เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราชบทที่ 134 รับซื้อกุ้งก้ามแดง

Now you are reading เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช Chapter บทที่ 134 รับซื้อกุ้งก้ามแดง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 134 รับซื้อกุ้งก้ามแดง

บทที่ 134 รับซื้อกุ้งก้ามแดง

“น่าจะเป็นเช่นนั้น มีกุ้งก้ามแดงตัวใหญ่อยู่ แต่ข้าไม่รู้ว่ามันเขียนว่าอันใด”

แม้จะเป็นคนที่ไม่รู้หนังสือ แต่เพียงแค่มองภาพวาดก็สามารถคาดเดาได้ทันทีว่า เหลาอาหารแห่งนี้เน้นขายสิ่งใด นี่มันช่างแปลกใหม่เสียจริง

“คำนี้เขียนว่าเหลาอาหารเจินซิว น่าจะขายกุ้งก้ามแดง”

ฝูงชนมารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทันใดนั้นก็พลันมีกลิ่นหอมอบอวลโชยออกมาจากร้านอาหาร ทุกคนต่างพากันสูดหายใจเอากลิ่นเข้าไป มีบางคนถึงกับตกอยู่ในภวังค์เคลิบเคลิ้ม

“ข้าไม่เคยได้กลิ่นนี้มาก่อน ช่างหอมยิ่งนัก!”

“หรือว่านี่จะเป็นกลิ่นของกุ้งก้ามแดง? ได้ยินเหล่าขุนนางที่เคยกินกุ้งก้ามแดงในวังหลวงบอกว่า เพียงแค่กลิ่นก็ทำให้อยากกินเสียจนน้ำตาไหล”

“จะเป็นไปได้อย่างไร ที่บ้านของข้าเองก็เคยทำ ทว่ากลับไม่มีกลิ่นหอมเช่นนี้เลย”

ฝูงชนส่งเสียงจอแจ จากนั้นก็มีร่างของเสี่ยวเอ้อและผู้ดูแลร้านเดินออกมา พร้อมยิ้มให้ทุกคนอย่างสุภาพ

“ทุกท่านน่าจะรู้แล้วว่า ช่วงนี้กุ้งก้ามแดงได้รับความนิยมมาก อยากลิ้มลองรสชาติของกุ้งก้ามแดงที่เหล่าขุนนางกินและชื่นชมหรือไม่ เช่นนั้นก็เข้ามาลองเถิด วันนี้ร้านของเราเปิดวันแรก กุ้งก้ามแดงทุกตัวล้วนขายในครึ่งราคา…”

วาทศิลป์ของผู้ดูแลร้านนั้นไม่เลวเลย หลังจากพูดไปเพียงชั่วครู่ก็ทำให้ทุกคนเกิดอยากลิ้มลอง อีกทั้งกลิ่นหอมที่ลอยอวลยังเย้ายวนใจยิ่งนัก

เมื่อได้ยินคำว่าลดครึ่งราคา พวกเขาก็ยิ่งทนรอไม่ไหว พากันเบียดเข้าไปในเหลาอาหาร

กุ้งก้ามแดงหนึ่งชั่งราคาห้าสิบเหรียญทองแดง ครึ่งราคาก็เท่ากับยี่สิบห้าเหรียญทองแดง

เป็นราคาที่ค่อนข้างสูง แต่เครื่องเทศเครื่องปรุงที่ใช้ทำกุ้งก้ามแดงก็มีราคาแพงเช่นกัน นับได้ว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่าย

ในเมืองหลวง สิ่งที่ไม่ขาดแคลนคือคนมีเงิน กระทั่งคนธรรมดาทั่วไปยังถือว่าร่ำรวยกว่าประชาชนทั่วไปในเมืองอื่น เว้นเสียแต่คนผู้นั้นจะยากจนเป็นพิเศษ

ด้วยเหตุนี้ภายในชั่วอึดใจเดียว เหลาอาหารก็เต็มเรียบร้อย คุณชายบางคนที่ไม่ขาดแคลนเงินถึงกับจองห้องส่วนตัวโดยตรง

กุ้งก้ามแดงหลากหลายรสชาติถูกส่งออกไปทีละจาน เพียงแค่ได้กลิ่นก็ชวนให้อยากกินจนน้ำลายสอ

เสี่ยวเอ้อที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี สอนวิธีการทานกุ้งก้ามแดงให้กับพวกเขาด้วยความอดทน

กุ้งก้ามแดงตัวใหญ่อ้วนพีถูกราดด้วยน้ำราด เพียงแค่กินเข้าไปคำเดียวความอร่อยก็ระเบิดในปาก

ยังไม่พอ ด้านในยังมีผักอื่น ๆ ใส่เข้าไปด้วย ผักเหล่านี้ที่อยู่ด้านในน้ำราดเองก็อร่อยเป็นอย่างยิ่ง

หากกินเสร็จแล้ว น้ำราดเหล่านี้ก็ยังสามารถนำกลับไปได้ด้วย จะใช้คลุกกับข้าวก็สามารถทานได้อย่างเอร็ดอร่อยทั้งครอบครัว นับว่าน้ำราดเป็นส่วนที่ยอดเยี่ยมมาก

“ต่อจากนี้เจ้าก็สามารถวางใจได้แล้ว”

หนานกงหลีแย้มยิ้มพร้อมกับใช้พัดเคาะหน้าผากของเสี่ยวเป่าเบา ๆ

เสี่ยวเป่าหัวเราะแหะ ๆ พยักหน้าด้วยความเบิกบาน

“วางใจแล้ว!”

เหลาอาหารเจินซิวไม่เพียงแค่ขายกุ้งก้ามแดงที่ปรุงแล้วเท่านั้น แต่ยังรับซื้อกุ้งก้ามแดงอีกด้วย

ทันทีที่ข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป มีคนยากจนไม่รู้จำนวนมากน้อยเพียงใดถึงกับบ้าคลั่งขึ้นมา

อย่างไรเสียก็มีกุ้งก้ามแดงจำนวนมากในทะเลสาบชุนถิง แม่น้ำ และนาข้าว ในหนึ่งวันพวกเขาสามารถจับมาได้จำนวนไม่น้อย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ไม่มีอาชีพทำมาหาเลี้ยงครอบครัว ทุกวันก็สามารถไปจับกุ้งก้ามแดงเหล่านั้นเพื่อสร้างรายได้ หากทำเช่นนี้ก็จะหาเงินค่าอาหารไปได้หลายวัน นับเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับพวกเขา

เหลาอาหารเจินซิวยังมีการดูแลเหล่าเด็กยากไร้เป็นพิเศษ มอบความมั่นคงให้กับพวกเขา

“เสี่ยวเป่าของพวกเราช่างเป็นเด็กน้อยที่อ่อนโยนจริง ๆ”

ใช่แล้ว ความคิดที่จะดูแลคนยากไร้เหล่านี้ถูกเสี่ยวเป่าเสนอขึ้นมา อันที่จริงนางก็แค่บังเอิญไปเห็นเหล่าเด็กขอทานพากันหิ้วกุ้งก้ามแดงมาขาย

แม้ว่าเหลาอาหารเจินซิวจะขายกุ้งก้ามแดงจำนวนมากทุกวัน ทว่าจะมากเพียงใดเหลาอาหารก็มีเพียงที่เดียวย่อมไม่อาจมากถึงขั้นมหาศาลได้ ดังนั้น ปริมาณกุ้งก้ามแดงที่ต้องการทุกวันจึงไม่ได้มีมากเกินไปนัก

ขอทานและคนยากไร้สามารถจับกุ้งก้ามแดงมาขายแลกเงินได้ เช่นเดียวกับคนหนุ่มสาวหากต้องการก็สามารถทำได้

แม้กุ้งก้ามแดงหนึ่งชั่งจะได้รับเงินเพียงหนึ่งเหรียญทองแดง แต่หากจับได้จำนวนมากก็ย่อมเป็นเงินจำนวนไม่น้อย

ด้วยเหตุนี้ หากคนหนุ่มสาวเหล่านั้นต้องการจะแข่งขันกับพวกเขา ก็จะทำให้ขอทานตัวผอมแห้งแรงน้อยเหล่านี้เสียเปรียบได้ง่าย

หนานกงฉีซิวครุ่นคิด ก่อนจะสั่งงานผู้ดูแลร้านโดยตรงให้จดบันทึกผู้ที่มาส่งกุ้งก้ามแดงและมีชีวิตยากลำบากมา หลังจากนั้นค่อยรับซื้อกุ้งก้ามแดงจากพวกเขาเป็นประจำ

แน่นอนว่า ต้องตรวจสอบกุ้งก้ามแดงเหล่านั้นว่าสดจริงและไม่มีการปลอมแปลง ไม่เช่นนั้น ชื่อของพวกเขาจะต้องถูกลบออกทันทีที่พบ

และวันนี้ก็เป็นวันที่ผู้ดูแลร้านจะประกาศรายชื่อว่าจะรับซื้อจากผู้ใด ทั้งเสี่ยวเป่า โจวเหยียน และเจี่ยเจินต่างก็มาด้วย

ครั้งนี้ท่านอาเจ็ดและพี่ใหญ่ไม่มา พี่ใหญ่นั้นกำลังเตรียมตัวในจวนอ๋อง ใกล้ถึงเวลาที่จะเริ่มรักษาขาทั้งสองข้างของเขาแล้ว ส่วนท่านอาเจ็ดนั้นถูกท่านพ่อเรียกเข้าไปอบรมในวังอีกแล้ว

ณ ลานด้านหลังเหลาอาหารเจินซิว มีคนจำนวนไม่น้อยยืนอยู่เบื้องหน้าผู้ดูแลร้าน ส่วนใหญ่แล้วล้วนสวมใส่เสื้อผ้าขาดซอมซ่อ ยืนเท้าเปล่าอยู่บนพื้นปราศจากรองเท้า

ร่างเล็กผอมแห้งเหล่านั้นมองแวบแรกก็เห็นว่าขาดสารอาหารอย่างรุนแรง

แต่ก็ไม่มีสิ่งใดทำได้ ในยุคสมัยนี้สิ่งที่ไม่ขาดแคลนเลยก็คือขอทาน ส่วนใหญ่แล้วล้วนเป็นเด็กไร้พ่อแม่และคนที่มีความพิการทางร่างกาย

ในตอนนี้ พวกเขามองผู้ดูแลร้านด้วยความตื่นเต้นปนตึงเครียด ขอเพียงแค่ผ่านไปได้ อนาคตพวกเขาก็มีวิธีหาเงินที่มั่นคง ไม่ต้องขอทานกินไม่อิ่มท้องไปวัน ๆ อีกแล้ว

“เสี่ยวชู่ เสี่ยวเทียน หนิวหนิว เหมียวเหมียว…”

ขณะที่ผู้ดูแลร้านอ่านรายชื่อคนเหล่านี้ออกมา บนใบหน้าของเด็กขอทานก็แย้มยิ้มอย่างมีความสุข บางคนถึงกับกอดกันด้วยความตื่นเต้น ดวงตาแดงก่ำมีน้ำตาไหลออกมา

ในที่สุด…ในที่สุดพวกเขาก็มีงานที่สามารถหาเงินเลี้ยงชีพได้ ขอเพียงแค่ทำดี ๆ หลังจากนี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องทนหิวอีกต่อไป

เด็กขอทานเหล่านี้ล้วนรู้จักกัน เพราะต่างไม่มีพ่อแม่ไม่มีครอบครัว พวกเขาจึงมารวมตัวกันเพื่อแบ่งปันความอบอุ่นให้แก่กันและกัน กลายเป็นพี่น้องต่างบิดามารดาของกันและกัน

และเพราะทนทุกข์ทรมานมามากมาย ย่อมรู้ดีถึงรสชาติของความหิวโหย พวกเขาจึงทำงานกันอย่างระมัดระวังขยันขันแข็งเป็นพิเศษ ไม่หวั่นเกรงต่อความยากลำบากและความเหน็ดเหนื่อย ทุกวันล้วนจับกุ้งก้ามแดงมาได้ค่อนข้างมาก ผู้ดูแลร้านเห็นแล้วก็เกิดความเวทนา พวกเขาจึงรับมาทั้งหมด

หลังจากประกาศรายชื่อจบแล้ว คนจำนวนมากที่ไม่มีชื่อก็พากันหน้าม่อยคอตก บางคนถึงกับรู้สึกขุ่นเคืองไม่เป็นธรรม

“เหตุใดจึงรับแต่ของพวกเขา แต่ไม่รับของพวกข้า!”

ผู้ดูแลร้านมองไปที่คนคนนั้น ร่างกายของเขายังคงดูแข็งแรงปกติสามารถหากินเองได้ อีกทั้งจากที่สืบมา ผลคือคนคนนี้และคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบกายได้ชื่อว่าเป็นพวกสันหลังยาว เอาแต่รีดไถเงินจากผู้ที่อ่อนแอกว่า

การจับกุ้งก้ามแดงเป็นงานง่าย ๆ ที่สามารถทำเงินได้ไม่ยาก พวกเขาไม่ได้นำเงินเหล่านั้นกลับไปเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของครอบครัว แต่นำเข้าไปเล่นในบ่อนพนัน

ในเมื่อร่างกายแข็งแรงปกติ เหตุใดจึงไม่ไปทำงานอื่นดี ๆ เล่า? จะไปทำไร่ทำนาก็ได้ มาขายกุ้งก้ามแดง แล้วถ้าสินค้าไม่ดีจะทำเช่นไร เขาไม่กล้ารับเอาไว้หรอก หากวันหน้าเกิดปัญหาอันใดขึ้นเขาก็คงได้แต่เสียใจภายหลัง

ผู้ดูแลร้านปรายตามองพวกเขา “ข้าเป็นผู้ดูแลเหลาอาหารเจินซิวแห่งนี้ ข้าบอกจะรับของจากผู้ใดก็คือผู้นั้น”

เขากล่าวออกมาด้วยท่าทางแข็งกร้าว คนเหล่านั้นทำได้เพียงแต่จ้องมองมาอย่างโกรธเคือง ก่อนจะจากไปด้วยสีหน้ามืดมน

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *