คำว่า ‘ผมสมัคร’ ของเฉินชางทำให้เหล่าอวี๋ที่เพิ่งเดินออกไป
ย้อนกลับมาอีกครั้ง!
ทุกคนเบิกตาโพลง มองเฉินชางอย่างประหลาดใจ
ทำให้เฉินชางที่หนังหน้าบางและขี้อายเก้อเขินขึ้นมาทันที
อวี๋หย่งกังมองเฉินชางแวบหนึ่งพร้อมถามยืนยัน “เสี่ยวเฉิน
คุณจะ…สมัครหรือ”
เจ้าทึ่มหม่าเองก็จนคำพูด พูดอย่างผิดหวังกับความไม่เอาไหน
“โรงพยาบาลออกค่าใช้จ่ายให้คุณไป ไม่ได้ให้คุณไปเที่ยว คราวหน้า
มีงานประชุมอีก ผมจะบอกคุณเอง! ที่ผมบอกคุณเมื่อครู่นี้
หมายความว่าแบบนี้ต่างหากเล่า…”
ได้ยินเจ้าทึ่มหม่าพูดแบบนี้ ทุกคนต่างมองเฉินชางอย่าง
หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกเฉินชางถูกเหล่าหม่าว่าแบบนี้ ยิ่งอึดอัด “หัวหน้าอวี๋ ผมอยาก
ไปลองดูครับ”
อวี๋หย่งกังอดยิ้มไม่ได้ “ได้ครับ หัวหน้าพยาบาล ลงสมัครให้
เสี่ยวเฉินหน่อยนะครับ”
หลังจากพูดจบ อวี๋หย่งกังก็มองเฉินชาง “เสี่ยวเฉิน คือ…คุณ
อย่าตั้งความหวังสูงมากนัก ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ค่อนข้างซับซ้อน”
กล่าวตามตรง อวี๋หย่งกังเองก็กลัวว่าจะบั่นทอนความ
กระตือรือร้นของเฉินชาง แต่การที่โรงพยาบาลออกค่าใช้จ่ายให้ไป
เข้าร่วมงานประชุม แน่นอนว่าคนที่ได้ไปก็มีแค่ไม่กี่คน และต้องอยู่
ในตำแหน่งที่โรงพยาบาลอยากให้ไป
อีกอย่าง…
หัวหน้าพยาบาลเองก็อึดอัดอยู่บ้าง “หัวหน้าอวี๋ หมอฝึกงานไป
ได้ไหมคะ”
ทุกคนชะงักครู่หนึ่งจึงตอบสนอง
จริงด้วย!
หมอฝึกงานนับไหมเฉินชางไม่ใช่พนักงานของโรงพยาบาลศูนย์ฉุกเฉินเมืองหลวง
อวี๋หย่งกังเจอคำถามแบบนี้ก็ตอบไม่ถูก หลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง
จู่ๆ ก็รู้สึกว่า ไม่ควรเป็นตนที่นั่งวิเคราะห์คำถามที่ซับซ้อนนี้ ให้ฝ่าย
กิจการแพทย์เสนอขึ้นไปก่อนค่อยว่ากัน!
“เรื่องนี้ หัวหน้าพยาบาล คุณรายงานขึ้นไปก่อน ถึงตอนนั้น
ไม่เป็นผลค่อยว่ากัน การสมัครไม่ใช่เรื่องผิดอยู่แล้ว”
หลังจากพูดจบ เหล่าอวี๋ก็เตรียมจะจากไป แต่จู่ๆ ก็นึกอะไรขึ้น
ได้ หันมองเฉินชางแวบหนึ่ง “คุณอยากไปจริงๆ เหรอครับ”
เฉินชางพยักหน้า “ครับ!”
