เลทิเซียกับชีวิต(ไม่)ธรรมดาในโรงเรียนเวทมนตร์ 6: ย้ายห้อง
ปี 1
บทที่ 6 – ย้ายห้อง
หลังจากหมดคาบศาสตราจารย์โรเบิร์ดก็กล่าวอะไรเล็กน้อยเกี่ยวกับเรียนวิชาภาคปฏิบัติกับเขา.. จะว่าไงดี..
มันเหมือนกับการโปรโมตนั่นแหละ โปรโมตให้คนไปเรียนคาบบ่ายกับเขานั่นเอง.. ในขณะที่เลทิเซียกำลังจะลุกขึ้นก็มีคนเดินเข้ามาก่อน
คนที่เดินเข้ามาเป็นผู้หญิงผมสีม่วงเข้มๆ ผมเธอยาวสลวยลงมาสวมชุดทางการของอาจารย์โรงเรียนลิเบอร์
เธอมีชื่อว่า ลิเลียน่า เธอเป็นอาจารย์ประจำชั้นของห้องพิเศษแห่งนี้นั่นแหละ เห็นแบบนั้นเธอก็เป็นผู้เชี่ยวชาญเวทมนตร์ระดับที่ค่อนข้างสูง
“เอาล่ะ นักเรียนนั่งที่ก่อนวันนี้ข้าจะมาชี้แจงแนวทางของโรงเรียนจากนี้”
เลทิเซียกับเลวี่ที่กำลังจะลุกขึ้นก็ต้องนั่งกลับลงไปที่นั่งดังเดิม ทุกคนก็ยังเงียบฟังอาจารย์ลิเลียน่าต่อไป
อันที่จริงเพราะห้องมันคนน้อยด้วยนั่นแหละ เลยค่อนข้างเงียบ.. แต่เหมือนสายตาของลิเลียน่าจะกวาดผ่านไปทั่วห้องก็พบว่านักเรียนหายไปสามคน
“หืม.. คุณโรสกับคุณริต้านี่ยังพอเข้าใจ แต่คุณลูเซียหายไปไหนแล้วล่ะ?”
“ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สบายน่ะค่ะ ตอนนี้นอนพักผ่อนอยู่ในห้องค่ะ”
คนที่ตอบคืออิซานะจิ้งจอกสาวคนนั้น เลทิเซียที่เห็นอิซานะตอบแบบนั้นเธอก็แปลกใจเล็กน้อย ทั้งคู่สนิทกันขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย?
แต่พอพูดถึงลูเซียเลทิเซียก็อดนึกถึงน้องสาวในโลกเดิมตัวเองไม่ได้ ในโลกเดิมของเลทิเซียก็มีน้องสาวที่มีชื่อว่าลูเซีย
ไม่เพียงเท่านั้นน้องสาวของเลทิเซียยังมีน้ำเสียง ใบหน้า ท่าทางเหมือนกับลูเซียที่อยู่ในโลกนี้ทุกประการเลย
หมายถึงว่าลูเซียที่ขาดเรียนวันนี้น่ะ เหมือนน้องสาวเธอแม้แต่ชื่อยันลักษณะท่าทางนิสัย!
แต่ลูเซียเหมือนจะเป็นเผ่าอสูรแบบเดียวกับชาร์ล็อต.. แถมเลทิเซียยังเคยเข้าไปทักเพื่อยืนยันแล้ว เหมือนว่าเธอจะไม่ใช่ลูเซียน้องสาวในโลกเก่า
เพราะเธอมีชีวิตอยู่ในโลกนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว.. คงจะหน้าเหมือนเฉยๆ ละมั้ง.. แต่ทั้งหน้าตา นิสัย แถมชื่อเหมือนกันนี่มันจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญจริงๆ เหรอ
เลทิเซียส่ายหน้าสะบัดความคิดเหล่านั้นทิ้ง เพราะสิ่งที่เธอต้องทำตอนนี้น่ะมันมีมากเกินไป.. เธอต้องค่อยทำทีละเรื่องไป
อาจารย์ลิเลียน่ากล่าวต่อ
“งั้นฝากคุณอิซานะเอาเรื่องนี้ไปบอกเธอด้วย”
“ค่ะ”
อิซานะพยักหน้า อาจารย์ลิเลียน่าก็กลับสู่หัวข้อหลักของวันนี้
“เอาล่ะ ทุกคนคงทราบกันดีว่าตั้งแต่เปิดเทอมมาก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจแบบเอาตัวรอดเพื่อชิงตำแหน่งตัวแทนของโรงเรียน”
“หรือจะเป็นคัดเลือกนักเรียนแห่งความภาคภูมิใจก็พังลงไม่เป็นท่า เพราะเกิดเหตุการณ์สลดขึ้นอีก”
เลทิเซียถอนหายใจออกมา ทุกอย่างที่ว่ามาเธอล้วนมีส่วนร่วมหมดเลย งานเอาตัวรอดในมิติพิเศษที่ชื่อ ‘ชิ้นส่วนเวหา’ นั้นก็ผิดพลาด
เพราะชิ้นส่วนเวหาดันทำงานก่อนกำหนดซะอย่างนั้น ชิ้นส่วนเวหาคืออะไร ชิ้นส่วนเวหาคือมิติพิเศษที่หลายสิบปีหรืออาจจะร้อยปีปรากฏขึ้นครั้งหนึ่ง
ซึ่งครั้งนี้มันปรากฏขึ้นตรงกับงานคัดเลือกตัวแทนของโรงเรียนพอดี.. โดยปกติงานคัดเลือกตัวแทนจะพาไปยังดินแดนรกร้างที่อยู่นอกทวีปแห่งนี้
แต่เพราะครั้งนี้ชิ้นส่วนเวหาปรากฏขึ้นเลยจะไปที่นั่นกันแทน แต่มันดันกลายเป็นว่าชิ้นส่วนเวหาดันทำงานก่อนกำหนดซะอย่างนั้น
ซึ่งทำให้เลทิเซียกับคนไม่กี่คนถูกดึงเข้าไปในชิ้นส่วนเวหา ก่อนเวลากำหนด..
ส่วนงานคัดเลือกนักเรียนแห่งความภาคภูมิใจคืองานที่นักเรียนของโรงเรียนทั้งห้ามาแข่งกันเพื่อชิงดีชิงเด่น
แต่สุดท้ายงานคัดเลือกก็ดันมาพังเพราะเกิดเหตุการณ์สลดที่คนในประเทศแห่งหนึ่งตายไปมากกว่าครึ่ง
แถมตอนนั้นผู้เข้าแข่งขันในงานคัดเลือกยังหายตัวไปกลางสนาม.. แน่นอนว่าคนที่ว่าคือตัวเลทิเซียเอง ทำให้งานพังลงอย่างไม่เป็นท่า
“ด้วยเหตุนี้ทางโรงเรียนทั้งห้าจึงลงมติว่าจะจัดการประลองขึ้นอีกครั้ง . แต่คราวนี้จะจัดงานรูปแบบใหม่เพื่อความเท่าเทียมกัน”
“ก่อนหน้านี้โรงเรียนเราส่งตัวแทนได้เพียงคนเดียว ซึ่งก็คือคุณเลทิเซีย”
