เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราชบทที่ 478 สัตว์ร้ายยักษ์

Now you are reading เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช Chapter บทที่ 478 สัตว์ร้ายยักษ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 478 สัตว์ร้ายยักษ์

บทที่ 478 สัตว์ร้ายยักษ์

ฉางเซิงเทียนนั้นไม่ได้หาพบโดยง่าย ต่อให้หมอผีจากเผ่าเทียนกู่น่าจะนำทางก็ตาม

พวกเขาเดินบนภูเขาหิมะเป็นเวลาสิบกว่าวัน ในช่วงแรกประสบปัญหามากมาย แม้จะแก้ไขได้ทั้งหมด แต่ก็เป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างดีว่าการเดินทางครั้งนี้อันตรายเพียงใด

ยังดีที่พวกเขามีถุงนอน และอาหารที่ง่ายต่อการปรุงสุก

ในภูเขาหิมะมีสัตว์อยู่จำนวนไม่น้อย ดังนั้นพวกเขาถึงสามารถกินเนื้อได้เป็นครั้งคราว

วันหนึ่งก่อนที่ฟ้าจะสว่างอย่างเต็มที่ เหล่าคนที่อยู่ในกระโจมพลันได้ยินเสียงสั่นสะเทือนอย่างแรง

คนที่ยังอยู่ภายในกระโจมตกตะลึงทันที

เสือทั้งสองรับรู้ได้ถึงอันตราย คาบเสี่ยวเป่าเอาไว้ในปากพลันกระโจนออกจากกระโจมทันที

“เป็นสัตว์ร้ายยักษ์!”

เมื่อยืนมองสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมากำลังวิ่งอยู่ไกลออกไปจากที่สูง เหล่าคนเผ่าเทียนกู่น่าก็เบิกตากว้าง บนสีหน้ามีทั้งความจริงจังและตื่นเต้น

“ดูทิศทางแล้วพวกมันกำลังวิ่งมาทางนี้ เร็วเข้า เก็บข้าวของแล้วไปจากที่นี่”

พบสัตว์ร้ายยักษ์ นี่หมายความว่าพวกเขากำลังเดินทางในทิศที่ถูกต้องแล้ว

ทว่าขณะเดียวกันก็นับเป็นปัญหาร้ายแรง

สัตว์ร้ายยักษ์มีขนาดมหึมาจนนักรบเผ่าเทียนกู่น่าสิบคนร่วมกันยังไม่อาจต้านทานได้สักตัว

ดังนั้นทางเลือกที่ดีสุดคือการหนี

เสี่ยวเป่าเองก็เห็นสัตว์ร้ายยักษ์ที่พวกเขาพูดถึง นั่นคือฉางเมา*[1]!

นางเบิกตากว้างมองฉางเมาที่หนักไม่น้อยกว่าห้าหมื่นต้านสูดลมหายใจเข้างวงยาว

สิ่งนี้ไม่ได้มีอยู่เพียงแค่ยุคน้ำแข็งเท่านั้นหรือ!

แต่นี้ไม่ใช่เวลามาไขข้อสงสัยในใจ เสี่ยวเป่ารีบเก็บสัมภาระออกเดินทางไปพร้อมเผ่าเทียนกู่น่า

สติที่พร่าเลือนภายใต้ความหนาวเหน็บของเสี่ยวเป่าถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยสายลมเย็นยะเยือก

นางลืมตาขึ้น เมื่อสติกลับมาก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่แตะตัวนางอยู่

ยามเห็นสิ่งมีชีวิตขนาดมโหฬารเบื้องหน้าอย่างเลือนราง เสี่ยวเป่าพลันสั่นสะท้านไปทั้งตัว

นางสูดลมหายใจ ทันทีที่พ่นออกมากลายเป็นหมอกขาว

เพียงไม่นานนางก็รู้สึกได้ว่าลมที่พัดใส่ตัวนางนั้นน้อยลง ราวกับว่ามีบางอย่างปิดกั้นลมหนาวให้

ยามสติเสี่ยวเป่ากลับมาเต็มที่ สิ่งที่เห็นอยู่รอบกายคือสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมา

ใช่แล้ว นี่คือสิ่งมีชีวิตที่เผ่าเทียนกู่น่าเรียกว่าสัตว์ร้ายยักษ์

นางนิ่งค้างไปหลายลมหายใจ หลังจากนั้นความทรงจำมากมายก็แวบเข้ามาในหัว

ตอนนั้นแม้จะเก็บของออกเดินทางแล้ว ทว่าสุดท้ายพวกเขาก็ยังถูกสัตว์ร้ายยักษ์พุ่งเข้าใส่อยู่ดี

เสือทั้งสองไม่มีพลังพอจะต้านทานฉางเมาที่ขนาดใหญ่โตถึงเพียงนั้นได้

ในตอนท้ายเสี่ยวเป่ากับคนเผ่าเทียนกู่น่า รวมทั้งเฮยไป๋อู๋ฉางก็ถูกแยกออกจากกัน

ส่วนเรื่องที่นางถูกพามาที่นี่ได้อย่างไร ในหัวของเสี่ยวเป่าว่างเปล่า ไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นหลังจากนั้น

แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้ เมื่อนางตื่นขึ้นมาก็อยู่ท่ามกลางฝูงฉางเมาเสียแล้ว

อีกทั้งฉางเมาหลายตัวยังใช้ร่างอันใหญ่โตของพวกมันเพื่อบังลมให้นางด้วย

ทันใดนั้น มีบางสิ่งสะกิดลงบนไหล่ของนาง เมื่อเสี่ยวเป่าหันกลับมาจึงพบว่าเป็นงวงฉางเมา

เสี่ยวเป่าอดลูบสัมผัสพวกมันแล้วขยับเข้าไปใกล้ชิดพวกมันมากขึ้นไม่ได้

ไม่มีสิ่งมีชีวิตชนิดใดที่สามารถอาศัยอยู่ในโลกน้ำแข็งอันหนาวเย็นได้ โดยไร้ขนหนาบนร่าง

รวมถึงฉางเมาเหล่านี้ด้วย พวกมันมีขนยาวสีน้ำตาลคลุมทั่วตัว ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมากยามเข้าใกล้

ความจริงแล้วไม่น่าแปลกใจเลยที่ฉางเมาเหล่านี้จะพุ่งใส่กลุ่มของพวกนาง เนื่องจากเสี่ยวเป่าสังเกตเห็นยามที่พวกมันเข้ามาใกล้ ด้านหลังของพวกมันมีฝูงหมาป่าสีขาวกำลังวิ่งไล่อยู่!

หมาป่าเหล่านั้นดูเหมือนหมาป่าหิมะ แต่ตัวสูงใหญ่กว่าเสือเสียอีก!

ทว่าตอนนี้ไม่เห็นหมาป่าเหล่านั้นแล้ว ดูเหมือนฝูงฉางเมาจะหนีพ้นเรียบร้อย

ฝูงฉางเมาหากนับลูกเล็กทั้งสองด้วยก็มีทั้งสิ้นเจ็ดตัว ทว่าหมาป่าที่ไล่ล่าพวกมันก่อนหน้านี้กลับมีสามสิบกว่าตัว

ยามนี้ท้องฟ้าเปลี่ยนสีแล้ว แม้เสี่ยวเป่าจะเป็นห่วงเหล่าคนจากเผ่าเทียนกู่น่าและเฮยไป๋อู๋ฉางเป็นอย่างมาก แต่หลังจากได้ขดตัวอยู่บนขนฉางเมาหนานุ่ม ความเหนื่อยล้าก็พลันถาโถมจนง่วงงุน

เสี่ยวเป่าไม่ได้กังวลเกี่ยวกับอันตรายเลยสักนิด นางค่อนข้างวางใจกับคุณสมบัติที่ทำให้เหล่าสัตว์ชื่นชอบของตนเอง

นางจึงพิงตัวลงบนขนฉางเมาอันอบอุ่นก่อนจะหลับตาลง จมสู่ห้วงนิทราไป

ค่ำคืนบนทุ่งหิมะเงียบงันเป็นอย่างยิ่ง

ฉางเมาผลัดกันเฝ้าระวัง ระหว่างให้ตัวอื่นได้หลับพักผ่อน

ฉางเซิงเทียนมีหมาป่าชนิดหนึ่งที่เรีกยว่าหมาป่ายักษ์เล่ากันว่าเป็นสัตว์เลี้ยงของเทพฉางเซิงเทียน

ขนาดของพวกมันใหญ่เป็นสามถึงสี่เท่าของหมาป่าทั่วไป ภายในภูเขาหิมะอันลึกลับ พวกมันเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตกลุ่มเดียวที่กล้าล่าสัตว์ร้ายยักษ์

ในเวลานี้สัตว์ร้ายยักษ์ทั้งเจ็ดตกเป็นเหยื่อของพวกมัน

ขณะที่เสี่ยวเป่าและเหล่าสัตว์ร้ายยักษ์กำลังพักผ่อนนอนหลับ บนยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะไม่ไกลนัก หมาป่าสีขาวปรากฏออกมาทีละตัว ๆ

ดวงตาสีน้ำเงินของพวกมันจับจ้องไปทางเหยื่อที่อยู่ด้านล่าง

ทว่าในฝูงหมาป่า กลับมีร่างหนึ่งปรากฏออกมาโดดเด่นเป็นพิเศษ

คนผู้นั้นไม่ได้สวมเสื้อ เขาใส่เพียงกางเกงที่ดูแปลกประหลาดเท่านั้น

เขามีผิวสีน้ำตาลเข้มดูมันเงา รูปร่างสูงชะลูด มองเห็นกล้ามเนื้อสวยงามบนร่างกายได้อย่างชัดเจน ผมสีขาวถักเป็นเปียหลายเส้นห้อยด้วยหินโมรามองเห็นได้วับ ๆ แวม ๆ ดวงตาสีม่วงจับจ้องไปยังเหล่าสัตว์ร้ายยักษ์ที่อยู่เบื้องล่างด้วยแววตาเหมือนฝูงหมาป่า

ภายใต้ความมืดยามราตรี ใบหน้าของเขาพร่าเลือนไม่ชัดเจนอยู่บ้าง

ดูแล้วรูปร่างของเขาไม่ต่างจากผู้ใหญ่ที่โตเต็มที่ แม้ใส่เพียงกางเกงเนื้อบาง แต่กลับยืนอยู่ท่ามกลางสายลมหนาวประหนึ่งไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

เพียงแค่โบกมือครั้งหนึ่ง ฝูงหมาป่าพลันเคลื่อนตัวอย่างแผ่วเบาตรงไปยังฝูงสัตว์ร้ายยักษ์ด้านล่าง

เมื่ออยู่ห่างไม่ถึงสามร้อยหมี่ สัตว์ร้ายยักษ์ที่ตื่นตัวก็พบหมาป่ายักษ์ที่แทบจะกลืนหายไปกับหิมะ!

“แปร๊น!”

สัตว์ร้ายยักษ์ส่งเสียงร้องออกมา พวกมันที่เหลือตื่นตัวขึ้นมาทันที รวมทั้งเสี่ยวเป่าด้วย

นางยังไม่ทันเข้าใจว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นก็ถูกสัตว์ร้ายยักษ์ใช้งวงม้วนจับให้ขึ้นไปนั่งอยู่บนหลังแล้ว

ต่อจากนั้นนางแทบคิดสิ่งใดไม่ออกเพราะถูกลมหนาวพัดตีหน้าอย่างรุนแรง

[1] ฉางเมา คือ ช้างแมมมอธ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด