เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอบทที่ 921 ดีเฉยเลย
พอเฉินชางตื่นขึ้นมาก็รู้สึกว่าตนนอนไปนานมาก!
ไม่ได้หลับสบายขนาดนี้มานานมากแล้ว
เฉินชางมองดูฉินเยว่ที่อยู่ในอ้อมแขนแล้วชะงักไปทันที หรือว่า
…จะยังไม่เจ็ดโมง
นอนต่ออีกหน่อย
เฉินชางรอนาฬิกาปลุก แต่นอนอยู่นานแล้วพบว่ามีอะไร
ชอบกล ทำไมวันนี้นาฬิกาปลุกถึงไม่ดัง
เขามองดูฉินเยว่ที่นอนหลับเหมือนเด็กแล้วก็หยิบมือถือขึ้น
มาทันที จึงพบว่ามือถือแบตหมด!
เฉินชางพลันตกใจสะดุ้งโหยง
เวรแล้วไหม
สายแล้วหรือ
เขารีบเขย่าตัวฉินเยว่ “กี่โมงแล้ว ทำไมคุณยังนอนอยู่ล่ะ”ฉินเยว่พลิกตัวไปหยิบมาศัพท์มาดู “แปดโมงยี่สิบแล้ว เอ๊ะ?
ทำไมคุณยังไม่ไปล่ะ!”
เฉินชางหมดคำพูด “คุณไม่ทำงานหรือ”
ฉินเยว่เปลี่ยนท่าให้สบายตัว “ใช่ไง วันนี้ฉันพักก็เลยปิด
นาฬิกาปลุก”
เฉินชางตบหน้าผาก โมโหเป็นบ้าเลย
เขาพลิกตัวลุกออกจากเตียงตีก้นฉินเยว่อย่างเคืองๆ แล้วรีบ
แต่งตัวไปโรงพยาบาล
เขาพบว่ายัยฉินเยว่คนนี้ก็คือยาสลบ นอนกอดแล้วต้องหลับ
สบาย นุ่มๆ นิ่มๆ…
มิน่าบทกลอนโบราณถึงว่าไว้ นวลอนงค์ห่มแพรสัตบรรณ สม
สมานทรงธรรม์ในคืนวสันต์ กษัตริย์เลยตื่นสายล่ะสิ!
แบบนี้จะโทษกษัตริย์ไม่ได้จริงๆ และย่อมโทษผู้หญิงของเขา
ไม่ได้ด้วย เป็นคนสวยยังไงก็ถูกเสมอ!
ถ้าจะโทษก็ต้องโทษ…ช่างเถอะ ไม่โทษใครทั้งนั้นแผนกฉุกเฉินอันดับหกมีระเบียบเข้มงวดชัดเจน อวี๋หย่งกัง
ทำงานอยู่ในระบบที่เข้มงวดอย่างกองทหาร ไม่มาสายไม่เลิกก่อน
ตอนที่เฉินชางเข้าแผนกฉุกเฉินมาเป็นตอนที่กำลังเวลาเปลี่ยน
เวรพอดี ทุกคนออกมาจากแผนก พอเห็นเฉินชางเข้าก็พากันทักทาย
“หมอเฉิน!”
“เสี่ยวเฉินมาแล้ว”
แน่นอนว่าต้องมีคนที่เห็นความสุขบนความทุกข์คนอื่น คนเรา
น่ะ เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะชอบคุณ เฉินชางเด่นมากย่อมมีคนรู้สึก
เกะกะลูกตาเช่นกัน
พอเห็นว่าเฉินชางมาสายก็ดีอกดีใจ รอดูว่าหัวหน้าอวี๋
จะติเตียนอย่างไร
เฉินชางพยักหน้าทักทายบรรดาเพื่อนร่วมงาน
ตอนนี้เองอวี๋หยงกังเห็นว่าเฉินชางมาแล้วพอดี
เฉินชางรีบเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจว่า “หัวหน้า ขอโทษครับ ตื่น
สายเสียแล้ว”เหล่าหม่ายืนอยู่ข้างหลัง มองเฉินชางอย่างสมน้ำหน้า ในมือ
ยกนมกล่องหนึ่งมาดื่ม เห็นได้ชัดว่าเขาเพิ่งมาได้ไม่นานเช่นกัน
มิหนำซ้ำ เมื่อกี้ยังถูกเหล่าอวี๋ตำหนิตามระเบียบอยู่นาน
เหล่าหม่าก็เป็นข้อยกเว้นคนหนึ่ง!
