ความจริงเรื่องของสามเหลี่ยมอันตราย เจอมาเยอะแล้วใน
การวินิจฉัยโรค!
การติดเชื้อที่อาจเกิดจากการบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ เป็นสิ่งที่ไม่
มีใครคาดคิด
ผู้ป่วยจำ นวนมากที่มีอาการบาดเจ็บภายนอก ถึงขั้นไม่
มาโรงพยาบาลด้วยซ้ำ เพียงไปทำแผลที่คลินิกเล็กๆ ดังนั้นการ
เพิกเฉยที่มากขึ้นเรื่อยๆ จึงนำไปสู่ปัญหาใหญ่
เฉินชางเห็นเด็กสาวร้องไห้ปลอบใจแม่ไป ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร
ดี
ทุกคนอาจทำด้วยเจตนาดี แต่ในชีวิตประจำ วันการทำสิ่งไม่ดี
ด้วยเจตนาดียังคงเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า
นี่คือการขาดความรู้ทางการแพทย์ และยังเป็นการแสดงถึง
การประชาสัมพันธ์ที่ไม่เพียงพออีกด้วยหลายคนอาจจะไม่รู้ว่าสามเหลี่ยมอันตรายบนใบหน้าอยู่
ตรงไหน
ความจริงก็คือจุดกึ่งกลางของเส้นที่เชื่อมระหว่างดวงตากับ
ขอบบนของมุมปากทั้งสองจุด จุดทั้งสามนี้เชื่อมต่อกันเป็น
รูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว
บริเวณนี้ก็คือสามเหลี่ยมอันตรายของใบหน้า
หากมีการติดเชื้อบริเวณเขตสามเหลี่ยมของใบหน้า จะเกิด
ลิ่มเลือดได้ง่าย ทำให้เลือดดำไหลย้อนไปยังหลอดเลือดดำบน
เบ้าตา หรือการอักเสบที่ใบหน้าลุกลามไปยังสมองโดยตรง
ส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ
เพราะฉะนั้นควรใส่ใจในการปกป้อง ‘เขตสามเหลี่ยม’ และอย่า
บีบ กด นวด หรือเกา ‘สามเหลี่ยมอันตราย’
การอักเสบเรื้อรังของช่องจมูกส่วนหน้าต้องรักษาอย่าง
กระตือรือร้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องเลิกความเคยชินต่างๆ ที่
ส่งผลเสียทว่าตอนนี้ ในที่สุดก็เจอสาเหตุอาการของเด็กสาวแล้ว
หลังจากเฉินชางกล่าวเตือนก็เดินออกไป
จู่ๆ ก็ได้ยินภารกิจจากระบบ
[ติ๊ง! ช่วยเหลือเด็กหญิงในการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้า หากรับ
ภารกิจ จะได้รับรางวัลดังต่อไปนี้ชั่วคราว: ทักษะซ่อมจมูก (ระดับ
ปรมาจารย์) เมื่อสำ เร็จภารกิจจะได้รับชั่วนิรันดร์]
เฉินชางผิดคาดเล็กน้อย
ความจริงเฉินชางยังไม่เคยลองการศัลยกรรมโครงสร้างจมูก
และนี่ก็คือเหตุผลที่เฉินชางไม่ได้เสนอตัว
อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดเสริมจมูกยังเกี่ยวข้องกับความรู้
เฉพาะทางมากมาย ไม่ได้เป็นเพียงวิธีการเสริมความงามเท่านั้น ใน
หลายกรณีล้วนเป็นการผ่าตัดเชิงรักษา
สำ หรับผู้ป่วยแผลไฟไหม้จำ นวนมาก การรักษาโพรงหลังจมูก
เป็นปัญหาใหญ่มาโดยตลอด!
ยิ่งไปกว่านั้น การวินิจฉัยมักเจอผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บทางจมูก
ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างมืออาชีพได้รับภารกิจแบบนี้ เฉินชางไม่ลังเลเลยสักนิด คลิกยอมรับ
ทันที
ถึงอย่างไรรางวัลภารกิจระบบแบบนี้ก็ยากจะได้รับ!
ตอนนี้เอง ชายหนุ่มเห็นภรรยาและลูกร้องไห้ขนาดนี้ ก็อด
ถอนหายใจไม่ได้ “เอาเถอะครับ ไม่เป็นไรๆ เรื่องมันผ่านไปแล้ว!
ที่รัก ไม่ร้องนะครับ เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว เราพยายามแก้ไขก็พอ อย่า
โทษตัวเองเลย!”
ได้ยินคำปลอบใจของสามี ตอนนี้ภายในใจของหยางชิงยิ่ง
ประหม่ากว่าเดิม ทุกครั้งที่คิดได้ว่าเพราะเธอทำให้ลูกสาวต้องเสีย
จมูกไป เธอก็รู้สึกปวดใจขึ้นมา
บางที นี่อาจจะเป็นปมในใจที่เธอก้าวข้ามไปไม่ได้ทั้งชีวิต
คิดถึงตรงนี้ หยางชิงสาบานว่า แม้ต้องหมดตัว ก็ต้องรักษา
ลูกสาวให้หาย!
ให้กลับมาสวยเหมือนเดิม!
ชายหนุ่มจึงพูดว่า “ผมให้พ่อไปขอความช่วยเหลือจากหัวหน้า
แล้ว หลังจากเล่าสถานการณ์ วันนี้จะไปหากงไต้เจินหัวหน้าแผนกศัลยกรรมของวิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยนด้วยตัวเอง เธอเป็น
รองประธานสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งชาติ!”
ได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม หยางชิงรีบถามว่า “เธอว่าอย่างไร
คะ”
ตอนนี้เอง หยางเจี๋ยเองก็เดินเข้ามา สีหน้าดูเสียใจเล็กน้อย
“พี่สาว ในวงการของเรามีแต่หมอวินิจฉัย ฉันสืบมาตั้งนานยังไม่เจอ
หมอศัลยกรรมตกแต่งเก่งๆ เลยค่ะ คลินิกข้างทางฉันก็ไม่ไว้ใจ ที่
มืออาชีพก็หายาก”
หยางชิงปลอบใจ “เห็นว่าพี่เขยคุณไปหากงไต้เจินรองประธาน
สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งชาติ! ประธานกงว่าอย่างไรบ้าง”
ชายหนุ่มถอนหายใจ “หลังจากประธานกงดูแล้วคิดว่า ถ้า
จะตอบสนองความสมบูรณ์ของโครงสร้างย่อยง่ายมาก แต่ยากที่จะ
ตอบสนองความเป็นหนึ่งเดียวกันของสรีรวิทยาและโครงสร้าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้เด็กยังคงเติบโตและพัฒนา ทำให้ยิ่งยาก!
เธอบอกว่าจะพยายามช่วยสืบหาคนที่ทำได้ แต่ประธานกงบอกว่าเธอรู้จักหมอที่ได้รับรางวัลศัลยกรรมตกแต่งระดับโลกปีที่แล้ว
จะติดต่อเพื่อถามเขาว่ามีวิธีอะไรที่ช่วยได้ไหม”
ทุกคนได้ยินแล้วก็ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที!
หมอศัลยกรรมตกแต่งระดับชาติ ใช่ว่าคนทั่วไปจะเชิญมาได้
ถ้าได้รับความช่วยเหลือจากเขาจริงๆ บางทีลูกสาวอาจจะหาย
เป็นปกติได้
“สามีคะ คุณบอกประธานกงไว้หน่อยว่า ไม่ว่าต้องใช้เงิน
เท่าไหร่ก็จะรักษา!”
ครอบครัวสามีของหยางชิงฐานะดี ความจริงก็ไม่ได้ร่ำรวย
ขนาดนั้น แต่อยู่ในเมืองหลวงมาหลายชั่วอายุคน บรรพบุรุษทิ้งบ้าน
ไว้หลายหลัง
ชายหนุ่มพยักหน้า “ผมบอกแล้วครับ ประธานกงให้เรารอ
ฟังข่าว”
พูดจบ ทุกคนก็เงียบไป
ตอนนี้เอง จู่ๆ โทรศัพท์ของเฉินชางก็ดังขึ้น
เฉินชางเห็นว่าเป็นสายจากกงไต้เจินก็ชะงักไปทันทีคงไม่บังเอิญขนาดนี้มั้ง หรือพวกเขาไปหากงไต้เจิน
ก่อนหน้านี้กงไต้เจินเคยเจอเฉินชางอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนที่อยู่เมือง
อันหยางก็มาดูเฉินชางผ่าตัดด้วยตัวเอง ภาพจำ ที่เฉินชางมีต่อเธอ
ไม่เลวเลย และเธอยังเป็นผู้อาวุโสของวงการศัลยกรรมตกแต่ง
ระดับชาติอีกด้วย
เฉินชางเดินออกไปรับโทรศัพท์ “สวัสดีครับประธานกง”
กงไต้เจินได้ยินคำพูดของเฉินชางแล้วอดขำไม่ได้ “ไม่ต้อง
ห่างเหินขนาดนั้นครับ คุณเรียกฉันว่าประธานกง ฉันรู้สึกแปลกๆ
จริงสิ เสี่ยวเฉิน ตอนนี้คุณไม่ได้อยู่ที่อันหยางแล้วเหรอคะ ฉันโทรหา
หัวหน้าฉินเสียง เขาบอกว่าคุณไปฝึกงานที่เมืองหลวง”
เฉินชางพยักหน้า “อืม ผมมาตั้งแต่หลังตรุษจีนแล้วครับ
ตอนนี้ฝึกงานอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์ฉุกเฉิน”
กงไต้เจินได้ยินแล้วดีใจขึ้นมาทันที “ดีมากเลยค่ะ! อยู่ใกล้กัน
มาก ฉันอยากแลกเปลี่ยนความรู้กับคุณมาตั้งนานแล้ว แต่ติดที่อยู่
ไกลกันเกินไป ตอนนี้มีโอกาสแล้ว! ที่โทรหาคุณวันนี้เพราะมีเรื่อง
จะปรึกษาค่ะ เมื่อหลายวันก่อนมีเพื่อนคนหนึ่งมาขอความช่วยเหลือบอกว่ามีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งติดเชื้อที่จมูก…ตอนนี้ต้องศัลยกรรม แต่
การผ่าตัดครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การศัลยกรรมตกแต่ง คุณก็รู้ว่าจมูก
เป็นอวัยวะทางเดินหายใจ มีหน้าที่ทางสรีรวิทยาที่สำ คัญมาก ดังนั้น
การผ่าตัดจึงค่อนข้างยาก ฉันอยากถามคุณว่าพอจะมีเวลาไปเยี่ยม
คนไข้ไหม คนไข้ตัวน้อยคนนี้น่าสงสารจริงๆ อายุแค่สิบเอ็ดขวบ ฉัน
เองก็จนปัญญา ถึงได้คิดถึงคุณ ถือว่าช่วยฉันเถอะนะคะ”
กงไต้เจินไม่ได้คิดด้วยซ้ำ ว่าเฉินชางจะทำเป็นไหม ในสายตา
ของเธอ เฉินชางได้แชมป์หมอศัลยกรรมตกแต่งระดับโลก ความสา
มารถนั้นไม่ต้องสงสัย
ประเด็นคือเฉินชางจะยอมทำหรือไม่
เพราะฉะนั้น กงไต้เจินเองก็นอบน้อมขึ้น หวังว่าเฉินชาง
จะตอบรับ
ถ้าคนอื่นได้ยินเข้า จะต้องอึ้งจนพูดไม่ออกแน่ ถึงอย่างไร
ประธานกงไต้เจินก็เป็นถึงรองประธานสมาคมศัลยกรรมตกแต่ง
แห่งชาติ ท่าทีนอบน้อมแบบนี้ ยากจะได้เห็น!
เฉินชางอดหัวเราะไม่ได้ “คนไข้ชื่อจ้าวซือหานใช่ไหมครับ”ได้ยินคำพูดนี้ กงไต้เจินอึ้งไปทันที “คุณรู้ได้อย่างไรคะ คนไข้
ไปหาคุณแล้วเหรอคะ”
เฉินชางยิ้ม เล่าเรื่องราวทั้งหมด กงไต้เจินได้แต่อุทานว่าโลก
กลม