แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 1057 เป็นคนดีจริงๆ
“หมอเฉิน นี่คือค่ารักษาครับ ขอบคุณหมอมากจริงๆ! พวกเรานึกไม่ถึงจริงๆว่าแค่สถานการณ์จำลองเพียงครั้งเดียวจะทำให้ลูกสาวผมเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ถึงตอนนี้เขาจะยังมีทะเลาะกับพวกเราบ้าง แต่ไม่ลงไม้ลงมือแล้วครับ!”
ไม่กี่วันต่อมา ผู้ชายวัยกลางคนๆหนึ่งได้พูดขอบคุณเสี่ยวเชี่ยนขณะอยู่บนรถของเสี่ยวเชี่ยน เขาไม่คิดว่าการบำบัดจิตใจจะมหัศจรรย์ขนาดนี้ สามารถเปลี่ยนลูกสาวที่ชอบใช้ความรุนแรงของเขาให้กลายเป็นคนใหม่ได้
“การบำบัดจิตใจของพวกเราเป็นแค่กำลังเสริม ถ้าอยากจะให้เขาเปลี่ยนแปลงมากกว่านี้พ่อแม่อย่างพวกคุณก็ต้องให้ความร่วมมือค่ะ ครอบครัวที่สภาพแวดล้อมดีเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดที่ช่วยลดสภาวะผิดปกติทางด้านจิตใจ อีกอย่างนิสัยของลูกสาวคุณไม่เหมาะจะเรียนจิตวิทยาหรอกนะคะ ฉันขอแนะนำให้ใช้โอกาสที่เขาเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยพักการเรียนไว้ก่อนหนึ่งปีแล้วย้ายไปเรียนสาขาอื่นดีกว่าค่ะ”
“แต่เขาชอบด้านนี้ กว่าจะสอบได้ไม่ใช่ง่ายๆ…” ชายวัยกลางคนลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด
“เขาควบคุมอารมณ์ได้ไม่เก่ง ต่อให้รักษาหายแล้วก็ไม่มีทางเหมือนคนปกติ ถ้าเขายังเรียนสาขานี้ต่อไป เรียนไม่จบก็ถือว่าเขาซวยเอง แต่ถ้าเรียนจบก็เป็นความซวยของคนไข้ ทางที่ดีให้ไปเรียนอย่างอื่นดีกว่าค่ะ”
ถึงจะมีนักบำบัดจิตใจหลายคนที่สภาพจิตใจอยู่ก้ำกึ่งระหว่างดีกับไม่ดี แต่ก็ไม่รวมถึงการมีแนวโน้มชอบใช้ความรุนแรง
“ก็ได้ครับ…ผมจะกลับไปเกลี้ยกล่อมเขา นี่เป็นค่ารักษารับไว้ด้วยนะครับ” ผู้ชายคนนั้นยื่นเช็คให้
เสี่ยวเชี่ยนมองตัวเลขบนเช็ค “เกินมาหนึ่งหมื่น?”
“เป็นการแสดงความขอบคุณครับ ถ้าไม่ได้หมอไม่รู้ว่าตอนนี้ลูกสาวผมจะเป็นยังไง…”
เสี่ยวเชี่ยนคืนเช็ค แล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เขียนเช็คให้ใหม่ด้วยค่ะ เงินสดก็ได้ สามหมื่น ไม่เกินนี้”
“แต่พวกเรารู้สึกขอบคุณหมอมากจริงๆนะครับ!”
“ตกลงกันไว้เท่าไรก็เท่านั้น”
เสี่ยวเชี่ยนยืนยันคำเดิมว่าไม่ต้องการมากกว่านั้น ชายวัยกลางคนจึงต้องลงไปหยิบเงินสดจากรถตัวเอง
ไม่กี่นาทีต่อมารถเก๋งสีแดงของเสี่ยวเชี่ยนก็ถูกขับออกไป บนเบาะหลังมีเงินสดอยู่สามปึก
ผู้ชายคนนั้นมองส่งเธอพลางพูดพึมพำ
“หมอเฉินนี่จิตใจดีจริงๆ ให้เกินก็ไม่เอา เป็นคนดีเหลือเกิน…”
เสี่ยวเชี่ยนเปิดเพลงบนรถ อาจเพราะอวี๋หมิงหลางน่าจะกลับมาแล้วเธอถึงได้อารมณ์ดีเป็นพิเศษ
เมื่อถึงบ้านเสี่ยวเชี่ยนก็จอดรถหน้าตึก ขณะที่กำลังเดินเข้าโทรศัพท์ก็ดัง
หน้าจอขึ้นว่าไม่ทราบเบอร์
เสี่ยวเชี่ยนคิดเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มมุมปาก เธอรู้ว่าใครโทรมา
“ฮัลโหล! พี่! พี่สาวของผม! ช่วยผมด้วย!”
เฉินจื่อหลงพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้
ที่หน้าจอขึ้นว่าไม่ทราบเบอร์เป็นเพราะโทรมาจากในค่ายทหาร นึกๆดูเฉินจื่อหลงก็น่าจะได้เข้าไปอยู่ในค่ายทหารแล้ว แต่งตัวใส่ชุดทหารไปเป็นทหารฝึกหัด
“ต้าหลง มีอะไรเหรอ? ปรับตัวได้ยัง?”
จึ๊ๆ โทรมาไวกว่าที่เธอคิดไว้ ดูท่าตอนนี้ในค่ายทหารสวัสดิการดีไม่เบา ให้ทหารใหม่ใช้โทรศัพท์ได้ด้วย
“ไม่ได้พี่! ผมอยู่ไม่ได้! พี่ พี่เขยหลอกผมอ้ะ เขาหลอกผม!!!”
น้ำเสียงสติแตกของต้าหลงดังลอดมา จากนั้นเสี่ยวเชี่ยนก็ได้ยินเสียงมีคนเตือนต้าหลงให้ระวังเรื่องภาพลักษณ์
ฮ่าๆๆๆ!
เสี่ยวเชี่ยนขำอย่างบ้าคลั่งในใจ แต่ปากก็แสร้งพูดด้วยความเป็นห่วง
“จะเป็นไปได้ไง? พี่เขยเนี่ยนะหลอกนาย? เขาเป็นคนดีจะตาย!”
ใช่! ผมเป็นคนดี!
เสี่ยวเชี่ยนเอามือปิดปาก เธอสะดุ้งตกใจใบหน้าหล่อๆที่อยู่ๆก็โผล่มา
ไม่รู้ว่าอวี๋หมิงหลางกลับมาตั้งแต่เมื่อไร แอบหลบอยู่ตรงทางเดินเงียบๆ พอเสี่ยวเชี่ยนมาถึงเขาก็โผล่ออกมาเล่นพิเรนทร์ เอาหน้าแนบกับหน้าเธอ
เมียชมเขา เขาได้ยินน้า~
เสี่ยวเชี่ยนโมโหเลยหยิบกระเป๋าฟาด ไอ้คนบ้า!
เธอกล้าพนันเลยว่า หมอนี่กลับมาตั้งนานแล้ว ทำตัวหลบอยู่ในซอกเพื่อหลอกให้เธอตกใจ สมควรโดนฟาด!
ด้านนี้เสี่ยวเชี่ยนเปิดโหมดใช้ความรุนแรง ส่วนทางด้านต้าหลงเปิดโหมดร้องไห้คร่ำครวญ ขาดแค่ลงไปดิ้นทุรนทุราย
“พี่! พี่เขยทำแบบนี้ได้ไง เขาหลอกผมว่าจะหาที่ดีๆให้ ผมถามเขาว่าฝึกเหนื่อยไหม เขายังบอกว่ามีเขาอยู่ทั้งคน แล้วไงล่ะ? อ๊า! ผมเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว พี่ ช่วยผมด้วยนะ ผมเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว!”
ต้าหลงร้องไห้ขอความเห็นใจ แต่พี่สาวของเขากลับไม่สนใจ
เธอถูกอวี๋หมิงหลางที่หายไปหลายวันจับจูบตรงราวบันไดไปแล้ว~
เสี่ยวเชี่ยนต้องรับมือกับการจู่โจมจูบ ส่วนมือก็ชูโทรศัพท์ไว้ เอวถูกคนบางคนกดไว้กับราวบันได ส่วนหัวก็เอนไปด้านหลังเล็กน้อย มือใหญ่ๆของอวี๋หมิงหลางอ้อมไปปล่อยสยายผมเธอที่ถูกหวีไว้อย่างเรียบร้อย หลังจากนั้นมือของเขาก็ประคองหัวเธอ ประทับรอยจูบที่ริมฝีปาก
คิดถึงจะตายอยู่แล้ว ในที่สุดก็ได้จูบเบบี๋ของเขา~
ต้าหลงคร่ำครวญอยู่นาน เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้ฟังเลยสักนิด มือถือของเธอถูกเธอชูไว้คล้ายเทพีเสรีภาพ รอจนในที่สุดอวี๋หมิงหลางก็จูบจนพอใจแล้วผละออกให้เธอได้หายใจบ้าง เสี่ยวเชี่ยนถึงได้กดเปิดลำโพง
เสียงสั่นเครือของต้าหลงลอยมา “พี่ ผมขอร้องล่ะ บอกให้พี่เขยเปลี่ยนที่ให้ผมเถอะนะ อ๊า~”
เขาไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแม้นาทีเดียว มันโหดมาก!
“พี่เขยนายเป็นผู้ชายที่ร้ายกาจจะตาย ฉันเอาไม่อยู่หรอก”
ปากเสี่ยวเชี่ยนพูดไปแบบนั้น แต่มือกลับหยิกหูผู้ชายที่เธอบอกว่าร้ายกาจ คนบ้า! จับเธอกดกับราวบันไดเอวเจ็บไปหมดแล้ว!
“พี่อย่าล้อผมเล่นสิ ถ้าพี่เอาพี่เขยไม่อยู่ แล้วใครจะเอาอยู่ล่ะ พี่ ผมขอร้องล่ะนะ!”
“ต้าหลง พี่จะบอกนายให้นะ คำว่าขอร้องของลูกผู้ชายมันมีค่ามาก ทำไมนายพูดพร่ำเพรื่อแบบนี้? นายเป็นผู้ชายนะ!”
“พี่ ช่วยย้ายผมไปหน่อย ให้ผมแปลงเพศเป็นผู้หญิงก็ได้…”
“อุ๊บ!” เสี่ยวเชี่ยนหลุดขำ คำพูดจนมุมของเฉินจื่อหลงทำเธอขำได้สำเร็จ
“พี่?” ต้าหลงคิดว่าตัวเองฟังผิด เขาน่าสงสารขนาดนี้ พี่สาวเขายังหัวเราะออกอีกเหรอ?
“อะแฮ่ม พี่จะบอกนายให้นะ เข้าไปอยู่ในค่ายแล้วก็แสดงว่าเป็นทหาร เป็นทหารก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง เขาให้ไปอยู่ไหนนายก็ต้องไป หนีทหารจุดจบน่าเวทนามากนะ ไอ๊หยา สัญญาณไม่ค่อยดีเลย เอ๋ ทำไมไม่ได้ยินแล้วล่ะ?”
เสี่ยวเชี่ยนเอาเล็บเคาะตรงช่องพูดสองทีให้เกิดเสียงรบกวน แสร้งทำเป็นสัญญาณไม่ดี
พูดจบเธอก็ไม่สนว่าน้องชายจะร้องขอยังไงกดตัดสายอย่างอารมณ์ดี
“ที่นั่นน่ากลัวมากเลยเหรอ? หมอนี่ดูกลัวมากเลยนะ อ่อนมาก” เสี่ยวเชี่ยนถามอวี๋หมิงหลาง
อวี๋หมิงหลางลูบจมูก “ไม่เห็นจะน่ากลัวเลยสักนิด ออกจะดี มีภูเขามีแม่น้ำ อากาศก็สดชื่น ไม่ได้ฝึกหนักแบบพวกผมทุกวันด้วย ก็แค่…ช่วงแรกอาจจะมีรับน้องบ้าง คงไม่ชินแหละมั้ง?”
ใช่แค่ไม่ชิน ตอนนี้ต้าหลงจะเป็นบ้าแล้ว
หลังจากที่พี่สาววางสาย เดิมเขาอยากโทรไปอีกรอบ แต่ด้านหลังมีเพื่อนต่อคิวยาวเหยียด เหล่าทหารใหม่จะใช้โทรศัพท์ได้อาทิตย์ละครั้ง ต้องเข้าคิวใช้ ต้าหลงจึงไม่กล้าโทรต่อ
ทำไมพี่สาวของเขาถึงได้ไม่สนใจเขาเลยล่ะ ต้าหลงอยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา แต่เรื่องที่น่ากลัวกว่ารออยู่ด้านหลัง
เสียงโหดๆดังขึ้นจากด้านหลังของต้าหลง
Comments