เหล่าอวี๋ใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดกับหัวหน้าพยาบาลว่า
“คุณบอกไปว่าเฉินชางเป็นตัวแทนของแผนกฉุกเฉินที่หก ไปเรียนรู้
จิตวิญญาณงานประชุม”
หัวหน้าพยาบาลงุนงงอย่างเห็นได้ชัด ตั้งสติอยู่หลายวินาที
จึงตอบสนอง “ได้…ได้ค่ะ!”
พูดจบเหล่าอวี๋ก็พยักหน้าก่อนจะเดินออกไป
ทิ้งให้ทุกคนยืนอึ้งอยู่ตรงนั้นสายตาที่ทุกคนมองเฉินชางเปลี่ยนไป
หัวหน้าอวี๋รักเฉินชางจริงๆ เลย
เป็นตัวแทนของแผนกฉุกเฉินที่หกในการเข้าร่วมงานประชุม
ถือว่ามีความสำ คัญมาก ตอนที่ฝ่ายกิจการแพทย์อนุมัติจะพิจารณา
แค่ผู้สมัครไม่ได้แล้ว แต่ต้องพิจารณาเบื้องหลังของผู้สมัครแทน!
ต้องคำนึงถึงแผนกฉุกเฉินที่หกก่อนจะคัดเลือก
ความจริงเฉินชางเองก็ซาบซึ้งใจไม่น้อย
อย่างที่ทุกคนตั้งคำถาม หมอฝึกงานเข้าร่วมได้หรือไม่
อีกอย่าง การประชุมระบบทางเดินอาหารเป็นการประชุม
เฉพาะทาง ตนไปร่วมสนุก ไปแข่งกับคนมากมายขนาดนั้น
ความหมายของเหล่าอวี๋คือแผนกฉุกเฉินที่หกจะส่งตัวแทนไป
ขึ้นอยู่กับว่าอีกฝ่ายจะไว้หน้าหรือไม่
หลังจากจบการประชุม ทุกคนต่างทำงานของตนเอง ส่วนเหล่า
หม่าที่นั่งอยู่ข้างๆ เฉินชางอดถามขึ้นมาไม่ได้ “เสี่ยวเฉิน อะไร
กระตุ้นคุณเข้า ทำไมจู่ๆ จะไปร่วมงานประชุมระบบทางเดินอาหาร”เฉินชางลังเลครู่หนึ่งก่อนจะพูดอย่างจริงจัง “ผมว่าจะไปเป็น
หัวหน้าบรรณาธิการ และเป็นประธานคณะกรรมการด้วย
ถึงตอนนั้นคุณจะตีพิมพ์บทความก็สะดวกขึ้น!”
เหล่าหม่าได้ยินแบบนี้พลันเหยียบเท้าเฉินชางทีหนึ่ง “ไสหัวไป
ไกลๆ เถอะ เมื่อคืนอยู่เวรดึกจนเพี้ยนไปแล้วหรือไง รีบไปพักผ่อน
เลิกเพ้อฝันสักที”
เฉินชางหัวเราะแฮะๆ “ครับ!”
จู่ๆ เหล่าหม่าก็พูดว่า “อ้อ…ถ้าคุณอยากไปจริงๆ ผมจะช่วยใช้
เส้นสายให้ เหล่าหลัวจากฝ่ายกิจการแพทย์เป็นพี่ชายภรรยาผม
เดี๋ยวผมโทรหาเขา”
เฉินชางยิ้ม “ขอบคุณพี่หม่านะครับ”
……
……
ตอนที่เฉินชางออกจากโรงพยาบาล เขาก็ค่อนข้างซาบซึ้งใจ
แม้เขาจะเพิ่งมาโรงพยาบาลได้ไม่นาน แต่ก็รู้สึกว่าบรรดา
หัวหน้าดีกับเขามาก ไม่ได้เห็นเขาเป็นหมอฝึกงานทว่า ก็เพราะแบบนี้ เฉินชางคิดว่าตนควรจะพยายามมากกว่า
นี้ จะไปร่วมสนุกเฉยๆ ไม่ได้หรอกนะ
ช่วงนี้ต้องเร่งทำภารกิจเปลี่ยนอาชีพแผนกศัลยกรรมทั่วไปให้
เสร็จก่อน ถึงตอนนั้น บวกกับหนังสือการเปลี่ยนอาชีพในตำนานของ
ตน ก็คงพอจะมีต้นทุนไปแข่งขันบ้าง
ไม่อย่างนั้น ด้วยศักยภาพของตน แค่การวินิจฉัยที่
สมบูรณ์แบบย่อมไม่เพียงพอที่จะแข่งขันกับบอสชั้นนำระดับโลก
คนอื่นๆ
กลับถึงบ้าน เฉินชางอาบน้ำแล้วล้มตัวลงนอน
ปกติฉินเยว่จะไม่กลับบ้านตอนกลางวัน เธอยุ่งจนต้องกินข้าว
ที่โรงอาหารโรงพยาบาล กลับไปนั่งพักที่ห้องทำงานได้แป๊บๆ ก็ต้อง
ทำงานต่อ
แต่เมื่อคืนเฉินชางอยู่เวรดึก ฉินเยว่เองก็กลับมาแต่เช้าแล้ว จึง
ซื้ออาหารจากโรงอาหารมาให้
เฉินชางลืมตาขึ้น เห็นฉินเยว่อุ่นอาหารให้ ก็ยิ้มอย่างดีใจทันที
ความรู้สึกที่มีคนคอยเป็นห่วงเป็นใยไม่เลวเลยจริงๆ“ลุกขึ้นมากินข้าวหน่อยนะคะ” ฉินเยว่เทน้ำอุ่นมาให้แก้วหนึ่ง
เฉินชางพยักหน้า “ขอบคุณครับภรรยา”
ฉินเยว่มองบน “ขนลุกค่ะ รีบทานข้าวเถอะค่ะ เดี๋ยวเย็นหมด!”
เฉินชางยิ้ม ก่อนจะลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาแล้วมานั่งลง
ในมือฉินเยว่ถือชาร์ตผู้ป่วยฉบับหนึ่ง กำลังนั่งท่องอยู่
เฉินชางได้ยินแล้วสีหน้ามึนงง “คุณท่องชาร์ตผู้ป่วยทำไมครับ
”
ฉินเยว่หน้าแดง “เมื่อวานเพิ่งรับคนไข้เคสหนึ่ง เป็นเคสโรค
รักษายาก ตกมาอยู่ในความรับผิดชอบของฉันค่ะ รุ่นพี่ของฉันเองก็
จนปัญญา ไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไร ช่วงบ่ายเตรียมจะปรึกษาเคส
รักษายากด้วย! ฉันจะไม่รู้เนื้อหาในชาร์ตผู้ป่วยเลยก็ไม่ได้ ท่องไป
สักหน่อย ช่วงบ่ายจะได้หารือได้ง่ายขึ้น”
เฉินชางได้ยินแล้วยิ้มทันที เขากินข้าวไปหลายคำ
ในขณะเดียวกันก็อดฟังฉินเยว่ท่องไม่ได้
หลังจากฟังซ้ำ ๆ อยู่หลายรอบ จู่ๆ เฉินชางก็เผยรอยยิ้ม “ง่าย
มากครับ เยื่อบุช่องท้องอักเสบเนื่องจากวัณโรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กไม่ใช่เหรอ อ้อ น่าจะมีภาวะช็อกจาก
การติดเชื้อด้วย”
ฉินเยว่ฟังสิ่งที่เฉินชางพูดจบก็อึ้งไปทันที
“คุณพูดซี้ซั้วหรือเปล่า”
เฉินชางหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก “ผมจริงจังครับ! อ้อ จริงสิ
คนไข้น่าจะมีประวัติการป่วยเป็นโรคกระเพาะตีบเรื้อรังด้วย”
พูดถึงตรงนี้ เฉินชางวางตะเกียบลง เขามองฉินเยว่พร้อม
พูดว่า “ผมจะวิเคราะห์ให้ คุณดูนะ คนไข้มีอาการไข้หลังจาก
ปวดท้องหนึ่งวันและเป็นไข้แกว่ง อุณหภูมิร่างกายอยู่ที่สี่สิบองศา
เซลเซียส หลังจากโรงพยาบาลในพื้นที่ให้เพนิซิลลินและเดกซาเมทา
โซนแล้วไม่ดีขึ้นก็ส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลวันที่สี่ของการป่วย
อัลตราซาวนด์แล้วพบว่ามีของเหลวในช่องท้อง โอเมนตัม[1]หนาขึ้น
มีคอเลสเตซิส[2]ในถุงน้ำดี เจาะใต้ตับด้านขวาพบหนองที่มีกลิ่น
เหม็น
ในสถานการณ์แบบนี้ควรพิจารณาถึงอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้น
เกิดอาการเยื่อบุช่องท้องอักเสบ จากนั้นการตรวจอัลตราซาวนด์ก็แทบจะเป็นการยืนยันอาการเยื่อบุช่องท้องอักเสบแล้ว…และเยื่อบุ
ช่องท้องอักเสบในสถานการณ์แบบนี้ควรพิจารณาถึงเยื่อบุช่องท้อง
อักเสบจากวัณโรคเฉียบพลัน
และการใช้เพนิซิลลินกับเดกซาเมทาโซนแล้วอุณหภูมิไม่ลดลง
ยิ่งยืนยันการผลการวินิจฉัยทั้งสองโรค
จากนั้นคุณลองคิดดูว่า คนไข้เป็นแบบนี้ได้อย่างไร
ชีพจรที่เพิ่มขึ้นเกิดจากการชดเชยอุณหภูมิของร่างกายที่
เพิ่มขึ้น
อาการปวดหน้าท้อง ต้องพิจารณาถึงความเป็นไปได้ของ
วัณโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบ ฮีโมโกลบินต่ำ ต้องพิจารณาภาวะ
โลหิตจาง…พิจารณาว่าเป็นโรคกระเพาะตีบเรื้อรังทำให้เสียเลือด
หรือเป็นการเสียเลือดที่เกิดจากวัณโรคแผลในกระเพาะอาหารและ
ลำไส้เล็กที่กล่าวถึงในภายหลังหรือไม่!
เพราะฉะนั้นความจริงการวินิจฉัยนี้ง่ายมากครับ!”
ฟังเฉินชางพูดจบ ฉินเยว่ก็อึ้งงันไปแล้ว!
เหมือนว่าที่เฉินชางพูดจะชัดเจนมาก และเป็นแบบนั้นจริงๆคิดถึงตรงนี้ ฉินเยว่มองเฉินชางอย่างผิดคาดแวบหนึ่ง
“สามี…คุณเคยเจอคนไข้คนนี้ใช่ไหมคะ”
เฉินชางหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก “เปล่าครับ เมื่อครู่นี้คุณ
อ่านชาร์ตผู้ป่วยไปสามรอบแล้ว ผมวิเคราะห์แล้ว คิดว่าน่าจะเป็น
แบบนี้!”
ฉินเยว่โผเข้ากอดเฉินชางอย่างตื่นเต้นทันที ก่อนจะหอมแก้ม
ดัง ม๊วฟ แล้วลุกขึ้นจากไป “ฉันจะไปโรงพยาบาลแล้ว คุณล้างจาน
นะคะ!”
[1]โอเมนตัม คือชั้นเยื่อบุช่องท้องที่หุ้มรอบอวัยวะภายใน
ช่องท้อง
[2]คอเลสเตซิส คือโรคที่เกิดจากทางเดินท่อน้ำดีตีบหรือ
อุดตัน