เลทิเซียกับชีวิต(ไม่)ธรรมดาในโรงเรียนเวทมนตร์ 11: ตายโหงละว้า..
ปี 1
บทที่ 11 – ‘ตายโหงละว้า..’
ฉัน.. อนาสตาเซีย ตอนนี้ฉันกำลังพนมมือยกขึ้นไหว้พระผู้เป็นเจ้าอยู่.. ฉันในตอนนี้เหมือนกำลังล่องลอยอยู่ในอากาศ..
เอ่อ.. ตอนนี้ก็ลอยอยู่บนอากาศจริงๆ ก็เถอะนะ.. เพราะตอนนี้กำลังมุ่งหน้าไปที่โรงเรียนด้วยการบินผ่านเวทมนตร์ของอาจารย์เวโรเน่กับนักเรียนห้อง A คนอื่น
แต่ว่านะ แต่ว่า แต่ว่า แต่ว่า!!!
ฉันในตอนนี้ได้.. อยู่กับท่านเลทิเซียด้วยล่ะ!ใช่แล้ว คุยกันด้วยล่ะ อ๊ากกกก นี่ข้าไม่ได้ฝันไปใช่ไหมเนี่ย?
ในตัวเกมท่านเลทิเซียจะเป็นตัวละครที่ไม่มีบทบาทในเรื่องที่ชัดเจนมาก แต่ถึงแบบนั้นท่านเลทิเซียก็ตกผู้เล่นไปมากกว่าครึ่ง
เพราะนอกจากเธอจะน่ารักไม่พอ เธอยังเป็นคนที่พูดค่อนข้างเก่งเป็นมิตรต่อรอบตัวด้วย แต่บทในเกมไม่โฟกัสที่เธอเลยสักนิด
แต่ถึงแบบนั้น ทุกคนที่เล่นเกมนี้ล้วนรู้ดีว่าท่านเลทิเซียน่ะไม่ใช่คนใจดีแบบนั้นหรอก .. ไม่สิ จะพูดให้ถูกคือเธอเป็นผู้หญิงที่มีนิสัยค่อนข้างที่จะนิ่งๆ
บทบาทในเกมแม้จะไม่โฟกัส แต่ในตอนท้ายของเกมจะเปิดเผยว่าท่านเลทิเซียน่ะ สามารถฆ่าตัวอนาสตาเซีย ฉันหมายถึงนางร้ายที่ตอนนี้ฉันมาเป็นนั่นแหละ
ท่านเลทิเซียฆ่าอนาสตาเซียได้โดยสีหน้าไม่เปลี่ยนเลยล่ะ แทบเรียกได้ว่าบุคลิกที่สุดแสนจะใจดีและอ่อนโยนพ่วงแถมมาด้วยความน่ารัก
แทนที่มาด้วยสายตาที่เฉยชา ราวกับว่าเธอนั้นเคยฆ่าคนมามากกว่านี้แล้ว นั่นยิ่งทำให้คนชอบท่านเลทิเซียเยอะมากขึ้นนั่นเอง
ก็มักจะมีคอมเม้นแบบว่า ‘ท่านเลทิเซียครับ เหยียบผมทีครับ!’ หรือ ‘ท่านเลทิเซียเจ้าขารักที่สุดเลยค่า!’
อะไรทำนองนั้นน่ะนะ.. แถมไม่มีคนโกรธเลทิเซียหรอกเพราะอนาสตาเซียเป็นนาวร้ายที่ป่วนเนื้อเรื่องในเกมจนคนเกลียดเธอกันเยอะน่ะนะ
แถมพลังของหล่อนแข็งแกร่งซะจนไม่มีทางชนะได้นอกจากท่านเลทิเซีย ดังนั้นต่อให้เป็นพวกผู้หญิงที่มาจีบหนุ่มพอเห็นเลทิเซียปราบนางร้าย
ต่อให้ไม่ชอบก็ไม่ได้เกลียดนั่นเอง…
อ้อ แล้วก็ทำไมถึงเรียกท่านเลทิเซียน่ะเหรอ เพราะเมื่อเกมนี้ออกมาใหม่ๆ มีคนวิเคราะห์บริบทของท่านเลทิเซียด้วย
เพราะตัวเนื้อเรื่องไม่ได้ชี้แจงชัดเจนว่าเป้าหมายของท่านเลทิเซียคืออะไร ทำไมถึงตีหน้าเซ่อใจดี แต่พอมีอันตรายมาถึงโรงเรียนเธอถึงฆ่าทิ้งโดยไม่ลังเล
นอกจากนี้ความเย็นชาของเธอในตอนที่ฆ่าอนาสตาเซียมันคืออะไรกันแน่ ถึงฉันจะอ่านบทความไม่หมดเพราะเลื่อนลงมาอ่านย่อหน้าสุดท้ายเลย
แต่พออ่านก็เหมือนเขาตีความได้น่าสนใจว่า ‘เลทิเซียอาจจะเป็นจอมมารคนที่สิบสาม ที่มีความเป็นราชินีอยู่ในตัว’
‘และสิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่อะไรอย่างอื่นนอกจากเธอมองว่านี่คือถิ่นของเธอ เพราะงั้นถ้ามีภัยคุกคามเธอจึงต้องกำจัดทิ้ง’
นั่นเอง.. ทำให้คนส่วนใหญ่คิดว่าทฤษฎีนี้มีความเป็นไปได้สูง เพราะเหมือนในโลกนี้จะมีจอมมารสิบสองคน และทุกครั้งที่จอมมารเกิดขึ้นมา
เวลาในโลกนี้จะไหลเป็นระเบียบขึ้นมานั่นเอง ทำให้คนตีความว่าจอมมารทั้งสิบสองสื่อถึง ‘จักรราศีทั้งสิบสอง’ ที่ทางผู้พัฒนาเกมพยายามใส่ไข่อีสเตอร์ไว้
และที่น่าสนใจคือเวลาในโลกนี้นั้นมีถึง 26 ชั่วโมงต่อหนึ่งวัน และปีหนึ่งมีสิบสามเดือน ซึ่งสำหรับเกมจีบหนุ่มเกมนี้นั้น
อีเว้นมันค่อนข้างเยอะ เวลาต่างๆ เลยเล่าค่อนข้างละเอียดละนะ ซึ่งทำให้มีการตีความต่างๆ นานาไปว่า โลกนี้อาจจะมีจักรราศีที่สิบสามและจอมมารคนที่สิบสาม
เป็นตุเป็นตะดีใช่ไหมล่ะ ยังไงซะมันก็แค่เกมจีบหนุ่มที่มีเซตติ้งโลกกว้างไปหน่อยเล่าในเรื่องที่ไม่สำคัญแต่คนก็ยังเอาไปคิดตามแหละนะ
อีกอย่างยังมีจุดที่น่าสงสัยอย่างเช่น.. ถ้าท่านเลทิเซียเป็นปีศาจจริง ทำไมถึงใช้เวทมนตร์มนุษย์ได้แต่เวทมนตร์ปีศาจใช้ไม่ได้.. ไม่สิ ไม่เคยใช้มากกว่าสินะ
ซึ่งจะยังไงก็ตามแต่ เพราะแบบนั้นคนเลยคิดว่าท่านเลทิเซียอาจจะเป็นราชินีของเหล่ามาร จอมมารคนที่สิบสาม ทำให้เวลาคนเรียกท่านเลทิเซียก็มักจะเติม ‘ท่าน’ ใส่ไปด้วย..
และเอาเข้าจริง พอฉันมาคุยกับท่านเลทิเซียตรงๆ แล้วก็ให้ความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ไม่รู้สิ เวลาคุยกับเลทิเซียเหมือนกับว่าเธอมีกลิ่นอายบางอย่าง
พอเธอพูดฉันจะรู้สึกแลบพยักหน้าเห็นด้วยทันที อารมณ์แบบเหมือนผู้นำล่ะมั้ง.. แต่ก็นั่นแหละยิ่งทำให้ฉันตระหนักว่า.. ท่านเลทิเซียสุดยอดที่สุดเลย!
พอนึกถึงใบหน้าของเธอกำเดาฉันก็ไหลออกมาอีกครั้ง..
แย่ล่ะสิ.. เข้าใกล้ตัวตนดุจเทพธิดาอย่างท่านเลทิเซียไม่ได้เลยแฮะ แถมก่อนหน้านี้ก็ดันเผลอต่อยนกยูงแหลกคามือไปแล้วสิ
เธอคงไม่คิดว่าฉันจะเป็นภัยแล้วฆ่าฉันหรอกนะ.. แถมให้เธอเห็นภาพไม่น่าดูแล้วด้วย.. อ๊ากกก ทำไงดีเนี่ย!
คิดสิ ความรู้จากเกมน่ะจากเกม..!คิดให้ออกบทพูดที่พูดถึงฉากนี้มันเกิดอะไรขึ้น .. ฉันขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้พร้อมกับทุบกำปั้นใส่ฝ่ามือตัวเองพร้อมอุทาน
“ตายโหงละว้า..”
ฉัน.. ทำให้มันต่างจากเกมไปซะแล้วดิ.. คือเนื้อเรื่องในเกมจริงๆ ตัวฉัน.. เอ่อ ฉันหมายถึงอนาสตาเซียควรจะคลาดกันกับห้องเอที่นี่ไม่ใข่เหรอ..
เพราะตามเนื้อเรื่องคือตัวอนาสตาเซียจะไปถึงโรงเรียนตอนที่นักเรียนชั้นปีหนึ่งทุกคนไม่อยู่ที่โรงเรียนตามข้อเสนอการจัดตัวแทนแห่งความภาคภูมิใจใหม่
และคนที่จะเป็นตัวแทนของห้องนี้… ก็คือ.. สายตาฉันหันไปหาคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ห่างออกไป.. ไอ้คนห้าคนที่เป็นเป้าหมายในการจีบ
ว่าแต่เจ้าองค์ชายที่เป็นคู่หมั้นฉัน มันไม่คิดจะมาทักทายกันสักหน่อยจริงๆ สินะ ถึงฉันจะไม่ได้สนใจมันเลยสักนิดก็เถอะนะ
แต่อย่างน้อยก็มีควรมารยาทอะไรแบบนั้นมั้งสิ เฮ้ย!
เฮ้อช่างเถอะ เอาเป็นว่าพวกห้าหน่อนั่นอยู่ล้อมรอบตัวเอกของเกม.. คนที่จะเป็นตัวแทนของรอบนี้คือ นางเอกของเรื่องนั่นแหละ ซึ่งท่านเลทิเซียก็อยู่ด้วยแท้ๆ ไม่รู้ว่ายัยนางเอกนี่ไปทำท่าไหนถึงชนะมอนสเตอร์นั้นมาได้ง่ายๆ
เอ่อ.. ความจริงเราเล่นเป็นนางเอกเลยรู้อะนะ ซึ่งตอนนั้นเหมือนจู่ๆ ตัวนางเอกจะควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้เหมือนเป็นสัญชาตญาณ
อะไรสักอย่าง.. เกมเหมือนจะบอกไว้แบบนั้นนางก็เผอิญฆ่ามอนสเตอร์มาได้นั่นเอง.. ถึงเกมจะไม่เฉลยก็เถอะนะ
แต่ฉันดันเป็นคนแย่งซีนนั้นมาเนี่ยสิ.. นี่มันหมายความว่ายังไงล่ะเนี่ย.. มันจะเป็นไงต่อไปล่ะเนี่ย!ฉันจ้องไปที่นางเอกของเกม
เธอเป็นเด็กผู้หญิงผมสีขาวยาว.. ดวงตาสีขาวราวกับคนป่วยอมโรค ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆ นั่นแหละ
แต่ถึงจะมีท่าทางและบุคลิกภาพที่น่าสงสารยังไงแต่ยัยคนนี้น่ะเป็นเหมือนคนชั่วที่มีแผนการล่อผู้ชายมากกว่าหกคนมาตกหลุมรัก
พูดภาษาเข้าใจง่ายๆ ก็.. ‘Bitch’ นั่นแหละนะ.. อ๊ะ ขอโทษที่ฉันหยาบคายไปหน่อยแต่ก็ประมาณนั้นนั่นแหละ
ในขณะที่ฉันหันไปมองเธอพลางคิดแบบนั้นเจ้าตัวก็หันมามองที่ฉันเช่นกัน สายตาพวกเราผสานกัน…
ดวงตาของยัยนางเอกเหมือนจะเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นบางอย่างที่มีต่อฉัน…?
“…..?”
ในขณะที่ฉันกำลังสับสนนั้นเอง ท่านเลทิเซียก็ก้าวเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าฉันพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ฉันชื่อเลทิเซีย.. แต่เธอคงรู้แล้วสินะ..?”
“…..!?”
ฉันสะดุ้งถอยออกไปโดยไม่รู้ตัวจนแทบพลัดตกจากพื้นที่เหมือนถูกสร้างด้วยพลังของอาจารย์เวโรเน่
แต่ท่านเลทิเซียก็ยื่นมือมาจับแขนฉันแล้วก็ดึงขึ้นมา..เธอหัวเราะเบาๆ
“ตกใจอะไรขนาดนั้น หน้าฉันมีอะไรติดอยู่หรือไง”
“ปะ.. เปล้าก้ะ!”
อ้าาา กัดลิ้นอีกแล้วฉันรู้สึกอับอายจนหน้าแดงไปถึงหู.. แย่ละสิ .. บ้าเอ๊ย…
เพราะเมื่อครู่นี้ท่านเลทิเซียหล่อสุดๆ เลย จับแขนฉันแล้วก็ดึงขึ้นมาพร้อมกับบอกว่า ‘ตกใจอะไรขนาดนั้น’ ..
ถ้ามีหมอนอยู่ตรงนี้ฉันคงจิกจนขาดไปแล้วนะเฮ้ย!ขอแจ้งความผิดได้ไหมเนี่ย ข้อหาคนอะไรไม่รู้ทั้งน่ารักทั้งหล่อเท่ในเวลาเดียวกัน
เกินไป! ในขณะที่ฉันจมลงความคิดของฉันท่านเลทิเซียที่เห็นฉันกัดลิ้นตัวเองเธอก็ยิ้มออกมาด้วยความเป็นมิตร
“ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นก็ได้ ฉันไม่กัดหรอกนะ.. เอาเป็นว่าเธอชื่ออนาสตาเซียสินะ ยินดีที่ได้รู้จักแล้วกันนะ?”
“ค… ค่ะ!”
แย่แล้ว.. น่ารักสุดๆ ไปเลย ถ้ามีใครสักคนเอาปืนมายิงฉันฉันก็คงไม่เสียใจแล้วล่ะ รู้สึกเหมือนชีวิตคอมพลีทแล้ว
อีกอย่างนะฉันเคยบอกไปแล้วว่าฉันน่ะไม่ชอบเด็กในชีวิตจริงหรอกนะ แต่ว่าตอนนี้ในเกมกลายเป็นความจริงไปแล้ว
อีกอย่างท่านเลทิเซียก็น่ารักและเท่โดยไม่มีข้อแม้.. เพราะงั้น..
ฉันในตอนนี้ชอบเด็กในความเป็นจริงนี้สุดๆ เลยล่ะ..
เอ๊ะ.. เดี๋ยวสิ ทำไมคำพูดของฉันมันดู—
มันดูเหมือนโลลิค่อนพิกลแฮะ..?
Comments
เลทิเซียกับชีวิต(ไม่)ธรรมดาในโรงเรียนเวทมนตร์ 11: ตายโหงละว้า..
ปี 1
บทที่ 11 – ‘ตายโหงละว้า..’
ฉัน.. อนาสตาเซีย ตอนนี้ฉันกำลังพนมมือยกขึ้นไหว้พระผู้เป็นเจ้าอยู่.. ฉันในตอนนี้เหมือนกำลังล่องลอยอยู่ในอากาศ..
เอ่อ.. ตอนนี้ก็ลอยอยู่บนอากาศจริงๆ ก็เถอะนะ.. เพราะตอนนี้กำลังมุ่งหน้าไปที่โรงเรียนด้วยการบินผ่านเวทมนตร์ของอาจารย์เวโรเน่กับนักเรียนห้อง A คนอื่น
แต่ว่านะ แต่ว่า แต่ว่า แต่ว่า!!!
ฉันในตอนนี้ได้.. อยู่กับท่านเลทิเซียด้วยล่ะ!ใช่แล้ว คุยกันด้วยล่ะ อ๊ากกกก นี่ข้าไม่ได้ฝันไปใช่ไหมเนี่ย?
ในตัวเกมท่านเลทิเซียจะเป็นตัวละครที่ไม่มีบทบาทในเรื่องที่ชัดเจนมาก แต่ถึงแบบนั้นท่านเลทิเซียก็ตกผู้เล่นไปมากกว่าครึ่ง
เพราะนอกจากเธอจะน่ารักไม่พอ เธอยังเป็นคนที่พูดค่อนข้างเก่งเป็นมิตรต่อรอบตัวด้วย แต่บทในเกมไม่โฟกัสที่เธอเลยสักนิด
แต่ถึงแบบนั้น ทุกคนที่เล่นเกมนี้ล้วนรู้ดีว่าท่านเลทิเซียน่ะไม่ใช่คนใจดีแบบนั้นหรอก .. ไม่สิ จะพูดให้ถูกคือเธอเป็นผู้หญิงที่มีนิสัยค่อนข้างที่จะนิ่งๆ
บทบาทในเกมแม้จะไม่โฟกัส แต่ในตอนท้ายของเกมจะเปิดเผยว่าท่านเลทิเซียน่ะ สามารถฆ่าตัวอนาสตาเซีย ฉันหมายถึงนางร้ายที่ตอนนี้ฉันมาเป็นนั่นแหละ
ท่านเลทิเซียฆ่าอนาสตาเซียได้โดยสีหน้าไม่เปลี่ยนเลยล่ะ แทบเรียกได้ว่าบุคลิกที่สุดแสนจะใจดีและอ่อนโยนพ่วงแถมมาด้วยความน่ารัก
แทนที่มาด้วยสายตาที่เฉยชา ราวกับว่าเธอนั้นเคยฆ่าคนมามากกว่านี้แล้ว นั่นยิ่งทำให้คนชอบท่านเลทิเซียเยอะมากขึ้นนั่นเอง
ก็มักจะมีคอมเม้นแบบว่า ‘ท่านเลทิเซียครับ เหยียบผมทีครับ!’ หรือ ‘ท่านเลทิเซียเจ้าขารักที่สุดเลยค่า!’
อะไรทำนองนั้นน่ะนะ.. แถมไม่มีคนโกรธเลทิเซียหรอกเพราะอนาสตาเซียเป็นนาวร้ายที่ป่วนเนื้อเรื่องในเกมจนคนเกลียดเธอกันเยอะน่ะนะ
แถมพลังของหล่อนแข็งแกร่งซะจนไม่มีทางชนะได้นอกจากท่านเลทิเซีย ดังนั้นต่อให้เป็นพวกผู้หญิงที่มาจีบหนุ่มพอเห็นเลทิเซียปราบนางร้าย
ต่อให้ไม่ชอบก็ไม่ได้เกลียดนั่นเอง…
อ้อ แล้วก็ทำไมถึงเรียกท่านเลทิเซียน่ะเหรอ เพราะเมื่อเกมนี้ออกมาใหม่ๆ มีคนวิเคราะห์บริบทของท่านเลทิเซียด้วย
เพราะตัวเนื้อเรื่องไม่ได้ชี้แจงชัดเจนว่าเป้าหมายของท่านเลทิเซียคืออะไร ทำไมถึงตีหน้าเซ่อใจดี แต่พอมีอันตรายมาถึงโรงเรียนเธอถึงฆ่าทิ้งโดยไม่ลังเล
นอกจากนี้ความเย็นชาของเธอในตอนที่ฆ่าอนาสตาเซียมันคืออะไรกันแน่ ถึงฉันจะอ่านบทความไม่หมดเพราะเลื่อนลงมาอ่านย่อหน้าสุดท้ายเลย
แต่พออ่านก็เหมือนเขาตีความได้น่าสนใจว่า ‘เลทิเซียอาจจะเป็นจอมมารคนที่สิบสาม ที่มีความเป็นราชินีอยู่ในตัว’
‘และสิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่อะไรอย่างอื่นนอกจากเธอมองว่านี่คือถิ่นของเธอ เพราะงั้นถ้ามีภัยคุกคามเธอจึงต้องกำจัดทิ้ง’
นั่นเอง.. ทำให้คนส่วนใหญ่คิดว่าทฤษฎีนี้มีความเป็นไปได้สูง เพราะเหมือนในโลกนี้จะมีจอมมารสิบสองคน และทุกครั้งที่จอมมารเกิดขึ้นมา
เวลาในโลกนี้จะไหลเป็นระเบียบขึ้นมานั่นเอง ทำให้คนตีความว่าจอมมารทั้งสิบสองสื่อถึง ‘จักรราศีทั้งสิบสอง’ ที่ทางผู้พัฒนาเกมพยายามใส่ไข่อีสเตอร์ไว้
และที่น่าสนใจคือเวลาในโลกนี้นั้นมีถึง 26 ชั่วโมงต่อหนึ่งวัน และปีหนึ่งมีสิบสามเดือน ซึ่งสำหรับเกมจีบหนุ่มเกมนี้นั้น
อีเว้นมันค่อนข้างเยอะ เวลาต่างๆ เลยเล่าค่อนข้างละเอียดละนะ ซึ่งทำให้มีการตีความต่างๆ นานาไปว่า โลกนี้อาจจะมีจักรราศีที่สิบสามและจอมมารคนที่สิบสาม
เป็นตุเป็นตะดีใช่ไหมล่ะ ยังไงซะมันก็แค่เกมจีบหนุ่มที่มีเซตติ้งโลกกว้างไปหน่อยเล่าในเรื่องที่ไม่สำคัญแต่คนก็ยังเอาไปคิดตามแหละนะ
อีกอย่างยังมีจุดที่น่าสงสัยอย่างเช่น.. ถ้าท่านเลทิเซียเป็นปีศาจจริง ทำไมถึงใช้เวทมนตร์มนุษย์ได้แต่เวทมนตร์ปีศาจใช้ไม่ได้.. ไม่สิ ไม่เคยใช้มากกว่าสินะ
ซึ่งจะยังไงก็ตามแต่ เพราะแบบนั้นคนเลยคิดว่าท่านเลทิเซียอาจจะเป็นราชินีของเหล่ามาร จอมมารคนที่สิบสาม ทำให้เวลาคนเรียกท่านเลทิเซียก็มักจะเติม ‘ท่าน’ ใส่ไปด้วย..
และเอาเข้าจริง พอฉันมาคุยกับท่านเลทิเซียตรงๆ แล้วก็ให้ความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ไม่รู้สิ เวลาคุยกับเลทิเซียเหมือนกับว่าเธอมีกลิ่นอายบางอย่าง
พอเธอพูดฉันจะรู้สึกแลบพยักหน้าเห็นด้วยทันที อารมณ์แบบเหมือนผู้นำล่ะมั้ง.. แต่ก็นั่นแหละยิ่งทำให้ฉันตระหนักว่า.. ท่านเลทิเซียสุดยอดที่สุดเลย!
