เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราชบทที่ 316 คันไถ
บทที่ 316 คันไถ
บทที่ 316 คันไถ
กลุ่มคนที่คุกเข่าตัวสั่นอยู่กลางท้องพระโรง แทบอยากจะมุดหัวลงไปในพื้น
บรรดาขุนนางที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตร้องขอความเมตตาจากฝ่าบาทขณะถูกนำตัวออกไป แล้วทั้งท้องพระโรงก็กลับมาสงบอีกครั้ง
หนานกงสือเยวียนทอดสายตามองบรรดาคนเบื้องล่าง น้ำเสียงราบเรียบฟังดูไร้อารมณ์
“ทุกท่านลุกขึ้นเถิด ในเมื่อจัดการกับพวกรับสินบนแล้ว ก็มาหารือเรื่องอื่นกันต่อ”
เรื่องที่จะพูดคุยต่อไปแน่นอนว่าคือเรื่องของเหมืองเงิน
“ครั้งนี้องค์หญิงน้อยกับคณะของเซียวเหยาอ๋องมีความดีความชอบในการปราบปรามพวกโจรและค้นพบเหมืองเงิน สมควรแก่การตกรางวัล”
ทว่ารางวัลล้วนแต่เป็นทรัพย์สินและสมบัติล้ำค่า บางอย่างก็เป็นของบรรณาการที่มีไว้สำหรับเชื้อพระวงศ์เท่านั้น มิอาจเลื่อนฐานันดรศักดิ์ได้อีก
หนานกงสือเยวียนตกรางวัลเป็นพิเศษให้แก่เสี่ยวเป่าอย่างเปิดเผย องค์หญิงเจาเสวี่ยได้รับเงินเดือนเพิ่มเป็นสองเท่า มีของดีอะไรก็ตกรางวัลให้นางไปจนหมด ทำเอาเหล่าขุนนางที่นั่งฟังพากันตะลึงจนพูดไม่ออก
เกรงว่าฝ่าบาทใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างมอบของให้องค์หญิงเสียมากกว่า
ดูอย่างเซียวเหยาอ๋องกับองค์ชายสามสิ ทรัพย์สมบัติมีจำกัด ฝ่าบาทเจียดแต่ของเหลือไปให้พวกเขา ส่วนสมบัติหายากล้วนมอบให้องค์หญิงทั้งหมด!
แต่คนทั้งสองกลับก็มิได้ใส่ใจเลยสักนิด มิหนำซ้ำยังคุกเข่ารับรางวัลท่าทางดีอกดีใจเสียอย่างนั้น
บรรดาองครักษ์ก็ได้รับเงินเป็นรางวัลด้วยเช่นกัน ครอบครัวของผู้ที่ตายไปก็ได้รับเงินบำเหน็จที่ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ
ส่วนพวกองครักษ์เงา ฮ่องเต้จะประทานรางวัลให้เป็นการส่วนพระองค์ เนื่องจากองครักษ์เงาล้วนปฏิบัติหน้าที่อย่างลับ ๆ จึงมิอาจเปิดเผยตัวตนและใบหน้าให้ผู้อื่นรับรู้ได้
“นอกจากนี้ เสือดำและเสือขาวก็มีความชอบในการคุ้มกันองค์หญิง จึงอวยยศเสือทั้งสองให้เป็นองครักษ์ขั้นหนึ่ง คอยคุ้มครองความปลอดภัยขององค์หญิง”
เดิมทีเจ้าเสือทั้งสองก็ยินยอมพร้อมใจที่จะปกป้องเสี่ยวเป่า การกระทำของเขาในครั้งนี้เป็นเพียงข้ออ้างให้พวกมันติดตามเสี่ยวเป่าเข้านอกออกในได้อย่างเปิดเผยก็เท่านั้น
อย่างไรเสียก่อนหน้านี้ก็เคยมีคนกล่าวโทษองค์หญิงที่พาเสือสองตัวไปไหนมาไหนจนเป็นที่ดึงดูดสายตาเกินไป และก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้น
ทว่าตอนนี้เสือทั้งสองได้เปลี่ยนโฉมเป็นที่เรียบร้อย มิเพียงมีความดีความชอบในการปกป้องคุ้มครององค์หญิงและเชื้อพระวงศ์ แต่ยังได้รับการอวยยศอีกด้วย
การที่สัตว์ป่าได้รับการอวยยศเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
แต่หากลองพินิจพิศดู ฝ่าบาทของพวกเขาลำเอียงให้องค์หญิงน้อยมาตั้งแต่ไหนแต่ไร จึงมิแปลกที่เขาจะทำเรื่องเช่นนี้
เมื่อการตกรางวัลสิ้นสุดลง หีบเงินหลายใบก็ถูกยกเข้ามา
หนานกงสือเยวียนโบกมือ “นำไปรวมในท้องพระคลังหลวง”
ด้วยเหตุนี้เอง ท้องพระคลังอันว่างเปล่าก็แน่นขนัดขึ้นมาทันใด
มิหนำซ้ำยังมีเหมืองเงินอีกแห่งที่กำลังรอให้ขุดค้น
ผู้ใดบ้างเห็นเงินแล้วจะไม่ยินดี เงินส่วนหนึ่งในท้องพระคลังเป็นเงินเดือนสำหรับทุกคน ในที่สุดปีนี้ก็มีเรื่องให้พวกเขายินดีแล้ว
เจ้าเมืองแซ่หลี่นั่นกล้าเอาเงินเดือนของพวกเขาไปเสวยสุขก็สมควรตายแล้ว!
ส่วนเหมืองเงินที่เจ้าเมืองหลี่ค้นพบน่ะหรือ หึ ๆ…อาณาจักรทั่วทุกหนแห่งล้วนเป็นของฝ่าบาท จะทองหรือเงินก็ย่อมเป็นของฝ่าบาทมิใช่หรือ!
ทว่าลำพังแค่เงินยังมิเพียงพอที่จะเติมเต็มท้องพระคลัง จำต้องมีเสบียงอาหารที่มากพอด้วยบราวนี่ออนไลน์
ฤดูใบไม้ผลิมาถึงแล้ว หวังว่าจะเป็นการเริ่มต้นปีที่ดี
ในวันที่หิมะละลายและสรรพสิ่งฟื้นคืนชีพ แม้ว่าอากาศจะยังคงหนาว แต่ก็ไม่ต้องห่อตัวเทอะทะจนเหมือนกับหมีอีก
เสี่ยวเป่าเองก็เป็นหนึ่งในนั้น วันที่ได้ใส่เสื้อผ้าเบาสบายมันช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ!
ด้วยเหตุนี้…นางจึงวิ่งได้เร็วยิ่งกว่าเดิม
“ท่านพ่อ พวกเราไปปลูกองุ่นกับข้าวสาลีกันเถอะ!”
เสี่ยวเป่าสวมชุดกระโปรงสีชมพูดูคล้ายกับลูกท้อชุ่มฉ่ำ ขาสั้นป้อมวิ่งไปหาท่านพ่อของตนจนแทบตัวลอย
ตกลงกันแล้วว่าวันนี้จะไปนาหลวงด้วยกัน
เมล็ดข้าวสาลีได้รับการใส่ใจดูแลเป็นอย่างดีจนมีปริมาณมากพอ ปีนี้จึงสามารถปลูกบนพื้นที่ขนาดใหญ่ในนาหลวงได้แล้ว
เมื่อข้าวสาลีโตเต็มที่ก็จะเก็บเมล็ดเอาไว้เพื่อขยายพันธุ์ต่อไป ทั้งฮ่องเต้และขุนนางล้วนแต่เฝ้ารอวันที่ข้าวสาลีพันธุ์ดีนี้จะแพร่กระจายไปทั่วทั้งต้าเซี่ย
นอกจากนี้ยังมีต้นข้าวด้วย
อย่างไรก็ตามการส่งเสริมและการเก็บเมล็ดพันธุ์ในช่วงแรกเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาถึงสองปีในการเก็บเมล็ดพันธุ์ให้มีปริมาณเพียงพอสำหรับทั้งอาณาจักร
“จะรีบร้อนไปไย”
หนานกงสือเยวียนเปลี่ยนมาสวมชุดมังกรและคว้าเสี่ยวเป่าที่วิ่งเข้ามาด้วยมือข้างเดียวโดยไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่นิด ไม่ต่างอะไรกับอุ้มตุ๊กตาไร้น้ำหนัก เห็นได้ถึงพลังแขนอันแข็งแกร่งของเขา
เสี่ยวเป่ากอดคอท่านพ่อพลางยิ้มซื่อบื้อให้ มีเสือสองตัวที่เพิ่งถูกอวยยศขนาบอยู่ทางซ้ายและขวา
เสือทั้งสองเชิดศีรษะขึ้น ยามนี้พวกมันได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีไม่ว่าจะไปที่ไหน ดูสง่างามและน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง
เป็นอีกครั้งที่หนานกงสือเยวียนพาบรรดาบุตรชายของเขาไปที่นาหลวง
บ่นอยู่ทุกวันว่าเรียนหนังสือเหนื่อยมากมิใช่หรือ เช่นนั้นก็ออกไปหาประสบการณ์ชีวิตดูบ้างแล้วกัน
บรรดาลูกชาย “…”
ช่วงเวลาไถพลิกหน้าดินในฤดูใบไม้ผลิ ตราบใดที่ครอบครัวมีที่นา เหล่าสมาชิกล้วนต้องทำงานอย่างหนัก
ปีนี้แต่ละอำเภอต่างได้ใช้คันไถที่ได้รับการดัดแปลงโดยหนานกงฉีอวิ๋น ทว่าเนื่องจากต้องใช้เหล็ก คันไถชนิดนี้จึงมีจำนวนไม่มากเท่าใดนัก มีเพียงไม่กี่ครอบครัวเท่านั้นที่มีคันไถไว้ใช้สอย
แต่เมื่อได้ลองใช้งานจริงแล้วก็ต้องประหลาดใจกับประโยชน์ของมัน
หากว่าที่บ้านมีวัว ก็จะสามารถพลิกพื้นดินที่ถูกแช่แข็งมาตลอดฤดูหนาวได้อย่างง่ายดายเพียงเทียมวัวเข้ากับคันไถ
ณ ผืนนาแห่งหนึ่ง…
“เจ้านี่ช่างมีประโยชน์จริง ๆ!”
เมื่อเห็นผืนดินได้รับการไถพรวนจนร่วนซุย ทุกคนก็ล้วนแต่มีสีหน้าตื่นตาตื่นใจ
“ไถดินได้ลึกและร่วน ทั้งยังรวดเร็วเช่นนี้ ไม่ถึงสองวันที่ดินของผู้ใหญ่บ้านก็คงจะไถเสร็จแล้ว”
ชาวบ้านยืนดูวัวและคันไถของผู้ใหญ่บ้านด้วยความอิจฉา เช่นนี้แล้วคงประหยัดเวลาได้มากทีเดียว
ผู้ใหญ่บ้านฟังคำยกย่องจนแทบตัวลอย เชิดหน้าอย่างภาคภูมิใจ
“ได้ยินว่าองค์ชายพระองค์หนึ่งเป็นผู้ดัดแปลงไถนี้ ไถที่พวกเราเคยใช้เทอะทะและไม่คล่องตัว ใช้งานก็ยาก ทั้งยังทรงตัวลำบาก แต่ว่าเจ้านี่ไม่เหมือนกัน แค่คนเดียวก็เข็นได้สบาย ๆ องค์ชายผู้นั้นห่วงใยราษฎรอย่างพวกเรายิ่งนัก เห็นว่าพวกเราทำงานอย่างหนัก จึงดัดแปลงไถนี้ขึ้นมา เรียกว่าคันไถอะไรนี่แหละ… ”
ผู้ใหญ่บ้านมองลูกชายของตนที่กำลังไถดินด้วยท่าทางสบาย ๆ ดูง่ายดายยิ่ง ก็เริ่มบอกข้อมูลที่ตนรู้อย่างปลื้มอกปลื้มใจโดยมีฝูงชนรุมล้อมคอยพูดจาเยินยอ
แม้เขาจะไม่รู้อะไรมากนัก แต่ก็ยังหลอกล่อให้บรรดาชาวบ้านตกตะลึงพรึงเพริด และมองเขาด้วยสายตาชื่นชม
ทำเอาผู้ใหญ่บ้านหน้าชื่นตาบาน
“เห็นหรือไม่ ช่วงล่างของคันไถนั่นทำมาจากเหล็ก ดังนั้นจึงมีเพียงไม่กี่คัน ราคาตั้งหนึ่งตำลึงเงินเชียวนะ เป็นเพราะที่ว่าการควบคุมราคาถึงได้ขายถูกเช่นนี้ ไม่อย่างนั้นแล้วคันไถที่แย่งกันซื้อขนาดนี้คงไม่ขายราคานี้เป็นแน่ แต่ว่าตอนนี้คันไถขายหมดแล้ว หาซื้อไม่ได้แล้วล่ะ”
หนึ่งตำลึงเงินสำหรับใครหลายคน เป็นจำนวนที่สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ถึงครึ่งปี แต่กับคนที่ไม่ได้อัตคัดถึงเพียงนั้นก็พอจะกัดฟันเจียดเงินมาได้บ้าง
เจ้าสิ่งนี้ใช้ไถผืนดินได้เป็นอย่างดี ช่วยประหยัดทั้งแรงกายและเวลา ข้าวสาลีและผักต่าง ๆ จำเป็นต้องปลูกให้เร็ว ไม่ให้พ้นช่วงเวลาที่เหมาะสมจึงจะเติบโตได้ดี ทั้งยังสามารถเอาเวลาและแรงกายที่เหลือไปหางานทำในเมืองหรือไม่ก็เลี้ยงหมูหมากาไก่ มิว่าจะคำนวณอย่างไรก็ไม่มีทางขาดทุน
“ไอ้หยา! พวกข้ารู้ช้าไปจริง ๆ!”
“ตอนนั้นข้าก็บอกแล้วว่าที่ว่าการไม่ได้โกหกพวกเจ้า เหตุใดตาแก่อย่างเจ้าถึงไม่เชื่อ หากว่าซื้อมาเสียตั้งแต่ตอนนั้นก็คงไถนาเสร็จไปตั้งนานแล้ว!”
Comments