่าฉันผิดนัดล่ะมั้ง?” ชิงเฉิงเยว่หัวเราะเบาๆ ให้ความรู้สึกหวั่นไหว ผู้หญิงคนนี้เกิดมาฆ่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดจริงๆ

ตอนนี้เอง เซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์ต่างลุกขึ้นยืนจากบนพื้น เช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปาก พวกเธอสองคนทนไม่ไหวจึงเริ่มต่อสู้ไปก่อนแล้ว และสูญเสียพลังการต่อสู้ไปมาก ตอนนี้ การมาถึงของชิงเฉิงเยว่นับเป็นการคุกคามชีวิตของพวกเธอโดยไม่ต้องสงสัย เดิมทีมีตงฟางเมิ่งอยู่ที่นี่คนเดียว การจะเอาชีวิตพวกเธอสองคนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ตอนนี้มีชิงเฉิงเยว่ด้วย ผู้หญิงที่อาจจะแข็งแกร่งกว่าตงฟางเมิ่งมาถึงแล้ว พวกเธอมีความรู้สึกว่ายากจะมีชีวิตรอดไปจากคืนนี้ได้

สำหรับตงฟางเมิ่ง พรรคสุสานโบราณต้องการก่อตั้งพันธมิตรวรยุทธมาโดยตลอด เพื่อลดทอนการต่อสู้และการล้มตายในยุทธภพ ดังนั้นตงฟางเมิ่งจึงไม่ลงมือสังหารเซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์ แต่ชิงเฉิงเยว่ไม่เหมือนกัน การประลองสี่สุดยอดสาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณในครั้งนี้เดิมทีก็เป็นพัรรคสระหยกของเธอที่เป็นผู้ริเริ่ม ยิ่งไปกว่านั้นยังบีบบังคับให้แต่ละพรรคเข้าร่วมด้วย ไม่อาจไม่เข้าร่วม เจ้าสำนักของพรรคสระหยกซึ่งมีฉายาว่า “ซือไท่สังหารเหี้ยน” เป็นคนที่ประดุจมารร้าย เป็นผู้หญิงชอบฆ่าคน เคยก่อกวนอยู่ในยุทธภพอยู่หลายครั้ง ทำให้เกิดการนองเลือดมากมาย อย่างไรก็ตาม ฝ่ามือสะท้านฟ้าของพรรคสระหยกแข็งแกร่งมาก ตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้ยังไม่มีพรรคใดกล้าล่วงเกิน รวมกับที่พัรรคสระหยกมีชิงเฉิงเยว่ออกมา ซึ่งเป็นอัจฉริยะบุคคลในด้านการฝึกวรยุทธแห่งพรรควรยุทธโบราณที่หาได้ยากที่สุดในรอบ 100 ปี ทำให้พรรคสระหยกยิ่งใหญ่ขึ้นได้อีก ไม่มีใครคิดจะหาเรื่องพรรคเข้มแข็งแบบนี้

เย่เทียนเฉินคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าผู้หญิงที่ร่วงลงมาจากฟ้าคนนี้จะเป็นชิงเฉิงเยว่ บนร่างไม่มีไอสังหารอันเข้มข้น ไม่มีการผันผวนของพลังภายในอันแข็งแกร่ง ดูไม่แตกต่างอะไรจากสาวงามธรรมดาคนหนึ่ง เดิมทีคิดว่าชิงเฉิงเยว่จะเป็นคนที่เย็นชาเหมือนน้ำแข็ง หากรวมเข้ากับตงฟางเมิ่งนับเป็นหญิงงามที่เหมือนกับภูเขาน้ำแข็งสองลูก แต่กลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง ดูเหมือนชิงเฉิงเยว่จะพูดเก่ง ไม่เหมือนผู้หญิงที่มีความสามารถลึกล้ำไม่อาจคาดเดาจนทำให้ผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้เหมือนที่ใครหลายคนคิด

ตงฟางเมิ่งมองชิงเฉิงเยว่ สายตาของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย แปรเปลี่ยนไปเป็นจริงจังมากขึ้น สำหรับสี่สุดยอดสาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณ การมาของชิงเฉิงเยว่เป็นการพิสูจน์แล้วว่า สาวงามเย็นชาประดุจน้ำแข็งอย่างแท้จริงไม่ใช่ชิงเฉิงเยว่ที่เป็นผู้มีความพรสวรรค์ในรอบ 100 ปีของพรรควรยุทธโบราณ แต่เป็นตงฟางเมิ่งต่างหาก จนกระทั่งตอนนี้เธอก็ยังปิดบังใบหน้า พูดจาไม่มาก เสียงไพเราะแต่เย็นชา เธอถึงจะเป็นคนที่เย็นชาที่สุดอย่างแท้จริง

“ไม่รู้ว่าพรรคสระหยกมีข้อเสนอแนะอะไรกับข้อเสนอของพรรคสุสานโบราณของพวกเราหรือเปล่า?” ตงฟางเมิ่งมองชิงเฉิงเยว่แล้วถามขึ้น

“ไม่มี การรวมตัวเป็นพันธมิตรเป็นเรื่องที่ดี แต่มีเงื่อนไขอยู่อย่างหนึ่ง…” ชิงเฉิงเยว่พูดด้วยรอยยิ้ม

“เงื่อนไขอะไร…” ตงฟางเมิ่งเห็นรอยยิ้มของชิงเฉิงเยว่จึงขมวดคิ้วถาม

“เงื่อนไขก็คือเธอต้องชนะฉันให้ได้ก่อน…” ชิงเฉิงเยว่พูดอย่างมั่นใจ

คำพูดของชิงเฉิงเยว่เพิ่งจะถูกกล่าวออกมา ผู้หญิงที่งดงามขั้นสุดคนนี้ก็เก็บรอยยิ้มกลับไป มองไปยังตงฟางเมิ่งด้วยความเคร่งขรึมจริงจัง ส่วนตงฟางเมิ่งก็จ้องชิงเฉิงเยว่เขม็ง การต่อสู้ระหว่างผู้หญิงสองคนนี้ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ต่อให้ไม่มีการประลองสี่สุดยอดสาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณ ตงฟางเมิ่งและชิงเฉิงเยว่ก็จำเป็นต้องสู้กัน เนื่องจากหลายปีก่อนหน้านี้ ในยุทธภพของพรรควรยุทธโบราณมักมีคนนำชิงเฉิงเยว่และตงฟางเมิ่งมาเปลี่ยนเปรียบเทียบกัน ทั้งสองต่างเป็นผู้หญิงที่มีใบหน้างดงามและมีความสามารถ ซึ่งส่วนที่คนในพรรควรยุทธโบราณนำมาเปรียบเทียบกันมากที่สุดก็คือ ใครเป็นคนที่สวยที่สุดในพรรควรยุทธโบราณกันแน่? ใครเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถแข็งแกร่งที่สุดในพรรควรยุทธโบราณกันแน่? นี่ไม่เพียงจะเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของพวกเธอทั้งสองคน แต่ยังเกี่ยวข้องไปถึงอำนาจของแต่ละพรรคอีกด้วย

พรรคสระหยกนั้นมีอำนาจแข็งแกร่งมาโดยตลอด เคยทำให้ยุทธภพสั่นสะท้านและเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดมานับครั้งไม่ถ้วน พลังอำนาจของฝ่ามือสะท้านฟ้าแข็งแกร่งหาใดเปรียบ ซัดออกไปฝ่ามือเดียวก็มีอำนาจสะเทือนฟ้าแล้ว ชิงเฉิงเยว่ถูกเรียกขานว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์แห่งพรรควรยุทธโบราณที่หาได้ยากในรอบ 100 ปี อาจารย์ของเธอยังมีฉายาว่าซือไท่สังหารเหี้ยน เป็นคนที่ฆ่าไม่เลี้ยง โกรธเกรี้ยวเป็นเรื่องธรรมดา ล้างแค้นประดุจนางมาร ส่วนพรรคสุสานโบราณเป็นพรรคปิดซ่อนตัวตนพรรคหนึ่ง แต่เป็นพรรคที่พรรคอื่นๆ ไม่กล้าดูถูก กระทั่งพรรคเส้าหลินก็ไม่กล้าดูเบา เนื่องจากอาจารย์บรรพบุรุษของพรรคสุสานโบราณสร้างคัมภีร์ดรุณีหยกออกมา วิชาพลังภายในนี้ไม่ด้อยไปกว่าคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นของพรรคเส้าหลินเลย ตกลงแล้วคัมภีร์ดรุณีหยกแข็งแกร่งกว่าหรือคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นแข็งแกร่งกว่ากันแน่ นี่ยังเป็นเรื่องที่ไม่อาจทราบ เพียงแต่เคยมียอดฝีมือที่ใช้วิชาคัมภีร์ดรุณีหยกได้อย่างร้ายกาจสร้างตำนานเล่าขานเอาไว้ ดังนั้นจากการเปรียบเทียบและคาดเดาของยอดฝีมือจำนวนหนึ่งจึงสรุปว่า คัมภีร์ดรุณีหยกไม่อ่อนแอกว่าคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น

หลายพันปีที่ผ่านมา คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นของเส้าหลินเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นเคล็ดวิชาพลังภายในที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งพรรควรยุทธโบราณ มีผู้ฝึกฝนวรยุทธโบราณจำนวนไม่น้อยต้องการได้มา ดังนั้นจึงเกิดการขโมยคัมภีร์ของพรรคเส้าหลินหลายครั้ง ทำให้เกิดเรื่องนองเลือดในยุทธภพจำนวนมาก เนื่องจากวิธีการฝึกฝนพลังภายในอันแข็งแกร่งอย่างคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นนี้ร้ายกาจมากจริงๆ ดูเหมือนว่าผู้ฝึกฝนทั้งหมดต่างอยากได้ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจนกระทั่งตอนนี้คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นของพรรคเส้าหลินจะสูญหายไปแล้วหลายพันปี ไม่รู้ว่าหายไปจริงๆ หรือเป็นข่าวปลอมที่พรรคเส้าหลินสร้างมาปิดบังคนอื่น

คัมภีร์ดรุณีหยกก็ไม่ด้อยไปกว่าคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นของเส้าหลิน เพียงแค่คำว่าดรุณีหยกก็ทำให้ตั้งแต่ยุคของอาจารย์บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งวิชานั้นเป็นต้นมามีกฎของพรรคว่าจะรับแต่ลูกศิษย์หญิง หากต้องการฝึกฝนคัมภีร์ดรุณีหยก ไม่เพียงแต่จะต้องเป็นลูกศิษย์ของพรรคสุสานโบราณเท่านั้น ยังต้องดูคุณสมบัติโดยกำเนิดของคนคนนั้นอีกด้วย ต้องมีเงื่อนไขและความเข้าใจโดยกำเนิด อย่างไรก็ตาม เจ้าสำนักทุกท่านของพรรคสุสานโบราณต่างรับลูกศิษย์ได้เพียงคนเดียวในชั่วชีวิต สั่งสอนถ่ายทอดวิชาของตนทั้งหมดไปให้ และยังต้องส่งต่อคัมภีร์ดรุณีหยกแห้งพรรคสุสานโบราณให้เธออีกด้วย โดยพื้นฐานแล้วลูกศิษย์ของพรรคนี้จะกลายเป็นเจ้าสำนักคนต่อไป ในตอนที่เจ้าสำนักตายไปแล้วก็จะขึ้นรับตำแหน่ง ดังนั้นเมื่ออาจารย์ของตงฟางเมิ่งตาย เธอก็จะกลายเป็นเจ้าสำนักพรรคสุสานโบราณคนใหม่ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทั่วทั้งพรรคสุสานโบราณมีเพียงตงฟางเมิ่งคนเดียวเท่านั้น เธอก็คือเจ้าสำนักของตัวเอง

พรรคสุสานโบราณเป็นพรรคที่ลึกลับเป็นอย่างมาก แต่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิด คนของพวกเธอล้วนใช้ชีวิตอยู่ในพรรคสุสานโบราณ ดังนั้นที่มาของชื่อพรรคสุสานโบราณนี้สืบเนื่องจากผู้ก่อตั้งพรรคสุสานโบราณตกลงไปในสุสานโบราณแห่งหนึ่งโดยบังเอิญ และได้รับสืบทอดวรยุทธมา จึงก่อตั้งพรรคสุสานโบราณขึ้นโดยใช้คำว่าสุสานโบราณเป็นชื่อพรรค ต่อมาจึงคิดค้นคัมภีร์ดรุณีหยกซึ่งเป็นวิธีฝึกฝนพลังภายในที่ร้ายกาจเทียบเท่าคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นของเส้าหลิน ชื่อเสียงของพรรคสุสานโบราณจึงยิ่งใหญ่สะท้านฟ้า ส่วนพรรคสุสานโบราณตั้งอยู่ที่ไหนนั้น นี่ก็ยังไม่มีผู้ใดรู้ กระทั่งพรรคเทียนซู่ฉีที่เทียนซวงเอ๋อร์สังกัดอยู่ก็ไม่รู้ที่ตั้งของพรรคสุสานโบราณ และสืบหามาเนิ่นนานแล้ว

“การประลองของพวกเราทั้งสี่คนในวันนี้ เป็นตายแล้วแต่โชคชะตา ดูซิว่าใครจะเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด!” เทียนซวงเอ๋อร์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสยังคงหน้าไม่เปลี่ยนสี ฝืนโคจรพลังภายในเตรียมต่อสู้

“เมื่อเป็นการต่อสู้ของพวกเราทั้งสี่คนแล้วจะขาดฉันไปได้ยังไง?” เซี่ยอวี่เหอกล่าว ในมือทั้งสองปรากฏมีดบินขึ้น

ชิงเฉิงเยว่มองเซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์ พูดอย่างเย็นชาว่า “พวกเธอสองคนมีชีวิตอยู่ให้นานอีกหน่อยเถอะ บาดเจ็บจนถึงขั้นนี้แล้ว หากฉันต้องการฆ่าพวกเธอก็ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ ไม่ต้องรีบร้อนไป ตอนฉันมาท่านอาจารย์บอกแล้วว่าต้องฆ่าพวกเธอทั้งสามคนให้หมด ใช้ชีวิตของพวกเธอทำให้ชื่อเสียงของพรรคสระหยกของพวกเราสั่นสะเทือนยุทธภพอีกครั้ง!”

เมื่อได้ยินคำพูดของชิงเฉิงเยว่ เทียนซวงเอ๋อร์และตงฟางเมิ่งต่างขมวดคิ้ว นี่มันไม่เห็นพวกเธออยู่ในสายตาโดยสิ้นเชิง ดังนั้นในใจของพวกเธอจะไม่โกรธได้อย่างไร พวกเธอเป็นลูกศิษย์ของพรรควรยุทธโบราณทั้งนั้น เห็นชื่อเสียงของพรรคสำคัญกว่าชีวิตของตน ต่อให้คนตายก็ไม่อาจทำให้ชื่อเสียงของพรรคถูกทำลายได้ ตอนนี้ชิงเฉิงเยว่ไม่เห็นพวกเธออยู่ในสายตาก็เหมือนกับไม่เห็นพรรคมีดบินและพรรคเทียนซู่ฉีอยู่ในสายตาเช่นกัน พวกเธอจะไม่โกรธได้อย่างไร

“พวกเธอสองคนได้รับบาดเจ็บไปแล้ว ฉันคิดว่าเธอคงไม่ใช้โอกาสนี้ฆ่าพวกเธอหรอนะ ต่อไปเป็นการต่อสู้ระหว่างฉันกับเธอ!” ตงฟางเมิ่งมองชิงเฉิงเยว่แล้วพูดขึ้นอย่างเย็นชา

“พรรคสุสานโบราณเหลือเธอแค่คนเดียว ฉันไม่อยากฆ่าเธอ ไม่อยากทำลานล้างผรรคสุสานโบราณแบบนี้!” ชิงเฉิงเยว่เองก็มองตงฟางเมิ่งอย่างเย็นชาแล้วพูดขึ้น

ชั่วขณะนั้น ตงฟางเมิ่งไม่ได้พูดอะไรอีก ชิงเฉิงเยว่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเช่นกัน ผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสองคนยืนเผชิญหน้ากันเช่นนั้น บรรยากาศอันไร้รูปลักษณ์ปะทุอยู่ระหว่างคนทั้งสอง ทำให้เซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์ตกตะลึงจนหยุดฝีเท้าลง ส่วนเย่เทียนเฉินที่แอบมองทุกสิ่งทุกอย่างอยู่บนต้นไม้ก็ขมวดคิ้ว สี่สุดยอดสาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณ ถ้าไม่สู้กันก็ไม่รู้ว่าใครแข็งแกร่งกว่าใคร แต่ตอนนี้ อย่างน้อยผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสองคนก็คือชิงเฉิงเยว่และตงฟางเมิ่ง ผู้หญิงสองคนนี้เอาจริงเอาจังขึ้นมาแล้วจริงๆ พวกเธอยังไม่ได้ลงมือ แต่บนร่างมีลมปราณที่แข็งแกร่งปะทุออกมาแล้ว ทำให้ผู้คนตื่นตะลึงยิ่งนัก กระทั่งเย่เทียนเฉินก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ ผู้หญิงสองคนนี้แข็งแกร่งจนยากจะเชื่อจริงๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+