พอนึกถึงใบหน้าของเธอกำเดาฉันก็ไหลออกมาอีกครั้ง..
แย่ล่ะสิ.. เข้าใกล้ตัวตนดุจเทพธิดาอย่างท่านเลทิเซียไม่ได้เลยแฮะ แถมก่อนหน้านี้ก็ดันเผลอต่อยนกยูงแหลกคามือไปแล้วสิ
เธอคงไม่คิดว่าฉันจะเป็นภัยแล้วฆ่าฉันหรอกนะ.. แถมให้เธอเห็นภาพไม่น่าดูแล้วด้วย.. อ๊ากกก ทำไงดีเนี่ย!
คิดสิ ความรู้จากเกมน่ะจากเกม..!คิดให้ออกบทพูดที่พูดถึงฉากนี้มันเกิดอะไรขึ้น .. ฉันขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้พร้อมกับทุบกำปั้นใส่ฝ่ามือตัวเองพร้อมอุทาน
“ตายโหงละว้า..”
ฉัน.. ทำให้มันต่างจากเกมไปซะแล้วดิ.. คือเนื้อเรื่องในเกมจริงๆ ตัวฉัน.. เอ่อ ฉันหมายถึงอนาสตาเซียควรจะคลาดกันกับห้องเอที่นี่ไม่ใข่เหรอ..
เพราะตามเนื้อเรื่องคือตัวอนาสตาเซียจะไปถึงโรงเรียนตอนที่นักเรียนชั้นปีหนึ่งทุกคนไม่อยู่ที่โรงเรียนตามข้อเสนอการจัดตัวแทนแห่งความภาคภูมิใจใหม่
และคนที่จะเป็นตัวแทนของห้องนี้… ก็คือ.. สายตาฉันหันไปหาคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ห่างออกไป.. ไอ้คนห้าคนที่เป็นเป้าหมายในการจีบ
ว่าแต่เจ้าองค์ชายที่เป็นคู่หมั้นฉัน มันไม่คิดจะมาทักทายกันสักหน่อยจริงๆ สินะ ถึงฉันจะไม่ได้สนใจมันเลยสักนิดก็เถอะนะ
แต่อย่างน้อยก็มีควรมารยาทอะไรแบบนั้นมั้งสิ เฮ้ย!
เฮ้อช่างเถอะ เอาเป็นว่าพวกห้าหน่อนั่นอยู่ล้อมรอบตัวเอกของเกม.. คนที่จะเป็นตัวแทนของรอบนี้คือ นางเอกของเรื่องนั่นแหละ ซึ่งท่านเลทิเซียก็อยู่ด้วยแท้ๆ ไม่รู้ว่ายัยนางเอกนี่ไปทำท่าไหนถึงชนะมอนสเตอร์นั้นมาได้ง่ายๆ
เอ่อ.. ความจริงเราเล่นเป็นนางเอกเลยรู้อะนะ ซึ่งตอนนั้นเหมือนจู่ๆ ตัวนางเอกจะควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้เหมือนเป็นสัญชาตญาณ
อะไรสักอย่าง.. เกมเหมือนจะบอกไว้แบบนั้นนางก็เผอิญฆ่ามอนสเตอร์มาได้นั่นเอง.. ถึงเกมจะไม่เฉลยก็เถอะนะ
แต่ฉันดันเป็นคนแย่งซีนนั้นมาเนี่ยสิ.. นี่มันหมายความว่ายังไงล่ะเนี่ย.. มันจะเป็นไงต่อไปล่ะเนี่ย!ฉันจ้องไปที่นางเอกของเกม
เธอเป็นเด็กผู้หญิงผมสีขาวยาว.. ดวงตาสีขาวราวกับคนป่วยอมโรค ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆ นั่นแหละ
แต่ถึงจะมีท่าทางและบุคลิกภาพที่น่าสงสารยังไงแต่ยัยคนนี้น่ะเป็นเหมือนคนชั่วที่มีแผนการล่อผู้ชายมากกว่าหกคนมาตกหลุมรัก
พูดภาษาเข้าใจง่ายๆ ก็.. ‘Bitch’ นั่นแหละนะ.. อ๊ะ ขอโทษที่ฉันหยาบคายไปหน่อยแต่ก็ประมาณนั้นนั่นแหละ
ในขณะที่ฉันหันไปมองเธอพลางคิดแบบนั้นเจ้าตัวก็หันมามองที่ฉันเช่นกัน สายตาพวกเราผสานกัน…
ดวงตาของยัยนางเอกเหมือนจะเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นบางอย่างที่มีต่อฉัน…?