เขาเป็นหัวหน้าทีมมือฉมัง เป็นแพทย์ระดับหัวหน้า ความสา
มารถโดดเด่น แต่เหล่าอวี๋ก็ยังคุมไว้ไม่ปล่อยสักที
ถ้าใช้ภาษาเหล่าอวี๋พูดก็คือขาดการสั่งสอน
แต่เหล่าหม่าก็จนใจนัก ตอนผ่าตัด เหล่าอวี๋ไม่เคยมาช่วยตน
ผ่าตัดเองเลย แต่ในแง่การใช้ชีวิต เหล่าอวี๋กลับตบหน้าชนิดไม่ออม
แรง
เฮ้อ…
พอเห็นเฉินชาง จู่ๆ เหล่าหม่าก็ตั้งตาคอยขึ้นมา ถึงกับแอบดีใจ
เสียด้วยซ้ำ
แต่ก็ในตอนที่ทุกคนเตรียมพร้อมแล้ว จู่ๆ อวี๋หย่งกังก็ยิ้ม!
ทุกคนเห็นเขายิ้มแบบนี้แล้วอึ้งไปเลย
เหล่าอวี๋ยิ้มหรือเหล่าอวี๋ถึงกับยิ้มงั้นหรือ
เกิดอะไรขึ้นน่ะ
ทุกคนต่างชะงักไป!
เหล่าหม่าเดาว่าเหล่าอวี๋ต้องยิ้มด้วยความโมโหแน่
อวี๋หย่งกังมองเฉินชางแล้วตบไหล่เขา ไม่ได้ตำหนิซ้ำ กลับ
พยักหน้าเอ่ยว่า “เมื่อคืนกลับดึกใช่ไหม อย่าลืมพักผ่อนล่ะ!”
ประโยคเดียวทำเอาทุกคนที่อยู่ข้างหลังเหม่อไปเลย!
นี่มันคำพูดของเหล่าอวี๋หรือ
เจ้าหม่าเซอะซะยังพ่นนมออกมา เขาไม่สบอารมณ์
มีสิทธิ์อะไรมาสองมาตรฐาน
พวกคนที่เดิมทีรอสมน้ำหน้าอยู่นั้นยิ่งอึ้งไปเลย
อวี๋หย่งกังยิ้มพลางเอ่ย “เช้าวันนี้ผมบังเอิญเจอหัวหน้าเหอจื้อ
เชียนแผนกศัลยกรรมทั่วไป เขาบอกว่าคุณผ่าตัดได้ดีมาก
มีพรสวรรค์ เขาดูคลิปผ่าตัดทั้งคืน ยิ่งดูยิ่งได้แรงบันดาลใจ!”
“ได้ เรื่องไปอเมริกาคราวนี้ผมจะคุยให้ พยายามเข้าล่ะ ไป
ชิงตำแหน่งกลับมาให้ได้”เฉินชางพยักหน้ายิ้มให้ “ขอบคุณครับหัวหน้าอวี๋”
อวี๋หย่งกังพยักหน้า ตบไหล่เฉินชางแล้วลุกออกไป
ทุกคนเห็นการกระทำทั้งหมดนี้แล้วอิจฉาจนอยากร้องไห้
นี่มันจะ…หมดคำพูดเกินไปแล้ว
แต่ท่าทีของอวี๋หย่งกังเมื่อกี้ก็แค่มุมหนึ่ง คำพูดของหัวหน้าคน
หลังต่างหากที่พวกเขาได้ยินแล้วรู้สึกตื่นตะลึงอยู่นาน
เฉินชางคนนี้เก่งถึงขนาดนี้เลยหรือ
ทุกคนเริ่มครุ่นคิดอยู่ในใจ
บอกตามตรง อวี๋หย่งกังก็ดีใจ
ตลอดมาความสัมพันธ์ระหว่างแผนกฉุกเฉินกับแผนกอื่นคือ
การรับผิดชอบรักษาอาการผู้ป่วยให้คงที่แล้วส่งไปผ่าตัดตามแผนก
ที่เกี่ยวข้องทีหลังอยู่เสมอ
ด้วยเหตุนี้ความสามารถเฉพาะทางจึงไม่แน่นมากนัก
แต่ตอนนี้จู่ๆ อวี๋หย่งกังก็พบว่าหลังจากเฉินชางมาก็เหมือน
จะต่างไปจากเดิม พวกหัวหน้าศัลยกรรมหัวใจพอเห็นตนเข้าก็
จะเรียกอย่างสนิทสนมว่าหัวหน้าอวี๋ วันนี้ขนาดคนที่หยิ่งยโสอย่างเหอจื้อเชียนจากแผนกศัลยกรรมทั่วไปยังมาทักทายตน ดึงต ตัวไว้คุยกัน
อยู่นาน
นี่ทำให้อวี๋หย่งกังค่อนข้างเบิกบานใจ
เดินยังรู้สึกเพลิน
ด้านเฉินชางเดินเข้ามานั่งในแผนก หยางเจี๋ยเห็นว่าเขา
มาแล้วจึงยิ้มเอ่ยว่า “ยังไม่กินข้าวใช่ไหม ฉันเอาของกินของ
เคาน์เตอร์พยาบาลมาให้คุณกินหน่อยแล้วกันค่ะ”
ขณะที่พูดก็ส่งกาแฟขวดหนึ่งกับขนมปังก้อนหนึ่งให้
เฉินชางยิ้มพลางพูดว่า “ขอบคุณครับพี่หยาง”
ทีนี้เหล่าหม่าไม่สบอารมณ์เสียแล้ว มีสิทธิ์อะไรกัน!
เขานั่งข้างเฉินชางอย่างงุ่นง่าน “ผมก็มาสาย”
เฉินชาง “อ๋อ ครับ!”
เหล่าหม่าเห็นเฉินชางไม่ตอบสนองจึงพูดอย่างคับข้องใจ
“แถมยังถูกเหล่าอวี๋ด่าด้วย!”
เฉินชางพยักหน้าต่อ แล้วนี่มันไม่ใช่เรื่องปกติหรือ
“อ๋อ ครับ!”เหล่าหม่าพลันโมโหจนตบหลังเฉินชางไปทีหนึ่ง “ไอ้หนู ทำให้
ฉันอิจฉาเกินไปแล้ว”
เฉินชางลูบไหล่อย่างจนใจแล้วถอนใจ รู้สึกว่าให้เหล่าหม่า
ระบายออกมาก็ดีกว่าอยู่ดี ผู้ชายถ้าคับอกคับใจขึ้นมาก็อาจจะเป็น
มะเร็งเต้านมได้เหมือนกัน
ด้านเฉินชางพอนั่งลงแล้วก็เห็นการแจ้งเตือนระบบกะทันหัน
จากนั้นจึงนึกได้ บอสระดับราชาเมื่อวาน!
เมื่อคืนดึกมากแล้ว ตอนเช้าตื่นมาก็รีบๆ เลยไม่ได้ดู
เฉินชางนึกถึงบอสระดับราชาแล้วดีอกดีใจทันที เขาลูบไม้ลูบ
มือเปิดการแจ้งเตือน
[ติ๊ง! ยินดีด้วย ฆ่าบอสระดับราชา ได้รับรางวัล: 1. หนังสือ
ทักษะสีทองหนึ่งเล่ม 2. ถุงนำโชคหนึ่งถุง 3. ดวงตาแห่งความ
แม่นยำ (สีทอง)!]
พอเฉินชางเห็นว่าในการแจ้งเตือนมีสิ่งของที่มีรัศมีสีทองแผ่
กระจายออกมาสองชิ้นก็เริ่มตื่นเต้นในทันใด
ไอเทมสีทองสองชิ้น แกร่งไปแล้ว!ระดับราชาอย่างเทพ
รับเละเลย
เฉินชางเปิดหนังสือทักษะด้วยความตื่นเต้น
[ติ๊ง! เปิดหนังสือทักษะสีทอง ได้ระดับสมบูรณ์: เทคนิคคุม
กล้องส่อง!]
เฉินชางเครื่องรวนไปเลย!
อะไรวะ???
ของบ้าอะไรเนี่ย
เทคนิคคุมกล้องส่อง?
[เทคนิคคุมกล้องส่อง: ใช้กล้องส่องชนิดต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ
เชี่ยวชาญเทคนิคการใช้กล้องส่องในที่ที่ผ่าตัดอย่างคล่องแคล่ว
ไม่ได้]
เฉินชางเงียบไป นี่มันของดี
เขาก็ยอมรับ
แต่…
ตนได้รับทักษะเสริมระดับราชามาอย่างหนึ่งการผ่าตัดส่องกล้อง!
เฉินชางไม่ค่อยยินดีกับสิ่งนี้ เขาลำบากลำบนฆ่าบอสระดับ
ราชา แต่ได้ทักษะเสริมมาอย่างหนึ่ง บอกตามตรงในใจเขาก็รู้สึก
ต่อต้าน
แต่!
ในตอนที่เฉินชางเตรียมจะโวย จู่ๆ ก็เห็นการแจ้งเตือนอันหนึ่ง
เข้า
[ตอนที่ใช้เทคนิคส่องกล้องจะเพิ่มอัตราความสำ เร็จของทักษะ
ขโมยท่าไม้ตายให้สูงขึ้นมาก!]
เฉินชางอยากหัวเราะ
ฮ่าๆๆ ดีเฉยเลย!
Comments