เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอบทที่ 916 ได้อั่งเปาแล้ว
เหอจื่อเชียนรอให้จางฉาไห่พูดจบแล้วจึงชำ เลืองมองเฉินชาง
“หมอเฉิน การผ่าตัดบายพาสหลังจากผ่าตัดลดขนาด
กระเพาะนี่คุณเป็นคนเสนอ คุณทำได้แน่ใช่ไหม”
ทุกคนมองเฉินชาง ถ้าเขาทำได้ นี่ย่อมเป็นเรื่องดีที่สุด
ทำไมถึงพูดแบบนี้
หลายปีนี้มีมุมมองการผ่าตัดอย่างหนึ่งมาโดยตลอด ถ้าตอน
ผ่าตัดสร้างทางเดินอาหารใหม่ เฉินชางทำได้ตามลำพังทั้งหมด แนว
ทางการผ่าตัดกับวิธีการเย็บแผลก็จะเข้ากันได้สูงกว่า
หมายความว่าถ้าเฉินชางผ่าตัดตั้งแต่หลอดอาหารจนลำไส้
ใหญ่ไปพร้อมกันได้จะเป็นเรื่องดี
ถึงขนาดที่หลายปีนี้ศัลยแพทย์ทั่วไปหลายคนยังวิจัยการ
ผ่าตัดหลอดอาหารของแผนกศัลยกรรมทรวงอกด้วยหวังว่าจะ
เชี่ยวชาญได้แต่…
เฉินชางทำได้หรือ
ถึงอย่างไรความสามารถของคนคนหนึ่งก็มีจำ กัด เฉินชางก็
อายุยังน้อย ผ่าตัดเองได้ทั้งเคสจริงๆ หรือ
ทันใดนั้นทุกคนก็มองเฉินชางอย่างคาดหวังยิ่งขึ้น
ตอนนี้เฉินชางพลันพยักหน้าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ได้ครับ! หัวหน้า
เหอ ผมผ่าตัดเคสนี้ได้ครับ!”
เขาไม่ถ่อมตัว!
ทำไมต้องถ่อมตัว!
วิธีการผ่าตัดของตนสมบูรณ์แบบ เฉินชางมั่นใจแบบนี้
เหอจื่อเชียนอดพยักหน้ายิ้มไม่ได้ “โอเค ผมเป็นผู้ช่วยให้คุณ
เอง”
เฉินชางได้ยินคำนี้แล้วรีบขอบคุณ “ขอบคุณหัวหน้าเหอ
ขอบคุณหัวหน้าจาง!”
เหล่าหม่ารู้สึกอิจฉาขึ้นในใจ!
คราวนี้อิจฉาจริงๆเขาคิดว่าเฉินชางทำหนึ่งในเป้าหมายในชีวิตของตนสำ เร็จแล้ว
แต่ตนยังทำไม่ได้ ป่านนี้แล้วเหล่าอวี๋ยังไม่ยอมเป็นผู้ช่วย
ผ่าตัดให้ตนเลย
พอคิดถึงตรงนี้ หม่าเยว่ฮุยอดเสียใจขึ้นมาไม่ได้ สายตาที่มอง
เฉินชางก็มีแววอิจฉาเพิ่มขึ้นมาจริงๆ มีอะไรเลิศเลอนักหนา เสี่ยว
เฉินยังเป็นผู้ช่วยฉันอยู่เลย ใช่!
เมื่อคิดแบบนี้แล้ว จู่ๆ เหล่าหม่าก็สบายใจขึ้นมาก
ในตอนนี้เอง โหยวหย่งจากสถานีโทรทัศน์ก็เคาะประตู
อวี๋หย่งกังขานรับแล้วเปิดประตูให้เข้ามา
โหยวหย่งเห็นว่าทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าจึงพยักหน้ายิ้มให้แล้ว
พูดว่า “ขอโทษที่รบกวนครับ คืออย่างนี้ เพื่อนผู้ชมค่อนข้างห่วง
อาการของเฉินเจ๋อฮว่า พวกเราอยากรู้เรื่องอาการรวมถึงการผ่าตัด
ของเขา จะสะดวกไหมครับ”
อวี๋หย่งกังตอบงึมงำ พยักหน้าเอ่ยว่า “ครับ ได้ครับ”
โหยวหย่งได้ยินแล้วจึงพยักหน้าพูดว่า “รบกวนด้วยครับ เอ่อ
…หัวหน้าอวี๋ ยังไงขอให้คุณอธิบายอาการของผู้ป่วยเชอเจ๋อฮว่าให้พวกเราทีครับว่าตอนนี้เขาเป ป็นไงบ้างแล้ว”
อวี๋หย่งพยักหน้าทันที “ที่จริงอาการผู้ป่วยยังค่อนข้างอันตราย
ครับ เพราะกรดซัลฟิวริกเป็นกรดแก่ชนิดหนึ่ง ถ้าสูดกลิ่นกรด
ซัลฟิวริกเข้มข้นเข้าไปแล้วมีโอกาสถึงแก่ชีวิตค่อนข้างสูง ถ้ารับ
เข้าทางปากยิ่งไม่ต้องพูดถึง แบบนี้อันตรายมากครับ
ที่จริงยังดีที่หมอเฉินชางของพวกเราใช้ศักยภาพการกู้ชีพของ
แพทย์ฉุกเฉินอย่างเต็มที่ ตอนนี้อาการผู้ป่วยจึงคงที่มาก
พ้นขีดอันตรายแล้วครับ
แต่ผู้ป่วยมีแผลลวกร้ายแรงตั้งแต่หลอดอาหาร
ถึงทางเดินอาหาร ในตอนนี้พวกเรากำลังคิดว่าจะผ่าตัดให้เร็วที่สุด
แล้วสร้างทางเดินอาหารของผู้ป่วยใหม่ นี่ถือเป็นการผ่าตัดใหญ่
ครั้งหนึ่ง”
โหยวหย่งได้ยินแล้วพยักหน้าทันควัน “ถ้าผ่าตัดนี่ยากมากไหม
ครับ”
“ยากครับ เรื่องนี้ให้เฉินชางพูดดีกว่า” อวี๋หย่งกังมองเฉิน
ชางพลางเอ่ย“นี่เฉินชางครับ ตั้งแต่ผู้ป่วยเชอเจ๋อฮว่าเริ่มแอดมิทก็ได้หมอ
เฉินติดตามอาการมาตลอด เขารู้เรื่องผู้ป่วยเป็นอย่างดี”
พอโหยวหงเห็นเฉินชางก็พยักหน้าทักทาย “สวัสดีครับหมอ
เฉิน”
เขารู้จักเฉินชาง เฉินชางไปรักษาตั้งแต่ตอนกู้ชีพ หมอหนุ่มคน
นี้ดูเก่งมาก
พอเฉินชางอธิบายอาการผู้ป่วยให้ฟัง โหยวหย่งก็พอรู้เรื่องแล้ว
!
โหยวหย่งปิดเว็บแคมแล้วมองเฉินชาง “หมอเฉิน เหนื่อยหน่อย
นะครับ! ผมเชื่อว่าคุณเป็นแพทย์นำผ่าตัดเคสผู้ป่วยแบบนี้จะต้อง
รับภาระหนักแน่ แต่ผมรับรองได้ว่าพวกเราจะรายงานอย่าง
ตรงไปตรงมา คุณไม่ต้องกดดันมากเกินไปนะครับ”
เฉินชางพยักหน้ายิ้มให้ “แต่ละคนก็ทำตามหน้าที่อย่าง
สุดความสามารถละครับ!”
โหยวหย่งพยักหน้ายิ้มให้ “โอเคครับ!”
พอพูดจบก็ลุกจากไปทุกคนในห้องมองเฉินชาง รู้สึกพูดไม่ออกเล็กน้อย
ฝากภาระหนักอึ้งขนาดนี้ให้คนหนุ่มแบบนี้ ทุกคนต่างรู้สึก
ประหลาดอยู่บ้าง
เป็นอย่างที่โหยวหย่งว่าไว้ เคสเชอเจ๋อฮว่าซับซ้อนมาก ภาระ
บนบ่าเฉินชางไม่ใช่เบาเลย
อวี๋หย่งกังมองเฉินชางแล้วตบไหล่ “ไม่เป็นไร เกิดอะไรขึ้นยังมี
เหล่าหม่ายันให้ พวกเราก็อยู่!”
เดิมทีควรเป็นคำพูดที่น่าซึ้งใจ แต่…
แต่ไม่รู้ทำไมเฉินชางถึงทำหน้าไม่ค่อยถูก!
ถึงอย่างไร…ก็เป็นอย่างที่หัวหน้าอวี๋ว่าไว้ ถ้ามีปัญหา หัวหน้า
หม่าก็ยังยันให้อยู่
หม่าเยว่ฮุยพลันอึ้งไปแล้วได้สติกลับมาทันที ให้ตายสิ…จริง
ด้วย!
ฉันเป็นคนเซ็นชื่อ?
ฉันเป็นคนเซ็นชื่อให้ผ่าตัด…
ถ้ามีปัญหาอะไรฉันต้องเป็นคนค้ำพอนึกถึงตรงนี้ เหล่าหม่าก็แทบร้องไห้ออกมาทันที
“เสี่ยวเฉิน สู้เขา ไม่สิ ไม่ต้องแบกรับภาระ แสดงความสามารถ
ตามปกติก็พอแล้ว!
เรื่องนี้ ผมเป็นกำลังใจให้!”
หม่าเยว่ฮุยรีบเอ่ย
ทุกคนอดไม่ได้พากันหัวเราะ
หลังจากพูดคุยเรื่องแผนการผ่าตัด ทุกคนก็ไปดูผู้ป่วย พอ
อธิบายอาการให้ครอบครัวฟังก็ให้ทางห้องผ่าตัดไปเตรียมการ
ผ่าตัด
ภรรยาของเชอเจ๋อฮว่ามองบรรดาหมอด้วยความปวดใจ ทั้งยัง
เศร้าใจอยู่บ้าง
ลูกสาวยังจับมือพ่ออยู่ด้านหนึ่ง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ไม่นานนัก เฉินชางก็ตั้งใจอธิบายการผ่าตัดให้ภรรยาเชอเจ๋อ
ฮว่าฟัง แล้วบอกให้เซ็นเอกสารแจ้งอาทิ หนังสือให้ความยินยอม
ทั้ง
หมด
อีกฝ่ายไม่ปฏิเสธ เธอซาบซึ้งกับทุกอย่างที่พวกเฉินชางทำแล้วพอเซ็นชื่อเสร็จ เธอก็มองสามีที่เ เพิ่งหลับไปอย่างเจ็บปวดใจ
ครามองดูขุนเขาของตน เสาหลักของบ้านคนนี้ เธอก็อดถอนใจไม่ได้
ค่อนข้างโศกเศร้า!
“ฝากด้วยนะคะคุณหมอ!”
เฉินชางพยักหน้า “ครับ วางใจเถอะครับ พวกเราจะทำเต็มที่”
หญิงคนนั้นส่ายหน้า “ไม่ว่าจะผ่าตัดสำ เร็จหรือไม่ พวกคุณก็
เป็นผู้มีพระคุณของพวกเราค่ะ!”
ด้านเฉินชางให้พยาบาลเตรียมเข็นเตียงผู้ป่วยไปที่ห้องผ่าตัด
และในตอนที่ตนกำลังจะออกไป จู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีใครดึงเสื้อไว้
เฉินชางหันไปดูก็พบว่าเป็นลูกสาวที่มีอายุเพียงเจ็ดแปดขวบ
คนนั้น เธอจ้องมองเฉินชาง ดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกกลัวและ
แปลกประหลาด
แต่เธอยังจ้องเฉินชางแล้วเอ่ยว่า “คุณอาหมอ ช่วยพ่อหนูด้วย
นะคะ!”
เฉินชางพยักหน้ายิ้มให้ “ครับ! พ่อหนูนอนสักงีบก็หายแล้ว”เด็กหญิงตัวน้อยได้ยินแล้วร้องไห้ทั นที “พ่อหนูเจ็บมาก ช่วย
พ่อหนูด้วยค่ะ”
พอพูดจบ เธอก็ล้วงลูกอมออกมาจากกระเป๋าแล้วยัดใส่มือเฉิน
ชาง
“คุณอาหมอ ช่วยพ่อหนูเถอะค่ะ…เขาเป็นคนดี แต่ถูกคนอื่น
รังแก”
เฉินชางมอง ‘ของขวัญ’ ที่เด็กหญิงให้ กำไว้แน่นแล้วจึงรับ
ใส่กระเป๋า “ได้ครับ!”
พูดจบก็หันหลังจากไป
วันนี้ จู่ๆ เขาก็ได้รับ ‘อั่งเปา’ เป็นพิเศษ!
Comments