เธอพูดพลางหันมาทางที่เลทิเซียอยู่ ใช่.. ในงานแข่งคัดเลือกตัวแทนแห่งความภาคภูมิใจ เลทิเซียถูกส่งให้เป็นตัวแทนของโรงเรียนลิเบอร์
เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมาโรงเรียนลิเบอร์นั้นแพ้บ่อย เพราะการคัดเลือกมีกฎประมาณว่ายิ่งชนะเยอะนักเรียนในโรงเรียนนั้นยิ่งมีโอกาสเยอะ
ทำให้ทุกครั้งที่โรงลิเบอร์แพ้ตำแหน่งตัวแทนของโรงเรียนลิเบอร์จึงเหลือเพียงหนึ่งที่เท่านั้น ซึ่งเลทิเซียก็ได้รับหน้าที่นั่นไป…
นั่นเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่คนเลือกที่จะไม่สมัครเข้ามาเรียนที่โรงเรียนลิเบอร์ แต่กลับเลือกไปโรงเรียนอื่นแทนนั่นเอง
แต่ก็อย่างว่า มันพังไม่เป็นท่าไปแล้ว
“และด้วยเหตุนี้ โรงเรียนทั้งห้าจึงตัดสินใจที่จะจัดงานคัดเลือกขึ้นอีกครั้ง แต่ทุกโรงเรียนจะสามารถส่งตัวแทนได้เพียงห้าคนเท่านั้นไม่มีข้อแม้”
“เพราะแบบนั้นเองโรงเรียนลิเบอร์จึงตัดสินใจที่จะให้มีการแข่งชิงตำแหน่งตัวแทนโรงเรียนลิเบอร์ขึ้นอีกครั้งเช่นกัน”
“แต่ว่าพวกเราไม่มีเวลามากขนาดนั้น.. พวกเขาจึงตัดสินใจว่าจะให้อาจารย์ประจำชั้นนำห้องเรียนของตัวไปหาล่าสัตว์อสูรในแต่ละภูมิภาค”
“และใครก็ตามที่ถูกประเมินโดยอาจารย์ประจำชั้นตัวเองว่ามีประโยชน์ในการต่อสู้มากที่สุดก็ถือว่าได้เป็นตัวแทนของห้องนั่นเอง”
“และห้องหนึ่งจะมีตัวแทนได้เพียงแค่หนึ่งคนเท่านั้น”
เลทิเซียที่นั่งฟังอยู่ก็พยักหน้า.. พวกอาจารย์ต่างรู้ว่าการจัดงานขึ้นกลางเทอมแบบนี้อาจจะทำให้นักเรียนเรียนไม่ทัน
พวกเขาจึงตัดสินใจให้การชิงตำแหน่งตัวแทนเป็นบทเรียนบทหนึ่งไปด้วย นั่นคือการทำงานร่วมกับคนอื่นอย่างมีประสิทธิภาพ
อาจารย์ลิเลียน่าบอกว่า ‘ใครที่มีประโยชน์ในการต่อสู้’ ซึ่งการมีประโยชน์นั้นไม่ใช่แค่การรีบฆ่า แต่ยังมีการสนับสนุนเพื่อนได้ดีอีก
หากสนับสนุนได้ดีก็ถูกนับว่ามีประโยชน์เช่นกัน ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขาให้นักเรียนพยายามคิดหากันเอาเองว่าตัวเองถนัดอย่างไหน
ควรเลือกที่จะสนับสนุนหรือจะต่อสู้ เพื่อที่จะได้เป็นตัวแทนของห้อง.. เรียกได้ว่านอกจากจะหาตัวแทนของโรงเรียน ยังเป็นการทดสอบสัญชาตญาณของนักเรียนด้วย
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยนั่นเอง..
แต่ในตอนนั้นเอง ทสึรุก็ยกมือขึ้นกล่าว
“แต่ว่าอาจารย์คะ โรงเรียนเรามีห้องเรียนปกติห้าห้องก็จริง แต่ยังมีห้องระดับพิเศษอีกสองห้องไม่ใช่เหรอคะ หมายความว่าบางห้องมีโอกาสจะไม่มีตัวแทนเหรอคะ?”
อาจารย์ลิเลียน่าก็พยักหน้าตอบง่ายๆ
“เดิมทีควรจะเป็นแบบนั้นนั่นแหละ แต่ทางผู้อาวุโสของโรงเรียนลิเบอร์ได้ตัดสินใจเรื่องการจัดห้องใหม่อีกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ข้ากำลังจะพูดหลังจากนี้”
“โรงเรียนลิเบอร์ของเราตัดสินใจที่จะยุบห้องเรียนระดับพิเศษออกไป เพราะอย่างที่รู้กันดีว่าหลายปีที่ผ่านมาอัตราการสมัครเข้าเรียนของโรงเรียนเรานั้นลดลงอย่างมาก”
“ซึ่งทำให้ตอนนี้ห้องเรียนพิเศษฝั่งหญิงมีนักเรียนไม่ถึงสิบคน อีกทั้งห้องเรียนฝั่งชายก็มีสิบกว่าคนเท่านั้น”
“ทางโรงเรียนจึงตัดสินใจที่จะยุบห้องเรียนระดับพิเศษให้มีห้องเรียนระดับปกตินั่นเองค่ะ”
เธอกล่าวแบบนั้น ทุกคนก็ประหลาดใจ แต่เลวี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ เลทิเซียก็เหมือนจะตกใจหนักกว่าใครเธอผุดลพกขึ้นพร้อมกับถาม
“เดี๋ยวก่อนนะ แบบนั้นหมายความว่าจะมีการห้องใหม่สิ ข้ากับเพื่อนๆ ในห้องพิเศษนี้ต้องแยกกันเหรอ?”
ดวงตาของเธอเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ ก็เธอไม่อยากจัดห้องใหม่นี่น่า อุตส่าห์ได้อยู่ห้องเดียวกับท่านพี่เลทิเซียของเธอแล้วแท้ๆ นะ
ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ! ถ้าหากไม่ได้อยู่กับเลทิเซีย เลวี่ไม่รู้ว่าจะอยู่ยังไง แค่คิดก็รู้สึกเหมือนไมเกรนจะขึ้นหัวแล้ว
แต่คำตอบของอาจารย์ลิเลียน่าก็แทบทำให้เธอเป็นลมล้มพับลงไปตรงนั้น
“ถูกต้องค่ะ.. เพื่อให้นักเรียนในแต่ละห้องมีจำนวนเท่าๆ กัน นักเรียนจากห้องเรียนพิเศษจะถูกกระจายกันอยู่ในห้องที่แตกต่างกันออกไป”
ใช่แล้ว.. พวกเธอกำลังจะถูกย้ายห้องนั่นเอง
Comments
เลทิเซียกับชีวิต(ไม่)ธรรมดาในโรงเรียนเวทมนตร์ 6: ย้ายห้อง
ปี 1
บทที่ 6 – ย้ายห้อง
หลังจากหมดคาบศาสตราจารย์โรเบิร์ดก็กล่าวอะไรเล็กน้อยเกี่ยวกับเรียนวิชาภาคปฏิบัติกับเขา.. จะว่าไงดี..
มันเหมือนกับการโปรโมตนั่นแหละ โปรโมตให้คนไปเรียนคาบบ่ายกับเขานั่นเอง.. ในขณะที่เลทิเซียกำลังจะลุกขึ้นก็มีคนเดินเข้ามาก่อน
คนที่เดินเข้ามาเป็นผู้หญิงผมสีม่วงเข้มๆ ผมเธอยาวสลวยลงมาสวมชุดทางการของอาจารย์โรงเรียนลิเบอร์
เธอมีชื่อว่า ลิเลียน่า เธอเป็นอาจารย์ประจำชั้นของห้องพิเศษแห่งนี้นั่นแหละ เห็นแบบนั้นเธอก็เป็นผู้เชี่ยวชาญเวทมนตร์ระดับที่ค่อนข้างสูง
“เอาล่ะ นักเรียนนั่งที่ก่อนวันนี้ข้าจะมาชี้แจงแนวทางของโรงเรียนจากนี้”
เลทิเซียกับเลวี่ที่กำลังจะลุกขึ้นก็ต้องนั่งกลับลงไปที่นั่งดังเดิม ทุกคนก็ยังเงียบฟังอาจารย์ลิเลียน่าต่อไป
อันที่จริงเพราะห้องมันคนน้อยด้วยนั่นแหละ เลยค่อนข้างเงียบ.. แต่เหมือนสายตาของลิเลียน่าจะกวาดผ่านไปทั่วห้องก็พบว่านักเรียนหายไปสามคน
“หืม.. คุณโรสกับคุณริต้านี่ยังพอเข้าใจ แต่คุณลูเซียหายไปไหนแล้วล่ะ?”
“ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สบายน่ะค่ะ ตอนนี้นอนพักผ่อนอยู่ในห้องค่ะ”
คนที่ตอบคืออิซานะจิ้งจอกสาวคนนั้น เลทิเซียที่เห็นอิซานะตอบแบบนั้นเธอก็แปลกใจเล็กน้อย ทั้งคู่สนิทกันขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย?
แต่พอพูดถึงลูเซียเลทิเซียก็อดนึกถึงน้องสาวในโลกเดิมตัวเองไม่ได้ ในโลกเดิมของเลทิเซียก็มีน้องสาวที่มีชื่อว่าลูเซีย
ไม่เพียงเท่านั้นน้องสาวของเลทิเซียยังมีน้ำเสียง ใบหน้า ท่าทางเหมือนกับลูเซียที่อยู่ในโลกนี้ทุกประการเลย
หมายถึงว่าลูเซียที่ขาดเรียนวันนี้น่ะ เหมือนน้องสาวเธอแม้แต่ชื่อยันลักษณะท่าทางนิสัย!
แต่ลูเซียเหมือนจะเป็นเผ่าอสูรแบบเดียวกับชาร์ล็อต.. แถมเลทิเซียยังเคยเข้าไปทักเพื่อยืนยันแล้ว เหมือนว่าเธอจะไม่ใช่ลูเซียน้องสาวในโลกเก่า
เพราะเธอมีชีวิตอยู่ในโลกนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว.. คงจะหน้าเหมือนเฉยๆ ละมั้ง.. แต่ทั้งหน้าตา นิสัย แถมชื่อเหมือนกันนี่มันจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญจริงๆ เหรอ
เลทิเซียส่ายหน้าสะบัดความคิดเหล่านั้นทิ้ง เพราะสิ่งที่เธอต้องทำตอนนี้น่ะมันมีมากเกินไป.. เธอต้องค่อยทำทีละเรื่องไป
อาจารย์ลิเลียน่ากล่าวต่อ
“งั้นฝากคุณอิซานะเอาเรื่องนี้ไปบอกเธอด้วย”
“ค่ะ”
อิซานะพยักหน้า อาจารย์ลิเลียน่าก็กลับสู่หัวข้อหลักของวันนี้
“เอาล่ะ ทุกคนคงทราบกันดีว่าตั้งแต่เปิดเทอมมาก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจแบบเอาตัวรอดเพื่อชิงตำแหน่งตัวแทนของโรงเรียน”
“หรือจะเป็นคัดเลือกนักเรียนแห่งความภาคภูมิใจก็พังลงไม่เป็นท่า เพราะเกิดเหตุการณ์สลดขึ้นอีก”
เลทิเซียถอนหายใจออกมา ทุกอย่างที่ว่ามาเธอล้วนมีส่วนร่วมหมดเลย งานเอาตัวรอดในมิติพิเศษที่ชื่อ ‘ชิ้นส่วนเวหา’ นั้นก็ผิดพลาด
เพราะชิ้นส่วนเวหาดันทำงานก่อนกำหนดซะอย่างนั้น ชิ้นส่วนเวหาคืออะไร ชิ้นส่วนเวหาคือมิติพิเศษที่หลายสิบปีหรืออาจจะร้อยปีปรากฏขึ้นครั้งหนึ่ง
ซึ่งครั้งนี้มันปรากฏขึ้นตรงกับงานคัดเลือกตัวแทนของโรงเรียนพอดี.. โดยปกติงานคัดเลือกตัวแทนจะพาไปยังดินแดนรกร้างที่อยู่นอกทวีปแห่งนี้
แต่เพราะครั้งนี้ชิ้นส่วนเวหาปรากฏขึ้นเลยจะไปที่นั่นกันแทน แต่มันดันกลายเป็นว่าชิ้นส่วนเวหาดันทำงานก่อนกำหนดซะอย่างนั้น
ซึ่งทำให้เลทิเซียกับคนไม่กี่คนถูกดึงเข้าไปในชิ้นส่วนเวหา ก่อนเวลากำหนด..
ส่วนงานคัดเลือกนักเรียนแห่งความภาคภูมิใจคืองานที่นักเรียนของโรงเรียนทั้งห้ามาแข่งกันเพื่อชิงดีชิงเด่น
แต่สุดท้ายงานคัดเลือกก็ดันมาพังเพราะเกิดเหตุการณ์สลดที่คนในประเทศแห่งหนึ่งตายไปมากกว่าครึ่ง
แถมตอนนั้นผู้เข้าแข่งขันในงานคัดเลือกยังหายตัวไปกลางสนาม.. แน่นอนว่าคนที่ว่าคือตัวเลทิเซียเอง ทำให้งานพังลงอย่างไม่เป็นท่า
“ด้วยเหตุนี้ทางโรงเรียนทั้งห้าจึงลงมติว่าจะจัดการประลองขึ้นอีกครั้ง . แต่คราวนี้จะจัดงานรูปแบบใหม่เพื่อความเท่าเทียมกัน”
“ก่อนหน้านี้โรงเรียนเราส่งตัวแทนได้เพียงคนเดียว ซึ่งก็คือคุณเลทิเซีย”
เธอพูดพลางหันมาทางที่เลทิเซียอยู่ ใช่.. ในงานแข่งคัดเลือกตัวแทนแห่งความภาคภูมิใจ เลทิเซียถูกส่งให้เป็นตัวแทนของโรงเรียนลิเบอร์
เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมาโรงเรียนลิเบอร์นั้นแพ้บ่อย เพราะการคัดเลือกมีกฎประมาณว่ายิ่งชนะเยอะนักเรียนในโรงเรียนนั้นยิ่งมีโอกาสเยอะ
ทำให้ทุกครั้งที่โรงลิเบอร์แพ้ตำแหน่งตัวแทนของโรงเรียนลิเบอร์จึงเหลือเพียงหนึ่งที่เท่านั้น ซึ่งเลทิเซียก็ได้รับหน้าที่นั่นไป…
นั่นเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่คนเลือกที่จะไม่สมัครเข้ามาเรียนที่โรงเรียนลิเบอร์ แต่กลับเลือกไปโรงเรียนอื่นแทนนั่นเอง
แต่ก็อย่างว่า มันพังไม่เป็นท่าไปแล้ว
“และด้วยเหตุนี้ โรงเรียนทั้งห้าจึงตัดสินใจที่จะจัดงานคัดเลือกขึ้นอีกครั้ง แต่ทุกโรงเรียนจะสามารถส่งตัวแทนได้เพียงห้าคนเท่านั้นไม่มีข้อแม้”
“เพราะแบบนั้นเองโรงเรียนลิเบอร์จึงตัดสินใจที่จะให้มีการแข่งชิงตำแหน่งตัวแทนโรงเรียนลิเบอร์ขึ้นอีกครั้งเช่นกัน”
“แต่ว่าพวกเราไม่มีเวลามากขนาดนั้น.. พวกเขาจึงตัดสินใจว่าจะให้อาจารย์ประจำชั้นนำห้องเรียนของตัวไปหาล่าสัตว์อสูรในแต่ละภูมิภาค”
“และใครก็ตามที่ถูกประเมินโดยอาจารย์ประจำชั้นตัวเองว่ามีประโยชน์ในการต่อสู้มากที่สุดก็ถือว่าได้เป็นตัวแทนของห้องนั่นเอง”
“และห้องหนึ่งจะมีตัวแทนได้เพียงแค่หนึ่งคนเท่านั้น”
เลทิเซียที่นั่งฟังอยู่ก็พยักหน้า.. พวกอาจารย์ต่างรู้ว่าการจัดงานขึ้นกลางเทอมแบบนี้อาจจะทำให้นักเรียนเรียนไม่ทัน
พวกเขาจึงตัดสินใจให้การชิงตำแหน่งตัวแทนเป็นบทเรียนบทหนึ่งไปด้วย นั่นคือการทำงานร่วมกับคนอื่นอย่างมีประสิทธิภาพ
อาจารย์ลิเลียน่าบอกว่า ‘ใครที่มีประโยชน์ในการต่อสู้’ ซึ่งการมีประโยชน์นั้นไม่ใช่แค่การรีบฆ่า แต่ยังมีการสนับสนุนเพื่อนได้ดีอีก
หากสนับสนุนได้ดีก็ถูกนับว่ามีประโยชน์เช่นกัน ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขาให้นักเรียนพยายามคิดหากันเอาเองว่าตัวเองถนัดอย่างไหน
ควรเลือกที่จะสนับสนุนหรือจะต่อสู้ เพื่อที่จะได้เป็นตัวแทนของห้อง.. เรียกได้ว่านอกจากจะหาตัวแทนของโรงเรียน ยังเป็นการทดสอบสัญชาตญาณของนักเรียนด้วย
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยนั่นเอง..
แต่ในตอนนั้นเอง ทสึรุก็ยกมือขึ้นกล่าว
“แต่ว่าอาจารย์คะ โรงเรียนเรามีห้องเรียนปกติห้าห้องก็จริง แต่ยังมีห้องระดับพิเศษอีกสองห้องไม่ใช่เหรอคะ หมายความว่าบางห้องมีโอกาสจะไม่มีตัวแทนเหรอคะ?”
อาจารย์ลิเลียน่าก็พยักหน้าตอบง่ายๆ
“เดิมทีควรจะเป็นแบบนั้นนั่นแหละ แต่ทางผู้อาวุโสของโรงเรียนลิเบอร์ได้ตัดสินใจเรื่องการจัดห้องใหม่อีกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ข้ากำลังจะพูดหลังจากนี้”
“โรงเรียนลิเบอร์ของเราตัดสินใจที่จะยุบห้องเรียนระดับพิเศษออกไป เพราะอย่างที่รู้กันดีว่าหลายปีที่ผ่านมาอัตราการสมัครเข้าเรียนของโรงเรียนเรานั้นลดลงอย่างมาก”
“ซึ่งทำให้ตอนนี้ห้องเรียนพิเศษฝั่งหญิงมีนักเรียนไม่ถึงสิบคน อีกทั้งห้องเรียนฝั่งชายก็มีสิบกว่าคนเท่านั้น”
“ทางโรงเรียนจึงตัดสินใจที่จะยุบห้องเรียนระดับพิเศษให้มีห้องเรียนระดับปกตินั่นเองค่ะ”
เธอกล่าวแบบนั้น ทุกคนก็ประหลาดใจ แต่เลวี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ เลทิเซียก็เหมือนจะตกใจหนักกว่าใครเธอผุดลพกขึ้นพร้อมกับถาม
“เดี๋ยวก่อนนะ แบบนั้นหมายความว่าจะมีการห้องใหม่สิ ข้ากับเพื่อนๆ ในห้องพิเศษนี้ต้องแยกกันเหรอ?”
ดวงตาของเธอเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ ก็เธอไม่อยากจัดห้องใหม่นี่น่า อุตส่าห์ได้อยู่ห้องเดียวกับท่านพี่เลทิเซียของเธอแล้วแท้ๆ นะ
ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ! ถ้าหากไม่ได้อยู่กับเลทิเซีย เลวี่ไม่รู้ว่าจะอยู่ยังไง แค่คิดก็รู้สึกเหมือนไมเกรนจะขึ้นหัวแล้ว
แต่คำตอบของอาจารย์ลิเลียน่าก็แทบทำให้เธอเป็นลมล้มพับลงไปตรงนั้น
“ถูกต้องค่ะ.. เพื่อให้นักเรียนในแต่ละห้องมีจำนวนเท่าๆ กัน นักเรียนจากห้องเรียนพิเศษจะถูกกระจายกันอยู่ในห้องที่แตกต่างกันออกไป”
ใช่แล้ว.. พวกเธอกำลังจะถูกย้ายห้องนั่นเอง
Comments