การสร้างทางเดินอาหารใหม่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1881 เมื่อครั้งธีโอ
ดอร์ บิลรอธผ่าตัดต่อเชื่อมกระเพาะด้วยวิธีบิลรอธ I เคสแรกได้
สำ เร็จ
ถึงตอนนี้ก็ร้อยกว่าปีแล้ว!
สำ หรับวิธีผ่าตัดของแผนกศัลยกรรมถือว่าใช้เวลาพัฒนา
มานานพอควร
แต่ใช้เวลานานก็ใช่ว่าจะพัฒนาได้ไว
ไม่ว่าวงการไหนก็มีกติกาแปลกๆ ทำนองนี้ ‘สิ่งที่ถนัดได้เร็ว
มักจะพัฒนาได้ยาก’
ศัลยกรรมระบบย่อยอาหารก็ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน
ศัลยแพทย์ทั่วโลกต่าง ‘เน้นตัดไม่เน้นสร้าง’ มาตลอด
แต่หลายปีนี้ทุกคนเพิ่งรับรู้ได้อย่างแท้จริงว่าการสร้าง
ทางเดินอาหารใหม่เป็นขั้นตอนที่สำ คัญที่สุดในการผ่าตัดทางเดินอาหาร!
ทว่าแนวคิด ‘สร้างทางเดินอาหารใหม่’ นี้เพิ่งมีขึ้นและได้รับ
ฉันทามติจากผู้เชี่ยวชาญในจีนอย่างแท้จริงเมื่อปี 2008
พัฒนามาจนตอนนี้ โรงพยาบาลระดับเทศบาลในประเทศ
ส่วนมากผ่าตัดทางเดินอาหารอย่างการตัดกระเพาะหรือท่อน้ำดีได้
แล้ว
แต่!
ปัจจุบันบนโลกนี้ก็ยังไม่มีวิธีการสร้างทางเดินอาหารที่ทำให้
ผู้ป่วยทุกคนพอใจทั้งหมดสักวิธี
ดังนั้นการสร้างทางเดินอาหารใหม่จึงเป็นกระดูกที่เคี้ยวยาก
มาโดยตลอด
จึงไม่แปลกใจที่ซุนกว่างอวี่จะตื่นเต้น
พอเขาได้ดูการเย็บเชื่อมกระเพาะในการผ่าตัดนี้แล้วก็ค่อนข้าง
ประหลาดใจ
เพราะเขานึกไม่ถึงและถึงกับไม่เคยเห็นวิธีเย็บเชื่อมกระเพาะที่
เฉินชางใช้ วิธีการเย็บต่อนี้สร้างโครงสร้าง ‘กระเพาะเทียม’ ขึ้นจากกระเพาะและปลายด้านข้างของลำไส้ส่วนกลาง
สิ่งนี้เปิดหูเปิดตาเขาจริงๆ!
วิธีการเย็บต่อกระเพาะหลักๆ มีห้าวิธี แต่นี่ไม่ได้อยู่ในห้าวิธี
ที่ว่านี้
ตอนนี้เคสเชอเจ๋อฮว่ามีตั้งแต่หลอดอาหารจนถึงกระเพาะ
ลำไส้ส่วนต้น ลำไส้เล็กท่อนปลาย ลำไส้ใหญ่…ซึ่งเป็น
ทางเดินอาหารที่ค่อนข้างครอบคลุมแล้ว!
นี่ไม่ใช่อุดมคติของ ‘การสร้างทางเดินอาหารใหม่’ หรือ
เขาหลับตาสูดหายใจลึกๆ นึกย้อนดีๆ อยู่หลายครั้งจึงลืมตา
ขึ้นมามองเหอจื้อเชียน พูดด้วยความอิจฉาเล็กน้อยว่า “หัวหน้าเหอ
เก่งจริงๆ! การผ่าตัดเคสนี้เปิดโลกผมจริงๆ เลย!
ถ้ามีเวลาผมอยากเชิญคุณไปสอนที่ปักกิ่งยูเนียนของเรา”
เหอจื้อเชียนอดยิ้มส่ายหน้าไม่ได้ “หัวหน้าซุน เคสนี้ผมไม่ได้
เป็นคนผ่า ที่จริงผมก็รู้สึกค่อนข้างประหลาดใจเหมือนคุณ”
ซุนกว่างอวี่หัวเราะ พูดตามตรงว่า “แค่ประหลาดใจที่ไหน นี่
มันเปิดประตูบานใหม่ให้ผมเลย! ถึงกับเปิดโลกทัศน์ให้พวกเราหลายคนด้วยซ้ำ ”
แต่พอซุนกว่างอวี่ได้ยินว่าเหอจื้อเชียนไม่ได้เป็นคนผ่าก็สงสัย
ขึ้นมา “หา? ไม่ใช่หัวหน้าเหอหรือ นั่นมัน…ผู้เชี่ยวชาญท่านไหนครับ
”
เหอจื้อเชียนมองซุนกว่างอวี่ครั้งหนึ่ง มองทุกคนในห้องที่
เงียบเชียบและยังคงหวนนึกถึงการผ่าตัดนั้นซ้ำ ไปซ้ำ มาแล้วจึงอด
ไม่ได้บอกไปว่า “ตอนนี้ทุกคนคิดว่าเฉินชางมีคุณสมบัติไปเข้าร่วม
การประชุมสุดยอดที่เมโยไหม”
ต่อมาทุกคนจึงพากันถอนใจ!
การกระทำสำ คัญกว่าคำพูด!
ถ้ามีศักยภาพดีเต็มที่ เหตุผลดีแค่ไหนก็ดูอ่อนปวกเปียก
ฉินเยว่ได้ยินคำของเหอจื้อเชียนแล้วดีใจทันที คุณเฉินที่รักก็ได้
เข้าร่วมการประชุมสุดยอดที่ศูนย์การแพทย์มาโยในอเมริกาจัดหรือ
พอคิดถึงตรงนี้ฉินเยว่ก็เริ่มตื่นเต้นเสียแล้ว
“หัวหน้าซุน ที่จริงแล้วนี่เป็นการผ่าตัดของหมอเฉินชางจาก
แผนกฉุกเฉินของเรา” เหอจื้อเชียนอดพูดออกมาไม่ได้ซุนกว่างอวี่ได้ยินเข้าจึงเอ่ยขึ้นทันที “เอ่อ…หัวหน้าเหอ สะดวก
แนะนำให้หรือเปล่า ผมอยากคุยกับหัวหน้าเฉิน”
อืม ซุนกว่างอวี่นึกว่าเฉินชางเป็นหัวหน้าไปเองเลย
ฉินเยว่ได้ยินแล้วเกือบอดขำไม่ได้
เหอจื้อเชียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “ผมดูให้ว่าตอนนี้ยุ่งไหม
เดี๋ยวให้เขาขึ้นมา”
ซุนกว่างอวี่ได้ยินแล้วรีบขอบคุณ
ไม่นานนักก็โทรติด
“หมอเฉิน ตอนนี้คุณว่างไหม”
ตอนนี้เฉินชางผ่าตัดอยู่ที่ห้องผ่าตัด พยาบาลเป็นคนรับสาย
“หัวหน้าเหอ ผมผ่าตัดอยู่ อาจจะอีกสองชั่วโมงครับ”
ทางฝั่งที่โทรศัพท์แจ้งซุนกว่างอวี่ คิดไปคิดมาทางเขาก็รออยู่
เฉยๆ ไม่ได้ด้วย
หลังจากคำนวณดูแล้วจึงเอ่ยว่า “ไม่งั้นคุณบอกเขาว่าวันหลัง
ผมเชิญเขาไปสอนที่โรงพยาบาลเราสักครั้ง คุณว่าสะดวกไหม”เหอจื้อเชียนพยักหน้า “หมอเฉิน ช่วงนี้คุณว่างไหม ผมมีเพื่อน
ที่สนใจการผ่าตัดเคสเมื่อวานของคุณอยู่ เขาอยากเชิญคุณไปสอน
หัวหน้าซุนจากปักกิ่งยูเนี่ยนเขาสนใจ…”
ทางเหอจื้อเชียนยังพูดไม่จบ เฉินชางก็ปฏิเสธทันควันว่า
“ขอโทษครับหัวหน้าเหอ ช่วงนี้ผมไม่มีเวลาจริงๆ รอทำงานช่วงนี้
เสร็จแล้วค่อยว่ากันครับ”
เฉินชางไม่ใช่คนขี้ลังเล ถ้าช่วยได้ก็จะช่วย ช่วยไม่ได้ก็จะปฏิ
เสธทันที
ช่วงนี้เขามีธุระเป็นตั้งกับบทความกองโต ปลีกตัวมาไม่ได้จริงๆ
“หัวหน้าเหอ ผมผ่าตัดอยู่ แค่นี้นะครับ”
พูดจบ เสียงตู๊ดๆๆ ก็แว่วมาจากฝั่งเฉินชาง…
ในห้องเงียบลง!
เงียบจริงๆ
ซุนกว่างอวี่หน้าแดง
หน้าแดงจริงๆ!เขาไม่เคยถูกใครปฏิเสธคำเชิญไปสอน เขาเป็นคนดังของ
ปักกิ่งยูเนี่ยน คิดไม่ถึงว่าเชิญไปสอนจะถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย
นี่ทำให้ซุนกว่างอวี่นิ่งไปครู่หนึ่ง
เหอจื้อเชียนก็ค่อนข้างกระอักกระอ่วน
ซุนกว่างอวี่ถอนใจ “หัวหน้าเหอ หัวหน้าเฉินยุ่งก็ช่างเถอะ รอ
มีเวลาพวกเราค่อยนัดก็แล้วกัน”
“เสี่ยวฉิน ไปกัน”
พูดจบเขาก็พาฉินเยว่ออกไป
ทุกคนที่ยังอยู่ในแผนกเห็นแล้วงงไปหมด
จะได้ไปสอนที่ปักกิ่งยูเนียน โอกาสแบบนี้ใครจะอยากพลาด
พูดว่าฉันเคยไปสอนที่ปักกิ่งยูเนียน นี่มันยิ่งใหญ่ขนาดไหนกัน
แต่…
เฉินชางเขากลับปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย
ทุกคนในแผนกศัลยกรรมทั่วไปก็ไม่เข้าใจเฉินชางนัก แต่ตอนนี้
…ทุกคนจดจำ ว่าเฉินชางเป็นคนเย่อหยิ่งทันที
ความสามารถสูง ไร้ข้อกังขา!เย็นชา! เย็นชาจริงๆ ตอบกลับหัวหน้าเหอออย่างไม่ไว้หน้า
สักนิด ไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับคนดังจากปักกิ่งยูเนียน
แบบนี้คือตัวพ่อใช่ไหม
ทุกคนอดไม่ได้ ทอดถอนใจขึ้นมาทันที
……
……
พอซุนกว่างอวี่พาฉินเยว่ออกมาแล้วก็เตรียมจะขับรถออกไป
เขายังค่อนข้างอายที่เสียหน้าต่อหน้าลูกศิษย์ตัวเอง…
ฉินเยว่นั่งเงียบอยู่บนรถ ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
ต่อให้ดูเผินๆ แล้วสถานการณ์ของอาจารย์ค่อนข้าง
กระอักกระอ่วน ถ้าอีกฝ่ายเป็นคนอื่นเธอคงตั้งใจต่อว่าเพื่อปลอบ
อาจารย์ไปแล้ว…
แต่…
อีกฝ่ายคือสามีตัวเอง
คราวนี้จึงลำบากใจมิหนำซ้ำ ฉินเยว่ยังแอบดีใจอยู่บ้าง ที่แท้สามีก็มีมุมเผด็จการ
เหมือนกันแฮะ!
พอคิดถึงตรงนี้ฉินเยว่ก็ใจเต้นตึกๆๆ นิดหน่อย
ผู้หญิงคนไหนไม่ชอบความรักจากจอมเผด็จการบ้าง มิหนำซ้ำ
จอมเผด็จการคนนี้ยังโอนอ่อนให้ตนทุกอย่าง เชื่อฟังตนเป็นอย่างดี
พอนึกถึงตรงนี้ฉินเยว่ก็แอบยิ้มในใจอยู่นาน
ด้านซุนกว่างอวี่ขึ้นรถแล้วยังไม่สตาร์ทรถสักที
เขามีความคิดหลายอย่างอยู่ในใจ
ถ้าเอาตามอารมณ์ อีกฝ่ายไม่ไว้หน้าเขา ตนย่อมหันหลัง
จากไป ถึงอย่างไรซุนกว่างอวี่ก็เป็นคนธรรมดา แต่…
พอตั้งใจคิดแบบเอาใจเขามาใส่ใจเรา คนที่มีความสามารถ
และสถานะอย่างนี้คนไหนไม่ยุ่งแบบนี้บ้าง