แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย 492 เลียนแบบ

Now you are reading แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย Chapter 492 เลียนแบบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ได้ยินคนพูดบ่อยๆว่า เด็กดื้อเอาแต่ใจพอโตเดี๋ยวก็ดีขึ้น

 

 

แต่จะเป็นแบบนั้นจริงเหรอ?

 

 

ที่โตน่ะมีแค่ตัว หลายคนใจไม่โตตามด้วย อาหญิงก็คือคนแบบนั้นนั่นแหละ

 

 

“คุณเกิดมาในตระกูลที่ดี พ่อแม่คุณตามใจคุณ พี่ชายพี่สะใภ้ก็ยอมคุณ สามีคุณเห็นแก่บารมีของครอบครัวคุณเลยยอมให้ทุกอย่าง เด็กน้อยที่อยู่ในใจคุณไม่เคยต้องเจอความลำบากอะไร คนที่ไม่เคยถูกทำร้ายจิตใจยากที่จะเติบโต ดังนั้นพฤติกรรมของคุณทุกอย่างในสายตาฉันจำกัดความได้คำเดียว ไม่รู้จักโต”

 

 

“เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างแกกล้าว่าฉันแบบนี้เลยเรอะ”

 

 

ช่วงนี้อาหญิงมีเรื่องประเดประดังเข้ามาในชีวิตมากมายเหลือเกิน ความสง่าแบบผู้ดีที่เคยมีก็หายไปจนหมดสิ้น ดูแก่ทรุดโทรม กลายเป็นคนโมโหร้าย

 

 

“ค่ะ คุณมันคนดันทุรังไม่รู้จักโต อีกทั้งยังเป็นโรคชอบเพ้อเจ้อเบาๆด้วย ชอบเอาทัศนคติตัวเองไปยัดเยียดให้คนอื่น ทำได้ทุกอย่างเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของตัวเอง ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆคงได้ใกล้ไปหาจิตแพทย์แล้วล่ะ”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนพูดปนสงสารเล็กน้อย สายตาของเธอมองเหยียดๆเสียดแทงเข้าไปถึงส่วนลึกจิตใจของอาหญิง

 

 

“แกสิบ้า ฉันไม่ได้ป่วย พวกแกมันชอบรังแกคนอื่น”

 

 

“เฮ้อ…จะว่าไงดีล่ะ คุณมาจนถึงขั้นนี้ได้คนในครอบครัวคุณก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบ พวกเขาให้คุณเยอะเกินไป ทำให้คุณรู้จักแต่จะเป็นฝ่ายรับเพียงอย่างเดียว พวกเขากลับลืมสอนคุณให้รู้จักใช้ชีวิต รับมือกับอุปสรรค จิตใจของคุณอยู่ในสภาวะที่กินเท่าไรก็ไม่อิ่มอยู่เสมอ มักจะรู้สึกขาดแคลนความรัก อันที่จริงตัวคุณเองก็ไม่ได้มีความสุข”

 

 

“ทำไมฉันจะไม่มีความสุข ฉันมีครอบครัว มีกิจการ สามีฉันก็ตำแหน่งใหญ่โต แล้วจะไม่มีความสุขได้ยังไง”

 

 

“ไม่ว่าคุณจะเป็นยังไงคุณก็ไม่รู้สึกมีความสุข จิตใจคุณมักจะปรารถนาในสิ่งที่เกินตัว สำหรับคนที่มีนิสัยดันทุรังแบบคุณ มันได้ก่อตัวเป็นทัศนคติอันเลวร้ายที่มีต่อโลกใบนี้ไปแล้ว เทวดาก็ช่วยคุณไม่ได้ ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงความคิดอันดื้อรั้นของคุณได้ ดังนั้นการที่ฉันมาไม่ได้จะมาสั่งสอนอะไรหรอก ความคิดบิดเบี้ยวของคุณใครก็ช่วยคุณไม่ได้”

 

 

“แล้วแกมาทำไม” อาหญิงอยากจะหยิบไม้มาไล่เสี่ยวเชี่ยนออกไป

 

 

“ฉันมาเพื่อต้องการบอกคุณว่าฉันจะทำไงกับคุณ ฉันไม่เหมือนกับคุณหรอกนะ คุณเอาเรื่องที่ฉันถูกลักพาตัวไปแพร่กระจายในหมู่ญาติ เอาเรื่องพี่รองกับต้าอีไปบอกคนตระกูลหวาง ตอนนี้ยังคิดจะหาเรื่องบีบให้ฉันลาออกจากมหาลัย เรื่องพวกนี้เป็นฝีมือคุณถูกไหมล่ะ?”

