เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอบทที่ 892 คุณโมเมอาการป่วยใช่ไหม
พอได้ยินคำของหลี่เยว่ เฉินชางก็อึ้งไปทันที
“เด็กห้าขวบคนนั้นหรือ” เฉินชางย้อนถาม “ผมเห็นว่าฟื้นตัว
ได้ดีมากเลยไม่ใช่หรือ”
หลี่เยว่ก็ขมวดคิ้ว เขาดันแว่นตา อดครุ่นคิดไม่ได้ “อืม ผ่าตัด
ราบรื่นมาก!”
ระหว่างการผ่าตัดไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด ปากแผล
ไม่ติดเชื้อ เห็นได้ชัดว่าจู่ๆ เป็นไข้แบบนี้ค่อนข้างผิดปกติ
ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ก็ในตอนนี้เอง จู่ๆ เฉินชางก็ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ:
[ติ๊ง! กระตุ้นภารกิจ กู้หน้าให้หลี่เยว่ หลังจากผ่าตัดสำ เร็จ
จะได้รับทักษะแบบสุ่มของหลี่เยว่หนึ่งอย่าง!]
เฉินชางชะงักไปทันที ดูท่านี่จะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แล้ว…เฉินชางได้สัมผัสความสามารถของหลี่เยว่เป็นอย่างดี ทักษะ
ทางคลินิกแข็งมาก พื้นฐานทฤษฎีแน่นปึ้ก ผู้ชายคนนี้ชอบพก
กระดาษสองสามแผ่นติดกระเป๋าอยู่ทุกที่ทุกเวลา
หลี่เยว่มีนิสัยอ่านบทความวันละฉบับทุกวัน เขาติดนิสัยนี้
มาตั้งแต่เริ่มทำงานจนถึงตอนนี้
และตอนนี้ภารกิจก็แสดงออกมาว่าเป็นปัญหาที่หลี่เยว่ยังแก้
ไม่ได้ นี่ย่อมหมายความว่าไม่ใช่เรื่องเล็ก!
ขณะที่คุยกัน ในที่สุดรถก็จอดสนิทที่หน้าประตูห้องฉุกเฉิน
หลี่เยว่ลุกออกจากรถไป เฉินชางตามหลังไปติดๆ
พยาบาลเสี่ยวเคอเห็นทุกคนแล้วรีบพูดขึ้นว่า “หมอหลี่ หมอ
เฉิน ผู้ป่วยอยู่ที่ห้องฉุกเฉินแล้วค่ะ”
“ระวังหน่อยนะคะ เอ่อ…คุณแม่ของน้องผู้ชายคนนั้นเป็น
นักข่าว คุณพ่อเหมือนจะเป็นทนายความ!” เสี่ยวเคอเตือนอย่าง
ระมัดระวัง
หลี่เยว่พยักหน้า คำพูดนี้ชัดเจนมาก นี่เป็นการบอกเขาว่าอย่า
พูดพล่อยๆพอเข้ามาในห้องฉุกเฉิน เด็กชายก็ติดจอภาพคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
ไว้แล้ว
จางหย่วนกับหยางฮุ่ยทำงานอยู่แล้ว
พอเห็นหลี่เยว่กับเฉินชางเข้ามาก็รีบเอ่ยว่า “อาจารย์หลี่”
ด้านเฮ่อหลันกับชายคนนั้นพอเห็นหลี่เยว่ก็พูดขึ้นอย่างร้อนรน
ว่า “หมอหลี่ ตอนคุณผ่าตัดมีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า”
หลี่เยว่ส่ายหน้า เอ่ยหนักแน่น “ไม่มีอะไรผิดคาดทั้งนั้นครับ
การผ่าตัดราบรื่นดี ยังบันทึกการผ่าตัดไว้อยู่ จะดูเมื่อไรก็ได้ครับ!”
พอได้ยินคำพูดของหลี่เยว่ สองสามีภรรยาเฮ่อหลันก็สบตากัน
“หมอหลี่ พวกเราไม่ได้อยากมาก่อเรื่อง เราร้อนใจกันจริงๆ จู่ๆ ลูกก็
เป็นไข้”
หลี่เยว่พยักหน้า มองเด็กชายที่นอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง
ทั้ง
ร้องไห้ทั้งงอแง เขาหันไปมองเฮ่อหลันผู้เป็นผู้ปกครองแล้วพูดว่า
“อืม คุณพ่อคุณแม่ออกไปนอกห้องฉุกเฉินก่อนนะครับ ถ้ามีเรื่อง
เดี๋ยวผมเรียก ขอตรวจก่อนว่าน้องเป็นอะไร”พอเฮ่อหลันได้ยินเข้า ต่อให้ไม่ค่อยยินดี แต่เห็นสีหน้าหลี่เยว่
จริงจังแบบนี้ก็ต้องออกไป
แต่ชายคนนั้นกลับดึงดัน “ไม่ได้ ถ้าผมไม่รู้สาเหตุ ผมจะ
ไม่ออกไปไหน ผมขออยู่ดูตรงนี้ จะไม่รบกวนการรักษาของพวกคุณ
แต่ผมหวังว่าคุณจะไม่ปกปิดเรื่องอะไรก็ตามกับเรา”
เห็นได้ชัดว่าเขาคิดว่านี่เป็นข้อพิพาททางแพทย์ไปแล้ว เป็น
เพราะความไม่รับผิดชอบของหลี่เยว่ ทำให้อาการป่วยของลูกกำเริบ!
หลี่เยว่เห็นดังนั้นแล้วอดส่ายหัวไม่ได้ ส่วนพยาบาลสองคน
ที่อยู่ที่เคาน์เตอร์พยาบาลแผนกฉุกเฉินก็เริ่มเครียด
หลี่เยว่นิ่ง เขาเดินไปหาผู้ป่วย พูดกับเด็กว่า “หมอขอคลำท้อง
ที ผ่อนคลายหน่อย หมอกดนิดหนึ่ง เจ็บบอกหมอนะ”
เด็กชายถูกหลี่เยว่กดเบาๆ ก็ร้องโอดโอยทันที “เจ็บๆๆ ผม
ทรมานมากเลยครับ ช่วยผมที…”
“ขอล่ะครับ อย่ากดเลย เจ็บจังเลย…”
หลี่เยว่ขมวดคิ้ว เห็นเพียงเขามีอาการปวดท้องอย่างชัดเจน
และมีกล้ามเนื้อท้องเกร็งร่วมด้วย“อุณหภูมิร่างกายเท่าไร”
จางหย่วนตอบ “39.5 องสาเซลเซียส!”
หรือจะเยื่อบุช่องท้องอักเสบ
ความน่าจะเป็นนี้โผล่ขึ้นมาในหัวทุกคน
เฉินชางก็เห็นทุกอย่าง
กดท้องแล้วเจ็บ กล้ามเนื้อท้องเกร็ง กดปล่อยแล้วเจ็บ คลื่นไส้
อาเจียน ไข้สูง!
อาการเยื่อบุช่องท้องระคายเคืองชัดเจนมาก!
นี่แทบจะเข้าข่ายอาการเยื่อบุช่องท้องอักเสบทั้งหมด!
หลี่เยว่เอ่ยถาม “ตรวจนับเม็ดเลือดหรือยัง”
จางหย่วนพยักหน้า “เจาะเลือดไปแล้ว เจาะช่องท้องด้วย เร่ง
ให้ตรวจด่วนทั้งคู่ น่าจะรออีกประมาณสิบนาที”
หลี่เยว่พยักหน้า
ตอนนี้ทุกคนสงสัยมากว่าจะเป็นเยื่อบุช่องท้องอักเสบ
แล้วก็ตอนนี้เอง หยางฮุ่ยก็ยื่นฟิล์มเอกซเรย์มาให้ “เอกซเรย์
ไม่มีอะไรผิดปกติ”หลี่เยว่รับมาดู ไม่มีอากาศรั่ว ไม่มีรูรั่ว ไม่มีการอุดตัน แล้วก็
ไม่มีไส้บิด…
ตอนนี้ปลายหอกทั้งหมดชี้ที่เยื่อบุช่องท้องอักเสบ
ในห้องตกอยู่ในความเงียบเชียบ
ชายที่อยู่ด้านหลังอดถามไม่ได้ “เกิดอะไรขึ้นครับ”
หลี่เยว่เอ่ยนิ่งๆ “รอผลก่อนครับ! ใจเย็นหน่อย”
ชายคนนั้นอ้ำอึ้งทันที “ทำแบบนี้หมายความว่าไง ผมเป็น
ทนายนะ! ระวัง…”
หลี่เยว่ “ผมเป็นหมอ ถ้าเป็นปัญหาที่ผม คุณฟ้องมาได้เลย!”
ประโยคเดียวทำให้สถานการณ์น่ากังวลขึ้นมาทันที
ใครก็ไม่อยากยุ่งกับสื่อหรือทนายความ นั่นก็เพราะพวกเขา
ค่อนข้างละเอียดอ่อน
แต่หลี่เยว่เชื่อมั่นในแผนการรักษาของเขามาก เขาไม่คิดว่า
ตัวเองจะมีปัญหา
“หลังจากพวกคุณออกจากโรงพยาบาลไปแล้วให้ลูกกินอะไร
ได้ดื่มอะไรไหม”เฮ่อหลันสูดหายใจ ต้องการจะคลี่คลายบรรยากาศ “หมอคะ
คุณอย่าโกรธนะคะ สามีฉันกังวลจนร้อนรนไปหน่อย
หลังจากลูกออกจากโรงพยาบาลก็กินอาหารอ่อนๆ ตลอด เป็น
อาหารย่อยง่ายทั้งนั้นค่ะ”
ตอนนี้เอง ผลตรวจก็ออกมาแล้ว!
เซลล์เม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้น มีการติดเชื้อแน่ๆ แต่ผลตรวจน้ำใน
ช่องท้องก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ
ตอนนี้เบาะแสหายไปทันที!
จางหย่วนอดถามขึ้นมาไม่ได้ “อาจารย์หลี่ จะเปิดท้องตรวจ
อีกครั้งไหม”
พอชายคนนั้นที่อยู่ข้างหลังได้ยินเข้าก็พยักหน้าทันที “ผม
สงสัยว่าการผ่าตัดของพวกคุณต้องมีปัญหาแน่!”
ในขณะที่หลี่เยว่นิ่วหน้าครุ่นคิดอยู่นี้เอง จู่ๆ เฉินชางก็ตา
เป็นประกาย “ไม่ใช่เยื่อบุช่องท้องอักเสบ แล้วก็ไม่ใช่อาการ
แทรกซ้อนในช่องท้อง การผ่าตัดก็ไม่ได้มีอะไรผิดพลาด”
“ผู้ป่วยเป็นฟิฟท์เดย์ซินโดรม[1]!”พอพูดแบบนี้ออกมา จู่ๆ หลี่เยว่ก็อึ้งไป
ด้านพ่อของผู้ป่วยงุนงงกับชื่อนี้ทันที “หมายความว่าไง”
เฉินชาพูดขึ้นว่า “นี่เป็นฟิฟท์เดย์ซินโดรมที่เกิดขึ้นหลังจากน้อง
ผ่าตัดไส้ติ่งครับ น้องผ่าตัดไส้ติ่งราบรื่นดี แต่บางครั้งในช่วงวันที่ห้า
จะปวดท้องมีไข้ขึ้นสูงเฉียบพลัน ไม่กี่ชั่วโมงก็จะพัฒนาเป็นอาการ
คล้ายเยื่อบุช่องท้องอักเสบทั่วไป!”
พอพูดจบ จู่ๆ ผู้ปกครองของผู้ป่วยก็อึ้งไป อดไแค่นหัวเราะ
ไม่ได้ “นี่คุณแหย่ผมเล่นหรือไง”
ถ้าทุกอย่างราบรื่นจะมีไข้สูง ปวดท้องหรือ คุณคิดว่าพวกเรา
ไม่รู้เรื่องการแพทย์หรือไง ไม่ว่าอาการป่วยไหนก็ต้องมีสาเหตุใช่ไหม
ฟิฟท์เดย์ซินโดรม ถ้าลูกผมเป็นไข้ พรุ่งนี้คุณก็จะแต่งชื่อโรคว่า
ซิกซ์เดย์ซินโดรมหรือเปล่า
ไส้ติ่งตัดแล้วก็ตัดไปสิ ยังไม่รู้สาเหตุที่มีไข้ การผ่าตัดต้อง
มีอะไรผิดพลาดแน่!”
เฉินชางอดไม่ได้ส่ายหน้า ไส้ติ่งไม่มีประโยชน์สักนิดจริงๆ หรือ
แน่นอนว่าไม่ใช่ ไส้ติ่งมีประโยชน์แน่ แต่เพราะการแพทย์ในปัจจุบันยังวิจัยไม่พบเท่านั้น
ส่วนกลุ่มอาการอย่างฟิฟท์เดย์ซินโดรมก็มีอยู่จริง!
แต่สาเหตุก็ยังไม่แน่ชัดจริงๆ บางคนคิดว่าอาจเป็นเพราะ
ภูมิต้านทานบกพร่อง ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
ตอนนี้เอง เฮ่อหลันก็รีบดึงชายคนนั้นไว้ พูดเสียงเบาว่า
“อาจจะจริงก็ได้!”
ชายคนนั้นอึ้งไป เห็นเพียงเฮ่อหลันยื่นมือถือมาให้ พอเขาเห็นก็
งงไปทันที!
ยังมีอาการป่วยนี้จริงๆ ด้วยหรือ
ทันใดนั้น ชายคนนั้นก็อายมาก ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี สักพัก
จึงพูดว่า “ฟิฟท์เดย์ซินโดรม…หมายความว่าวันที่หกก็จะหาย
หรือเปล่าครับ”
เฮ่อหลันยังอดเอามือปิดหน้าไม่ได้ เป็นถึงทนายตัวท็อปแล้ว
ทำไมถึงโมโหจนเลอะเทอะขนาดนี้นะ
“พอแล้ว คุณไปรอข้างนอกเถอะ ฉันคุยกับหมอเอง!หมอคะ ขอโทษจริงๆ ค่ะ สามีฉันโมโหจนเลอะเลือนไปหมด
แล้ว พวกเราไม่ใช่ไม่เชื่อนะคะ แต่มันร้อนใจชั่ววูบ! คุณอย่าถือสา
นะคะ รักษาไปตามสมควรเถอะค่ะ เราจะให้ความร่วมมืออย่างดีเลย
!”
หลี่เยว่พยักหน้า “ครับ วางใจได้ นี่เป็นหน้าที่ของพวกเรา”
พอผู้ปกครองออกไป ทุกคนก็จ้องเฉินชาง รู้สึกชื่นชมไม่หยุด!
“อาจารย์เฉินเทพไปแล้วมั้ง!”
“นั่นสิ ท่านเทพ…คุณเก่งเกินไปแล้ว!”
หลี่เยว่อดมองเฉินชางแล้วยิ้มให้ไม่ได้ “ขอบคุณนะ”
คนเป็นหมอไม่ว่าใครก็รับประกันไม่ได้ว่าจะเผชิญหน้ากับทุก
สถานการณ์อย่างเยือกเย็น เพราะเดิมทีอาการป่วยก็หลากหลาย
ต่อให้คุณพากเพียรเรียนรู้อยู่ตลอดก็ยังมีจุดบอดในความรู้อยู่ดี
นี่ก็เป็นสาเหตุว่าทำไมอาชีพทางการแพทย์ถึงทำงานกันเป็น
ทีม ไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง
เฉินชางอดยิ้มไม่ได้ “ช่วงนี้กำลังค้นคว้าเรื่องนี้พอดีครับ เลย
นึกถึงอาการนี้ขึ้นมาได้”ที่จริงไม่ใช่อย่างนั้น การผ่าตัดไส้ติ่งของเฉินชางอยู่ระดับ
สมบูรณ์แบบ ผลจากการ์ดฝึกพิเศษไม่ได้เสียเปล่า
คิดไม่ถึงว่าการผ่าตัดไส้ติ่งที่ตอนแรกคิดว่าไม่สำ คัญ นึก
ว่าการ์ดฝึกพิเศษใช้ของดีเสียของ จู่ๆ จะมีประโยชน์ล้นเหลือ
แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ เฉินชางก็พลาดได้ไม่เว้น ใครมันจะไป
นึกถึงฟิฟท์เดย์ซินโดรมกัน
ทุกคนเห็นว่าเฉินชางถ่อมตัวขนาดนี้จึงอดยิ้มไม่ได้ “พอแล้ว
อาจารย์เฉิน คุณอย่าถ่อมตัวเลย”
“นั่นสิ ผมไม่รู้จริงๆ ว่ายังมีเรื่องที่คุณทำไม่เป็นอีกไหม”
“ใช่ๆๆ ผมว่าคุณไม่ต้องมาฝึกงานแล้ว มาเป็นหัวหน้าที่นี่เลย
ดีกว่าไหม”
คู่หูดูโอ้อดหยอกล้อขึ้นมาไม่ได้
พอวินิจฉัยชัดแล้ว การรักษาก็ตามมา
หยางฮุ่ยอดถามไม่ได้ “อาจารย์เฉิน แล้วนี่จะรักษายังไงดีคะ
ต้องผ่าตัดไหม”เฉินชางส่ายหน้า “ประคองอาการเป็นหลักครับ ไม่ต้องผ่าตัด
อดอาหาร ให้น้ำเกลือ สอดท่อเข้าจมูกลดความดันอย่างต่อเนื่อง ให้
ยาปฏิชีวนะ ต้องรักษาตามอาการถึงจะได้ผล”
พอพูดจบ เฉินชางก็กำชับว่า “แต่ที่สำ คัญคือถ้าต่อไปเจอเคส
ผ่าตัดไส้ติ่งในเด็ก จะต้องแน่ใจว่ารอหลังวันที่หกถึงออกจาก
โรงพยาบาลได้ เพื่อเลี่ยงไม่ให้การรักษาฟิฟท์เดย์ซินโดรมล่าช้า”
หลี่เยว่อดถอนใจไม่ได้ เขาก็มั่นใจในตัวเองเกินไป
คนเป็นหมอมั่นใจในตัวเองเป็นเรื่องดี แต่จะมั่นใจในตัวเองสุ่ม
สี่สุ่มห้าไม่ได้เด็ดขาด!
ผู้ป่วยแอดมิตเพื่อเฝ้าสังเกตอาการอีกครั้ง
ความวุ่นวายปิดฉากลง ทุกคนจึงถอนใจโล่งอก
แผนกฉุกเฉินเป็นที่ที่ใครชะล่าใจไม่ได้จริงๆ
จางหย่วนกับหยางฮุ่ยตามหลังเฉินชาง “อาจารย์เฉิน ไส้ติ่งนี่
ไร้ประโยชน์จริงๆ หรือ”
เฉินชางนิ่งคิดอยู่พักหนึ่งแล้วอดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “นี่อาจจะเป็น
รากฐานแห่งปัญญาของคุณก็ได้! ไม่แน่อาจจะบรรลุขึ้นสวรรค์ได้เลย!”
จางหย่วนอึ้งไป “คุณหยอกผมเล่นใช่ไหม”
เฉินชางกลอกตา “ผมจะรู้ได้ไง ถ้าผมมาจากปี 2088 แล้ว
ตอนนั้นยังไม่พบประโยชน์ของไส้ติ่ง คุณโทษผมไม่ได้นะ!”
จางหย่วนได้ยินแล้วอารมณ์ดีทันที “เมียผมเป็นใครล่ะ”
หยางฮุ่ย “คุณมีภรรยาได้หรือ ไม่สิ คุณอยู่ถึง 2088 หรือ”
[1] Fifth Day Syndrome กลุ่มอาการที่เกิดขึ้นวันที่ห้าหลังจาก
ผ่าตัดไส้ติ่งในเด็ก
Comments