เพราะอกหักผมเลยตัดสินใจจะเป็น Vtuber แต่ทำไมผมถึงเป็นที่นิยมในหมู่พี่สาวกันหละ 51 ความเป็นจริงอันน่าตื่นตระหนก

Now you are reading เพราะอกหักผมเลยตัดสินใจจะเป็น Vtuber แต่ทำไมผมถึงเป็นที่นิยมในหมู่พี่สาวกันหละ Chapter 51 ความเป็นจริงอันน่าตื่นตระหนก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ฟูว…”

ผมหายใจเข้าเต็มปอดหลังจากไลฟ์จบ

 

“มันมีคำถามเยอะมากเลยจนผมเผลอไลฟ์นานกว่าปกติเลย… แต่ทุกคนดูจะสนุกกันดี เพราะงั้นมันก็ดีแล้วหละ”

ผมพึมพำกับตัวเองอยู่คนเดียวในห้อง

 

“ออฟคอแลปของผมกับฮานะซังจะเริ่มสุดสัปดาห์หน้า ผมควรจะไปหาพ่อกับแม่ที่บ้านดีไหมนะ”

ผมตัดสนใจส่งอีเมลล์หาแม่

ผมควรจะโผล่หน้าไปที่บ้านเป็นครั้งคร่าว ครอบครัวของผมจะได้หายกังวล

 

หลังจากส่งอีเมลล์ไปและเตรียมตัวจะนอน แล้วผมก็หลับไป

 

เมื่อรุ่งเช้ามาถึง ผมก็ตื่นแล้วไปทำงาน

ผมได้ขอลาไปช่วงหลังจากคอมมิกเก็ต แต่หลังจากต้องไปโรงเรียน ผมก็ต้องไปทำงานพาร์ทไทม์

แน่นอนว่ามันแค่ตอนเช้า

 

หลังจากทำงานเสร็จ อีเมลล์ตอบกลับจากแม่ก็รอผมอยู่

 

ดูเหมือนว่าพ่อของผมจะกลับมาบ้านตอนต้นสัปดาห์นี้

เขามักจะเดินทางไปทำงานตลอด เพราะงั้นผมคงเหนื่อยมาก

 

ถ้ามันเป็นแบบนั้น ผมจะบอกพวกเขาว่าผมจะกลับบ้านวันจันทร์ แล้วใช้เวลาไปกับการตัดต่อและอัดวิดีโอ เพื่อชดเชยที่หลังๆมานี้ไม่ค่อยมีคอนเท็นลง

 

อ่อ แล้วก็นะ ตอนนี้ผมกำลังเล่นเกม FPS อยู่หละ

เกมเป็นเกมแนวแบทเทิลรอยัลที่มันจะเป็นแนว TPS แต่เกมนี้มันมีแค่ FPS 

ผมไม่รู้ว่ามันจะเหมาะกับผมไหม แต่ผมสามารถเล่นไปได้ไกลมากๆ ถึงแม่ผมจะแพ้พวกมือโปรอยู่ดีก็เถอะ

 

แต่ทว่า เพราะมันเป็นเกม ผมจะต้องตัดคลิปเองเพราะผมเล่นมันออนไลน์ ไม่ใช่ออฟไลน์

 

เพราะงั้น จะต่างกับซีรี่ R* วิธีตัดต่อของผมจะต่างกัน

 

แต่มันก็มีข้อดีตรงที่ผมไม่ต้องใส่รายระเอียดมากนักตอนที่ตัดต่อ แต่ระยะเวลาที่ใช่นี้แหละคือปัญหา

 

แล้วก็นะการโดนด่าว่าด้วยคำหยาบคายเป็นปกติในเกมแบบนี้

ถ้าคุณกังวลกับมันคุณก็จะไม่ไปไหน

 

แล้วก็ผมก็ยุ่งกับการตัดต่อและไปทำงานทั้งสุดสัปดาห์รู้ตัวอีกที มันก็วันจันทร์แล้ว

เป็นวันที่ผมจะไปเยี่ยมพ่อแม่ของผม

 

พ่อแม่ของผมอยู่ที่ กิฟู เพราะงั้นบางคนอาจจะคิดว่ามันอยู่ใกล้นาโกย่าที่ผมอยู่

บ้านของพวกเขาอยู่ที่เมืองหลวงของจังหวัด เมืองกิฟู

 

แต่การจะเดินทางไปที่นั้นจากนาโกย่าด้วยขนส่งสาธารณะนั้นใช้เวลานานกว่าชั่วโมงครึ่ง

 