 

 

 ตอนเสี่ยวเชี่ยนพูดเธอเอามือล้วงกระเป๋าแอบกดปากกาบันทึกเสียง

 

 

“ฉันทำแล้วยังไงล่ะ ก็ฉันเหม็นขี้หน้าแก แต่น่าเสียดายที่แกมันดวงแข็ง ฉันทำลายแกไม่ได้น่าผิดหวังจริงๆ”

 

 

“ฉันไม่ชอบใครก็แสดงความไม่พอใจออกไปซึ่งๆหน้า เรื่องแทงคนอื่นลับหลังแบบนี้ฉันทำไม่เป็น มันทำให้ภาพลักษณ์ฉันดูแย่”

 

 

“แกน่ะเหรอ? แกมีสิทธิ์อะไรกล้ามาทำฉัน แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร” ถูกคนที่ต่ำกว่าหาเรื่องเป็นความรู้สึกที่แย่มาก ในใจของอาหญิงเหมือนมีไฟแผดเผา

 

 

“ฉันไม่ได้เป็นใครทั้งนั้น ฉันเป็นแค่ผู้หญิงที่อวี๋หมิงหลางชอบ เป็นลูกสะใภ้ที่พ่อแม่เขาชอบ อีกอย่างฉันเป็นคนที่มีสมอง ตอนที่คุณคิดจะเล่นงานฉัน เคยคิดไหมว่าตอนนี้ฉันไม่ได้เป็นคนชนชั้นล่างของสังคมที่อยู่ในครอบครัวยากจนแบบที่คุณคิดอีกแล้ว? คุณทำฉันก็เหมือนทำตระกูลอวี๋ คุณแน่ใจเหรอว่าทำแบบนี้แล้วจะเป็นการไว้หน้าพี่ชายคุณ? สิ่งที่คุณคิดมีแค่เฉินเสี่ยวเชี่ยนผู้หญิงที่คุณเกลียด แต่กลับไม่คิดว่าคุณทำฉันก็เท่ากับทำร้ายตระกูลอวี๋ของคุณเอง”

 

 

“แกเนี่ยนะคนตระกูลอวี๋ ฉันไม่เคยยอมรับ แกมันไม่คู่ควร”

 

 

“ดูสิ ฉันบอกว่าคุณเป็นโรคชอบเพ้อเจ้อ คุณไม่ยอมรับแล้วฉันเกี่ยวอะไรด้วย? ฉันเป็นสะใภ้คนเล็กที่ผ่านการหมั้นหมายแล้วของตระกูลอวี๋ คุณเป็นผู้หญิงที่แต่งออกไปแล้ว ไม่รู้จักใช้ชีวิตให้ดี คิดแต่จะมายุ่งเรื่องทางบ้านพ่อแม่ตัวเอง ว่างมากนักใช่ไหม? คุณอยากยุ่งแล้วพี่สะใภ้อนุญาตหรือยัง? คุณไม่ต้องพูดอะไร ฉันรู้ว่าคุณจะพูดประมาณว่าคุณคิดยังไงโลกก็ต้องเป็นแบบนั้น คุณไม่ใช่เทวดา นอกจากตัวคุณเองแล้วใครก็ควบคุมคุณไม่ได้หรอก เข้าใจไหม?”

 

 

เห็นอาหญิงหายใจแรงด้วยความโมโห แต่เสี่ยวเชี่ยนกลับยังทำมาดนิ่งทำตัวเหนือกว่า

 

 

เธอพูดอย่างไม่ช้าไม่เร็ว

 

 

“ตอนนี้มาพูดเรื่องฉันจะเอาไงต่อไปดีกว่า คุณชอบเล่นเกมร้องเรียนกับทำเรื่องให้เป็นที่วิพากย์วิจารณ์ไม่ใช่เหรอ? ฉันก็จะเอาอย่างคุณนั่นแหละ เลียนแบบประสบการณ์ที่มีมากมายของคุณ วันต่อๆไปคุณลองเดาดูสิว่าหมู่บ้านที่คุณอยู่เขาจะคุยเรื่องอะไรกัน? ลูกชายนอนโรงพยาบาลคุณยังไม่ไปดูแล ดั้นด้นข้ามวันข้ามคืนมาถึงเมืองนี้ เปิดห้องโรงแรมอยู่กับเด็กหนุ่ม ฉันแถมรูปถ่ายเข้าออกโรงแรมให้ด้วยอะ ฉันจะไปยัดเงินให้พนักงานเค้าเตอร์เอาข้อมูลการเปิดห้องของคุณมาให้ด้วยก็ได้นะ จึ๊ๆ มีร้อยปากก็ฟังไม่ขึ้นหรอก”

 

 

“ไร้สาระ ฉันไม่ได้แอบมีชู้ แกรักษาคนไข้โดยไม่มีใบอนุญาตจริงๆ แต่ฉันอยู่ตัวคนเดียว”

 

 

โคลนนี้ถูกสาดมาชนิดที่อาหญิงรับมือไม่ทัน

 

 

แต่ไหนแต่ไรมาเสี่ยวเชี่ยนไม่เคยออกไพ่ตามกฎอยู่แล้ว วิธีที่เธอรับมือกับคนบางครั้งก็ไม่ได้ใสสะอาดเช่นกัน แต่สะใจสุดๆ

 

 

“นั่นสิคะ ฉันมันไร้สาระ แต่คนอื่นเขาจะเชื่อคุณไหมนะ? เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับทฤษฎีทางจิตวิทยาที่น่าสนุกอยู่ทฤษฎีหนึ่งนะคะ จิตวิทยามีแขนงหนึ่งที่เรียกว่าจิตวิทยาข่าวลือ พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้นี่แหละ ข่าวลือมักจะมีทางแทรกซึมเข้าไปในจิตใจคนอย่างเงียบๆก่อนที่ผู้คนจะตั้งข้อสงสัย ข่าวลือที่แข็งแกร่งที่สุดจะทำให้ความจริงต้องชิดซ้าย ดังนั้นหลายคนจึงยอมที่จะเชื่อข่าวลือมากกว่าเชื่อความจริง”

 

 

“ไม่มีทาง ไม่มีทาง…” อาหญิงโมโหจนตัวเกร็งไปหมด

 

 

“ฉันจะบอกให้นะ ข่าวลือที่จะเผยแพร่ออกไปได้สำเร็จต้องมีครบตามกฎเก้าข้อ หนึ่งในนั้นก็คือ ข่าวลือนั้นจะต้องอยู่ในความคาดหมายและสมเหตุสมผล อย่างเช่นฉันบอกว่าคุณลักลอบคบชู้ นี่ก็เป็นไปตามที่คนทั่วไปคาดคิดเรื่องชีวิตของสาวตระกูลดีทั้งหลาย ส่วนเรื่องสมเหตุสมผล ได้ยินว่าอาเขยกำลังจะหย่ากับคุณ เดิมทีสาเหตุก็ไม่ชัดเจนอยู่แล้ว แล้วถ้าข่าวลือนี้แพร่ออกไปคิดว่ามีน้ำหนักไหมล่ะ?”

 

 

ผู้คนที่ไม่เคยได้สัมผัสกับชีวิตบางแบบก็มักจะมีการคาดเดากันไปต่างๆนานา เพราะไม่เคยได้สัมผัสกับคนที่มีชีวิตดีๆแบบอาหญิง คนพวกนั้นก็จะมีความคิดอยู่บนพื้นฐานความอยากรู้อยากเห็นบวกความอิจฉา ความรู้สึกนี้หากมีอะไรไปกระตุ้นเข้าหน่อยก็เหมือนเติมปีกให้กับจินตนาการ

 

 

“ก่อนหน้านี้ฉันไม่อยากยุ่งกับคุณหรอก เพราะคุณลืมไปแล้วว่าคุณแซ่อวี๋ แต่ฉันไม่ลืมว่าในอนาคตฉันต้องแต่งกับอวี๋หมิงหลาง ฉันรู้ว่าเรื่องในครอบครัวพอปิดประตูจะทะเลาะกันยังไงก็ได้ แต่ถ้ารู้ไปถึงคนภายนอก คนที่อับอายก็คือคนในครอบครัวตัวเอง คนอื่นเขาไม่สนหรอกว่าคุณมีบุญคุณอะไรกับเขา สนกันแต่ว่าตระกูลอวี๋ทะเลาะกันเองแล้ว แต่คุณวางใจได้ ฉันทำอะไรฉลาดเสมอ ก่อนที่ฉันจะทำลายชื่อเสียงคุณจนเละเทะฉันมีมาตรการป้องกัน ไม่ลากพ่อแม่สามีฉันมาเกี่ยวด้วยแน่นอน ฉันต้องปกป้องชื่อเสียงของพวกเขา”

 

 

พอเสี่ยวเชี่ยนบอกความคิดของตัวเองจบก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นก็หันไปยิ้มกว้างให้อาหญิงที่ยืนงงอยู่

 

 

“ความฉลาดเป็นสิ่งสำคัญ แต่คุณไม่มี ฉันมาบอกคุณแล้วนะว่าฉันจะทำไงต่อจากนี้ เตือนแล้วนะเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน บ๊ายบาย”

 

 

เสื้อคลุมกันลมสีขาวพลิ้วไปตามจังหวะหันตัวอันสง่างามของเสี่ยวเชี่ยน เธอเดินออกไปอย่างมาดมั่น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด