เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา 709 ไม่มีทางเป็นหนานเสียน (3)/ 710 ไม่มีทางเป็นหนานเสียน (4)
ตอนที่ 709 ไม่มีทางเป็นหนานเสียน (3)
เวลาครึ่งปีนี้ถังอิ่นล้างสมองกู้อีอีนับครั้งไม่ถ้วน นั่นทำให้ในใจกู้อีอียิ่งมั่นใจว่าผู้ชายล้วนเป็นขาหมูอันใหญ่[1] มีเพียงผู้หญิงจึงจะมีรักจริง
“เพ้อเจ้อ!” ถังอิ่นโกรธอย่างหนัก “เสี่ยวชิงของข้ายอดเยี่ยมเช่นนี้หนานเสียนมีสิทธิ์อะไรทำร้ายจิตใจนางเพื่อคนอื่น? เสี่ยวชิงทอดทิ้งเขาได้แต่ว่าเขาห้ามทอดทิ้งเสี่ยวชิงของข้า! พวกคนชั่วที่คิดเพ้อฝันจะเป็นผู้หญิงของปีศาจจิ้งจอก ข้าเห็นครั้งหนึ่งก็ตีครั้งหนึ่ง! ตีจนพวกนางไม่กล้าโผล่มาอีก!”
นางแค้นจนกัดฟันกรอด สายตาแฝงด้วยความโมโห
หญิงเลวพวกนั้นเห็นผู้ชายแล้วเดินไม่เป็นเลยหรืออย่างไร? แม้แต่ผู้ชายของเสี่ยวชิงยังคิดไม่ซื่อด้วย หากให้นางเห็นจริงจะฆ่าให้ตายทุกคน!
กู้อีอีพยักหน้าเห็นด้วย “เจ้าพูดมีเหตุผลยิ่งนัก ฉินเฟยเอ๋อร์ตระกูลฉินก็อีกคนส่วนคนอื่นๆ ข้าไม่แน่ใจถึงเวลาข้าจะกลับไปสืบดู เพียงแต่เรื่องมากมายล้วนเป็นตระกูลมู่เป็นคนก่อ ถ้าไม่ใช่ตระกูลมู่หลอกข้า…”
หากไม่ใช่ตระกูลมู่หลอกนาง นางก็คงไม่เกือบจะกลายเป็นคู่หมั้นหนานเสียนหรอก
หากสุดท้ายแล้วทำให้เสี่ยวชิงเข้าใจผิด นางจะจุดไฟเผาตระกูลมู่ให้ราบคราบแน่!
…
หลังจากเฟิงหรูชิงกลับไปจวนก็เข้าไปอยู่ในมิติว่าง
ครั้งนี้แม้หนานเสียนมานางก็ไม่ออกมาพบเขา
จนกระทั่งหลังจากนั้นสามวันนางจึงจะออกมาจากมิติว่าง ในมือถือดอกไม้สีม่วงดอกหนึ่ง
ดอกไม้ดอกนี้มีกลีบแปดกลีบห่อหุ้มเกสรเอาไว้ตรงกลางอย่างแน่นหนา
มุมปากนางมีรอยยิ้มบางๆ เช็ดเหงื่อที่หน้าผากแล้วผลักประตูห้องเดินออกมา
นางเห็นหลิวลี่ที่ยืนรออยู่ที่หน้าประตูในทันทีจึงยื่นดอกไม้สีม่วงในมือให้นาง
“เจ้าเอาไปให้ตระกูลฉิน ให้ฉินซวินนำไปต้มเป็นชาดอกไม้แล้วค่อยให้นางดื่ม ทุกวันใช้วันละหนึ่งกลีบก็พอ ใช้ต่อเนื่องกันแปดวันก็ได้แล้ว”
“เพคะองค์หญิง”
หลิวลี่รับดอกไม้ด้วยความนอบน้อมและกำลังจะจากไปแต่เสียงของเฟิงหรูชิงก็เรียกนางไว้อีกครั้ง
“จริงสิ สามวันนี้ที่ข้าหายไปไม่ได้สนใจตระกูลฉิน เว่ยเมิ่งเจี๋ยนั่นจัดการอย่างไร?”
“องค์หญิง” หลิวลี่หันกลับมา “บ่าวได้ยินว่าท่านผู้เฒ่าตระกูลฉินโกรธมากตีเว่ยเมิ่งเจี๋ยจนตาย ท่านผู้นำตระกูลเว่ยก็ไม่ได้ห้ามปรามเขา เพียงแต่สองวันก่อนฮูหยินเฒ่าตระกูลเว่ยรู้เรื่องนี้เข้าก็มาก่อความวุ่นวาย สุดท้ายเว่ยฝ่างก็ส่งนางไปกักตัวไว้ที่ชนบท”
ตระกูลเว่ยเมื่อก่อนนี้เดิมเป็นคนในชนบท ต่อมาได้ติดตามน่าหลานหูจึงได้มีตระกูลเว่ยในวันนี้
ทว่ารากฐานของตระกูลเว่ยก็ยังอยู่ที่ชนบท
เดิมก่อนหน้านี้อย่างมากเว่ยฝ่างก็ส่งฮูหยินเฒ่าไปจวนอื่นเท่านั้น ยังสามารถมีชีวิตสุขสบายอยู่ดีกินดีอยู่
ครั้งนี้เขากลับไม่ออมมืออีกไล่นางกลับไปชนบท ให้นางกลับสู่ชีวิตที่เคยเป็น
เพื่อไม่ให้มีเว่ยเมิ่งเจี๋ยอีกคนจึงส่งคนไปเฝ้าเอาไว้ ชาตินี้ไม่มีทางได้เป็นอิสระ
“เป็นคนใช้ชีวิตดีๆ ไม่ดีหรือ? เหตุใดต้อง…รนหาที่ตายด้วย?”
คนเช่นเว่ยเมิ่งเจี๋ยเดิมก็สมควรตาย เกี่ยวกับจุดจบของนางเฟิงหรูชิงก็ไม่ได้ให้ความหมายอะไร
ทว่าเมื่อนึกถึงคนที่บงการเว่ยเมิ่งเจี๋ยอยู่เบื้องหลัง รอยยิ้มของเฟิงหรูชิงก็ยิ่งจนใจ
ดูเหมือนว่าตระกูลมู่จะคิดไม่ถึงว่าเว่ยเมิ่งเจี๋ยจะเป็นคนโง่เช่นนี้…อีกอย่างต่อให้เว่ยเมิ่งเจี๋ยประสบความสำเร็จนางก็ไม่มีทางเป็นอะไรอยู่ดี
แต่ว่าพอคิดถึงตระกูลมู่ในหัวเฟิงหรูชิงมีใบหน้ารูปงามของชายคนหนึ่งปรากฏขึ้น
มุมปากของนางยกยิ้มบางๆ
คิดถึงกั๋วซือเหลือเกิน…
แน่นอน เฟิงหรูชิงเป็นคนทำจริงมาตลอดอยู่แล้ว ในใจนางเพิ่งจะมีความคิดขึ้นมาก็เดินออกนอกจวนองค์หญิงไปเสียแล้ว
………….
ตอนที่ 710 ไม่มีทางเป็นหนานเสียน (4)
ไม่ไกลจากแคว้นหลิวอวิ๋น
บ้านพักบนภูเขาลูกหนึ่ง
มู่หลิงมือไพล่หลังสองข้างยืนอยู่บนต้นไม้เก่าแก่ด้วยท่าทีนิ่งเรียบ
ใบหน้าของเขาสง่างามมาก กายหยัดตรงดั่งต้นสน ดวงตานิ่งลึกดุจท้องทะเล
ที่คุกเข่าอยู่ล่างเขาไม่ใช่หันเฟิงในเมื่อก่อนแต่เปลี่ยนเป็นผู้ชายอีกคน
“เรื่องเป็นอย่างไรบ้าง?” สีหน้ามู่หลิงตึงแน่นแววตาแฝงด้วยความเอาแต่ใจ “นางเด็กนั่นเป็นหมันแล้วใช่หรือไม่?”
เขายอมให้นางเข้าตระกูลมู่เป็นอนุ แต่ไม่ยอมให้นางให้กำเนิดลูกหลานตระกูลมู่!
ร่างของชายผู้นั้นแข็งทื่อความตื่นตระหนกฉายบนใบหน้า สุดท้ายเขาก็สะกดความตื่นตระหนกเอาไว้เอ่ยเรื่องทั้งหมดออกมา
“พวกโง่!” มู่หลิงโกรธอย่างหนักฟาดฝ่ามือลงบนไหล่ของชายผู้นั้น
ร่างของชายผู้นั้นลอยออกไปล้มลงพื้นอย่างแรงใบหน้าซีดเผือด
“เจ้ามันช่างโง่เขลา!” เพราะความโกรธแววตาคู่นั้นของมู่หลิงน่าหวาดกลัว “ใครให้เจ้าหาคนที่แม้แต่เข้าจวนองค์หญิงยังไม่ได้มาทำเรื่องนี้?”
ชายชุดดำรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจจนแทบจะร้องไห้ หน้าผากของเขามีเหงื่อเต็มไปหมดพยายามลุกขึ้นจากพื้นเพื่อไปคุกเข่าตรงหน้ามู่หลิง
“รายงานท่านผู้นำตระกูล...พวกคนที่สามารถเข้าจวนองค์หญิงได้…ข้าน้อยซื้อตัวไม่ได้…”
มู่หลิงหรี่ตาลง “ซื้อตัวไม่ได้? เป็นไปไม่ได้! คนโลกปุถุชนโลภมากเพียงใดข้ารู้ชัดกว่าใครๆ ให้ผลประโยชน์มากพอก็สามารถทำให้พวกเขาหวั่นไหวได้”
“ที่ข้าน้อยพูดล้วนเป็นความจริง บรรดาคนสนิทของเฟิงหรูชิง…ไม่ให้โอกาสข้าน้อยเลยสักนิด”
“สาวใช้กับทหารอารักขาจวนองค์หญิงเล่า?”
เขาไม่เชื่อว่าจะซื้อตัวใครไม่ได้สักคน
มุมปากชายชุดดำกระตุกอย่างประหลาด “สาวใช้สองคนนั้นของนางระวังตัวมากเกินไป ข้าน้อยยังไม่ทันได้เข้าใกล้ก็คิดจะปล่อยหมาป่ามากัดข้าน้อย สายตาที่พวกนางมองข้าน้อยเหมือนกับข้าน้อยจะเผาจวนองค์หญิงอย่างไรอย่างนั้น”
“คนอื่นๆ ล่ะ?” มู่หลิงกำหมัดจนข้อนิ้วลั่น ความโกรธในใจทวีคูณ
ชายชุดดำราวกับได้เห็นภาพที่น่าสยดสยองที่สุดในโลก นัยน์ตาฉายแววตื่นตระหนก “ไม่มีแล้ว จวนองค์หญิงมีเพียงสาวรับใช้สองคน นอกจากนี้….ล้วนเป็นสัตว์วิเศษ”
“แม่ครัวกับคนกวาดพื้นก็ไม่มี? เช่นนั้นคนพวกนี้กินดื่มอะไรกัน? ใครเป็นคนทำความสะอาดจวน?”
“จริงๆ…จริงๆ ขอรับ…พ่อครัวในจวนองค์หญิงเป็นลิงตัวหนึ่ง งานอื่นๆ ก็ล้วนมีสัตว์วิเศษเป็นผู้รับผิดชอบ…”
เจ้าเคยเห็นลิงถือตะหลิวหรือไม่?
แล้วเจ้าเคยเห็นมิ้งค์ไฟสีม่วงกวาดใบไม้ที่ล่วงหรือไม่?
ยังมีกระต่ายที่มีหน้าที่ปลูกพืช
หากเจ้าไม่เคยเห็น เจ้าสามารถไปดูที่จวนองค์หญิงได้ ความน่าตกตะลึงอะไรล้วนมีหมด
“ถึงตอนนี้แล้วเจ้ายังจะหลอกข้า?” มู่หลิงยิ้มเย็น “สัตว์วิเศษสามารถเป็นพ่อครัวได้? เจ้าคิดว่าข้าโง่มากหรือ?”
ชายชุดดำปากสั่นหน้าซีดเผือด “ข้าน้อยพูดจริงทุกคำ ข้าน้อยยังรู้ด้วยว่าพ่อบ้านจวนองค์หญิงเป็นหมาป่าตัวหนึ่ง ทหารอารักเป็นหมีสองตัว”
ในความจริงแล้วมู่หลิงก็รู้ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาคนนี้ไม่กล้าปิดบังอะไรเขา
ทว่าเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนใช้สัตว์วิเศษทำงานบ้าน
“สัตว์วิเศษเหล่านั้นให้นางไปนับว่าเสียของจริงๆ…”
ยังดีที่สัตว์วิเศษของนางระดับไม่สูงมากนัก แต่ก็ทำให้รู้สึกไม่เข้าตา
ชายชุดดำครุ่นคิดว่าต้องบอกเรื่องนี้กับมู่หลิงหรือไม่ เขาขบคิดอยู่นานสุดท้ายก็เอ่ยปาก
“นายท่านรอง…ข้าน้อย…ข้าน้อยทำโดยพละการ ต้องการนำเรื่องทำร้ายเฟิงหรูชิงผลักให้คุณชายหนานเสียน เพื่อทำลายความรักของพวกเขาทั้งสองได้ง่าย ข้าน้อยทำก็เพื่อ…”
…………
[1] ขาหมูอันใหญ่ หมายถึง ผู้ชายหลอกลวง ผู้ชายหลายใจ
Comments