เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอบทที่ 890 ฉันอยากนอนเพื่อความงาม
เฉินชางพลันผงะไป!
“ความลับอะไรครับ”
ฉินเยว่ยิ้มเอ่ย “ฉันค้นพบว่าช่วงนี้ผิวฉันดีขึ้นมาก หน้า
เปล่งปลั่งมีเลือดฝาด!”
เฉินชางอึ้งไป หมดคำพูดเล็กน้อย “คุณดูดพลังหยางจากผม
ไปเสริมพลังหยินคุณนี่! คุณดูผิวผมสิ…”
เฉินชางจนใจ
ฉินเยว่มองดู ทันใดนั้นก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก “ที่แท้สิวร้อนในบน
จมูกคุณก็หายไปแล้ว หยินหยางสมดุลนี่คุณ!”
พออยู่ด้วยกันนานเข้า ภรรยาตัวน้อยก็ยิ่งพูดตามใจปาก
ฉินเยว่รู้สึกว่าแบบนี้สิถึงเป็นการใช้ชีวิต
เธอพลันพูดขึ้นว่า “ฉันเห็นหน้ารุ่นพี่ จุ๊ๆ สีหน้าอึมครึม หยิน
หยางเสียสมดุล!ดูปราดเดียวก็รู้ว่าต่อมไร้ท่อไม่สมดุล เพราะงั้น พอคิดแบบนี้
จู่ๆ ก็รู้สึกว่าความจริงเรื่องนั้นมีประโยชน์กว่าทำหัตถการเสริมสวย
อีก
ฉันว่ารอคลอดลูกแล้วคุณต้องมาช่วยฉันปรับสมดุลดีๆ…”
เฉินชางหมดคำพูดแล้ว มาเป็นบ้าอะไรเอากลางดึก
จะว่าไป ผมขับรถอยู่นะ
ยิงมุกทะลึ่งไวกว่าผมขับรถอีก…
เฉินชางปรับท่านั่งเพื่อไม่ให้ประเจิดประเจ้อเกินไป
ระหว่างที่คุยกัน ฉินเยว่ก็เอ่ยว่า “จริงด้วย พัสดุมาแล้ว คุณ
ช่วยไปเอาให้ฉันหรือยัง”
เฉินชางพยักหน้า “เอามาแล้ว อะไรน่ะ”
ฉินเยว่กลอกตาใส่เฉินชาง “อะไรน่ะเหรอ คุณยังพูดมาได้ ก็
ถุงน่องฉันโดนคุณฉีกไปแล้ว…ฉันไม่ต้องซื้อคู่ใหม่หรือไง”
เฉินชางได้ยินแล้วดีใจขึ้นมาทันที!
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง ซื้อเยอะหน่อยก็ได้ ถุงน่องน่ะเป็นวัสดุ
สิ้นเปลือง จะขาดก็เรื่องปกติ…ฮ่าๆ เดี๋ยวมาเบิกกับสามีคนนี้เอา…จริงด้วย อยากได้เสื้อผ้าพิเศษๆ ไหม”
……
……
วันรุ่งขึ้น ฟ้าเพิ่งสาง ทันทีที่ฉินเยว่ลืมตาก็ยื่นมือไปคลำหา
โทรศัพท์ตามสัญชาตญาณ คลำไปคลำมา…เอ๊ะ? นี่อะไรน่ะ
คราวนี้เธอเริ่มสงสัย จึงยกมือไปแตะๆ ดูแล้วก็ชะงักไปทันที
ที่แท้นอนอยู่ก็ยังตอบสนองได้หรือ!
ทันทีที่ฉินเยว่จะศึกษาเพราะความสงสัยในฐานะนักศึกษา
แพทย์และความอยากพิสูจน์ทางการแพทย์ จู่ๆ ก็รู้สึกได้ว่าเฉิน
ชางขยับตัว จึงรีบหลับตาแสร้งทำเป็นหลับ
เฉินชางพลิกตัว แขนคลำไปมาจนเจอแขนของฉินเยว่
เขาพูดเสียงเบาว่า “เกาให้ผมทีสิ!”
ฉินเยว่ตกใจ ให้ตายสิ โดนจับได้แล้วหรือ
หัวใจดวงน้อยเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ
แต่ต่อมาเธอก็พบว่าตัวเองเข้าใจผิด เฉินชางเริ่มเอาแขนเธอ
มาเกาหลัง!ฉินเยว่หมดคำพูด “คุณติดแล้วใช่ไหม ฉันไม่ใช่ไม้เกาหลังนะ”
เฉินชางพูดงึมงำ “เร็วหน่อย กระดูกสะบักล่าง ซี่โครงซี่ที่เจ็ด
ใช่ๆๆ…ไล่ไปตามกล้ามเนื้อบริเวณหลังส่วนล่าง โอ๊ย ออกแรงหน่อย
ใช้แรงกล้ามเนื้อระดับสี่…”
ฉินเยว่หมดคำพูด “คุณพูดคร่าวๆ ไม่เป็นใช่ไหม”
เฉินชางพลิกตัวกะทันหัน หาวใส่ฉินเยว่ “ชินแล้ว”
ฉินเยว่หลับตานอนต่อ เมื่อคืนเหนื่อยจริงๆ…ที่แท้ฉีกถุงน่องก็
ออกแรงเยอะเหมือนกัน…
ฉินเยว่นอนไม่หลับ จ้องเฉินชาง ยิ่งมองยิ่งหล่อ มองยังไงก็
หล่อ จึงฟุบพลางยิ้มเอ่ย “ทำไมผู้ชายอย่างคุณถึงหล่อขนาดนี้นะ”
เฉินชางไม่สนใจเธอ
ฉินเยว่ไม่หายหงุดหงิด แหวกปาก ลูบหู บีบจมูก พอเห็นว่าเฉิน
ชางไม่เล่นด้วยจึงเอ่ยขึ้นปุบปับว่า
“คุณสามี คุณชอบฉันตรงไหนเหรอ ฉันยังไม่รู้เลยว่าตัวเองมีดี
อะไร…”คุณบอกว่าฉันก็สวยนิดหน่อย ส่วนสูงกลางๆ สติปัญญา…ก็
ธรรมดา นมก็ธรรมดา…อะไรก็ธรรมดาไปหมด ทำไมคุณถึงชอบฉัน
ขนาดนี้ล่ะ”
ฉินเยว่เล่นมือใหญ่ของเฉินชาง “คุณเป็นโรคชอบของแปลก
เหรอ”
เฉินชางจนใจ ส่ายหัวอยู่ตลอด
แต่ฉินเยว่สู้ไม่ถอย ต้องทำให้เฉินชางพูดสิ่งที่เข้าท่าออกมา
ให้ได้ ที่จริง…ก็คือให้เฉินชางอวยตัวเอง
เสียดายที่ตอนนี้เฉินชางกำลังง่วงจัด ถึงอย่างไรเมื่อคืนคนที่
เหนื่อยก็คือตัวเอง คุณสบายตัวแล้ว แต่ตรงนี้ยังมีโคถึกเหนื่อยอยู่นี่
…
“คุณเป็นโรคชอบของแปลกหรือเปล่า”
พอถูกฉินเยว่ตื๊อแบบนี้ เฉินชางจึงพูดไปส่งๆ ว่า “ใช่ๆๆ คุณ
ภรรยา คุณพูดอะไรก็ถูกหมด! ผมมันเป็นโรคชอบของแปลก…”
ยัยฉินขี้ประจบได้ยินเข้าก็โมโหทันที!
“ตาชั่วเฉิน…เดี๋ยวแม่ฆ่าทิ้งเสียเลย!”พูดจบก็กระโจนไปหาเฉินชาง!
“คุณถึงกับไม่ชอบที่ฉันขี้เหร่…”
พอลงมาทั้งมือเท้า เฉินชางจึงรีบร้องขอชีวิต
“เจ๊จ๋า เจ๊พูดเองนะ จะมาโทษผมไม่ได้…”
ฉินเยว่แค่นหัวเราะ “ฉันบอกว่าตัวเองขี้เหร่ได้ แต่คุณพูดไม่ได้
ถ้าคุณพูดก็คือวอนหาเรื่อง…”
อืม ใช้ชีวิตด้วยกันแฮปปี้กว่าจริงๆ
อิสระไร้ข้อจำ กัด
หลังจากเอะอะมาพักหนึ่ง เสียงวีแชทของเฉินชางก็ดังขึ้น หวัง
หย่งส่งคำเชิญเกมมาให้เฉินชาง
“ชางเอ๋อร์ เล่นเกมไหม”
เฉินชางที่นอนคลุมโปงไม่อยากขยับตัวพยักหน้า “คุณเชิญผม
เหรอ”
หวังหย่งส่งคำเชิญ Game for Peace มาให้
เฉินชางพลิกตัวไปมองฉินเยว่ที่นอนหมอบดูละครอยู่ “คุณ
ภรรยา จอยกันไหม”ฉินเยว่อึ้งไป หันมามองเฉินชาง ดวงตาเต็มไปด้วยความ
ซับซ้อน
“ฉัน…จะคิดๆ ดู!”
เฉินชางหมดคำพูด นี่มีอะไรให้คิด “กำลังจะเริ่มแล้ว ลังเล
อะไร รอคุณอยู่…”
ฉินเยว่ยังรู้สึกรับได้ยากอยู่…
เธอกะพริบตาจ้องเฉินชาง ค่อนข้างเขิน “ต้องจอยกันจริงหรือ”
ตอนนี้เสียงเปิดเกมที่คุ้นหูก็ดังขึ้น เฉินชางอดพูดไม่ได้ว่า
“ถ้าคุณไม่มาผมจะจอยเกมกับหวังหย่งแล้วนะ”
ฉินเยว่ได้ยินคำว่าเกมแล้วเข้าใจแจ่มแจ้ง
ทันใดนั้นก็แก้มแดงเป็นก้นลิง
เฉินชางเห็นดังนั้นจึงหัวเราะร่าขึ้นมาโดยพลัน
“ฮ่าๆๆ…พอได้แล้วมั้งคุณ!”
“ขำจะแย่ ไหนว่ามาสิว่าทั้งวันในหัวน้อยๆ ของคุณคิดอะไรอยู่
!”
ฉินเยว่อายจนโกรธ หยิบหมอนกระโจนใส่เฉินชางอีกครั้ง“ก็เพราะคุณนั่นละ!”
“คุณยังมีหน้ามาพูดอีกหรือ”
“คุณพาฉันเสียคนหมดแล้ว!”
“ฉันจะฆ่าคุณ!”
เฉินชางตกใจสะดุ้งโหยง “เจ๊ไว้ชีวิตผมด้วย ปรานีผมหน่อย
…รีบล็อกอินเร็ว รอคุณอยู่คนเดียว!”
ฉินเยว่จึงรามือแล้วล็อกอินเล่นเกม
หวังหย่งกับหวังเชียนอยู่กันหมด
พอเห็นทั้งสองคนเข้ามาก็ทักทายทันที
พวกเขาสี่คนเป็นรุ่นหนุ่มสาว เข้าโรงพยาบาลรุ่นเดียวกัน
ความสนใจงานอดิเรกโดยทั่วไปก็ไปในทางเดียวกัน
ไปเที่ยวเล่นด้วยกัน ทั้งยังเล่นเกมด้วยกันเป็นครั้งคราว
อย่านึกว่าหมอไม่เล่นเกมเป็นอันขาด ลองพวกเขาเล่นเกมขึ้น
มาแล้วอาจจะตั้งใจเล่นกว่าใคร…
เปิดคอลกลุ่ม
ฉินเยว่ “ตายละๆ ที่รักๆ ช่วยฉันด้วย!”เฉินชาง “ที่รัก รอเดี๋ยว…ที่รัก…อย่าวิ่ง!”
ฉินเยว่ “ที่รัก ฉันซูมให้คุณแปดเท่า!”
ด้านหวังหย่งกับหวังเชียนหมดคำพูด “เจ๊ พวกคุณอยู่ห้อง
เดียวกันจะต้องเปิดไมค์ด้วยหรือ โชว์หวานแบบนี้มันเหมาะหรือไง”
หวังหย่งจะร้องไห้แล้ว “นั่นสิ ใส่ใจความรู้สึกของหมาโสด
หน่อยได้ไหม”
เฉินชางกับฉินเยว่สบตากัน อดหัวเราะร่าออกมาไม่ได้ “โทษที
ๆ พวกเราจงใจน่ะ!”
ประโยคเดียวทำเอาหวังหย่งโมโหเจียนตาย!
หลังจากโหวกเหวกทั้งเช้า ฉินเยว่ก็ปลีกตัวจากเฉินชางไปทำ
อาหารกลางวัน
แต่…
เฉินชางก็รู้ว่าเธอยังไม่สบายใจ
จนตอนนอนกลางวัน ตาคู่โตของฉินเยว่ก็จ้องเฉินชาง “คุณ
สามี ฉันอยากนอนเพื่อความงาม”
เฉินชางหนาววาบขึ้นมาระลอกหนึ่ง…ผู้หญิงวัยสามสิบหื่นอย่างกับหมาป่า
Comments