เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ 487 เสียใจภายหลัง

Now you are reading เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ Chapter 487 เสียใจภายหลัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เฉิงเงินหรูย่อมเห็นนายท่านเฉิงสีหน้าเปลี่ยนไปเป็น

ธรรมดา

“เรื่องผู้สืบทอดสถาบันวิจัยตระกูลสวีน่ะ ได้ยินมาว่า ไม่ใช่คุณชายเดี่ยวสวีท่านนั้น ฉันคงไม่รอพวกหร่านหร่าน กลับมาแล้ว ฉันกลับไปก่อนแล้วกัน” นายท่านเฉิงลุกจากม้า

เฉิงเฉินหรูวางแก้วไว้บนโต๊ะ เธอมองแผ่นหลังนายท่าน เฉิง เลิกคิ้วเล็กน้อย “ผู้สืบทอดสถาบันวิจัยตระกูลสวี

คุณชายเสี่ยวสวี?”

ชื่อเสียงสวีเหยากวงในวงสังคมเมืองหลวงไม่ได้ด้อยเลย

เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงที่สุดในตระกูลสวีนอกจากคน

จํานวนไม่กี่คนเหล่านั้น

เมื่อพูดถึงผู้สืบทอดสถาบันวิจัยตระกูลสวีคนต่อไป ทุก คนก็จะต้องนึกถึงสวีเหยากวงขึ้นมาตามสัญชาตญาณ

ไม่น่าแปลกใจเลยที่นายท่านเฉิงจะตื่นตัวขนาดนี้

เรื่องผู้สืบทอดสถาบันวิจัยไม่ใช่เรื่องธรรมดา

“ทางฝั่งตระกูลสวีไม่มีข่าวแว่วเล็ดลอดออกมาเลยแม้แต่

น้อย และยังจัดงานต้นเดือนหน้าอีกด้วย” นายท่านเฉิงสุด หายใจเข้าลึกๆ “นี่ดูจะ….ฉุกละหุกไปหน่อย”

ทําให้คนสับสน

นายท่านเฉิงจากไปในไม่ช้า เฉิงเงินหรูลุกขึ้นรวบเสื้อโค้ต

ที่สวมอยู่

เฉิงมู่ที่ยกกระถางดอกไม้อยู่ข้างหลังเฉิงเงินหรูยืนนิ่งอยู่

กับที่พลางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขานึกถึงตอนที่เจออาจารย์

ใหญ่สวีที่ห้องพยาบาลประจําโรงเรียนในอวิ๋นเฉิงขึ้นมาได้

ผงะไปทั้งตัว….

จากนั้นก็ส่ายหัวอย่างแรง

**

หลวง

ทางด้านห้องปฏิบัติการทางฟิสิกส์มหาวิทยาลัยเมือง

ชั้นใต้ดินชั้นที่สาม

อธิการบดีโจวแห่งมหาวิทยาลัยเมืองหลวง ผู้ดูแล

ห้องปฏิบัติการทางฟิสิกส์ โจวอิ่ง คณบดีเจียง รวมถึงกลุ่ม ของนักวิจัยเดี๋ยวก็อยู่ที่นี่กันหมด

“นักศึกษาฉินหร่านมาหรือยัง?” อธิการบดีโจวมองไป

ทางรุ่นพี่เยี่ย

รุ่นพี่เยี่ยพยักหน้า เขายกมือดูโทรศัพท์คํานวณเวลา

“น่าจะอีกครึ่งชั่วโมงครับ”

“เตรียมตัวให้พร้อม” อธิการบดีโจวเดินไปข้างนอก

ขณะที่โทรศัพท์

พวกเขาต่างรู้ดีว่าฉันหร่านไม่มีความอดทนกับการตอบ

คําถามสื่อครั้งแล้วครั้งเล่า รุ่นพี่เยี่ยกับคู่หังก็ไม่ถนัดเรื่องพวก

นี้ พวกเขาจึงมอบให้เป็นหน้าที่ของสิงไคกับหนานฮุ่ยเหยา ดังนั้นคนที่เหลือจึงมารอฉันหร่านอยู่ที่ห้องปฏิบัติการ

ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง รถเฉิงเจวี้ยนก็มาจอดใกล้ๆ

พอฉินหร่านลงจากรถก็เห็นอธิการบดีโจวและคนอื่นๆ

เดินมาได้ครึ่งทาง พลุที่อยู่บริเวณรอบๆ ก็บานสะพรั่ง

“ปัง-

“ปัง-

“…..”

ดังแล้วดังเล่า

อุดหู

แรกๆ ฉินหร่านยังหงุดหงิดอยู่หน่อยๆ เธอยื่นมือขึ้นมา

จนกระทั่งเธอเดินไปใกล้ๆ ก็เห็นนักวิจัยเดี่ยว ด็อกเตอร์

โจว และกลุ่มของนักวิชาการฟิสิกส์เงยหน้ามองพลุที่อยู่เหนือ ศีรษะด้วยดวงตาที่แดงก่ํา

เธอชะงักฝีเท้า

เดินไปที่กลุ่มคนเหล่านั้นแล้วปล่อยมือลง ในใจพลางนับ

เสียงพลุไปด้วย

ตั้งแต่ต้นจนจบมีทั้งหมด 40 นัด

“วีรสตรีผู้ยิ่งใหญ่แห่งสถาบันวิจัยฟิสิกส์ของพวกเรา” อธิการบดีโจวตบไหล่ฉินหร่าน มุมปากกระตุก แต่สุดท้ายก็ ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ตบไหล่ฉินหร่านแรงๆ

ตอนที่เขาดึงตัวฉินหร่านเข้ามหาวิทยาลัยเมืองหลวงก็ เพียงเพื่อต้องการนําทรัพยากรมาสู่มหาวิทยาลัยเมืองหลวง

ตอนนั้นเขาถึงขนาดพาคณบดีภาควิชาคณิตศาสตร์ไป

เปลี่ยนวิชาเอกให้ฉินหร่าน

ตอนนี้พอมาคิดๆ ดูแล้ว โชคดีที่ฉันหร่านมุ่งมั่นที่จะเรียน

ฟิสิกส์มาตลอด…

ไม่อย่างนั้น….

เหล่าคณาจารย์และนักวิจัยทางฟิสิกส์มากมายใน

ประเทศที่ยืนหยัดรอคอยมานานกว่า 40 ปีคงสูญเปล่า

กลัวก็แต่ว่าสถาบันวิจัยแห่งรัฐ M ก็ยังคิดไม่ถึงเสียด้วย

 

ซ้ําที่จู่ๆ วงการฟิสิกส์ในประเทศก็เฉิดฉายออกมาเพราะทีมที่

อายุไม่ถึง21ปี และในอนาคตก็ฝากความหวังไว้ได้

“ไป เข้าไปข้างในก่อน ชั้นใต้ดินชั้นที่สามยังมีกลุ่มดอก เตอร์นักฟิสิกส์กําลังรอเธออยู่” อธิการบดีโจวเรียกฉินหร่าน

เข้าไปข้างใน

ฉินหร่านพยักหน้าและตามนักวิจัยเลี้ยวเข้าไป

สายตาอธิการบดีโจวมองไปยังรถคันที่มาส่งฉินหร่าน

เขาไม่ได้เข้าไปพร้อมกับกลุ่ม

แต่อยู่รั้งท้าย

ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าอธิการบดีโจวไม่ได้ตามมา

จนกระทั่งกลุ่มคนเหล่านั้นหายลับไปจากหน้าประตู อธิการบดีโจวจึงยกเท้าเดินไปที่รถเฉิงเจวียน

เฉิงเจวี้ยนก็กําลังเปิดประตูลงจากรถพอดี

“อธิการบดีโจว” เขาทักทายอย่างสุภาพ

อธิการบดีโจวรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าฉันหร่านเป็นแฟนตัว

น้อยของเฉิงเจวียนตามที่เล่าลือกัน พอมาเจอเขาก็ไม่ได้

แปลกใจอะไร “คุณชายเฉิง คุณน่าจะรู้ว่าผมมาหาคุณเพราะ เรื่องอะไร นักศึกษาฉินหร่าน….ผมไม่อยากให้เกิด

โศกนาฏกรรมเหมือนครั้งก่อนซ้ํารอยอีก ไม่ง่ายเลยที่ สถาบันวิจัยทางฟิสิกส์จะมีคนที่โดดเด่นปรากฏตัวขึ้นมาอีก

ครั้ง คราวนี้ผมจะจับตาดูฟังเจิ้นนิ้วทางนั้นเอง ถ้าหากพวก คุณสี่ตระกูลหลักสอดมือเข้ามายุ่ง พวกนักศึกษาของนักวิจัย เหล่านั้นคงไม่มายุ่งไม่ได้

 

“ผมรู้” เฉิงเจวียนยิ้มจางๆ เมื่อได้ยินดังนั้น แววตาสุกใส แต่น้ําเสียงกลับเย็นชา “คุณไม่จําเป็นต้องบอก”

นี่หมายความว่าเขายืนฝั่งฉินหร่านแล้ว

เมื่อได้รับคํายืนยันจากเขา อธิการบดีโจวก็ถอนหายใจ ด้วยความโล่งอก ใบหน้ายิ้มยกใหญ่ “งั้นก็ดีครับ”

ตอนนี้ตระกูลเฉิงเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในเมืองหลวงที่

ไม่มีใครสามารถสั่นคลอนได้ มีเฉิงเจวียนอยู่ทั้งคน อย่าว่าแต่ ฟังเจิ้นนิ้วเลย เพราะแม้แต่คนจากตระกูลอื่นก็ต้องชั่งน้ําหนัก

เอาเอง

**

ทางด้านฉินหร่านมาถึงห้องปฏิบัติการเรียบร้อยแล้ว

เหล่าคณาจารย์ที่กําลังรออยู่ใน

ห้องปฏิบัติการ

นักวิจัยเดี่ยวเห็นดังนั้นก็เหลือบมองฉินหร่าน “เธอไม่ ต้องเปลี่ยนชุด วันนี้ไม่มีการทดลองอะไร อาจารย์พวกนี้มี

คําถามกับเธอน่ะ”

พอได้ยินแบบนี้ ฉินหร่านก็ไม่ได้รีบเข้าไปเปลี่ยนชุด

ป้องกัน

“นักวิจัยเดี่ยว คราวนี้ห้องปฏิบัติการของคุณจะได้รับ

การประเมินตําแหน่งนักวิจัยทางการสองตําแหน่งใน

สถาบันวิจัยแล้วสินะ?” โจววิ่งถอยออกมา เขาเป็นผู้นําตลอด ทั้งกระบวนการในรัฐ M เขาจึงรู้เรื่องรุ่นพี่เยี่ยเป็นธรรมดา

คุณงามความดีที่ฉันหร่านกับรุ่นพี่เยี่ยทําไว้ได้บรรลุ

มาตรฐานนักวิจัยแล้ว จึงไม่ยากแก่การประเมินเลยสักนิด

นักวิจัยเดี่ยวดันแว่นตา เขาไม่ค่อยแสดงออกทางสีหน้า มากนัก แน่นอนว่าในขณะนี้ก็ยังเป็นเหมือนเดิม “รอ

สถาบันวิจัยพิจารณาเสร็จ คงไม่มีปัญหาอะไรมาก”

“ผมก็คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร” โจวยิ่งยิ้ม “ไม่แน่ว่า อาจจะได้เป็นนักวิจัยขั้นสามเลยก็ได้”

ด้วยประวัติของฉันหร่าน บวกกับงานวิจัยด้านวิศวกรรม

นิวเคลียร์ คุณงามความดีที่ทําต่อสถาบันวิจัย รวมไปถึง ศักยภาพเฉพาะตัวแล้ว การเข้าสถาบันวิจัยจึงไม่ใช่เรื่องยาก

“ผมรายงานไปแล้ว” นักวิจัยเดี่ยวก้มหน้ามองโทรศัพท์

“เมื่อวานผมส่งข้อมูลไปแล้ว รอรับแจ้งจากสถาบันวิจัยอีกที”

เมื่อนักวิจัยเดี่ยวพูดมาแบบนี้ โจวอิ่ง คณบดีเจียง และ คนอื่นๆ ก็ยังไม่ไปไหน

ไม่ไกลออกไป ไม่รู้ว่าทําไมจั่วชิวหรงที่ไม่ได้ทํางานอย่าง จริงจังมาหลายวันถึงมีเหตุผลอะไรที่ไม่ไป วันนี้

ห้องปฏิบัติการหยุดพัก นักวิจัยเดี๋ยวก็บอกแล้วว่าวันนี้ไม่มี

การทดลอง

เธอรู้ว่าวันนี้ทางฝั่งสถาบันวิจัยจะต้องแจ้งให้

นักวิจัยเดี่ยวทราบ

พอคิดถึงตรงนี้ จั่วชิวทรงก็เม้มปาก เธอรู้สึกว้าวุ่นใจเมื่อ เห็นคนมารายล้อมฉันหร่านกับรุ่นพี่เยี่ย

“นักวิจัยเลี้ยว คุณเสนอชื่อนักศึกษาฉินหร่านไปที่ สถาบันวิจัยแล้วหรอ?” อาจารย์คนอื่นๆ ที่อยู่ใน

ห้องปฏิบัติการยังไม่ไปไหน พวกเขากําลังพูดคุยเรื่องการ ทดลองนั้นกับพวกฉินหร่านและรุ่นพี่เยี่ยอยู่ ทั้งหมดรอ นักวิจัยเดี่ยวอยู่ทางด้านนี้โดยไม่ได้นัดหมาย

เวลากลุ่มนักฟิสิกส์อยู่ด้วยกันส่วนใหญ่จะพูดคุยกันเรื่อง

แสง ไฟฟ้า นิวเคลียร์ แม่เหล็ก

แต่ขณะนี้ พวกเขากลับให้ความสนใจเรื่องอาจารย์ของ

ฉินหร่าน “นักศึกษาฉินหร่าน เธอคิดเรื่องอาจารย์ดีหรือยัง?”

พอพูดถึงตรงนี้ นักวิจัยเดี๋ยวก็ดันแว่นตามองมาทางฉินห ร่าน “ผู้อํานวยการฟังก็เคยถามเรื่องเธอกับฉัน….”

ไม่ง่ายเลยที่รุ่นพี่เยี่ยจะปลีกตัวมาจากกลุ่มคนได้ เขาเดิน

มาที่หน้าโต๊ะตัวเองเพื่อเขียนต้นฉบับ

“รุ่นพี่เยี่ย มิน่าล่ะคุณถึงออกจากกลุ่มของฉัน ที่แท้ก็ไป ร่วมการแข่งขัน ICNE ของรุ่นน้องนี่เอง” จั่วชิวทรงเดินมาหา รุ่นพี่เยี่ย เธอหลับตาอยู่นานกว่าจะมองไปทางฉินหร่าน “คราวนี้เธอคงประสบความสําเร็จกลายเป็นนักวิจัยขั้นสี่แล้ว ล่ะมั้ง? เพิ่งจะอายุ20ยังเก่งกว่าคนอื่นที่ต่อสู้มานานกว่าสิบ ห้าปี ผู้อํานวยการฟังยังอยากรับเธอเป็นศิษย์เลย…”

“เธอคิดจะพูดอะไรกันแน่?” รุ่นพี่เยี่ยเงยหน้ามองเธอไป

“รุ่นพี่ อีกไม่นานนักวิจัยเดี๋ยวก็จะย้ายห้องปฏิบัติการ

แล้ว เขาไม่ได้วางแผนจะพาคนไปด้วย ฉันจะต้องโดนย้ายไป

อยู่ห้องปฏิบัติการอื่น รุ่นพี่ เรารู้จักกันมาตั้งสามปี แต่ มิตรภาพยังเทียบไม่ได้กับรุ่นน้องที่รู้จักกันแค่ไม่กี่เดือนนั้น เหรอ? พวกคุณกันฉันออกแบบนี้เนี่ยนะ? อาศัยตอนที่ฉันไม่รู้ อะไรเลย ถอนตัวออกจากการแข่งขันการขับเคลื่อนยาน

อวกาศของฉันแล้วไปเข้าร่วมICNE ?!” จั่วชิวหรงพูดไปตรงๆ

เสียงพูดของเธอดังขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนต่างก็ได้ยินประโยค

ท้ายๆ

คณบดีและด็อกเตอร์ที่อยู่ในห้องปฏิบัติการพากันมองมา

ทางน…

ในแวดวงวิชาการ คนที่มีคุณลักษณะไม่ดี…

จั่วชิวทรงมองไปทางรุ่นพี่เยี่ยและฉันหร่านพลางเม้มปาก

“รุ่นน้อง เธอจําได้ไหมว่าตอนที่เธอมาห้องปฏิบัติการแรกๆ

ใครเป็นคนดูแลเธอ?”

ประโยคนี้ทําให้พวกอาจารย์และด็อกเตอร์คนอื่นๆ

ค่อยๆ เงียบเสียงไป มองไปทางฉินหร่านกับจั่วชิวทรงเป็น

ครั้งคราว

ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน แต่ถ้าคุณลักษณะไม่เหมาะสม สถาบันวิจัยก็ไม่มีทางให้ความสําคัญแน่ๆ ใครจะไปรู้ว่าคุณไป ทําอะไรกับผลงานการวิจัยมาบ้าง?

ความลับอาจจะรั่วไหลเพราะเงิน?

รุ่นพี่เยี่ยเงยหน้าขึ้น เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อพยายาม

ระงับอารมณ์โทสะ หันไปมองจั่วชิวหรงอย่างไม่ละสายตา

เหมือนรู้จักเธอเป็นครั้งแรก

“เมื่อไม่กี่เดือนก่อน นักวิจัยเดี่ยวให้รุ่นน้องเข้าร่วม แข่งขันการขับเคลื่อนยานอวกาศของเธอ แต่เธอกลับฉีก รายชื่อทิ้ง” รุ่นพี่เยี่ยยังมองไปที่เธอ “วงการฟิสิกส์ใน

ประเทศต้องมีความสามัคคีกันอยู่เสมอ แต่ละคนต่างก็ ช่วยเหลือกันมาตลอด รุ่นพี่ช่วยเหลือรุ่นน้องเป็นเรื่อง ธรรมดามาก ที่เธอมาถึงตรงนี้ได้ก็เพราะฉันไม่ใช่เหรอ”

พอพูดถึงตรงนี้ รุ่นพี่เยี่ยก็ดึงลิ้นชักเอาแผนงานที่ฉันห ร่านทําเสร็จไว้ตั้งแต่แรกให้ทั่วชิวหรง “เธอลองอ่านแผนงาน

2

นี้ให้ดีสิ! รุ่นน้องเรียนสาขาวิศวกรรมอัตโนมัติแท้ๆ แต่เธอ วางแผนงานให้พวกเราตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว แม้เธอไม่เห็นด้วยที่

จะให้รุ่นน้องเข้าร่วมทีม แต่รุ่นน้องก็ยังทําแผนงานให้เธอ จั่ว

ชิวหรง เธอคิดว่าตอนนั้นเธอได้ที่หนึ่งมาได้ยังไง?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด