เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา 665 ซู่อีและหนานเสียน (8)/ 666 ซู่อีและหนานเสียน (9)
ตอนที่ 665 ซู่อีและหนานเสียน (8)
ซู่อีไม่อยากให้ชิงเอ๋อร์รู้เรื่องพวกนี้
“เสียดายที่นางซื่อบื้อเกินไป ปิดบังเจ้าไม่ได้”
ชิงเอ๋อร์ของเขาฉลาดออกเพียงนี้ จะไม่พบความสัมพันธ์ของพวกเขาได้อย่างไร
ทว่านางดันมั่นใจในตัวเองเกินไป หลงคิดว่าชิงเอ๋อร์เชื่อนางจริงๆ
แต่ว่าสุดท้ายคนที่เข้าใจมารดาก็คือลูกชาย ซู่อีคิดทำอะไร หนานเสียนรู้ดียิ่งกว่าใครๆ ทั้งนั้น
เฟิงหรูชิงพยักหน้าเห็นด้วย “ซื่อบื้อจริงๆ ด้วย แต่…ข้าชอบนางมาก”
ชอบรูปโฉมของนาง ชอบเรือนร่างของนาง ซ้ำยัง…ชอบที่นางเป็นแม่ของหนานเสียนด้วย
ลมหายใจของหนานเสียนหนักแน่นขึ้น “เจ้าชอบนางไม่ได้”
“เพราะอะไร” เฟิงหรูชิงงุนงง
นางชอบหนานเสียน รักบ้านก็พลอยรักชอบซู่อีไปด้วย แล้วไม่ดีตรงไหนกัน
หรือว่าจะให้นางกับซู่อีไม่ถูกกัน
“ไม่ได้” หนานเสียนกอดเฟิงหรูชิงไว้ เอ่ยเสียงนิ่งๆ ว่า “นางไม่รูปงามเท่าข้า เจ้าไม่ต้องชอบนาง”
“…”
หนานเสียนเอ่ยเสียงเรียบ “วันหน้า หากนางจะลักพาตัวเจ้าไป เจ้าอย่าไปสนใจนาง”
เฟิงหรูชิงเงียบ
หนานเสียนไปโดนอะไรกระตุ้นมา นี่เขาหึงแม่ตัวเองอย่างนั้นหรือ
“อีกอย่าง” หนานเสียนชะงักเล็กน้อย “นางอายุค่อนข้างมาก ไม่เหมาะสมกับเจ้า”
“กั๋วซือ” เฟิงหรูชิงเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ “วันนี้เจ้าเป็นอะไรไป”
“ไม่มีอะไร” หนานเสียนหลุบตาลง มุมปากเขาอมยิ้ม ในดวงตามีความอ่อนโยนไม่จางหาย “ข้าไม่มีทางยอมให้ใครพาเจ้าไปอย่างเด็ดขาด”
ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่ได้ทั้งนั้น!
“แม่เจ้า…ความจริงนิสัยคล้ายเจ้ามาก” เฟิงหรูชิงหัวเราะ “เพราะฉะนั้นข้าถึงจับได้ง่ายๆ จริงสิ ตระกูลมู่นั่น…มันคือเรื่องอะไรกันแน่”
มือของหนานเสียนที่กำลังลูบหัวเฟิงหรูชิงแข็งค้าง แววตาเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชา ความเย็นยะเยือกปกคลุมใบหน้ารูปงาม
“ชิงเอ๋อร์วันหน้าเจ้าต้องจำไว้ ข้ามีแต่แม่ ไม่มีพ่อก็พอแล้ว ต่อให้พบเขา ก็ไม่ต้องไว้หน้า”
เฟิงหรูชิงหรี่ตาลง “ตระกูลมู่ทำร้ายซู่อีหรือ”
“อืม” หนานเสียนสีหน้าเย็นชาเสียจนน่ากลัวอยู่บ้าง “เขารักอนุแล้วยังยอมปล่อยมือจากแม่ข้า ถึงขั้นทำร้ายแม่ข้าครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อผู้หญิงคนนั้น”
การทำร้ายบางอย่างเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ชั่วชีวิตก็มิอาจอภัยได้
เฟิงหรูชิงสงบลง นางกำมือแน่น พลันหัวเราะเสียงเย็นออกมา
“คนแบบนั้น ไม่มีคุณสมบัติเป็นพ่อของเจ้า และไม่มีคุณสมบัติครอบครองซู่อีด้วย!”
เพียงประโยคเรียบง่ายประโยคเดียว เฟิงหรูชิงก็เข้าใจแล้วว่า ซู่อีได้รับความเจ็บปวดมากมายแค่ไหนตอนอยู่ในตระกูลมู่
คนสารเลวแบบนั้น ต่อให้วันหน้าสำนึกผิด ก็ไม่คู่ควรมาขอให้ซู่อีอภัยให้!
หนานเสียนยิ้มยกมุมปากจางๆ เขาไม่ได้บอกเฟิงหรูชิงว่า ในตอนเด็กเขาเกือบตายอยู่ในตระกูลมู่
“เมื่อก่อนนางตาบอด สู้เจ้าไม่ได้”
“…” เฟิงหรูชิงหน้าคล้ำง้ำงอ
ทำไมนางรู้สึกว่าหนานเสียนกำลังชมตัวเอง
“เมื่อก่อนข้าเองก็ตาบอด…”
เจ้าของร่างนี้ตาบอดจริงๆ ถึงได้ชอบหลิ่วอวี้เฉิน
หนานเสียนขมวดคิ้ว “นั่นไม่ใช่เจ้า”
เสี้ยววินาทีนั้นหัวใจเฟิงหรูชิงสั่นไหว นางจ้องหนานเสียนนิ่งๆ
เขารู้อะไรแล้วใช่หรือไม่
คล้ายกับว่าหนานเสียนไม่ทันจับสังเกตสีหน้าหญิงสาว เขาอมยิ้ม “ข้ามักมีความรู้สึกหนึ่งเสมอ คนเมื่อก่อนนั้นไม่ใช่เจ้า จนถึงตอนนั้นที่เจ้ามายังป่าไผ่ทิศใต้ ถึงเป็นการพบกันครั้งแรกของพวกเรา”
………………….
ตอนที่ 666 ซู่อีและหนานเสียน (9)
หัวใจเฟิงหรูชิงเต้นแรงขึ้น นางมักรู้สึกว่า…กั๋วซือต้องรู้เรื่องที่นางไม่รู้อยู่แน่
“กั๋วซือ” น้ำเสียงนางเบาลง
“ชิงเอ๋อร์” นิ้วของหนานเสียนจรดลงที่ริมฝีปากหญิงสาว แววตาเย็นชานั้นพราวประกายตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่อาจรู้ได้ “ตอนนั้นนางบอกให้ข้ามอบของขวัญให้เจ้า ข้ายังไม่ได้ให้เจ้าเลย ไม่สู้ตอนนี้ข้าช่วยเจ้าใส่มันดีกว่า”
เฟิงหรูชิงแววตาวาวโรจน์ ยิ้มตาหยีกระเถิบเข้าหาหนานเสียน
“ของขวัญอะไร”
หว่างคิ้วหนานเสียนทอรอยยิ้มเขายื่นมืออกมา ตู้โตวตัวหนึ่งปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือนาง
“ตู้โตวที่นางทำกับมือ นางให้ข้ามอบให้เจ้า”
“…” เฟิงหรูชิงตัวแข็งขึ้นมาในฉับพลัน
ก่อนหน้านี้นางยังไม่ได้พบซู่อี แล้วซู่อีจะให้หนานเสียนส่งตู้โตวให้นางได้อย่างไร ซ้ำยังให้หนานเสียนเปลี่ยนให้นางด้วย
“ชิงเอ๋อร์ พวกเราไม่อาจทำให้นางผิดหวัง”
มือหนานเสียนประทับไว้ที่แผ่นหลังเฟิงหรูชิง รอยยิ้มของชายหนุ่มยังคงเป็นเสมือนสายลมพลิ้วอ่อนหมู่เมฆคล้อยดังเดิม ยิ่งเหมือนกับขนนกปัดผ่านหัวใจเฟิงหรูชิง
สัมผัสอ่อนโยนนั้นทำให้เฟิงหรูชิงหรี่ตาลง
“กั๋วซือ ท่านมั่นใจหรือไม่ ว่าจะเปลี่ยนตู้โตวอย่างเดียว ไม่ได้คิดนอนกับข้า”
“อืม”
“เช่นนั้น หากข้านอนกับท่านแล้ว ท่านจะอัดข้าหรือไม่” เฟิงหรูชิงยิ้มพริ้มเพรางามล่มบ้านล่มเมืองเสมือนภาพวาด
หนานเสียนตั้งใจจับจ้องใบหน้างดหยดย้อยของหญิงสาวตรงหน้า
อัดนางหรือก็ดูเหมือนว่าจะทำไม่ลง
ดังนั้นหนานเสียนขบคิดชั่วครู่ ตอบเสียงนิ่งว่า “ปกติแล้วมีแต่เจ้าลงมือ อย่างว่าเจ้าเมาแล้วตบ...”
รอยยิ้มเฟิงหรูชิงแข็งค้าง หน้าเจื่อนไป ไอแห้งๆ สองคำ
กั๋วซือกำลังคิดบัญชีเก่ากับนางหรือ
“คือว่า ท่านพอจะลืมเรื่องนี้ไปได้หรือไม่”
“ไม่ได้…” ชายหนุ่มจับมือเฟิงหรูชิงมาวางแนบแก้ม เขายิ้มอ่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ชิงเอ๋อร์ เจ้าเป็นคนเดียวที่ทำร้ายข้าได้”
ไม่ว่าจะด้านใดก็ตาม
นางเป็นคนเดียวที่สามารถทำร้ายเขาได้
อีกทั้งเขายังยินยอมพร้อมใจอีกด้วย
ทั้งๆ ชายหนุ่มน้ำเสียงอ่อนโยนถึงเพียงนั้น ทว่าใบหน้ากลับเต็มไปด้วยแรงปรารถนา ทำให้เฟิงหรูชิงอดทนไม่ไหวอีกต่อไป ลุกขึ้นไปตรงหน้าชายหนุ่ม
ปากแดงๆ ของนางประทับลงบนเรียวปากของเขา โถมกายแนบเข้าไปที่อกเขา รอยยิ้มงดงาม “ท่านจะเปลี่ยนตู้โตวให้ข้ามิใช่หรือข้าตามใจท่าน”
หนานเสียนประคองท้าทอยหญิงสาวอย่างเบามือ ดวงตาอ่อนโยน นัยน์ตาสุกสกาวคู่นั้นสะท้อนเงาร่างของหญิงสาวอยู่ภายใน
“กั๋วซือ ท่านจิตใจสงบไร้ความปรารถนาเช่นนี้ ข้าล่ะอยากรู้นักว่า ถ้าท่านสูญเสียสภาพเช่นนี้ไปจะเป็นอย่างไร”
ในสายตาของชายหนุ่มมีเพียงหญิงสาวตรงหน้า สรรพสิ่งอื่นๆ ล้วนอยู่นอกสายตาเขา
“ถ้าเจ้าอยากดู เช่นนั้นข้าก็จะให้เจ้าดูคนเดียว ชั่วชีวิตนี้ก็จะมีแค่เจ้าเท่านั้น”
แผ่นดินกว้างใหญ่ผู้คนมากมาย มีเพียงเจ้าคนเดียวที่จะได้เห็นข้าในสภาพนี้
จะไม่มีใครคนที่สองอีกแล้ว
“นายท่าน...”
ทว่าในเวลานี้เองดันมีน้ำเสียงอิดโรยดังมาจากนอกหน้าต่าง “ข้าพยายามอย่างแสนสาหัสคลานกลับมาได้อีกแล้ว”
บรรยากาศในห้องเย็นเยียบในบัลดล
ชิงน้อยขยับหัวน้อยๆ ยามที่มันเห็นคนบนเตียงทั้งสอง ร่างกายก็แข็งค้าง เสียงและร่ายกายสั่นเทิ้ม
“ถ้าข้าบอกว่าครั้งนี้ข้าไม่ได้ตั้งใจนะ พวกท่านเชื่อหรือไม่”
……………………..
Comments