มันค้อนข้างลำบากและมีค่าใช้จ่ายสูง แค่รถโดยสารกับรถไฟก็แทบจะเท่ากันค่าเช่าอพาร์ทเม้นท์เล็กๆแล้ว

 

ผมหมายถึง แค่ค่าเดินทางก็ประมาณ 2000 เยน ต่อวันแล้ว ตื่นแต่เช้าและจ่ายเงินเท่านั้นทุกวันมันบ้ามาก

 

มันทำให้รู้สึกว่าการออกมาอยู่คนเดียวมันคุ้มค่าเงินมากกว่า ต่อให้ผมต้องทำงานพาร์ทไทม์ก็ตาม

 

แต่เพราะว่า ค่าเข้าเรียนของมัธยมปลายนั้นฟรี ทำให้มันง่ายมากที่จะเลือกโรงเรียน และผมก็รู้สึกขอบคุณรัฐบาลเป็นอย่างมาก

 

จะว่าไปนะ ยูโตะถูกชักช่วนมาด้วยทีมกรีฑาของโรงเรียนหละและได้เข้ามาเรียนในฐานนะนักเรียนพิเศษ

ผมเป็นคนที่สุดยอดมากที่ทั้งเรียนเก่งและเล่นกีฬาเก่ง

 

 

ส่วนตอนนี้ผมกำลังดูไลฟ์ของชวาร์ตษ์ซังอยู่ระหว่างทางกลับบ้าน

 

ดูเหมือนว่าเขาจะมีธุระที่ไม่สามารถเลี้ยงได้พรุ่งนี้ เขาเลยเลื่อนวันมาเป็นวันนี้แทน

ตอนที่ผมฟังไลฟ์นั้น ผมก็คิดว่ามันแปลกดีที่เขาไลฟ์ตอนที่ยังไม่ถึงเที่ยงเลย ผมมาถึงป้ายรถโดยสารใกล้บ้าน

 

ดูเหมือนว่าได้เวลาของมาร์ชแมลโลว์แล้ว และเขาก็กำลังตอบคำถามของคนดูอยู่

 

[ลูกของฉันหรอ?]

ชวาร์ตษ์ซังมีลูกชาย แล้วจากที่เขาพูดมา เขาน่ารัก

 

[เขาเป็นเด็กดี ทำอาหารเก่ง ทำความสะอาดเป็นและดูดี ส่วนนิสัยเขา… คงจะใส่ซื่อเกินไปละมั้ง ในความคิดของฉันนะ]

แน่นอนว่าถ้าใครมีพ่อแบบนั้น ลูกก็ต้องออกมาดีอยู่แล้ว ผมคิดในใจ ตอนนี้ผมมาถึงหน้าบ้านของผมแล้ว

 

ตอนที่ผมเข้ามาในบ้านโดยใช้กุจแจ แม่ของผมก็ตกใจ

 

“อ้าว ยูกิจัง ยินดีตอนรับกลับนะ วันนี้วันจันทร์หรอ? แม่คงจำวันผิดแน่เลย…”

 

“แม่ฮะผมกลับมาแล้ว!… แม่ยังสับสนวันอยู่อีกแหะ…”

“มันเป็นแบบนี้มานานแล้วหละ เพราะงั้นแม่ทำอะไรกับมันไม่ได้หรอกนะ”

 

“ผมจะเอาของไปเก็บก่อนนะฮะ”

“ได้เลยจ๊ะ มันคงจะร้อนมาก เอาชาหน่อยไหม?”

 

“เย่!”

“โอเค เอาสัมพาระไปเก็บก่อนนะ พ่อของลูกอยู่ในห้อง แวะเข้าไปทักทายเขาหน่อยนะ”

 

“ได้เลย!”

 

แล้วผมก็เขาไปในห้องของพ่อที่ซั้นสอง โดยส่วมหูฟังอยู่หนึ่งข้าง

 

“พ่อฮะ ผมกลับมาแล้ว!”

[พ่อฮะ ผมกลับมาแล้ว!]

 

“หืม?”

[หืม?]

 

ผมได้ยินเสียงของผมในหูของผม

 

“เอออออออออออออออออออออออออ่?!?!?!?!”

[เอออออออออออออออออออออออออ่?!?!?!?!]

ผมและพ่อร้องออกมาพร้อมๆกัน

 

แล้วเสียงที่ผมได้ยินจากหูฟังก็บอกความจริงกับผม

 

ใครจะไปคิดว่าพ่อของผมคือ กลินซ์ ออฟ ชวาร์ตษ์ กันหละ?

 

**********

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด