เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอบทที่ 842 เหล่าอวี๋เมตตาและใจอ่อนเกินไป!
ได้ยินคำพูดของเฉินชาง กงไต้เจินเกือบหัวเราะออกมา
“เด็กสาวคนนี้โชคดีจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอคุณ แต่…เสี่ยวเฉิน
การผ่าตัดของเธอ คุณสะดวกไหมคะ”
เฉินชางอดนึกขำไม่ได้ รับภารกิจมาแล้ว รางวัลก็รับ
มาล่วงหน้าแล้ว มีหรือที่จะไม่ตอบตกลง อีกอย่าง รางวัล
หลากหลายขนาดนั้น แน่นอนว่าเฉินชางทำใจปฏิเสธไม่ได้
“อืม เรื่องการผ่าตัดไม่มีปัญหาครับ แต่…ผมไม่ค่อยเข้าใจ
ระบบศัลยกรรมตกแต่งของเมืองหลวง รบกวนประธานกงจัดการให้
ด้วยนะครับ” เฉินชางพูดแบบนี้ดูเหมือนพูดตามความเป็นจริง แต่
ความจริงก็เป็นการไว้หน้ากงไต้เจิน
กงไต้เจินได้ยินแล้ว มีหรือที่จะไม่เข้าใจความหมายของเฉิน
ชาง จึงรู้สึกดีกับเฉินชางมากขึ้นกว่าเดิมกงไต้เจินดีใจขึ้นมาทันที พลันยิ้มแล้วตอบว่า “ได้สิคะ เสี่ยว
เฉิน คุณไม่ต้องเป็นห่วงเลยค่ะ ระบบศัลกรรมตกแต่งของเมืองหลวง
ฉันรู้ดีกว่าใครค่ะ และฉันก็มีคลินิกศัลยกรรมตกแต่งในเมืองหลวง
ด้วย ถ้าคุณมีเวลามาเยี่ยมชมสักหน่อยนะคะ ขอบคุณมากนะคะ
เสี่ยวเฉิน! รบกวนคุณด้วยนะคะ”
กงไต้เจินวางสายไป ดีใจอยู่นาน
เฉินชางมาเมืองหลวง และเธอก็ติดต่อเขาได้แล้ว นี่ถือ
เป็นเรื่องดีสำ หรับกงไต้เจิน
กงไต้เจินเป็นหัวหน้าแผกศัลยกรรมตกแต่งของโรงพยาบาล
ในเครือวิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยน แน่นอนว่าจะต้องมีอำนาจ
ในมือ!
ทว่ามนุษย์ล้วนมีความเห็นแก่ตัว โดยเฉพาะในวงการด้าน
ความงาม ทำงานที่โรงพยาบาลจะได้เงินสักเท่าไรเชียว
เมื่อถึงระดับอย่างกงไต้เจิน ถ้าเงินน้อยไปเธอก็ไม่สนใจหรอก
นะคนไข้ของเธอ ล้วนเป็นคนไข้ระดับ VIP คลินิกของเธอ
ไม่ใช่ระบบการนัดหมายทั่วไป จะนัดได้ก็ต่อเมื่อเพื่อนแนะนำมา
เท่านั้น และโดยปกติแล้วปิดทำการไว้ก็ไม่เป็นไร
กงไต้เจินมีโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเอกชนในเมืองหลวง
โดยตัวเธอเองเป็นผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ยังมีคลินิกแห่งหนึ่งไว้สำ หรับ
คนไข้กลุ่มพิเศษโดยมีเธอเป็นหมอเอง
และโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งนี้ ความจริงจัดตั้งขึ้นเพื่อ
อำนวยความสะดวกในการดำเนินงานของคลินิก
กงไต้เจินกำลังคิดว่า ถ้าดึงเฉินชางมาอยู่ในทีมคลินิกของเธอ
ได้ มันจะดีแค่ไหน
เงินหรือ ถึงอย่างไรกงไต้เจินก็ไม่ได้ให้ความสำ คัญกับสิ่งนี้มาก
นัก
แต่ต้องการสานสัมพันธ์ ทรัพยากรพวกนี้ต่างหาก
คิดถึงตรงนี้ กงไต้เจินคาดหวังขึ้นมาเล็กน้อย!
……
……เฉินชางไม่ได้บอกพวกจางชิงว่าเขาเป็นหมอศัลยกรรมตกแต่ง
เขารู้ว่ากงไต้เจินจะบอกเอง
หลังจากรู้ว่าคนไข้คือเด็กผู้หญิงคนนี้ เฉินชางเองก็มั่นใจแล้ว
หลังจากเฉินชางแก้คำสั่งแพทย์ให้เด็กหญิง ก็ลดปริมาณแวน
โคมัยซิน[1]ลง
หลังจากกลับห้องสังเกตอาการ ครอบครัวของหยางชิงต่างอึ้ง
งันไป
ถ้าไม่ใช่เพราะกงไต้เจินบอกด้วยตัวเอง ใครจะคิดว่าคนหนุ่ม
ที่อยู่ตรงหน้าเป็นถึงหมอศัลยกรรมระดับโลก
นี่คือสิ่งที่พวกเขาคิดไม่ถึงอย่างแน่นอน!
ในสายตาของหยางชิงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “หมอเฉิน
ขอบคุณนะคะ! คุณช่างเป็นคนดี!”
ชายหนุ่มมองเฉินชางแล้วเข้าไปจับมือ “หมอเฉิน รบกวนด้วย
นะครับ”
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ “คุณก็เห็นแล้ว ลูกยังเล็ก พ่อแม่อย่าง
เราก็อยากให้ซือหานเติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรง!”เฉินชางพยักหน้า “อืม ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ช่วงพักรักษาตัว
เราควบคุมการติดเชื้อของคนไข้ให้ได้ก่อน เรื่องพวกนั้นหลังจาก
ออกจากโรงพยาบาลค่อยว่ากัน”
ชายหนุ่มลังเลอยู่นานแล้ว สุดท้ายก็อดถามไม่ได้ “หมอเฉิน
ครับ คุณคิดว่า ซือหานจะหายได้กี่เปอร์เซ็นต์ครับ”
เฉินชางลังเลครู่หนึ่ง ความจริงจากสถานการณ์ของเด็กหญิง
มีการซ่อมแซมตัวเอง หลักๆ คือการซ่อมแซมกระดูกอ่อนจมูก ส่วน
ผิวหนังและเยื่อบุจมูกจำ เป็นต้องได้รับการฟื้นฟูในระดับหนึ่ง
หลังจากพิจารณาครู่หนึ่ง เฉินชางจึงพูดว่า “ถ้าเป็นภายนอก
การฟื้นตัวค่อนข้างง่าย แต่ในแง่ของการทำงานทางกายภาพ
ถึงตอนนั้นมาดูกันว่าการฟื้นตัวของเธอเป็นอย่างไรบ้าง จากนั้นเรา
ค่อยหาวิธี
ได้ยินเฉินชางพูดแบบนี้ ในที่สุดชายหนุ่มก็โล่งอกไปที
สถานการณ์ในตอนนี้ อาจเป็นปมในใจของลูกไปทั้งชีวิต เพื่อ
ไม่ให้ลูกตกใจ พวกเขาไม่ให้เธอส่องกระจกมาพักใหญ่แล้วหลังจากนั้นเฉินชางจึงอธิบายอาการและข้อควรระวังก่อน
จะจากไป
เฉินชางไม่อยากคุยเรื่องพวกนี้ในห้องผู้ป่วย แม้ไม่เป็นไร แต่
ถ้าคนที่เจตนาไม่ดีได้ยินเขาก็ถือว่ายุ่งยาก
หยางชิงและสามีต่างเข้าใจเรื่องพวกนี้!
เมื่อครู่นี้ตอนโทรศัพท์ กงไต้เจินเองก็ได้บอกอย่างชัดเจนแล้ว
ว่า อยู่ที่โรงพยาบาลอย่าป่าวประกาศเรื่องนี้ หมอเฉินเป็นคนที่
ค่อนข้างเก็บตัว!
แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เฉินชาง
จากสถานการณ์ของจ้าวซือหานยังผ่าตัดเร็วๆ นี้ไม่ได้ ต้องรอ
ให้การติดเชื้อหายดีก่อนค่อยว่ากัน
อย่างน้อยก็ต้องครึ่งเดือน หรืออาจจะหนึ่งเดือน
……
……
ตอนกลางคืน เฉินชางเป็นเวรดึก ตอนแรกเตรียมจะสั่งเดลิเวอ
รี่ จู่ๆ หยางเจี๋ยก็เอามื้อดึกมาให้“หมอเฉิน ขอบคุณนะคะ!” หยางเจี๋ยเหมือนจะรู้เรื่องนี้แล้ว แต่
ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ลุกขึ้นจากไป
เฉินชางเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ
หม่าเยว่ฮุยเองก็เป็นเวรดึก ถือข้าวกล่องเดินเข้ามา หลังจาก
เห็นอาหารอันหรูหราของเฉินชางก็ตาเป็นประกาย!
“เสี่ยวเฉิน ดึกขนาดนี้ คุณกินเนื้อเยอะขนาดนี้ไม่ได้นะ มา เรา
กินด้วยกัน คุณกินผัดถั่วแล้วก็ผัดผักของผม ไม่ต้องเกรงใจ”
ระหว่างที่พูด หม่าเยว่ฮุยคีบผัดถั่วและผัดผักของตนไปไว้ใน
ข้าวกล่องของเฉินชางอย่างใจกว้าง
จากนั้นคีบกุ้งของเฉินชางขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติ “อืม กุ้งนี่
จืดไปหน่อย! เอ๊ะ เนื้อวัวนี้…เนื้อวัวนี้ไม่เลวเลย!”
เฉินชางเห็นว่าเนื้อของตนเองโดนแย่งไป สีหน้าพลันเปลี่ยนไป
รีบลงมือ!
แต่…
เขาดูถูกความไวในการกินข้าวของหม่าเยว่ฮุยผู้เคยอยู่ใน
โรงพยาบาลกองทัพเกินไปจริงๆ!มื้อนี้ เฉินชางเสียเปรียบ!
หม่าเยว่ฮุยคลี่ยิ้ม “เฮ้อ คุณดูสิ ผมมีกับข้าวสองอย่าง คุณ
มีกับข้าวสองอย่าง เรากินด้วยกัน ก็กลายเป็นคนหนึ่งได้กินกับข้าว
สี่อย่างแล้ว!”
เฉินชางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้!
ควรบอกว่าผมมีเนื้อสองอย่างและมังสวิรัติหนึ่งอย่าง คุณมี
มังสวิรัติสองอย่าง เราแบ่งปันกัน กลายเป็นว่าคุณมีเนื้อสัตว์สอง
อย่างและมังสวิรัติสองอย่าง ส่วนผมเหลือมังสวิรัติอย่างเดียว!
ช่างเถอะ ผัดถั่วก็อร่อยดี กินๆ ไปเถอะ ถึงอย่างไรก็ดีกว่าทน
หิว
กินเสร็จ เหล่าหม่าหยิบกาแฟออกจากตู้มาสองแก้ว โยนให้
เฉินชาง “เก็บไว้กินกลางคืนนะครับ เราอยู่เวรดึก ไม่ได้พักหรอกนะ”
เฉินชางพยักหน้า พร้อมพูดว่า “ขอบคุณครับ!”
ดูเหมือนว่า หัวหน้าทีมหม่าจะเป็นคนดีทีเดียว อย่างน้อย
กาแฟสองแก้วนี้ก็นำเข้าจากเมืองนอก ดูจากบรรจุภัณฑ์ราคาน่าจะ
แพงมาก!เฉินชางคิดถึงตรงนี้ ตัดสินใจให้อภัยเขา
อย่าน้อยหัวหน้าทีมหม่าก็จิตใจดี!
เฉินชางนั่งบนเก้าอี้ ดื่มกาแฟเพื่อช่วยย่อยอาหาร
อวี๋หย่งกังเดินเข้ามา เห็นได้ชัดว่าเพิ่งผ่าตัดเสร็จ พึมพำว่า
“กาแฟผมหายไปไหนเนี่ย แม่งเอ๊ย ผมเพิ่งซื้อมาจากเมืองนอก ทำไม
ในตู้เหลือแค่นี้แล้ว”
เหล่าอวี๋คิดไม่ตกจริงๆ ทำไมตนดื่มกาแฟหมดไวขนาดนี้
เฉินชางสีหน้าเปลี่ยนไปทันที รีบซ่อนแก้วกาแฟใน
กระเป๋ากางเกง ลุกขึ้นเดินออกไป!
ตอนนี้เองจู่ๆ เขาก็นึกได้ว่า
ตู้ที่เมื่อครู่นี้หม่าเยว่ฮุยเปิด เหมือนจะเป็นตู้ของ…หัวหน้าอวี๋
หย่งกัง!
เฉินชางมองหม่าเยว่ฮุยที่แสร้งทำเป็นหยิบหนังสือขึ้นมา แล้
วอดขบเขี้ยวเคี้ยวฟันไม่ได้ ถึงว่าใจดีขนาดนั้น ที่แท้ก็จะให้ผมเป็น
แพะรับบาป!
ผมคิดว่าคุณจะคิดได้แล้วเสียอีกคิดถึงตรงนี้ เฉินชางโกรธจนหนังหัวชาวาบ เดินช้ามาก กลัวว่า
กาแฟจะกระเซ็นออกมา
ถึงว่าหัวหน้าหม่าไม่ดื่มตอนนี้ เก็บไว้ดื่มตอนกลางคืน!
หัวหน้าหม่านะ หัวหน้าหม่า จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกว่าเหล่าอวี๋
เมตตาเกินไป
ที่เขามีชีวิตอยู่ถึงวันนี้ได้ ล้วนเพราะความเมตตาของเหล่าอวี๋
[1] แวนโคมัยซิน คือยาปฏิชีวนะ สำ หรับรักษาการติดเชื้อจาก
แบคทีเรีย อาทิ การติดเชื้อบนผิวหนัง ในกระแสเลือด ในกระดูก ใน
ข้อต่อ
Comments