“…..?”
ในขณะที่ฉันกำลังสับสนนั้นเอง ท่านเลทิเซียก็ก้าวเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าฉันพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ฉันชื่อเลทิเซีย.. แต่เธอคงรู้แล้วสินะ..?”
“…..!?”
ฉันสะดุ้งถอยออกไปโดยไม่รู้ตัวจนแทบพลัดตกจากพื้นที่เหมือนถูกสร้างด้วยพลังของอาจารย์เวโรเน่
แต่ท่านเลทิเซียก็ยื่นมือมาจับแขนฉันแล้วก็ดึงขึ้นมา..เธอหัวเราะเบาๆ
“ตกใจอะไรขนาดนั้น หน้าฉันมีอะไรติดอยู่หรือไง”
“ปะ.. เปล้าก้ะ!”
อ้าาา กัดลิ้นอีกแล้วฉันรู้สึกอับอายจนหน้าแดงไปถึงหู.. แย่ละสิ .. บ้าเอ๊ย…
เพราะเมื่อครู่นี้ท่านเลทิเซียหล่อสุดๆ เลย จับแขนฉันแล้วก็ดึงขึ้นมาพร้อมกับบอกว่า ‘ตกใจอะไรขนาดนั้น’ ..
ถ้ามีหมอนอยู่ตรงนี้ฉันคงจิกจนขาดไปแล้วนะเฮ้ย!ขอแจ้งความผิดได้ไหมเนี่ย ข้อหาคนอะไรไม่รู้ทั้งน่ารักทั้งหล่อเท่ในเวลาเดียวกัน
เกินไป! ในขณะที่ฉันจมลงความคิดของฉันท่านเลทิเซียที่เห็นฉันกัดลิ้นตัวเองเธอก็ยิ้มออกมาด้วยความเป็นมิตร
“ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นก็ได้ ฉันไม่กัดหรอกนะ.. เอาเป็นว่าเธอชื่ออนาสตาเซียสินะ ยินดีที่ได้รู้จักแล้วกันนะ?”
“ค… ค่ะ!”
แย่แล้ว.. น่ารักสุดๆ ไปเลย ถ้ามีใครสักคนเอาปืนมายิงฉันฉันก็คงไม่เสียใจแล้วล่ะ รู้สึกเหมือนชีวิตคอมพลีทแล้ว
อีกอย่างนะฉันเคยบอกไปแล้วว่าฉันน่ะไม่ชอบเด็กในชีวิตจริงหรอกนะ แต่ว่าตอนนี้ในเกมกลายเป็นความจริงไปแล้ว
อีกอย่างท่านเลทิเซียก็น่ารักและเท่โดยไม่มีข้อแม้.. เพราะงั้น..
ฉันในตอนนี้ชอบเด็กในความเป็นจริงนี้สุดๆ เลยล่ะ..
เอ๊ะ.. เดี๋ยวสิ ทำไมคำพูดของฉันมันดู—
มันดูเหมือนโลลิค่อนพิกลแฮะ..?
Comments